โป๊ปขอชาวซิซิเลียอย่าตกเป็นเครื่องมือพวกมาเฟีย


สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงขอร้องคริสตังแคว้นซิซิเลีย อย่าตกเป็นเครื่องมือของพวกมาเฟียเด็ดขาด พร้อมกันนี้ ทรงขอร้องเยาวชนให้เจริญชีวิตเป็นต้นไม้ที่มีรากแห่งความดีฝังอยู่ ตอนท้าย ทรงย้ำเหมือนเดิม เราต้องดำเนินชีวิตดุจนักบุญผู้ศักดิ์สิทธิ์




หลังจากช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 3 ตุลาคมที่พระสันตะปาปาทรงถวายมิสซา ระหว่างการเสด็จอภิบาลคริสตังเมืองปาแลร์โม่ แคว้นซิซิเลีย ทางตอนใต้ของประเทศอิตาลี ช่วงบ่าย พระองค์ก็ได้เสด็จออกมาพบปะและเทศน์สอนบรรดาพระสงฆ์, นักบวชชายหญิง, ฆราวาส และกลุ่มเยาวชน ซึ่งมารอเข้าเฝ้ากว่า 30,000 คน

การเข้าเฝ้านี้ แบ่งออกเป็น 2 รอบ รอบแรก พระสันตะปาปาทรงพบปะพระสงฆ์และนักบวชชายหญิง พระองค์ทรงเตือนสติพวกเขาถึงความสำคัญของการสวดภาวนา พระสันตะปาปาย้ำว่า การสวดภาวนาคือการรักษาความกระแสเรียกติดตามพระเยซู นอกจากนี้ พระองค์ยังสอนอีกว่า พระสงฆ์ต้องปฏิบัติตนให้ได้ตามที่เทศน์สอนสัตบุรุษ ไม่ใช่เทศน์อย่างหนึ่ง แต่ทำตัวอีกอย่างหนึ่ง

จากนั้น พระสันตะบิดรผู้ทรงพระชนมายุ 83 ชันษา ได้เสด็จออกมาพบปะกลุ่มฆราวาสและเยาวชน พระสันตะปาปาได้ตรัสกับกลุ่มฆราวาส ถึงความสำคัญของสถาบันครอบครัว พระองค์ย้ำว่า "ครอบครัวคือเครื่องมือชิ้นแรกที่พระเจ้าใช้ในการถ่ายทอดชีวิตให้สนิทสัมพันธ์กับความเชื่อ ครอบครัวเปรียบเหมือนพระศาสนจักรหลังเล็กๆ ที่ต้องได้รับการผนวกเข้ากับครอบครัวของพระเจ้าซึ่งเป็นพระศาสนจักรหลังใหญ่ ครอบครัวขนาดใหญ่นี้เองที่เป็นบ่อเกิดแห่งความดีงามต่างๆในการดำเนินชีวิตของเรา"

นอกจากนี้ พระสันตะปาปา ยังตรัสสอนเป็นพิเศษกับบรรดาเยาวชน พระองค์ย้ำว่า อนาคต พวกเขาต้องเป็นต้นไม้ใหญ่ปกคลุมแคว้นซิซิเลีย ด้วยการหยั่งรากแห่งความลงบนพื้นดิน "พ่อขอเชิญชวนลูกๆเยาวชนทุกคน ดำเนินชีวิตประดุจต้นไม้ขนาดใหญ่ ที่หยั่งรากความดีลงบนผืนดินบนเกาะซิซิเลีย พวกลูกต้องอย่ากลัวที่จะลุกขึ้นสู้กับความชั่วร้าย ลูกต้องดำเนินชีวิตเหมือนต้นไม้ใหญ่ที่ปกคลุมให้ความร่มเย็นกับแคว้นซิซเลีย เป็นต้นไม้ที่ผลิดอกออกผลแห่งความดีตลอดฤดูกาล จงเป็นต้นไม้ที่นำชีวิตใหม่มาสู่ดินแดนแห่งนี้ให้ได้"

