ฟาติมาสาร - การรื้อฟื้นความสำคัญของการแก้บาป (17 ก.ค. 2011)

ตลอดเดือนกรกฏาคม สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ได้เสด็จไปพักร้อนประจำปีที่พระราชวังฤดูร้อน เขตคาสเตล กันดอลโฟ ข่าวพระสันตะปาปาจึงมีน้อย แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา เพราะเรื่องราวของพระสันตะปาปาและวาติกัน ผมคิดวางแผนไว้ในหัวหมดแล้วว่า จะนำเสนออะไรบ้าง





เดือนหน้า (สิงหาคม) จะมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นในพระศาสนจักรคาทอลิก นั่นคือ “งานเยาวชนโลก” ซึ่งจะจัดที่กรุงมาดริด เมืองหลวงของสเปน ระหว่างวันที่ 16-21 สิงหาคม 2011 หากคุณติดตามฟาติมาสารเป็นประจำ น่าจะทราบว่า งานนี้ยิ่งใหญ่เพียงใด ถ้าไม่ทราบ ขอให้นึกถึงความยิ่งใหญ่ของฟุตบอลโลกหรือโอลิมปิกซึ่งจะมีทุกๆ 4 ปี งานนี้ก็เหมือนกัน เยาวชนคาทอลิกนับแสนนับล้าน ต่างเฝ้ารอทุกๆ 3 ปี เพื่อจะได้ไปรวมตัวกัน ประกาศความเชื่อในพระเจ้า พร้อมกับพระสันตะปาปาผู้เป็นประธานของงาน

งานเยาวชนโลกครั้งแรก จัดตามพระประสงค์ของสมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 โดยมีขึ้นในวันที่ 15 เมษายน ค.ศ.1984 จวบจนปัจจุบัน งานเยาวชนโลกมีอายุ 27 ปี ช่วงแรก บรรดาพระคาร์ดินัลในวาติกันตั้งคำถามว่า “งานเยาวชนโลกจัดไปเพื่ออะไร เพราะเปลืองงบประมาณมากๆ” กระนั้นก็ดี วันเวลาผ่านไป คำตอบกระจ่างชัดในตัวมันเองว่า สมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 คิดถูกที่จัดงานนี้ขึ้น เพราะนี่คือการอ่านภาพในอนาคตของพระศาสนจักรว่าจะเดินไปในทิศทางไหน

ในส่วนของงานเยาวชนโลกปีนี้ หนึ่งในไฮไลต์สำคัญอยู่ที่ “พระสันตะปาปาจะออกมาโปรดศีลอภัยบาปด้วยพระองค์เอง” ในประวัติศาสตร์พระศาสนจักรคาทอลิก พระสันตะปาปาองค์แรกที่ออกมาฟังแก้บาปสัตบุรุษคือสมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 พอมาในยุคของสมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 พระองค์ก็ทรงสานต่อแนวทางนี้ โดยทั้งสองพระองค์ออกมาฟังแก้บาปสัตบุรุษปีละ 1 ครั้ง นั่นคือทุกวันพุธสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์

แต่สำหรับงานเยาวชนโลก พระสันตะปาปายังไม่เคยออกมาฟังแก้บาปเยาวชนเลยแม้แต่ครั้งเดียว ปีนี้จะเป็นปีแรกที่พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ จะออกมาโปรดศีลอภัยบาปให้เยาวชน สาเหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะพระสันตะปาปาต้องการรื้อฟื้นและเน้นย้ำความสำคัญของศีลอภัยบาปให้กลับคืนมาอีกครั้ง นี่เป็นหนึ่งในความฝันที่พระสันตะปาปาต้องการให้เกิดขึ้นจริงในสมณสมัยของพระองค์

