โป๊ปหวัง "คาทอลิก" กับ "แองกลิกัน" เป็นหนึ่งเดียวกันในการประกาศพระวรสาร


สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงปรารถนาให้ "คาทอลิก" และ "แองกลิกัน" เป็นหนึ่งเดียวกันในการประกาศพระนามพระเยซู ทรงย้ำ สองนิกายต้องวอนขอพระเจ้า โปรดประทานเอกภาพในหมู่คริสตชน ตอนท้าย ทรงยก "พระคาร์ดินัล จอห์น นิวแมน" เป็นแบบอย่างของคริสตศาสนสัมพันธ์ คาทอลิก กับ แองกลิกัน




เมื่อช่วงบ่ายวันศุกร์ที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ได้เสด็จไปยังวังแลมเบ็ธ เมืองแคนเทอบิวรี่ เพื่อพบปะกับ"อาร์คบิช็อป โรแวน วิลเลียมส์" ผู้นำกลุ่มแองกลิกันและผู้นำนิกายเชิร์ช ออฟ อิงแลนด์ (Church of England-ศาสนจักรแห่งอังกฤษ) ในส่วนใจความสำคัญของสิ่งที่ พระสันตะบิดรผู้ศักดิ์สิทธิ์ ตรัสกับผู้นำแองกลิกัน พระองค์ทรงเรียกร้องให้ทั้งสองนิกายเป็นเอกภาพในการประกาศพระวรสาร รวมไปถึงเป็นเอกภาพในการเป็นศิษย์ติดตามพระเยซู

ย้อนกลับไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว พระสันตะปาปาทรงออกสังฆธรรมนูญ (Apostolic Constitution) ชื่อ "กลุ่มของแองกลิกัน" (Anglicanorum Coetibus) เนื้อหาภายในเป็นการอนุญาตให้คริสตชนแองกลิกันสามารถเข้าร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับพระศาสนจักรคาทอลิกได้ สาเหตุที่พระสันตะปาปาทรงออกสังฆธรรมนูญนี้ ก็เพราะมีชาวแองกลิกันหัวอนุรักษ์นิยมจำนวนมาก รับไม่ได้ที่ภายในแองกลิกันเอง มีการอนุญาตให้บวชสตรีเป็นพระสงฆ์, บวชชาวรักร่วมเพศเป็นพระสังฆราช และก็อนุญาตให้ชาวรักร่วมเพศแต่งงานกันได้ เมื่อคนที่รับไม่ได้มีมากขึ้นๆ พวกเขาก็เลยส่งหนังสือมาวาติกัน เพื่อขอร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับพระศาสนจักรคาทอลิกซึ่งยืนหยัดหนักแน่นในจุดยืนเรื่องนี้เสมอมา (แองกลิกันของอังกฤษ นำโดย อาร์คบิช็อป โรแวน วิลเลี่ยมส์ ก็ประสงค์จะร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับคาทอลิกด้วย)

พระสันตะปาปา จึงเริ่มต้นตรัส ด้วยการอ้างอิงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า "วันนี้ ข้าพเจ้าไม่ได้มาที่นี่ เพื่อพูดถึงความยากลำบากเกี่ยวกับเอกภาพที่ท่านกำลังประสบ (การแตกแยกภายใน) แต่ข้าพเจ้ามาที่นี่ เพื่อขอบคุณมิตรภาพอันลึกซึ้ง ที่ทั้งสองนิกายได้มอบให้กันเสมอมา ข้าพเจ้าขอขอบคุณความร่วมมือที่ท่านมอบให้กับพระศาสนจักรคาทอลิก ผ่านทางคณะกรรมาธิการนานาชาติแองกลิกันและโรมันคาทอลิก ซึ่งถึงวันนี้ ก็ 40 ปีเข้าไปแล้วที่เราทำงานร่วมกัน ข้าพเจ้าก็ขอให้พวกเราวางใจในแผนการของพระเจ้า ขอให้เรามั่นใจว่า พระองค์จะอวยพรมิตรภาพของเราให้แน่นแฟ้นยิ่งๆขึ้น วันนี้ เรามาสวดภาวนาร่วมกัน เพื่อพระพรแห่งความเป็นหนึ่งเดียวในการเป็นศิษย์ติดตามพระคริสต์ เรารู้ดีว่า สิ่งนี้จะเป็นจริงได้โดยอาศัยการปฏิบัติจากพระจิตเจ้า ผู้ทรงฟื้นฟูพระศาสนจักรและนำทางเราให้พบกับความจริง"

