โป๊ปย้ำ "อย่ากลัวที่จะประกาศความเชื่อหน้าสาธารณชน"


สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงย้ำคริสตังชาวสกอต อย่ากลัวที่จะประกาศตนเป็นผู้มีความเชื่อต่อหน้าสาธารณชน ทรงชี้ ถ้าสังคมไร้ศาสนา ทุกอย่างก็จะเป็นไปอย่างยุ่งเหยิงแน่นอน ตอนท้าย ทรงขอร้องเยาวชนแดนวิสกี้ ยึดมั่นพระเยซู เพราะพระองค์คือความสุขที่แท้จริงของจิตใจ




เมื่อเวลา 17.15 น.ของวันพฤหัสบดีที่ 16 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ทรงเป็นประธานในพิธีมิสซา ซึ่งจัดขึ้น ณ สวนสาธารณะเบลลาฮุสตัน ท่ามกลางสัตบุรุษที่มาร่วมประมาณ 300,000 คน ซึ่งเป็นจำนวนมากกว่าคาดการณ์ไว้เยอะพอสมควร โดยก่อนมิสซาจะเริ่มขึ้น "ซูซาน บอยล์" นักร้องคาทอลิกลูกกตัญญู ได้ออกมาขับร้องบทเพลง "ไอ ดรีมด์ อะ ดรีม" (I dreamed a dream) เพลงที่สร้างชื่อให้เธอ จากการประกวดรายการ "บริเทนส์ กอต แทเลินต์" (Britain's Got Talent) ให้พระสันตะปาปา และคริสตังที่มาร่วมมิสซารับฟังด้วย

ในส่วนใจความสำคัญของบทเทศน์ประจำมิสซา พระสันตะปาปา ยังคงเดินหน้ากระตุ้นคริสตังเกาะอังกฤษ ให้กล้าประกาศตนเป็นผู้มีความเชื่อต่อหน้าสาธารณชน ภายหลัง "กระแสต่อต้านความเป็นคาทอลิก" มีทีท่าจะมากขึ้นเรื่อยๆในสหราชอาณาจักร เนื่องจากคนต่างศาสนาและคนที่ไม่เชื่อพระเจ้า มองว่า พระศาสนจักรคาทอลิกทำทุกอย่างเพื่อตัวเอง มากกว่าทำเพื่อพระนามของพระเจ้า ตัวอย่างที่คนเหล่านี้ พยายามยกมากล่าวหา ก็คือ ความไม่โปร่งใสในการจัดการปัญหาสงฆ์ล่วงละเมิดทางเพศ นั่นเอง

พระสันตะปาปา จึงตรัสให้กำลังใจคริสตังเลือดสกอต ว่า "สังคมทุกวันนี้ ต้องการเสียงที่ชัดเจนและกึกก้องที่จะประกาศสิทธิในการดำเนินชีวิต สิทธิที่ว่านี้ ไม่ใช่เสรีภาพจอมปลอมที่คนทั่วไปกำลังแสวงหา แต่มันเป็นสิทธิในการแสดงออกถึงความเชื่อในพระเจ้าต่อหน้าสาธารณชน การประกาศความเชื่อในที่สาธารณะ ถือเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง โดยเฉพาะในยุคนี้ ยุคที่ลัทธิไม่เชื่อในพระเจ้ากำลังคุกคามและบิดเบือนความจริงในการดำเนินชีวิต"

"มีคนมากมายที่พยายามกำจัดศาสนาออกจากการดำเนินชีวิต พวกเขาแทนที่พระเจ้าด้วยเสรีภาพจอมปลอม อย่างไรก็ตาม พ่ออยากย้ำว่า ศาสนานี่แหละ ที่เป็นเครื่องยืนยันถึงเสรีภาพเที่ยงแท้ของชีวิต ศาสนาคือการแสดงออกถึงความเคารพกันและกัน ศาสนาจะเป็นสิ่งนำเราให้มาเป็นพี่น้องกันและกัน"

จากนั้น พระสันตะปาปา ผู้ทรงพระชนมายุ 83 ชันษา ทรงนำแบบอย่างของ "นักบุญนีเนียน" นักบุญชาวสกอต ผู้สิ้นใจใน ค.ศ. 432 (ระลึกถึงวันที่ 16 กันยายนของทุกปี) มาแบ่งปันเกี่ยวกับความกล้าในการประกาศพระวรสาร พระองค์ตรัสว่า "นักบุญนิเนียน คือชาวสกอตที่ไม่เคยเกรงกลัวสังคมที่ดำเนินชีวิตแบบผิดๆ ท่านไม่เคยกลัวที่จะลุกขึ้นประกาศพระเจ้าในสังคมที่หลงผิดไป ดังนั้น พ่อขอให้กำลังใจบรรดาพระสังฆราช พระสงฆ์ นักบวช นักการเมือง ครูอาจารย์ชาวสกอตทุกคน ว่า อย่าได้ท้อถอยในการใช้พระพรและประสบการณ์ชีวิตที่พระเจ้ามอบให้ ไปถ่ายทอดให้เกิดประโยชน์กับสังคมทุกระดับชั้น จงสอนสังคมให้กล้าละทิ้งสิ่งผิด และกลับใจมาหาพระเจ้า ผู้ทรงเป็นองค์ความจริงและความดีงาม"

ตอนท้าย พระสันตะปาปา ทรงกล่าวทักทายบรรดาเยาวชนเป็นพิเศษ ครั้งนี้ พระองค์ทรงย้ำกับพวกเขาว่า พระเยซูเท่านั้น ที่เป็นความสุขแท้จริงในการดำเนินชีวิต

"ลูกๆเยาวชนที่รัก พ่อขอบอกกับพวกเธอว่า ความเชื่อเท่านั้นที่จะช่วยให้ลูกพ้นจากการเป็นทาสของสังคมสมัยใหม่ที่มอมเมาพวกลูก ทุกวันนี้ มีการประจญล่อลวงมากมายที่เข้ามาในชีวิตของลูกๆ อาทิ ยาเสพติด, เงิน, เพศสัมพันธ์, กามอารมณ์ และแอลกอฮอล์ โลกพยายามหลอกลวงลูกๆว่า สิ่งเหล่านี้คือความสุขของชีวิต แต่เชื่อพ่อเถอะว่า นี่คือสิ่งหลอกลวงที่จะมาทำลายชีวิตของลูก"

"มีสิ่งเดียวและเป็นสิ่งสุดท้ายจริงๆ ที่จะให้ความสุขกับลูกได้ นั่นคือ องค์พระเยซูคริสต์ พระผู้ช่วยให้รอด พระองค์คือผู้เดียวที่จะมอบความสุขแท้จริงให้กับเรา" พระสันตะปาปา ตรัสปิดท้าย

หลังจากพิธีมิสซาจบลง พระสันตะปาปาได้เสด็จไปยังสนามบินนานาชาติ เมืองกลาสโกว์ เพื่อประทับเครื่องบินพระที่นั่งมุ่งหน้าสู่สนามบินนานาชาติฮีทโธรว์ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ




            

Comments