ฟาติมาสาร : โป๊ป ปีโอ ที่ 12 ช่วยชาวยิวมากกว่าที่ชาวยิวคิด (14 ส.ค. 2011)

สัปดาห์ที่ผ่านมา นักประวัติศาสตร์ได้ค้นพบเอกสารสำคัญชิ้นหนึ่งซึ่งระบุชัดเจนว่า สมเด็จพระสันตะปาปา ปีโอ ที่ 12 ทรงช่วยชีวิตชาวยิวหมื่นกว่าคนให้รอดพ้นจากการตามล่าของกองทัพนาซี ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2




เอกสารนี้ “มิชาเอล เฮเซมันน์” นักประวัติศาสตร์ชาวเยอรมันเป็นผู้ค้นพบในห้องเอกสารของวัดแม่พระแห่งจิตวิญญาณ (CHIESA DI SANTA MARIA DELL’ANIMA) วัดคาทอลิกในกรุงโรมซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของ “ปิอัซซ่า นาโวน่า” หนึ่งในสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง ANGELS AND DEMONS หรือชื่อภาษาไทย “เทวากับซานตาน” นั่นเอง ... วัดแม่พระแห่งจิตวิญญาณ อยู่ภายใต้การดูแลของสภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งเยอรมนีและออสเตรีย โดยทุกมิสซาจะถวายเป็นภาษาเยอรมัน เพื่อนักแสวงบุญจากชาติต่างๆที่มีภาษาเยอรมันเป็นภาษาประจำชาติ จะได้มาร่วมพิธีและฟังอย่างรู้เรื่อง (วัดแห่งนี้ มีบทบาทสำคัญมากในยุคกองทัพนาซีรุกรานยุโรป เพราะเป็นศูนย์กลางของการส่งเอกสารต่างๆที่สมเด็จพระสันตะปาปาปีโอ ที่ 12 ส่งไปขอร้อง “อดอล์ฟ ฮิตเลอร์” ให้ยุติการรุกรานและตามล่าชาวยิวทั่วยุโรป) 

สำหรับปมความขัดแย้งที่ชาวยิวยังโกรธเคืองสมเด็จพระสันตะปาปา ปีโอ ที่ 12 เกิดในวันที่ 17 ตุลาคม ค.ศ.1943 วันดังกล่าว ชาวยิวในกรุงโรมจำนวน 1,007 คน ถูกกองทัพนาซีจับตัวไว้และส่งไปยังค่ายเอ้าชวิตส์ ในประเทศโปแลนด์ ชาวยิวรุ่นหลังมองว่า สมเด็จพระสันตะปาปา ปีโอ ที่ 12 ทรงวางตัวนิ่งเฉยและไม่ใส่ใจช่วยพวกเขาให้รอดพ้นจากการตามล่าของนาซี ชาวยิวยังคง “ปรักปรำ” พระสันตะปาปาปีโอ ที่ 12 มาจนถึงทุกวันนี้ แม้วาติกันจะนำเอกสารในหอจดหมายเหตุมาแสดงให้ดูว่า พระสันตะปาปาทรงช่วยชาวยิวประมาณ 12,000 คน รอดชีวิตจากกองทัพนาซี แต่ชาวยิวส่วนมาก ยังไม่ยอมรับ


วัดแม่พระแห่งจิตวิญญาณ สถานที่ค้นพบเอกสารสำคัญ

ในส่วนเอกสารชิ้นล่าสุดที่ “มิชาเอล เฮเซมันน์” ค้นพบ ค่อนข้างน่าสนใจทีเดียว เพราะมีเอกสารที่บันทึกในวันที่ 16 ตุลาคม ค.ศ.1943 ซึ่งเป็นวันที่กองทัพนาซีบุกไล่ล่าชาวยิวในกรุงโรมนั่นเอง

เอกสารชิ้นนี้ บันทึกว่า “ช่วงเช้าวันที่ 16 ตุลาคม 1943 กองทัพนาซีได้เริ่มปฏิบัติการบุกเข้าจับกุมชาวยิวทุกคนในกรุงโรม เพื่อส่งไปค่ายกักกันเอ้าชวิตส์ ทันทีที่ สมเด็จพระสันตะปาปา ปีโอ ที่ 12 ทรงทราบข่าว พระองค์ทรงสั่งโบสถ์และสถานศึกษาคาทอลิกทุกแห่งในกรุงโรม เปิดประตูให้ชาวยิวเข้ามาหลบซ่อนตัวทันที จากนั้น พระสันตะปาปาปีโอทรงสั่งให้วาติกันทำจดหมายคัดค้านการรุกรานไปยังสถานทูตเยอรมนีประจำสันตะสำนักและอิตาลี อย่างไรก็ตาม คำขอร้องของพระองค์ไม่ได้รับการสนองตอบ”

