ฟาติมาสาร - 2012 ... พระสันตะปาปาเสด็จเยือนเอเชีย?? (3 ก.ค. 2011)

ปีนี้ เป็นปีที่ 7 ในสมณสมัยของสมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 นับตั้งแต่วันเริ่มต้นสมณสมัยจนถึงวันนี้ พระองค์เดินทางเยือนไปแล้ว 4 ทวีป ได้แก่ทวีปยุโรป, ทวีปอเมริกา (เหนือและใต้), ทวีปโอเชียเนีย และทวีปแอฟริกา เหลือเพียงทวีปเดียวเท่านั้นที่พระสันตะปาปาองค์ที่ 265 ของพระศาสนจักรคาทอลิก ยังไม่เคยเยือน นั่นคือ “เอเชีย” (จริงๆแล้ว ถ้าจะเหมาว่า พระสันตะปาปามาเอเชียแล้วก็ได้ เพราะปี 2008 พระองค์เสด็จเยือน “อิสราเอล” และ “จอร์แดน” แต่สำนักข่าวต่างประเทศมองว่า “เอเชียของจริง” คือเอเชียที่รวมจีน, อินเดีย, ญี่ปุ่น, ไทย, ฟิลิปปินส์, เวียดนาม และอินโดนีเซีย)



พูดถึงเอเชีย นี่คือทวีปที่ใหญ่สุดในโลก ประชากร 60 เปอร์เซ็นต์ของโลกมาจากทวีปนี้ อย่างไรก็ตาม เอเชียเป็นทวีปที่มีความหลากหลายมากๆ ศาสนามากมายถือกำเนิดในทวีปนี้ กระนั้น คริสตังในเอเชียยังน้อยไปนิด ทวีปแห่งนี้มีคริสตังประมาณ 10.7 เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั้งทวีป

กลับมาที่เรื่องของพระสันตะปาปากันต่อ พระสันตะปาปาองค์แรกที่เสด็จจากวาติกันเพื่อเยี่ยมคริสตังในเอเชีย ได้แก่ สมเด็จพระสันตะปาปา เปาโล ที่ 6 พระองค์มาเยือนเอเชีย 2 ครั้ง (ค.ศ.1964 และ 1970) ในสองครั้งนี้ พระองค์เยือน 6 ประเทศ โดยมาประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงอย่างอินเดีย, บังคลาเทศ, ศรีลังกา, ปากีสถาน และฟิลิปปินส์ (ในการเสด็จเยือนฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน ค.ศ.1970 สมเด็จพระสันตะปาปา เปาโล ที่ 6 ทรงตกเป็นเป้าของการลอบปลงพระชนม์ที่สนามบินกรุงมะนิลา แต่โชคดีที่เจ้าหน้าตำรวจจับกุมผู้ก่อการร้ายได้ก่อน) นอกจากนี้ พระสันตะปาปา เปาโล ที่ 6 ทรงเป็นพระสันตะปาปาองค์แรกในประวัติศาสตร์ที่เสด็จเยี่ยมคริสตังครบทุกทวีป ... ส่วน บุญราศี จอห์น ปอล ที่ 2 ยิ่งไม่ต้องพูดถึง พระองค์มาเยือนเอเชียทั้งหมด 7 ครั้ง โดยเก็บไปทั้งหมด 10 ประเทศ หนึ่งในนั้นคือประเทศไทยนั่นเอง

แล้วเมื่อไหร่ สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 จะเสด็จเยือนเอเชียบ้างล่ะ คงเป็นคำถามที่ทุกคนอยากทราบ เรื่องนี้ “เจราร์ด โอคอนแนล” นักข่าวสายวาติกันจากสหรัฐอเมริกา ได้เจาะลึกข้อมูลที่สภาพระสังฆราชคาทอลิกของประเทศต่างๆในเอเชีย กราบทูลเชิญให้สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ ที่ 16 เสด็จเยือนประเทศของตน อยากรู้ว่า มีประเทศไหนในเอเชียที่เชิญพระสันตะปาปา ไปติดตามกันเลย

“ฟิลิปปินส์” เป็นชาติแรกในเอเชียที่ส่งสารเชิญพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ การทูลเชิญครั้งแรก เกิดในปี 2008 ตอนนั้น พระสันตะปาปาจะมาร่วมงานเยาวชนโลกที่ซิดนี่ย์ ประเทศออสเตรเลีย ตอนแรก มีการคาดว่า เที่ยวบินของพระสันตะปาปาไม่น่าจะบินตรงจากกรุงโรมสู่ซิดนี่ย์ เพราะถ้าบินแบบนั้น พระสันตะปาปาจะต้องประทับอยู่บนเครื่องบินนานถึง 20 ชั่วโมง รัฐบาลและสภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งฟิลิปปินส์ จึงเสนอตัวให้พระสันตะปาปามาหยุดพักกลางทางที่กรุงมะนิลา 1-2 วัน แล้วค่อยบินต่อไปยังออสเตรเลีย อย่างไรก็ตาม คณะแพทย์ที่ได้ทูลถามพระสันตะปาปาว่า “ไหวไหม ถ้าจะนั่งบนเครื่องบิน 20 ชั่วโมง” เมื่อพระสันตะปาปาทรงตอบว่า “ไหว” การหยุดพักที่กรุงมะนิลาจึงจบลงทันที

