ฟาติมาสาร - เมื่อพระสันตะปาปาเอาจริงกับ “มิสซาลาติน” (22 พฤษภาคม 2011)

เย็นวันศุกร์ที่ 13 พฤษภาคมที่ผ่านมา ก่อนการฉลองวัดแม่พระฟาติมาไม่กี่ชั่วโมง วาติกันได้ออกเอกสารสำคัญฉบับหนึ่งชื่อว่า “UNIVERSAE ECCLESIAE” (พระศาสนจักรสากล) เอกสารฉบับนี้ว่าด้วยการถวายมิสซาแบบดั้งเดิมก่อนสังคยานาวาติกันที่ 2 (TRIDENTINE RITE – มิสซาลาตินที่พระสงฆ์หันหลังให้สัตบุรุษและใช้ภาษาลาตินตลอดมิสซา)




พระคาร์ดินัล โยเซฟ รัตซิงเกอร์ (พระสันตะปาปาองค์ปัจจุบัน) เมื่อครั้งถวายมิสซาลาติน

หากจำกันได้ ฟาติมาสารฉบับวันที่ 23 กันยายน 2007 ผมเคยรายงานเรื่องสมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ทรงออกสมณกฤษฎกีกาการอนุญาตให้พระสงฆ์ถวายมิสซาลาตินได้อีกครั้ง สมณกฤษฎีกาดังกล่าวมีชื่อว่า “SUMMORUM PONTIFICUM” (ภาษาลาติน แปลว่า พระสันตะปาปาผู้มีอำนาจสูงสุด) ในกฤษฏีกาดังกล่าว พระสันตะปาปาทรงระบุว่า สาเหตุที่อนุญาตให้มีการถวายมิสซาลาตินอีกครั้ง ก็เพราะต้องการสร้างความปรองดองและเอกภาพในหมู่คริสตัง เนื่องจาก 40 กว่าปีที่ผ่านมาหลังสังคยานาวาติกันที่ 2 คริสตังมีความคิดแตกแยกรุนแรงเกี่ยวกับพิธีมิสซา อาทิ สมาคมนักบุญปีโอ ที่ 10 (กลุ่มเลอแฟ๊บวร์) ซึ่งเป็นกลุ่มคริสตังที่มีแนวคิดอนุรักษ์นิยมสุดขั้วและต่อต้านมิสซาแบบหลังสังคยานาวาติกันที่ 2 (แบบปัจจุบัน) พระสันตะปาปามองว่า มันเป็นเรื่องเศร้าที่คริสตังต้องแตกแยกเพราะพิธีกรรม ดังนั้น พระองค์จึงออกสมณกฤษฎีกาดังกล่าว เพื่อหวังให้ทุกฝ่ายได้คืนดีกัน และรวมเป็นครอบครัวเดียวกันอีกครั้ง

4 ปีผ่านไปหลังจากพระสันตะปาปาทรงประกาศใช้กฤษฎีกา สมณกรรมาธิการเอ็กเกลเซีย เดอี หน่วยงานวาติกันที่รับผิดชอบเรื่องมิสซาลาติน ได้ประเมินผลกฤษฎีกาดังกล่าว ปรากฏว่า สังฆมณฑลต่างๆตอบสนองน้อยมากๆ พระศาสนจักรท้องถิ่นบางประเทศส่งจดหมายถึงวาติกันว่า สงฆ์ของตนไม่มีความสามารถที่จะถวายมิสซาลาติน เพราะขาดความรู้เรื่องพิธีกรรมและภาษาลาติน ขณะเดียวกัน สัตบุรุษหลายประเทศก็รวมตัวส่งจดหมายถึงวาติกัน แจ้งว่า พวกเขาอยากให้มีการจัดมิสซาลาติน แต่พระสังฆราชและพระสงฆ์ไม่ยอมสนองตอบ เหมือนที่พระสันตะปาปาเคยสั่งว่าต้องตอบรับคำขอของสัตบุรุษ เมื่อประมวลเหตุการณ์ทุกอย่างเข้าด้วยกัน พระสันตะปาปาทรงสั่งให้ พระคาร์ดินัล วิลเลี่ยม เลวาด้า ประธานสมณกระทรวงหลักความเชื่อ ออกเอกสาร “UNIVERSAE ECCLESIAE” (พระศาสนจักรสากล) เพื่อชี้แจงและให้ความกระจ่างกับคริสตังทั่วโลกเกี่ยวกับมิสซาลาตินอีกครั้ง โดยเอกสารดังกล่าว มีประเด็นสำคัญดังต่อไปนี้