“เมื่อเห็นว่าคำคัดค้านไม่ได้ผล เวลาประมาณ 14.00 น. สมเด็จพระสันตะปาปา ปีโอ ที่ 12 ทรงส่ง คาร์โล ปาเชลลี่ ญาติของพระองค์ซึ่งทำงานด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศให้วาติกัน มายังวัดแม่พระแห่งจิตวิญญาณ (วัดที่ค้นพบเอกสารนี้) เพื่อพบกับ พระสังฆราช อลุยส์ ฮูดัล (ชาวเยอรมัน) ซึ่งเป็นผู้ดูแลวัดแห่งนี้ คาร์โล ปาเชลลี่ แจ้งกับพระสังฆราชฮูดัลว่า พระสันตะปาปาปีโอทรงส่งเขามาเพื่อขอให้กองทัพเยอรมันนาซี หยุดรุกรานและตามล่าชาวยิว จากนั้น พระสังฆราชฮูดัล ได้ทำจดหมายคำร้องจากพระสันตะปาปา ส่งไปยัง จอมพลไฮน์ริช ฮิมม์เลอร์ ผู้บัญชาการสูงสุดของเกสตาโป (หน่วยสืบราชการลับของนาซี)”

“แรกๆ จอมพลฮิมม์เลอร์ เห็นชอบให้หยุดการจับกุมตัวชาวอิตาเลี่ยนเชื้อสายยิวทันที เพราะเขามีอาการเกรงพระสันตะปาปาอย่างเห็นได้ชัด ถึงตอนนี้ ชาวยิวในกรุงโรมจำนวน 12,428 คน เป็นอิสระแล้ว” นี่เป็นเหตุการณ์ในวันที่ 16 ตุลาคม 1943 เท่ากับว่า สมเด็จพระสันตะปาปา ปีโอ ที่ 12 ประสบความสำเร็จในการช่วยชีวิตชาวยิว

อย่างไรก็ตาม เช้าวันที่ 17 ตุลาคม 1943 จอมพลไรน์เนอร์ สตาเฮล ผู้บัญชาการกองทัพเยอรมันนาซีประจำกรุงโรม ได้ทราบข่าวการปล่อยตัวชาวยิวในกรุงโรม เขาโกรธจัดและสั่งยกเลิกการปฏิบัติตามคำขอร้องจากพระสันตะปาปา เพราะกลัวว่าหาก อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ทราบเรื่องนี้ ตัวเขาเองจะถูกลงโทษสถานหนัก จอมพลสตาเฮลต่อสายโทรศัพท์ไปคุยกับจอมพลฮิมม์เลอร์ และขู่ว่า คงรู้นะว่าถ้าฮิตเลอร์รู้เข้า จะเป็นอย่างไร เมื่อเป็นเช่นนี้ การกวาดล้างชาวยิวระลอกใหม่จึงเกิดขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ กองทัพนาซีจับกุมชาวยิวได้แค่ 1,007 คน ส่วนอีก 11,421 คนที่เหลือ ได้รีบเข้าไปหลบภัยในโบสถ์และสถานศึกษาคาทอลิกประมาณ 550 แห่ง ตามที่พระสันตะปาปาปีโอ ทรงสั่งไว้แล้วว่า ให้เปิดประตูต้อนรับชาวยิวเข้ามาหลบภัย

ทั้งหมดก็เป็นเนื้อหาในเอกสารทางประวัติศาสตร์ชิ้นสำคัญ ... มิชาเอล เฮเซมันน์ นักประวัติศาสตร์ที่ค้นพบเอกสารชิ้นนี้ กล่าวว่า “ตอนนี้ เราพบความจริงว่า ช่วงดังกล่าว พระสันตะปาปาปีโอ ที่ 12 ทรงช่วยชีวิตชาวยิวมากกว่าที่ชาวยิวคิด สถานการณ์ตอนนั้น พระสันตะปาปาถูกบังคับไม่ให้มีปากเสียง พระองค์ไม่สามารถออกมาเรียกร้องอะไรได้มาก เพราะตัวพระองค์ก็ตกเป็นเป้าในการจับกุมตัวเช่นกัน อย่างที่ทราบๆ กองทัพนาซีมีแผนบุกยึดวาติกันด้วย แต่สุดท้าย พระสันตะปาปาปีโอ ที่ 12 ผู้เคยเป็นสมณทูตประจำเยอรมนี ก็ทราบดีถึงแนวคิดและความต้องการของพวกเยอรมัน พระองค์จึงใช้ความนิ่งสยบทุกสิ่ง เช่นเดียวกับช่วยเหลือชาวยิวอย่างลับๆ จนถึงตอนนี้ ชาวยิวที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์ตอนนั้น ยังคงสำนึกพระคุณของพระสันตะปาปาอยู่เลย”   

“ผมคิดว่า ชาวยิวที่ยังข้องใจว่าพระสันตะปาปาปีโอ ช่วยพวกเขาจริงหรือเปล่า ควรจะเดินไปอ่านเอกสารนี้ในวัดแม่พระแห่งจิตวิญญาณ เพื่อจะได้เลิกต่อว่าพระองค์เสียที ที่สำคัญ วัดแห่งนี้อยู่ใกล้กับโบสถ์ชาวยิวในกรุงโรมด้วย มันใกล้มาก เดินไม่กี่นาทีก็ถึงแล้ว” มิชาเอล เฮเซมันน์ นักประวัติศาสตร์กล่าวปิดท้าย



AVE   MARIA





Comments