ฟาติมาสาร : ไอร์แลนด์-วาติกัน: เหตุเกิดจากสงฆ์ล่วงละเมิดทางเพศ (7 ส.ค. 2011)

ช่วงนี้ หาข่าวดีๆเกี่ยวกับพระศาสนจักรคาทอลิกต่างประเทศไม่ค่อยได้เลย เท่าที่เห็นว่าดีจริง ก็มีแค่ “งานเยาวชนโลก 2011” เท่านั้น ส่วนข่าวอื่นๆ เป็นแบบร้ายๆทั้งนั้น ล่าสุด หากใครติดตามข่าวต่างประเทศ น่าจะทราบว่า ความสัมพันธ์ระหว่างไอร์แลนด์กับวาติกัน กำลังตกต่ำสุดขีด สาเหตุเกิดจากรัฐบาลไอร์แลนด์เข้ามาตรวจสอบคดีสงฆ์คาทอลิกล่วงละเมิดทางเพศ และพบว่า บรรดาสังฆราชชาวไอริช “จงใจปกปิด” คดีสงฆ์ล่วงละเมิดทางเพศมากกว่าที่รายงานให้ทางการทราบ


พาดหัวแบบอัปยศขึ้นหน้่าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ในไอร์แลนด์ทุกฉบับ


ในสังคมตะวันตก เรื่องแบบนี้ถือว่าร้ายแรงมาก นอกจากนี้ รายงานข่าวบอกว่า ระหว่างค.ศ.1960-2003 มีคดีสงฆ์ล่วงละเมิดทางเพศเกิดในไอร์แลนด์ เกิดมากกว่า 300 คดี แต่มีการรายงานให้ตำรวจทราบไม่ถึง 30 คดี ทันทีที่รัฐบาลเข้ามาตรวจสอบและพบข้อมูลนี้ ทุกอย่างก็เป็นเรื่องทันที

รัฐบาลไอร์แลนด์ออกแถลงการณ์กล่าวหาวาติกันว่า ในช่วงค.ศ.1960-2003 วาติกันพยายามปกปิดคดีสงฆ์ล่วงละเมิดทางเพศ ด้วยการสั่งย้ายสงฆ์ไอริชที่ก่อคดีให้ไปหลบไกลหูไกลตาคน พอเรื่องซาลง ค่อยอนุญาตให้สงฆ์ที่กระทำผิดเหล่านั้น กลับมาประจำการที่สังฆมณฑลของตัวเอง อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริงแล้ว ข้อกล่าวหาของรัฐบาลไอร์แลนด์ ไม่ถือว่าถูกต้องไปทั้งหมด เพราะคนที่ปกปิดเรื่องเหล่านี้ ไม่ใช่วาติกัน แต่เป็นพวกพระสังฆราชคาทอลิกในไอร์แลนด์ต่างหาก (หากใครติดตามอ่านบทความของผมเป็นประจำ น่าจำได้ว่า ระบบการทำงานของวาติกัน จะให้อำนาจในการบริหารจัดการกับพระศาสนจักรท้องถิ่น หากจัดการไม่ได้ ค่อยส่งเรื่องมาที่วาติกันเพื่อจะได้เข้าไปช่วยเหลือ)

พูดถึงคดีสงฆ์ล่วงละเมิดทางเพศ สำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่งกำลังจับตามองว่า รอบนี้ จะมีอานุภาพทำลายล้างเท่ากับคดีสงฆ์ล่วงละเมิดทางเพศที่เกิดกับอัครสังฆมณฑลบอสตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อปี 2002 หรือไม่ ครั้งนั้น สังฆมณฑลหลายแห่งในอเมริกาถึงกับล้มละลาย เพราะถูกเหยื่อสงฆ์ล่วงละเมิดทางเพศฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย ส่วนครั้งนี้ที่ไอร์แลนด์ เค้าลางของความวุ่นวายเริ่มปรากฏให้เห็นเป็นระยๆ

หลังจากรัฐบาลไอร์แลนด์ออกแถลงการณ์กล่าวหาวาติกันว่า จงใจปกปิดคดีสงฆ์ล่วงละเมิดทางเพศ วาติกันแก้เกมด้วยการเรียกตัว “พระอัครสังฆราช จูเซ็ปเป้ เลอันซ่า” สมณทูตวาติกันประจำไอร์แลนด์ กลับทันที โดยวาติกันให้เหตุผลการเรียกตัวกลับว่า “เพื่อหารือด่วนเกี่ยวกับการตอบโต้ข้อกล่าวหาของรัฐบาลไอร์แลนด์ การเรียกตัวสมณทูตกลับ เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดไม่บ่อยนัก นี่เป็นเคสซีเรียสสุดๆ พระศาสนจักรต้องหารือฉุกเฉินเพื่อตอบข้อสงสัยของสังคม” กระนั้นก็ดี ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนนี้ มีข่าวลือออกมาหนาหูว่า วาติกันสั่งพระอัครสังฆราชเลอันซ่า ให้บินไปประจำที่กรุงปราก และไม่ต้องกลับไปประจำที่กรุงดับลิน เมืองหลวงของไอร์แลนด์อีกต่อไป (หลายกระแสบอกว่า เพื่อลดความกดดันที่สมณทูตต้องเผชิญ ทั้งจากกองทัพนักข่าวและบรรดาคริสตังที่โกรธแค้นพระศาสนจักร)

