ฟาติมาสาร : “พ่อขอโทษอย่างสุดซึ้ง”



ถ้าหาก สมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 เป็นพระสันตะปาปาองค์แรกในประวัติศาสตร์พระศาสนจักรคาทอลิกที่ออกมากล่าวคำขอโทษต่อครอบครัวกาลิเลโอในเรื่องเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ก็เป็นพระสันตะปาปาองค์แรกในประวัติศาสตร์พระศาสนจักรเช่นกัน ที่ออกมาขอโทษบรรดาเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายรวมไปถึงสาธารณชน เกี่ยวกับกรณีพระสงฆ์คาทอลิกก่อคดีล่วงละเมิดทางเพศ   ...

หลังสื่อมวลชนในยุโรปปล่อยพายุลูกใหญ่ที่ชื่อ “พระสงฆ์ก่อคดีล่วงละเมิดทางเพศ” ให้กระหน่ำเข้าใส่พระศาสนจักรคาทอลิกแบบหนักหน่วง คล้อยหลังไม่นาน พวกเขาก็มีประเด็นให้ “ขายข่าว” อีกครั้ง เมื่อสมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ทรงออกจดหมายเปิดผนึกความยาว 7 หน้า ถึงคริสตังในไอร์แลนด์ (รวมไปถึงคริสตังในยุโรป) ใจความสำคัญ พระองค์ทรงกล่าวถึงวิกฤติพระสงฆ์ล่วงละเมิดทางเพศในประเทศดังกล่าว พระสันตะปาปาทรงกล่าวกับทุกคนว่า “เวลาอ่านจดหมายนี้ ขอให้เปิดใจกว้างๆ และยอมรับสิ่งที่พระองค์จะกล่าวต่อไปนี้”   ...


จดหมายเปิดผนึกที่พระสันตะปาปาทรงส่งถึงคริสตังในไอร์แลนด์และยุโรป


พระสันตะปาปาทรงเป็นตัวแทนพระศาสนจักรคาทอลิก ตรัสขอโทษทุกคนว่า “พวกท่านได้รับความทุกข์ระทมอย่างแสนสาหัส และพ่อก็ต้องขอโทษอย่างสุดซึ้งกับสิ่งที่เกิดขึ้น พ่อทราบดีว่า ไม่มีสิ่งใดสามารถลบล้างความผิดนี้ ความวางใจของท่าน(ที่มอบให้พระสงฆ์)ได้ถูกทรยศหักหลัง และความศักดิ์สิทธิ์ในตัวท่านได้ถูกทำลายลง”

ในส่วนพระสงฆ์ที่ก่อคดีล่วงละเมิดทางเพศ พระสันตะปาปาระบุในจดหมายว่า “พวกท่านทรยศต่อความวางใจที่บรรดาเยาวชนและผู้ปกครองของเขามอบให้  พวกท่านต้องตอบคำถามต่อหน้าพระเจ้าให้ได้ถึงบาปที่ได้กระทำ”

ส่วนพระสังฆราชที่ปกครองสังฆมณฑลซึ่งเกิดคดีและพยายามปกปิดเรื่องเหล่านี้ พระสันตะปาปาก็ตำหนิอย่างตรงๆว่า “มันเป็นเรื่องปฏิเสธไม่ได้เลยว่า พวกท่านบางคนล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงในการจัดการปัญหาพระสงฆ์ล่วงละเมิดทางเพศ บางคนจงใจปกปิดเรื่องราวเหล่านี้ และนั่นถือเป็นความผิดพลาดร้ายแรงในการคลี่คลายปัญหา ทั้งยังสะท้อนให้เห็นถึงภาวะล้มเหลวในการเป็นผู้นำของท่านด้วย”