พูดถึงการรับศีลอภัยบาป หรือภาษาชาวบ้านเรียกง่ายๆว่า “การแก้บาป” ตอนนี้ กำลังเป็นปัญหาใหญ่ในพระศาสนจักร เนื่องจากคนส่วนมากมองข้ามความสำคัญของศีลศักดิ์สิทธิ์นี้ ในเมืองไทยอาจมองภาพของปัญหาไม่ออก เพราะอัตราการแก้บาปของคริสตังยังดูเยอะอยู่ แต่ถ้าเป็นต่างประเทศ อาทิ ยุโรป ปัญหานี้หนักหนาสาหัสมาก

ในสวีเดนและเนเธอร์แลนด์ สองประเทศที่ผมมีโอกาสได้ไปใช้ชีวิตนานพอสมควร ผมสังเกตเห็นว่า การแก้บาปจะไม่ยืดหยุ่นเท่าเมืองไทย กล่าวคือ เวลาแก้บาป พระสงฆ์จะประกาศลงสารวัดว่า สัปดาห์นี้ พระสงฆ์จะออกมาโปรดศีลอภัยบาปทุกวันอังคารและพฤหัสบดี เวลา 17.30 – 18.30 น. ช่วงเวลาที่กล่าวมานี้ หากสัตบุรุษไม่มาตามที่ประกาศไว้ เขาก็จะไม่ได้รับศีลอภัยบาป สิ่งนี้ ต่างจากเมืองไทยอย่างสิ้นเชิง เพราะเมืองไทย พระสงฆ์ยังออกมาฟังแก้บาปให้สัตบุรุษในระหว่างมิสซา แต่ถ้าเป็นยุโรป เขาถือว่า เวลามิสซา เราต้องร่วมมิสซาอย่างตั้งใจ ไม่ใช่เวลามิสซา จะเดินออกจากที่นั่งและมาแก้บาป เรื่องแบบนี้ ค่อนข้างเคร่งครัดในยุโรป ถ้าอยากจะแก้บาป คุณต้องเตรียมตัวอย่างดีและไปแก้บาปตามตารางเวลาที่กำหนดไว้ (แต่การเคร่งครัดแบบนี้ น่าจะมีส่วนทำให้คริสตังในยุโรปรับศีลอภัยบาปลดลง เพราะบ่อยครั้งที่สัตบุรุษไม่สะดวกจะไปรับศีลอภัยบาปในวันธรรมดา ซึ่งเป็นวันทำงาน)

ปัญหาคนแก้บาปลดลง เป็นเรื่องที่พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ทรงเห็นมานานแล้ว พระองค์ทรงพยายามหลายครั้งที่จะเรียกร้องและเชิญชวนคริสตังให้ตื่นตัวมากขึ้นกับการรับศีลอภัยบาป อย่างไรก็ตาม เสียงเรียกร้องของพระสันตะปาปายังไม่ได้รับความสนใจที่ควร มาครั้งนี้ พระองค์จึงเลือกเวทีเยาวชนโลก เป็นสถานที่แสดงออกถึงความสำคัญของศีลอภัยบาปให้คริสตังทั่วโลกได้รับรู้ นั่นคือ การออกมาโปรดศีลอภัยบาปด้วยพระองค์เอง เพื่อกระตุ้นให้เยาวชนเห็นความสำคัญกับสิ่งนี้ เพราะนี่คือก้าวแรกที่เราจะได้คืนดีกับพระเจ้า หลังจากทำผิดต่อพระองค์

ก็ได้แต่หวังว่า งานเยาวชนโลกครั้งนี้ จะเป็นเหตุการณ์ที่เตือนสติเยาวชนคาทอลิกให้ตระหนักถึงความสำคัญของศีลอภัยบาป ส่วนพระศาสนจักรคาทอลิกในเมืองไทยนั้น ยังถือว่าโชคดีที่จำนวนคนมาแก้บาปไม่ได้ลดลงจนน่าเกลียดเหมือนที่พระศาสนจักรในยุโรปกำลังประสบอยู่ ...



AVE   MARIA


Comments