แม้การทูลเชิญครั้งนั้นจะถูกปฏิเสธ แต่สภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งฟิลิปปินส์ก็ไม่ท้อ ต้นปีที่ผ่านมา พวกเขาทูลเชิญพระสันตะปาปาให้เสด็จร่วมงานฉลองครบรอบ 400 ปีของมหาวิทยาลัยซานโต โทมัส มหาวิทยาลัยในสันตะสำนักของฟิลิปปินส์และยังเป็นมหาวิทยาลัยที่ “เก่าแก่” สุดในเอเชีย กระนั้น พระสันตะปาปาไม่ตอบรับคำเชิญ เนื่องจากงานฉลองวันเกิดมหาวิทยาลัยตรงกับช่วงปาสกาพอดี

ประเทศที่สองในเอเชียที่กราบทูลเชิญพระสันตะปาปาให้เสด็จเยือนคือ “พม่า” เรื่องนี้ เกิดในปี 2008 เมื่อสภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งพม่าเดินทางไปถวายรายงาน “อัด ลิมินา” (รายงานพระสันตะปาปาทุกๆ 5 ปี) ตอนนั้น พม่าถูก “พายุไซโคลนนากีส” พัดถล่ม พระสังฆราชพม่าจึงทูลพระสันตะปาปาให้เสด็จเยือนประเทศของตน เพื่อปลอบขวัญและเป็นกำลังใจให้คนในประเทศ ปรากฏว่า พระสันตะปาปาทรงตอบตกลง พร้อมตรัสว่า “ถ้าพ่อไปเยือนเอเชีย พ่อจะหาเวลาสั้นๆไปเยี่ยมชาวพม่า” (หากยังจำกันได้ ผมเคยรายงานข่าวนี้ผ่านฟาติมาสารไปแล้ว ตอนนั้น เป็นข่าวใหญ่พอสมควร เพราะพระสันตะปาปาทรงตอบตกลง)




ประเทศที่สามที่ทูลเชิญพระสันตะปาปา ได้แก่ “เวียดนาม” วิธีการทูลเชิญพระสันตะปาปาก็ใช้สูตรเดียวกับพม่า นั่นคือ ปี 2009 สภาพระสังฆราชคาทอลิกเวียดนาม เข้าถวายรายงานอัด ลิมินา ก่อนจะทูลเชิญพระสันตะปาปา แต่พระสันตะปาปาไม่ได้ตอบรับแต่อย่างใด 

กระนั้น สภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งเวียดนามก็ไม่ท้อ เดือนมกราคม 2011 พวกเขาทูลเชิญพระสันตะปาปาให้เสด็จเยือนเวียดนาม โอกาสพิธีปิดงานสมโภช 400 ปีแห่งการสถาปนาพระศาสนจักรคาทอลิกในเวียดนาม (จัดที่สักการะสถานแม่พระแห่งลาวาง ... หากยังจำกันได้ ช่วงต้นปีที่ผ่านมา มีข่าวลือสะพัดว่า พระสันตะปาปาจะมาเวียดนาม ข่าวนั้นมีที่มาตามนี้แหละครับ) ครั้งนี้ พระสันตะปาปาอยากมาร่วมงาน แต่ติดที่รัฐบาลคอมมิวนิสต์เวียดนามไม่ต้อนรับพระองค์ ดังนั้น พระสันตะปาปาเบเนดิกต์กับทวีปเอเชีย จึงไม่เกิดเสียที (การที่พระสันตะปาปาจะเสด็จเยือนประเทศใดก็ตาม จะต้องมีการทูลเชิญจาก 2 ฝ่าย คือจากราชวงศ์หรือคณะรัฐบาล และจากสภาพระสังฆราชคาทอลิกในประเทศนั้น ถ้าขาดฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง การเสด็จเยือนจะไม่เกิดขึ้น)