- พระศาสนจักรคาทอลิกเป็นหนึ่งเดียว แต่มีมิสซา 2 รูปแบบ คือ 1. แบบธรรมดา (ORDINARY) พระสงฆ์หันหน้าให้สัตบุรุษและใช้ภาษาท้องถิ่นถวายมิสซา 2. แบบพิเศษ (EXTRAORDINARY) พระสงฆ์หันหลังให้สัตบุรุษและใช้ภาษาลาตินถวายมิสซา

- พระสังฆราชและพระสงฆ์ควรจะตอบรับคำขอของสัตบุรุษที่ต้องการให้มีการจัดมิสซาลาติน แม้ว่าสัตบุรุษจะมีจำนวน้อยก็ตาม กระนั้น สัตบุรุษกลุ่มที่ประสงค์ให้มีมิสซาลาติน ต้องไม่มีเจตนาร้ายหรือเป็นปฏิปักษ์กับอำนาจของพระสันตะปาปา, สังคยานาวาติกันที่ 2 และมิสซารูปแบบปัจจุบัน

- ในการถวายมิสซาลาติน พระสงฆ์ไม่จำเป็นต้องทำเรื่องขออนุญาตจากพระสังฆราชอีกต่อไป

- พระสังฆราชประจำสังฆมณฑลต่างๆ มีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบให้มิสซาลาตินที่เกิดในสังฆมณฑลของตน ดำเนินไปตามพระประสงค์ของพระสันตะปาปา นอกจากนี้ พระสังฆราชไม่ควรกำหนดกฏเกณฑ์เพิ่มเติมกับการถวายมิสซาลาติน นอกเหนือไปจากที่วาติกันระบุ

- สักการะสถานทุกแห่งควรเตรียมพร้อมสำหรับผู้แสวงบุญที่ต้องการจะร่วมมิสซาลาติน

- พระสงฆ์ที่จะถวายมิสซาลาติน ต้องมีความรู้เกี่ยวกับพิธีมิสซานี้แบบถ่องแท้ เช่นเดียวกับมีความรู้ภาษาลาตินอย่างถูกต้อง เพื่อป้องกันความผิดพลาดเวลาออกเสียงต่างๆ

- พระสงฆ์สามารถถวายมิสซาส่วนตัว (ถวายคนเดียว แบบไม่มีสัตบุรุษร่วม) เป็นมิสซาลาตินได้ โดยไม่ต้องทำเรื่องขออนุญาตจากพระสังฆราชของตน

- มิสซาบวชพระสงฆ์ใหม่ ต้องเป็นรูปแบบธรรมดา (แบบปัจจุบัน) เท่านั้น ยกเว้นกรณีพิเศษจริงๆ ถึงจะอนุญาตให้บวชพระสงฆ์ด้วยมิสซาลาติน

- บ้านเณรคาทอลิกทั่วโลก ต้องฟื้นฟูภาษาลาติน และต้องฝึกผู้เข้ารับการอบรมเตรียมเป็นพระสงฆ์ ให้มีความรู้ภาษาลาตินและการถวายมิสซาลาติน

- ไม่มีการระบุว่า “เด็กช่วยมิสซาผู้หญิง” ห้ามช่วยมิสซาลาติน

ทั้งหมดก็เป็นบทสรุปสำคัญของเอกสาร “UNIVERSAE ECCLESIAE” (พระศาสนจักรสากล) เอกสารฉบับนี้ว่าด้วยการถวายมิสซาแบบดั้งเดิมก่อนสังคยานาวาติกันที่ 2 




พระคาร์ดินัล โยเซฟ รัตซิงเกอร์ (พระสันตะปาปาองค์ปัจจุบัน) เมื่อครั้งถวายมิสซาลาติน


