ฟาติมาสาร - คาทอลิกฝรั่งเศส ... วิกฤติสุดสุด (4 ก.ย. 2011)

สัปดาห์ที่ผ่านมา บีบีซี สำนักข่าวชื่อดังของอังกฤษ เปิดเผยผลสำรวจของสถาบันฮัดสัน สถาบันนักคิดชื่อดังของอเมริกา ซึ่งตีพิมพ์ข้อมูลเปรียบเทียบระหว่าง “คาทอลิก” กับ “มุสลิม” ในประเทศฝรั่งเศส ปรากฏว่า อดีตชาติที่เคยรุ่งเรืองสุดๆกับความเป็นคาทอลิกอย่างฝรั่งเศส เหลือแต่ “ชื่อ” เท่านั้น เพราะตัวเลขมันฟ้องแบบชัดเจนว่า ปัจจุบัน ชาวมุสลิมกำลังจะยึดครองฝรั่งเศสแล้ว




ปัจจุบัน ชาติในยุโรปที่มีชาวมุสลิมอาศัยอยู่มากสุด ได้แก่ “ฝรั่งเศส” (ประมาณ 6 ล้านคน) อันดับสองคือ “เนเธอร์แลนด์” (ประมาณ 1.2 ล้านคน) ชาวมุสลิมส่วนใหญ่ในยุโรป เป็นผู้อพยพลี้ภัยสงครามและความอดอยากมาจากทวีปแอฟริกา ในฝรั่งเศส ชาวมุสลิมกลุ่มหลักๆจะมาจากประเทศแถบแอฟริกาตอนเหนืออย่าง อัลจีเรีย (ประมาณ 1.55 ล้านคน), โมร็อกโก (ประมาณ 1 ล้านคน), ตูนิเซีย (ประมาณ 350,000 คน) ที่เหลือจะมาจากประเทศกลุ่มทะเลทรายซาฮาร่า อาทิ ไอวอรี่โคสต์, เซเนกัล, ซูดาน, มาลี, คองโก, แคเมอรูน, ไนจีเรีย, ซิมบับเว, กินี ขณะที่ชาวมุสลิมในเนเธอร์แลนด์ จะเป็นผู้อพยพมาจากโมร็อกโก, ตุรกี, อัลจีเรีย เป็นต้น

จริงๆแล้ว การที่ฝรั่งเศสมีชาวมุสลิมเพิ่มขึ้น ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะหากพิจารณาดูพลเมืองชาติต่างๆที่ลี้ภัยเข้ามาในฝรั่งเศส จะพบว่า แทบทั้งหมดเคยเป็น “เมืองขึ้น” ของฝรั่งเศสทั้งนั้น ดังนั้น อดีตเคยทำอะไรไว้ ปัจจุบันก็ต้องก้มหน้าก้มตายอมรับสิ่งที่ตนเคยทำลงไป (เคยไปล่าดินแดนไว้เยอะ ตอนนี้ พลเมืองชาติเหล่านั้นจึงทะลักกลับเข้ามาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้)

สำหรับผลสำรวจชิ้นนี้ สถาบันฮัดสันต้องการทำขึ้นเพื่อเปรียบเทียบ “สุขภาพ” ของคาทอลิกกับมุสลิมในฝรั่งเศสโดยเฉพาะ เพื่อไม่ให้เสียเวลา เราไปดูตัวเลขเหล่านี้กันเลย  ...

ปีนี้ (สิงหาคม 2011) ฝรั่งเศสมีประชากรประมาณ 65 ล้านคน ... 64 เปอร์เซ็นต์ บอกว่าตัวเองเป็นคาทอลิก (ประมาณ 41.6 ล้านคน) อย่างไรก็ตาม จาก 64 เปอร์เซ็นต์ มีเพียง 4.5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น (1.9 ล้านคน) ที่บอกว่า “ตัวเองไปร่วมมิสซาทุกอาทิตย์”   

สิงหาคม 2011 ฝรั่งเศสมีผู้อพยพจากชาติต่างๆที่มาอาศัยในประเทศ 6 ล้านคน ... 75 เปอร์เซ็นต์ของคนจำนวนนี้ (4.5 ล้านคน) ระบุว่าตัวเองเป็นชาวมุสลิม นอกจากนี้ ใน 4.5 ล้านคนที่กล่าวมา ประมาณ 2.5 ล้านคน (41 เปอร์เซ็นต์) บอกเลยว่า ตนเองเป็นมุสลิมที่เคร่งศาสนา และจะถือศีลอดในเทศกาลรอมฎอนอย่างแน่นอน

จากตัวเลขที่กล่าวมา จะเห็นได้ว่า ศาสนิกชนในฝรั่งเศสที่เป็นคาทอลิกกับมุสลิม มันกระตือรือร้นต่างกันขนาดไหน (คริสตังฝรั่งเศสที่ศรัทธา 1.9 ล้านคน มุสลิมฝรั่งเศสที่เคร่งครัด 2.5 ล้านคน ส่วนชาวฝรั่งเศสที่เหลืออีก 60 ล้านคน ไม่สนใจศาสนาเท่าไหร่นัก) 