ประเทศที่สี่ในเอเชียที่เชิญพระสันตะปาปาเสด็จเยือน ได้แก่ “เกาหลีใต้” การทูลเชิญครั้งแรกเกิดในวันที่ 9 กรกฎาคม 2009 เมื่อ “อี มอง-บัค” ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ เดินทางไปประชุมจี20 (G-20) ที่กรุงโรม หลังการประชุมจบลง มอง-บัค ได้ขอเข้าเฝ้าพระสันตะปาปา พร้อมกราบทูลเชิญพระองค์เสด็จเยือนประเทศ แต่พระสันตะปาปายังไม่ตอบตกลงแต่อย่างใด จากนั้น วันที่ 18 สิงหาคม 2010 รัฐบาลเกาหลีใต้ได้ส่งจดหมายกราบทูลเชิญพระสันตะปาปาอย่างเป็นทางการ กระนั้น ก็ยังไม่มีปฏิกิริยจากพระสันตะปาปา เมื่อเป็นเช่นนี้ รัฐบาลเกาหลีใต้ก็ยังไม่ท้อ พวกเขายังคงส่งจดหมายเชิญพระสันตะปาปาอีก 4 ครั้งด้วยกัน ครั้งล่าสุดคือต้นปีที่ผ่านมา โดยวัตถุประสงค์ของการทูลเชิญคือรัฐบาลเกาหลีใต้ต้องการให้พระสันตะปาปาเสด็จมาสร้างสันติภาพในคาบสมุทรเกาหลี เนื่องจากช่วงดังกล่าว เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ กำลังขัดแย้งกันถึงขีดสุด ... เท่ากับว่า เกาหลีใต้ ทูลเชิญพระสันตะปาปาถึง 6 ครั้ง แต่พระองค์ก็ยังไม่ตอบตกลง

ประเทศที่ห้าในเอเชียที่เชิญเสด็จพระสันตะปาปาก็คือ “อินเดีย” สูตรการเชิญก็เหมือนกับพม่าและเวียดนาม นั่นคือ ใช้การเข้าเฝ้าถวายรายงานอัด ลิมินา ให้เกิดประโยชน์ สภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งอินเดีย เข้าเฝ้าพระสันตะปาปาวันที่ 16 พฤษภาคม 2011 ช่วงท้ายของการเข้าเฝ้า พระคาร์ดินัล เทเลสโฟร์ ท็อปโป้ ประธานสภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งอินเดีย ทูลเชิญพระสันตะปาปาให้เสด็จเยือนอินเดีย จากนั้นพระสังฆราชอินเดียทุกองค์พร้อมใจลุกขึ้นยืนปรบมือ (คล้ายๆกดดันให้พระสันตะปาปาตอบรับ) แต่กระนั้น พระสันตะปาปายังไม่ตอบตกลง พระองค์แค่ยิ้มรับเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม วันที่ 22 มิถุนายน ที่ผ่านมา พระสันตะปาปาทรงอนุญาตให้พระคาร์ดินัลท็อปโป้ ได้เข้าเฝ้าเป็นการส่วนตัว ครั้งนี้ พระคาร์ดินัลท็อปโป้ ยังไม่ท้อ ท่านทูลเชิญพระสันตะปาปาให้เสด็จเยือนอินเดียอีกครั้ง คราวนี้ พระสันตะปาปาทรงตอบว่า “พ่อยินดีไปอินเดีย ถ้าสุขภาพยังแข็งแรง” ... เท่ากับว่า พระสันตะปาปาทรงสัญญากับสภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งอินเดียแล้ว งานนี้ มีกระแสข่าวตามมาว่า ต้องจับตาดูกระบวนการสถาปนา “บุญราศีเทเรซาแห่งกัลกัตต้า” ให้ดีๆ เพราะถ้าพระสันตะปาปาไปอินเดีย เมืองที่พระองค์ไป ต้องมี “กัลกัตต้า” อยู่ในโผแน่ๆ และถ้าเป็นเช่นนั้นจริง พระสันตะปาปาอาจแต่งตั้ง บุญราศีเทเรซาแห่งกัลกัตต้า เป็น “นักบุญ” ในการเสด็จเยือนอินเดียก็เป็นได้

ปีหน้า พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ จะพระชนมายุ 85 ชันษา คุณหมอปาตริซิโอ โปลิสก้า แพทย์ส่วนพระองค์ของพระสันตะปาปา เคยให้สัมภาษณ์ว่า “สุขภาพของพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ แข็งแรงมากๆ เมื่อเทียบกับคนปูนนี้ อย่างไรก็ตาม การเดินทางเยือนประเทศต่างๆของพระสันตะปาปา หมอจะพิจารณา 2 ปัจจัยหลักคือสุขภาพและระยะทาง ซึ่งเป็นสิ่งต้องควบคุมสำหรับคนอายุขนาดนี้”     

เวลาที่เหลือของปี 2011 พระสันตะปาปาจะเสด็จเยือนสเปน (ร่วมเยาวชนโลก กรุงมาดริด 15-21 สิงหาคม), เยอรมนี (เบอร์ลิน, แอร์เฟือร์ต และไฟร์บวร์ก 22-25 กันยายน), เบนิน (แอฟริกา 18-20 พฤศจิกายน ตามคำเชิญของรัฐบาลและสภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งเบนิน)

ส่วนปี 2012 นักข่าวคาทอลิกสายวาติกันหลายคน ฟันธงว่า พระสันตะปาปาจะเสด็จเยือนเอเชียแน่นอน แต่จะเป็นประเทศไหนนั้น ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ขณะที่วาติกันก็ยืนยันเช่นกันว่า “พระสันตะปาปาไม่เคยลืมเอเชีย การเดินทางเยือนทวีปนี้ ต้องเกิดขึ้นแน่นอน”   ...



AVE   MARIA



Comments