สำหรับผู้ตกเป็นเหยื่อพระสงฆ์ล่วงละเมิดทางเพศ พระสันตะปาปาทรงกล่าวกับพวกเขาว่า “มันเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ว่า ทำไมพวกท่านถึงไม่ยอมให้อภัยและกลับมาคืนดีกับพระศาสนจักร ในนามของพระศาสนจักร พ่อยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า สิ่งที่เกิดจัดเป็นความอัปยศและเราทุกคนต่างก็รู้สึกผิด พ่อพร้อมจะไปขอโทษทุกคนที่ถูกพระสงฆ์คาทอลิกล่วงละเมิดทางเพศ เหมือนอย่างที่พ่อได้ทำไป เมื่อตอนไปเยือนสหรัฐอเมริกาและออสเตรเลีย” (พระสันตะปาปาทรงให้เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายมาพบ จากนั้น ทรงกล่าวคำขอโทษพวกเขาเป็นการส่วนพระองค์ ... ต้องยอมรับว่า พระสันตะปาปาองค์นี้กล้าหาญมากๆ ที่กล้าออกรับหน้าแทนพวกพระสงฆ์ที่ก่อคดี แถมเป็นการออกรับที่โลกรุมประณามกับสิ่งที่เกิดด้วย)

นอกจากนี้ พระสันตะปาปายังระบุถึงต้นตอของปัญหาพระสงฆ์ล่วงละเมิดทางเพศในไอร์แลนด์ว่า “มันเกิดจากหลายปัจจัย แต่หลักๆคือการปกปิดเรื่องอื้อฉาวกันมาเป็นทอดๆ, การทำเป็นเอาหูไปนา เอาตาไปไร่ ไม่ลงโทษพระสงฆ์ที่ก่อคดี และกระบวนการฝึกอบรมผู้ที่เตรียมบวชเป็นพระสงฆ์ ไม่มีประสิทธิภาพ”

ทั้งหมดก็เป็นบทสรุปคร่าวๆของจดหมายที่พระสันตะปาปาส่งถึงคริสตังไอร์แลนด์ ประเทศซึ่งพระศาสนจักรคาทอลิกปกปิดคดีพระสงฆ์ล่วงละเมิดทางเพศมาไม่ต่ำกว่า 35 ปี กรณีของไอร์แลนด์เหมือนเป็นชนวนให้สื่อมวลชนในยุโรป รวมถึงอเมริกาเหนือและใต้ พร้อมใจขุดคุ้ยเรื่องอื้อฉาวแบบนี้มานำเสนอแบบยกใหญ่ ไล่ตั้งแต่เนเธอร์แลนด์, เยอรมนี, ออสเตรีย, สวิตเซอร์แลนด์, บราซิล และเม็กซิโก

ทีนี้ ก็มาดู “ประเด็นร้อน” ที่ตามมาหลังคดีพระสงฆ์คาทอลิกก่อคดีล่วงละเมิดทางเพศบ้าง ร้อนสุดๆคงหนีไม่พ้นเรื่อง “ถึงเวลาหรือยังที่จะให้พระสงฆ์คาทอลิกแต่งงานได้” ประเด็นนี้ กลายเป็นเรื่องโต้เถียงบนหน้าหนังสือพิมพ์และอินเตอร์เน็ทมานานแล้ว แต่พอเกิดเรื่องที่ไอร์แลนด์ มันยิ่งส่งผลให้ทุกคนหันมาสนใจกันยกใหญ่

พระสันตะปาปาทรงทราบถึงประเด็นนี้ดี พระองค์ทรงเป็นคริสตังหัวอนุรักษ์นิยม แน่นอนว่า พระองค์ต้องไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน พระสันตะปาปาทรงกล่าวเพื่อลดกระแสเรียกร้องดังกล่าวว่า “การครองโสด ถือเป็นพระพรที่พระเจ้ามอบให้ การที่พระสงฆ์ครองตนเป็นโสดถือเป็นการสะท้อนถึงการปฏิบัติตนตามแบบฉบับพระเยซูคริสต์ ผู้ที่พร้อมมอบความรักให้กับทุกคน”

ทางด้านคริสตังหัวสมัยใหม่ที่รักการเปลี่ยนแปลงก็พยายามกดดันพระสันตะปาปา โดยยกคดีสงฆ์ล่วงละเมิดทางเพศ รวมถึงจำนวนพระสงฆ์ที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง มาเป็นสาเหตุให้พระสันตะปาปาพิจารณาอีกครั้ง หนึ่งในผู้สนับสนุนให้พระสงฆ์แต่งงานได้ก็คือ “คุณพ่อฮันส์ คุง” นักเทวศาสตร์หัวก้าวหน้าสุดขั้ว