ในพิธีมิสซาช่วงเช้า พระสันตะปาปาได้เทศน์ให้กำลังใจสัตบุรุษกว่า 300,000 คนที่มาร่วมพิธี ให้กล้าต่อสู้กับแก๊งค์มาเฟีย องค์กรอาชญากรรมที่มีศูนย์กลางอยู่ที่ท้องที่แห่งนี้ โดยย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 15 กันยายน ค.ศ.1993 แก๊งค์มาเฟียได้สังหารโหดใส่ "คุณพ่อปิโน่ ปูญีซี่" ฐานที่คุณพ่อท่านนี้ เป็นผู้นำจิตวิญญาณของคนใต้ในการต่อสู้กับการข่มเหงของแก๊งค์อาชญากรผิดกฏหมาย การเสียชีวิตของ คุณพ่อปูญีซี่ กลายเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วอิตาลีและทำให้คนอิตาเลี่ยนเกิดความหวาดผวามากๆกับการกระทำครั้งนี้ ตัวอย่างที่ชัดเจนของความหวาดผวา ก็คือ ในมิสซาปลงศพ คุณพ่อปูญีซี่ ต้องมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมารักษาความปลอดภัยอย่างหนาแน่น ยิ่งไปกว่านั้น พระคาร์ดินัล ซัลวาตอเร่ ปัปปาลาร์โด้ ประมุขอัครสังฆมณฑลปาแลร์โม่ ซึ่งเป็นผู้ถวายมิสซาดังกล่าว ต้องประกอบพิธีด้วยความระมัดระวัง เฉพาะอย่างยิ่ง ในบทเทศน์ ท่านต้องเทศน์แบบหลีกเลี่ยงการพาดพิงถึงแก๊งค์มาเฟีย ทั้งๆที่คนทั่วไปรู้กันดีว่า ใครเป็นผู้สังหาร คุณพ่อปูญีซี่ และนอกจากจากการสังหารคุณพ่อปูญีซี่ แก๊งค์มาเฟียยังได้สังหารโหดใส่ "โจวานนี่ ฟัลคอเน่" ผู้พิพากษาชื่อดัง ซึ่งเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการต่อต้านมาเฟีย โดย ฟัลโคเน่ ได้ถูกแก๊งค์มาเฟียซิซิเลียฆ่าด้วยการวางระเบิดไดนาไมต์ ขนาด 350 กิโลกรัม ไว้ใต้ท้องรถของฟัลโคเน่ เหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้ ฟัลคอเน่ พร้อมด้วยภรรยา เสียชีวิตคาที่ ด้วยสภาพศพที่แหลกเหลวไม่มีชิ้นดี

พระสันตะปาปา จึงตรัสสอนคริสตังปาแลร์โม่และแคว้นซิซิเลีย อีกครั้งว่า "จงอย่าตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มมาเฟีย ซึ่งเป็นกลุ่มที่ดำเนินชีวิตบนถนนแห่งความตาย ตรงกันข้าม จงดำเนินชีวิตประดุจเมล็ดพันธุ์ที่ดี ซึ่งพร้อมจะเจริญเติบโตและเต็มเปี่ยมไปด้วยค่านิยมแห่งความเชื่อ ความรัก ความรู้แจ้งถึงพระพักตร์แท้จริงของพระเจ้า"

"พ่อขอให้กำลังใจคริสตังแคว้นซิซิเลีย มีความหวังและความกล้าในการดำเนินชีวิตเป็นประจักษ์พยานยืนยันถึงพระเจ้า และต่อต้านความชั่วร้ายต่างๆนาๆ จงจำไว้ว่า ของขวัญชิ้นใหญ่ที่พระเจ้าประทานให้กับเราก็คือการได้เป็นส่วนหนึ่งในพระศาสนจักรของพระองค์ ในพระศาสนจักรนี้ พระคริสตเจ้าทรงมอบเครื่องหมายและเครื่องมือแห่งความเป็นหนึ่งเดียวกัน, ความรัก และเสรีภาพแท้จริงให้กับเรา ไม่มีใครพรากสิ่งเหล่านี้ไปจากเราได้ ดังนั้น ลูกๆเยาวชนและครอบครัวซิซิเลียที่รักทุกคน จงมีความกล้าและจงดำเนินชีวิตประดุจนักบุญผู้ศักดิ์สิทธิ์" พระสันตะปาปา ตรัสปิดท้าย

หลังการเทศน์สอนจบลง พระสันตะปาปาได้เสด็จไปภาวนา ณ จุดที่ "โจวานนี่ ฟัลคอเน่" ผู้พิพากษาและนักต่อต้านมาเฟีย ได้ถูกแก๊งค์มาเฟียซิซิเลียลอบสังหาร จากนั้น พระองค์ได้ประทับเครื่องบินพระที่นั่งเสด็จกลับกรุงโรมโดยสวัสดิภาพ









Comments