ในเมืองไทย ผมไม่รู้ว่า มิสซาลาตินแบบสงฆ์หันหลังให้สัตบุรุษและใช้ภาษาลาตินถวายมิสซา จะเกิดขึ้นอย่างเป็นทางการอีกครั้งเมื่อไหร่ แต่ต่างประเทศ เฉพาะอย่างยิ่งที่วาติกัน พระสันตะปาปาทรงเอาจริงมากๆกับมิสซาลาติน เพราะหลังจาก 4 ปีที่แล้วที่พระองค์ทรงออกสมณกฤษฎีกามิสซาลาติน แต่สังฆมณฑลต่างๆทั่วโลกไม่ให้ความร่วมมือเท่าที่ควร มาครั้งนี้ พระสันตะปาปาทรงสั่งให้จัดมิสซาลาติน โดยประธานในพิธีคือ “พระคาร์ดินัล วอลเตอร์ แบรนด์มุลเลอร์" ปธ.กิตติคุณของสมณกรรมาธิการประวัติศาสตร์ พิธีดังกล่าวจัดไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา ณ มหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน งานนี้ ยิ่งใหญ่มากเพราะพระสันตะปาปาทรงสั่งให้ “พระคาร์ดินัล โดมินิโก้ บาร์โตลุชชี่” คอนดักเตอร์บทเพลงลาตินและเพลงเกรโกเรี่ยน ที่ได้รับการยกย่องว่า “เก่งที่สุดในศตวรรษนี้” มาคุมคณะนักขับร้องด้วยตัวเอง (ปัจจุบัน พระคาร์ดินัลบาร์โตลุชชี่ อายุ 94 ปี การได้กลับมาเป็นคอนดักเตอร์ในมิสซาลาติน แสดงให้เห็นว่า พระสันตะปาปาเอาจริงขนาดไหนกับการส่ง “ชุดใหญ่” มาปฏิบัติให้สังฆมณฑลทั่วโลกได้เห็นและนำไปปฏิบัติตาม)




มิสซาลาตินในมหาวิหารนักบุญเปโตร เมื่อวันอาทิตย์ที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา


4 ปีที่แล้ว พระสันตะปาปาทรงออกสมณกฤษฎีกามิสซาลาติน แต่สังฆมณฑลหลายแห่งทั่วโลกไม่เข้าใจและไม่นำไปปฏิบัติตาม มาวันนี้ พระสันตะปาปาทรงออกเอกสารตามมาอีกครั้ง ด้วยหวังว่า ทุกคนจะเปิดใจและพร้อมร่วมมือกับพระองค์ขจัดความแตกแยกในพระศาสนจักรคาทอลิกให้หมดไป

4 ปีที่แล้ว เมื่อข่าวสมณกฤษฎีกามิสซาลาตินถูกประกาศออกมา ผมมั่นใจว่า ตัวเองเป็นคนแรกที่แจ้งข่าวให้คริสตังไทยได้ทราบ หลังจากนั้น ก็มีหลายคนเข้ามาถามผมว่า ทำไมข่าวนี้ที่เมืองไทยเงียบมาก, เมื่อไหร่เมืองไทยจะมีการจัดมิสซาลาติน ... ผมตอบได้คำเดียวว่า “ไม่รู้ เพราะผมรายงานข่าวโดยยึดตามวาติกันเป็นหลัก ถ้าจะถามเรื่องพระศาสนจักรคาทอลิกในเมืองไทย ผมไม่รู้จริงๆ”

หลังจากบทความนี้ถูกตีพิมพ์ออกไป ผมมั่นใจว่า ต้องมีคนถามผมอีกแน่ๆ และผมก็จะยืนยันคำตอบเดิมว่า “ไม่รู้” สิ่งเดียวที่ผมรู้คือพระสันตะปาปาทำอะไร ผมก็สื่อให้คนไทยได้ทราบแบบนั้น นอกจากนี้ โดยส่วนตัวแล้ว ผมชอบมิสซาแบบปัจจุบันมากกว่า แต่ก็ยอมรับว่า อดตื่นเต้นไม่ได้จริงๆ เมื่อรู้ว่า พระสันตะปาปาทรงอนุญาตให้ทำมิสซาลาตินได้อีกครั้ง ....



AVE   MARIA





Comments