จากนั้น พระสันตะปาปาองค์ที่ 265 ของพระศาสนจักรคาทอลิก ได้ตรัสถึงการพบปะกันของ สมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ที่ 23 และ อาร์คบิช็อป เจฟฟรี่ย์ ฟิสเชอร์ (ผู้นำกลุ่มแองกลิกัน) เมื่อปีค.ศ. 1960 พระองค์ตรัสว่า "เหตุการณ์ดังกล่าว แสดงออกถึงความหลากหลายของมิติสังคม ซึ่งนำไปสู่โอกาสในการพบปะกับคนต่างความเชื่อ สำหรับเราคริสตชน เราต้องเปิดตัวเองต้อนรับสมาชิกต่างนิกาย นี่คือแนวทางแห่งการเป็นประจักษ์พยานและสะท้อนถึงความศักดิ์สิทธิ์ในตัวเรา"

พระสันตะปาปา ยังตรัสย้ำถึงความต้องการให้ "คาทอลิก" และ "แองกลิกัน" เป็นหนึ่งเดียวกันในการประกาศพระนามพระเยซู พระองค์ตรัสว่า "เราคริสตชนต้องไม่ลังเลที่จะประกาศความเชื่อในองค์พระคริสตเจ้า พระผู้ไถ่ของเรา คริสตชนทุกคนต้องดำเนินชีวิตด้วยความนบนอบต่อพระประสงค์ของพระเจ้า เราต้องตระหนักเสมอว่า พระศาสนจักรถูกรวมไว้ให้เป็นหนึ่ง พระเจ้าไม่ได้สร้างคริสตชนให้แตกแยกกัน" พระสันตะปาปา ตรัสอย่างหนักแน่น

ตอนท้าย พระสันตะปาปา ทรงกล่าวถึง "พระคาร์ดินัล จอห์น นิวแมน" ซึ่งวันอาทิตย์นี้ จะได้รับการสถาปนาเป็นบุญราศี โดย พระสันตะบิดรผู้ศักดิ์สิทธิ์ ทรงยก พระคาร์ดินัลนิวแมน เป็นแบบอย่างที่ดีของคริสตศาสนสัมพันธ์ ระหว่าง คาทอลิก กับ แองกลิกัน

"พระคาร์ดินัล นิวแมน เกิดและเติบโตในครอบครัวแองกลิกัน ท่านใช้เวลากว่าครึ่งชีวิตอยู่ในสังคมแองกลิกัน ก่อนจะเปลี่ยนนิกายมาเป็นคาทอลิก แบบอย่างการดำเนินชีวิตของท่าน สอนเราเกี่ยวกับการตัดสินใจทำตามพระประสงค์ของพระเจ้า (ที่ต้องการให้ท่านเป็นหนึ่งเดียวกับพระศาสนจักรแห่งกรุงโรม) ในทางกลับกัน ถึงแม้ พระคาร์ดินัลนิวแมน จะเปลี่ยนมาเป็นคาทอลิก ท่านก็ยังรักษามิตรภาพอันอบอุ่นกับศาสนจักรแองกลิกันอย่างไม่แปรเปลี่ยน นี่คือการแสดงออกถึงจิตใจอันงดงาม ซึ่งตั้งมั่นอยู่บนเอกภาพแห่งความเชื่อ" พระสันตะปาปา ตรัสปิดท้าย



             


             




Comments