ฮันส์ คุง กับบทวิจารณ์ "รัตซิงเกอร์ต้องรับผิดชอบ"

กระนั้นก็ดี เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้วที่ผมมีโอกาสได้ไปที่วาติกัน ผมได้สนทนากับคนในวาติกันท่านหนึ่ง จึงได้ทราบมาว่า จริงๆแล้ว พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ทรงใจกว้างรับฟังเสียงของพวกที่อยากให้พระสงฆ์คาทอลิกแต่งงานได้ พระองค์เคยเชิญบรรดาผู้แทนของโปรเตสตันท์มาเสวนาถึงปัญหานี้ ก่อนที่ตอนท้าย ผู้แทนโปรเตสตันท์ได้ทูลพระสันตะปาปาว่า “พระสงฆ์คาทอลิกครองโสดไปหน่ะ ดีแล้ว เพราะภายในโปรเตสตันท์ซึ่งอนุญาตให้ผู้อภิบาลแต่งงานได้ ยังประสบปัญหาพวกนี้เหมือนกัน ดังนั้น การอนุญาตให้พระสงฆ์แต่งงาน จึงไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ถูกต้อง”

ในมุมมองของผม ก็คิดว่า การให้พระสงฆ์คาทอลิกแต่งงานได้ ไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้องของการแก้ปัญหาพระสงฆ์ล่วงละเมิดทางเพศและจำนวนกระแสเรียกการเป็นพระสงฆ์ที่ลดลง ตรงกันข้าม มันเป็นการแก้ปัญหาแบบ “ขอไปที” มากกว่า แบบว่า คิดอะไรไม่ออก ก็โทษว่าเป็นเพราะคาทอลิกไม่อนุญาตให้พระสงฆ์แต่งงาน

นอกจากนี้ อีกหนึ่งสิ่งที่ทุกคนควรจะตระหนักให้มากๆ (ไม่เฉพาะคริสตังหัวก้าวหน้าเท่านั้น) ก็คือ “หากหวังเห็นการเปลี่ยนแปลงแบบทันทีทันใดในพระศาสนจักรคาทอลิก คงเป็นเรื่องยาก เพราะการเปลี่ยนแปลงใดๆที่เกิดกับพระศาสนจักร ต้องใช้เวลานานพอสมควรกับการตกผลึกทางความคิด และเหนือสิ่งอื่นใด พระจิตจะเป็นผู้ดลใจพระสันตะปาปา ผู้เป็นประมุขสูงสุดของพระศาสนจักรเองว่า ถึงเวลาหรือยังที่จะต้องเกิดการเปลี่ยนแปลง”   ......


AVE   MARIA
 






MEDIA  ATTACK !!


ทีนี้ เรามาดูว่า สื่อต่างประเทศ "เล่นข่าว" พระสันตะปาปากันอย่างไร


CNN กับการพาดหัวว่า "พระสันตะปาปาขอโทษอย่างสุดซึ้ง" และ "ความอัปยศของพระศาสนจักรไอร์แลนด์"


BBC ก็นำเสนอข่าวพาดหัวเป็นเรื่องพระสันตะปาปาขอโทษเช่นกัน


"ไอริช ไทม์ส" หนังสือพิมพ์ของไอร์แลนด์ เรียกร้องให้ "พระคาร์ดินัล ฌอน เบรดี้" ลาออก เนื่องจากชอบปกปิดคดีล่วงละเมิดทางพศ


"เทเลกราฟ" ของอังกฤษ ก็ให้ความสนใจข่าวนี้เช่นกัน


"อันซ่า" ของอิตาลี ไม่พลาดอยู่แล้ว


"บิลด์" สื่อเยอรมัน บ้านเกิดของพระสันตะปาปาก็ตามโฟกัสด้วย




Comments