โป๊ปย้ำมันสายเกินไปถ้าเป็นทุกข์ถึงบาปตอนตายไปแล้ว


สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงย้ำ เราต้องดำเนินชีวิตตามแนวทางที่พระเจ้าวางไว้ เพราะถ้าเราออกนอกลู่นอกทาง แล้วไปสำนึกเมื่อตายไปแล้ว ทุกอย่างคงสายเกินแก้ ทรงยืนยัน พระเจ้าจะพิพากษาคนรวยคนจนเท่าเทียมกัน โดยนำบัญญัติแห่งความรักมาตัดสิน ตอนท้าย ทรงร่วมรำลึก 350 ปีแห่งการสิ้นใจของ "นักบุญวินเซนต์ เดอ ปอล"




เมื่อช่วงเที่ยงวันอาทิตย์ที่ 26 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ทรงเป็นประธานในการสวดเทวทูตถือสาร ซึ่งจัดขึ้น ณ พระราชวังฤดูร้อน เขต คาสเตล กันดอลโฟ โดยใจความสำคัญของสิ่งที่ พระสันตะบิดรผู้ศักดิ์สิทธิ์ ตรัสแบ่งปันกับสัตบุรุษกว่า 4,000 คน พระองค์ทรงย้ำว่า จุดหมายสุดท้ายของชีวิต ขึ้นอยู่กับการดำเนินชีวิตบนโลกนี้ ดังนั้น หากใครสำนึกผิดเมื่อตายไปแล้ว ก็คงสายเกินไปที่จะได้อยู่กับพระเจ้า

พระวรสารประจำวันอาทิตย์ที่ 26 เทศกาลธรรมดา พระเยซูทรงเล่าเรื่องอุปมาเศรษฐีกับลาซารัส (ลูกา 16:19-31) พระสันตะปาปา จึงตรัสแบ่งปันพระวรสารตอนนี้ว่า "คนที่ดำเนินชีวิตอยู่ในความร่ำรวยและเห็นแก่ตัว เมื่อเขาตายไป เขาจะตกนรก ตรงกันข้าม คนยากจนที่ต้องเก็บเศษอาหารกินจากโต๊ะของเศรษฐี  เมื่อเขาตายไป เขาจะได้รับการต้อนรับจากทูตสวรรค์ เพื่อเข้าสู่บ้านแท้นิรันดรและร่วมอาศัยกับพระเจ้าและบรรดานักบุญ ดังนั้น เป็นบุญของผู้ยากจน เหมือนที่พระเยซูได้ตรัสกับสานุศิษย์ว่า พระราชัยสวรรค์เป็นของพวกท่านแล้ว"

"พระวรสารตอนนี้ ยังเตือนใจเราอีกว่า ขณะที่เรามีชีวิตอยู่บนโลก เราต้องฟังสิ่งที่พระเจ้าตรัสกับเราผ่านทางพระคัมภีร์ รวมไปถึงเราต้องดำเนินชีวิตตามพระประสงค์ของพระองค์ เพราะถ้า(เรา)ตายไปแล้ว มันคงสายเกินไปที่จะมาเป็นทุกข์ถึงบาป ดังนั้น อุปมานี้ บอกเราอยู่สองอย่าง หนึ่งคือ พระเจ้าทรงรักคนจน พระองค์ทรงยกพวกเขาขึ้นจากการกดขี่ข่มเหง สองคือจุดหมายนิรันดรของชีวิตขึ้นอยู่กับการดำเนินชีวิตบนโลกนี้ มันขึ้นอยู่กับเราแต่ละคนว่า เราจะเดินตามทางที่พระเจ้าทรงเตรียมไว้ให้หรือไม่ ทางที่ว่าคือทางเดินแห่งความรัก, ความเข้าใจ และรับใช้ผู้อื่นในความรักของพระคริสตเจ้า"

พระสันตะปาปาชาวเยอรมัน ตรัสต่อไปว่า "ในวันสุดท้าย พระเจ้าจะพิพากษาความอยุติธรรมทุกรูปแบบบนโลก พระองค์จะตัดสินคนรวยและคนจนแบบเท่าเทียมกัน โดยยึดบัญญัติแห่งความรักเป็นเกณฑ์ ดังนั้น ขอให้จิตใจของเราเต็มเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณของความเป็นหนึ่งเดียวกันกับผู้ยากไร้ทุกคน และขอให้เราให้ความร่วมมือกับพระเจ้าในการเผยแพร่ความรักของพระองค์บนโลกมนุษย์"

ตอนท้าย พระสันตะปาปา ผู้ทรงพระชนมายุ 83 ชันษา ได้กล่าวถึง "นักบุญวินเซนต์ เดอ ปอล" บิดาของผู้ยากไร้ เป็นการปิดท้ายว่า "วันพรุ่งนี้ (27 กันยายน) เป็นวันฉลองนักบุญวินเซนต์ เดอ ปอล องค์อุปถัมภ์ขององค์กรการกุศลคาทอลิก ปีนี้ ครบรอบ 350 ปีแห่งการสิ้นใจของท่าน นักบุญวินเซนต์ เดอ ปอล เป็นคนที่รู้จักวิธีบริการรับใช้คนยากจนและคนที่เป็นส่วนเกินของสังคม ดังนั้น ขอให้เราดำเนินชีวิตเลียนแบบอย่างท่านในการรับใช้เพื่อนมนุษย์ เหมือนที่ท่านนักบุญแสดงให้เห็นเป็นแบบอย่าง"

อนึ่ง การสวดเทวทูตถือสารนี้ จะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะสวดที่พระราชวังฤดูร้อน เนื่องจากวันศุกร์ที่จะถึงนี้ พระสันตะปาปาจะเสด็จกลับไปประทับที่วาติกันแล้ว



ประมวลภาพ : การสวดเทวทูตถือสารประจำวันอาทิตย์ที่  26 กันยายน 2010







Comments