"ซูซาน บอยล์" รับฝันเป็นจริงได้ร้องเพลงต่อหน้าพระสันตะปาปา


ซูซาน บอยล์ นักร้องคาทอลิกลูกกตัญญู รับ ฝันเป็นจริงที่ได้รับเชิญให้ร้องเพลงต่อหน้า สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก โอกาสที่พระองค์เสด็จเยือนอังกฤษและสกอตแลนด์ ช่วงกลางเดือนหน้า พร้อมถ่อม สุดซาบซึ้งที่คนต่ำต้อยอย่างตน ได้รับเกียรติสูงสุดเช่นนี้ เผย สวดสายประคำทุกวัน เพราะความเชื่อคือพลังสำคัญในการดำเนินชีวิต




ซูซาน บอยล์ นักร้องชาวสกอต ออกมาให้สัมภาษณ์ด้วยความปลื้มปิติว่า เธอรู้สึกเป็นเกียรติและปลาบปลื้มมาก ที่คนต้อยต่ำอย่างเธอ ได้รับเลือกให้มาร้องเพลงในวันรับเสด็จ สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ในวันที่ 16 กันยายน ที่จะถึงนี้ พร้อมยอมรับ การร้องเพลงต่อหน้าพระสันตะปาปา จัดเป็นฝันอันยิ่งใหญ่ที่กลายเป็นความจริง เลยทีเดียว

บอยล์ นักร้องเสียงเทพ กล่าวกับ แผนกสื่อมวลชนของสภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งสกอตแลนด์ ว่า
"ฉันคิดว่า เหตุการณ์ในวันที่ 16 กันยายน (วันที่พระสันตะปาปาเยือนสกอตแลนด์) จะตราตรึงในความทรงจำของฉันตลอดไป อย่างที่บอก ฉันเฝ้าฝันเสมอว่า จะมีโอกาสได้ไปยืนร้องเพลงต่อหน้าพระพักตร์พระสันตะบิดรผู้ศักดิ์สิทธิ์ ตอนนี้ ฉันไม่สามารถหาคำพูดมาบรรยายความสุขที่เกิดกับตัวเองได้ ในที่สุด ความฝันของฉัน ก็กลายเป็นจริง ฉันตั้งใจจะทำหน้าที่นี้อย่างสุดความสามารถ เท่าที่คนต่ำต้อยอย่างฉันจะทำได้"

ในส่วนของบทเพลงที่ ซูซาน บอยล์ จะขับร้องถวายพระสันตะปาปานั้น มี 2 เพลง เพลงแรกคือ "ไอ ดรีมด์ อะ ดรีม" (I dreamed a dream) เพลงที่สร้างชื่อให้เธอ จากการประกวดรายการ "บริเทนส์ กอต แทเลินต์" (Britain's Got Talent) ส่วนอีกเพลงที่ บอยล์ จะร้องก็คือ "ฮาว เกรต เธา อาร์ต" (How great thou art) โดยเธอจะร้องเพลงเหล่านี้ ก่อนพิธีมิสซาที่สวนสาธารณะเบลลาฮุสตัน นอกจากนี้ ซูซาน บอยล์ ยังจะเป็น 1 ในคณะนักขับร้องกว่า 800 ชีวิต ที่จะร้องเพลงระหว่างพิธีมิสซา นอกจากนี้ เธอยังจะเป็นผู้ร้องเพลงส่งเสด็จพระสันตะปาปาที่ สนามบิน กลาสโกว์ ด้วย

ในส่วนการเจริญชีวิตคริสตชน บอยล์ ยอมรับว่า เธอรักการสวดสายประคำมากๆ เพราะความเชื่อคือพลังสำคัญที่ทำให้เธอ ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคในการดำเนินชีวิต

"ใช่ ฉันสวดสายประคำทุกวัน ฉันชอบรำพึงกับแม่พระ ตอนที่ฉันรู้สึกแย่ๆกับชีวิต อาทิ ตอนเด็กๆที่ฉันถูกเพื่อนๆ ล้อเลียน (ตอนที่ ซูซาน บอยล์ เกิด เธอได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ ทำให้ประสาทการเรียนรู้ทำงานช้า เธอจึงดูเชื่องช้าและงุ่มง่ามจนถึงตอนนี้ และนั่นทำให้คนรอบข้างชอบนำมาล้อเลียนอยู่บ่อยๆ) หรือจะเป็นตอนที่คุณแม่ของฉันเสียชีวิต ฉันก็ยิ่งสวดภาวนามากขึ้นไปอีก เพราะฉันรู้ดีว่า ถึงใครจะไม่รักและไม่เข้าใจฉัน พระเจ้าก็ไม่เคยทอดทิ้ง พระองค์อยู่เคียงข้างและเป็นกำลังใจให้ฉันเสมอ ความเชื่อและความศรัทธาในพระเจ้า คือพลังในการดำเนินชีวิตจริงๆ" ซูซาน บอยล์ นักร้องระดับตำนาน กล่าวปิดท้าย


                



Comments