ตัวเลขน่าสนใจยังไม่หมดเท่านี้ มีการเปิดเผยว่า ในปี 2011 มีสุเหร่ากำลังได้รับการก่อสร้างในฝรั่งเศสประมาณ 150 แห่ง ส่วนโบสถ์คาทอลิกที่กำลังสร้างใหม่นั้น ปี 2011 มีแค่ 2 แห่งทั่วประเทศ ยิ่งไปกว่านั้น ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา มีโบสถ์คาทอลิกถูกสร้างใหม่ในฝรั่งเศสแค่ 20 แห่งเท่านั้น ในส่วนโบสถ์คาทอลิกที่ถูกปิดไป (เพราะไม่มีสัตบุรุษมาร่วมพิธี) มีมากกว่า 60 แห่งด้วยกัน สิ่งนี้ ตรงกันข้ามกับสุเหร่าของชาวมุสลิมอย่างสิ้นเชิง ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา มีสุเหร่าถูกสร้างมากกว่า 2,000 แห่ง นอกจากนี้ ชาวมุสลิมยังไปขอร้องสังฆมณฑลท้องถิ่นบางแห่งในฝรั่งเศสด้วยว่า “ถ้าจะขายโบสถ์ทิ้ง ช่วยบอกเราด้วย เพราะเราจะไปขอซื้อที่ เพื่อมาปรับปรุงเป็นสุเหร่านมัสการพระเจ้า”

ตอนนี้ ปัญหาชาวมุสลิมไม่มีที่สุเหร่าให้ละหมาด กำลังเป็นปัญหาใหญ่ในสังคมฝรั่งเศสและหลายประเทศในยุโรป อาทิ อิตาลี ... ปีที่แล้ว มีข่าวใหญ่ในอิตาลี เมื่อชาวมุสลิมนับพันคน ออกมาละหมาดหน้า “ดูโอโม่” มหาวิหารคาทอลิกของอัครสังฆมณฑลมิลาน สิ่งนี้สร้างกระแสวิจารณ์อย่างล้นหลามว่าเหมาะสมหรือไม่ คาทอลิกหลายคนบอกไม่เหมาะสม แต่ชาวมุสลิมแย้งกลับว่า “พวกเราไม่มีสุเหร่าให้ละหมาด เราก็ต้องมาละหมาดตามท้องถนนแบบนี้แหละ” 

การละหมาดตามท้องถนนกลายเป็นกระแสให้ชาวมุสลิมหลายชาติในยุโรปนำไปปฏิบัติตาม เดือนที่แล้ว ชาวมุสลิมหลายพันคนได้ออกมาละหมาดตามท้องถนนในกรุงปารีส เรื่องนี้ “นิโกล่าส์ ซาร์โกซี่ย์” ประธานาธิบดีฝรั่งเศสออกอาการฉุนขาด แม้การนมัสการพระเจ้าแบบนี้เป็นเรื่องดีก็จริง แต่มันทำให้ชาว ชาวปารีส เดือดร้อนกันถ้วนหน้า เนื่องจากชาวมุสลิมออกมาปิดถนนหลายสายในปารีสเพื่อละหมาด ผู้นำฝรั่งเศสเลยรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมประกาศว่า ฝรั่งเศสเป็นประเทศที่แยกการเมืองกับศาสนาออกจากกันอย่างชัดเจน ดังนั้น ห้ามประกอบศาสนกิจในสถานที่สาธารณะโดยเด็ดขาด (กฏหมายนี้ มีผลกับทุกศาสนา .. อาทิ ห้ามถวายมิสซาในสถานที่สาธารณะ ถ้าจะถวายมิสซา ต้องทำในโบสถ์เท่านั้น การละหมาดก็เช่นกัน ต้องทำในสุเหร่าเท่านั้น) 

อย่างไรก็ตาม ในมุมมองของผม การที่ชาวมุสลิมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในฝรั่งเศส ไม่ใช่เรื่องต้องหนักใจ เพราะที่หนักใจกว่าคือตัวคาทอลิกเองต่างหากว่า เราจะทำอย่างไรให้คริสตังฝรั่งเศสที่ไม่ศรัทธา รวมทั้งคนฝรั่งเศสที่ไม่มีศาสนา กลับมาหาพระอีกครั้ง

ในอดีต ฝรั่งเศสเคยรุ่งเรืองมากกับความเป็นคาทอลิก นักบุญมากมาย, พระสันตะปาปา หรือมิชชันนารีชื่อดัง มาจากประเทศแห่งนี้แทบทั้งสิ้น แต่แล้ววันนี้ ความยิ่งใหญ่กลายเป็นอดีต ความตกต่ำสุดๆเข้ามาเยือน โบสถ์คาทอลิกที่เคยเต็มไปด้วยสัตบุรุษและความศรัทธาเหลือล้น วันนี้ เหลือแต่ความว่างเปล่า ไม่มีศรัทธาเหลืออยู่ มันเหลือเพียงแค่ความทรงจำอันหอมหวาน ส่วนอนาคตยังเป็นคำถามว่า ฝรั่งเศสจะเป็นอย่างไร ความเชื่อความศรัทธาและเวลาเท่านั้นที่จะเป็นคำตอบสำหรับคำถามนี้  ...



AVE   MARIA


Comments