ถึงตอนนี้ คริสตังในไอร์แลนด์ยังอยู่ในอารมณ์เดือดกับสิ่งที่บรรดาสังฆราชของพวกเขาได้สร้างขึ้น คนที่เดือนดาลไม่ได้มีแค่สัตบุรุษเท่านั้น บรรดาพระสงฆ์คาทอลิกที่รักความยุติธรรม อาทิ คุณพ่อวินเซ็นต์ ทูมี่ย์ อาจารย์ประจำบ้านเณรคาทอลิกในไอร์แลนด์ ก็ลุกขึ้นมาเรียกร้องให้บรรดาพระสังฆราชที่ได้รับการแต่งตั้งก่อนปี 2003 (ปีสุดท้ายที่มีการสอบสวน) ลาออกให้หมด เพื่อแสดงความรับผิดชอบกับสิ่งที่พวกท่านเหล่านั้นทำลงไป

ยิ่งไปกว่านั้น บรรดาวุฒิสมาชิกของไอร์แลนด์ พร้อมใจยื่นจดหมายไปยังวาติกัน เพื่อขอให้เลื่อนการจัดงานชุมนุมเคารพศีลมหาสนิทนานาชาติ 2012 ซึ่งจะจัดที่กรุงดับลิน เมืองหลวงของไอร์แลนด์ ออกไปอย่างไม่มีกำหนด เพราะไม่มั่นใจความปลอดภัยว่าจะควบคุมฝูงชนที่กำลังโกรธแค้นพระศาสนจักรได้มากน้อยแค่ไหน (สำนักข่าว “บีบีซี” วิเคราะห์ว่า ควีนเอลิซาเบ็ธ ที่ 2 ยังได้รับการต้อนรับจากชาวไอริชมากกกว่าพระสันตะปาปาเสียอีก ... หมายความว่า ชาวไอริชเกลียดอังกฤษแบบสุดๆ แต่ตอนนี้ ชาวไอริชเกลียดพวกสมณะในพระศาสนจักรคาทอลิกมากกว่าแล้ว)    

นอกจากนี้ อีกหนึ่งสิ่งที่ลุกลามไปแบบไม่น่าเชื่อคือ “รัฐบาลไอร์แลนด์กำลังขอความร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ออกหมายเรียกสงฆ์คาทอลิกทุกองค์ มาเปิดเผยรายละเอียดการโปรดศีลอภัยบาปเกี่ยวกับคดีล่วงละเมิดทางเพศ” (พูดง่ายๆคือ พระสงฆ์ต้องให้ปากคำว่า เคยโปรดศีลอภัยบาปกรณีสงฆ์ล่วงละเมิดทางเพศ ให้กับใครบ้าง)

กระนั้นก็ดี “การสั่งให้พระสงฆ์เปิดเผยข้อมูลการแก้บาปเป็นสิ่งที่ทำไม่ได้” เพราะการแก้บาปต้องเก็บเป็นความลับ พระสงฆ์องค์ใดนำข้อมูลจากการแก้บาปไปเปิดเผย มีโทษถึงถูกระงับการประกอบศาสนกิจทุกชนิด



พระสังฆราช ปิแอร์ ปิก็อง ผู้ยอมถูกจำคุก เพื่อปกป้องศีลอภัยบาป


ในโลกของความเป็นจริง การที่รัฐบาลเข้ามาแทรกแซงเพื่อให้สงฆ์เปิดเผยรายละเอียดการแก้บาป มีตัวอย่างให้เห็นมาแล้ว โดยเรื่องเกิดในเดือนกันยายน 2001 พระสังฆราช ปิแอร์ ปิก็อง พระสังฆราชแห่งสังฆมณฑลบาโยซ์และลีซีเออซ์ (สังฆมณฑลของนักบุญเทเรซาแห่งพระกุมารเยซู) ถูกรัฐบาลสั่งให้เปิดเผยรายละเอียดการโปรดศีลอภัยบาปที่เกี่ยวกับสงฆ์ล่วงละเมิดทางเพศ แต่พระสังฆราชปฏิเสธ รัฐบาลฝรั่งเศสจึงสั่งจำคุกพระสังฆราชองค์นี้ เป็นเวลา 3 เดือน เรื่องนี้ ดังไปทั่วโลก หลังจากนั้น สมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 ทรงออกมาสดุดี พระสังฆราช ปิแอร์ ปิก็อง ที่กล้าหาญยืนหยัดรักษาความลับจากศีลอภัยบาปไว้อย่างหนักแน่น แต่สำหรับกรณีของรัฐบาลไอร์แลนด์ งานนี้ ต้องติดตามว่า จะบีบบังคับพระศาสนจักรคาทอลิกท้องถิ่นได้หรือไม่

ปิดท้ายกันด้วยสงฆ์ล่วงละเมิดทางเพศทำพิษอีกหนึ่งประเทศ พระศาสนจักรคาทอลิกในเยอรมนี ยอมรับอย่างเจ็บปวดว่า ปีนี้ จำนวนคนลาออกจากการเป็นคริสตัง “มากกว่า” จำนวนคนรับศีลล้างบาปเป็นคริสตัง โดยคนล้างบาป มี 170,000 คน แต่คนลาออกจากการเป็นคริสตังมี 181,193 คน โดยจำนวนคนลาออกจากการเป็นคริสตังส่วนมากให้เหตุผลว่า ผิดหวังกับเรื่องสงฆ์ล่วงละเมิดทางเพศ ที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนดูเหมือนว่า พระสังฆราชจงใจช่วยคนผิด มากกว่ารักษาความถูกต้องของสัตบุรุษ



AVE   MARIA




Comments