โป๊ปขอร้องผู้นำชาติต่างๆ “ฟังเสียงร้องของคนจน เพราะจะไม่มีสันติภาพหากไร้ความยุติธรรม”

• โป๊ป เลโอ ที่ 14 ขอร้องผู้นำชาติต่างๆ รับฟังเสียงร้องของคนจน โลกจะมีสันติภาพไม่ได้ ถ้าปราศจากความยุติธรรม เสียงของคนยากจนเตือนเราหลายทาง เช่น การอพยพหรือเสียงกรีดร้องที่ถูกบีบคั้น และพวกเราที่กินดีอยู่ดีไม่ได้คิดถึงพวกเขาอย่างจริงจัง แต่ปล่อยให้อยู่ไปตามยถากรรม

• ทรงย้ำ พระเจ้าอยู่ข้างคนยากจน ดังที่เราเห็นหลายเหตุการณ์ในพระคัมภีร์

• ทรงชี้ ความยากจนมีหลายรูปแบบ แต่ “การอยู่แบบโดดเดี่ยวเดียวดาย” น่ากลัวที่สุด และมันกำลังส่งผลกระทบต่อคนหนุ่มสาวจำนวนมาก

ช่วงสายวันอาทิตย์ที่ 16 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พระสันตะปาปา เลโอ ที่ 14 ทรงเป็นประธานในพิธีมิสซาวันผู้ยากไร้สากล ครั้งที่ 9 ซึ่งจัดในมหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน ความพิเศษของงานี้คือเป็นส่วนหนึ่งของปีศักดิ์สิทธิ์แห่งผู้ยากไร้ด้วย

บทเทศน์ประจำมิสซานี้ พระสันตะปาปาทรงเชื่อมโยงพระวรสาร (ลูกา 21:18) กับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยย้ำว่า แม้โลกจะวุ่นวาย แต่พระเจ้าอยู่เคียงข้างผู้ยากไร้เสมอ โดยใจความสำคัญของบทเทศน์มิสซานี้ Pope Report เรียบเรียงมาให้ดังนี้

1. พระเจ้าอยู่ข้างคนจนเสมอ 

พระสันตะปาปาทรงอธิบายว่า บทอ่านจากประกาศกมาลาคีพูดถึง “วันแห่งพระเจ้า” ซึ่งก็คือ “ดวงอาทิตย์แห่งความชอบธรรม” ที่จะมอบคำตอบสุดท้ายให้แก่คนยากจน และดวงอาทิตย์นั้นก็คือ “พระเยซู”

“ท่ามกลางการเบียดเบียนและความทุกข์ยาก พระเจ้าไม่เคยทอดทิ้งเรา พระคัมภีร์ถูกถักทอด้วยด้ายสีทองที่บอกเล่าเรื่องราวของพระเจ้า ผู้ทรงอยู่เคียงข้างผู้ต่ำต้อย เด็กกำพร้า คนแปลกหน้า และหญิงม่ายเสมอ”

“โอกาสปีศักดิ์สิทธิ์แห่งผู้ยากไร้ พ่อต้องการประกาศสิ่งที่พระเยซูตรัสย้ำว่า ‘เรารักท่าน’ (Dilexi te - วิวรณ์ 3:9) ใช่แล้ว ต่อหน้าความเล็กน้อยและความยากจนของเรา พระเจ้าทรงมองดูเราอย่างที่ไม่มีใครอื่นมองและทรงรักเราด้วยความรักนิรันดร์” พระสันตะปาปาตรัสย้ำ

2. โศกนาฏกรรมที่เลวร้ายที่สุดคือ “ความโดดเดี่ยวเดียวดาย”

พระสันตะปาปาชี้ว่า ความยากจนในโลกนี้มีหลายรูปแบบ ไม่ใช่แค่ “ความยากจนด้านวัตถุ” แต่ยังมี “ความยากจนด้านศีลธรรมและจิตวิญญาณ” ที่ส่งผลกระทบต่อคนหนุ่มสาว

พระสันตะปาปาชี้ว่า “โศกนาฏกรรมที่ตัดผ่านพวกเขาทั้งหมดคือความโดดเดี่ยวเดียวดาย … มันท้าทายเราให้มองความยากจนในองค์รวม ... เราก็ต้องพัฒนาวัฒนธรรมแห่งการเอาใจใส่ด้วย เพื่อที่จะทลายกำแพงแห่งความโดดเดี่ยวเดียวดาย”

3. คนจนคือร่างกายของพระคริสต์

พระสันตะปาปาทรงเปลี่ยนจากการสอนเทววิทยาเป็นการ “เรียกร้อง” อย่างหนักแน่นต่อผู้มีอำนาจ 

พระสันตะปาปาตรัสอย่างจริงจังว่า “พ่อขอวิงวอนต่อประมุขแห่งรัฐและผู้นำของชาติต่างๆ ให้รับฟังเสียงร้องของผู้ยากไร้ที่สุด จะมีสันติภาพไม่ได้หากปราศจากความยุติธรรม และคนยากจนเตือนเราถึงสิ่งนี้ในหลายทาง ทั้งผ่านการอพยพย้ายถิ่นและผ่านเสียงร้องของพวกเขา ซึ่งมักจะถูกบีบคั้นโดยภาพลวงตาของความเป็นอยู่ที่ดีและความก้าวหน้าที่ไม่ได้คำนึงถึงทุกคน อันที่จริงคือเราลืมบุคคลจำนวนมากและปล่อยพวกเขาไปตามยถากรรม”

พระองค์ยังขอบคุณอาสาสมัครและผู้ทำงานการกุศล ที่เป็น “มโนธรรมที่วิพากษ์วิจารณ์ของสังคม” และทรงย้ำกับศาสนจักรว่า “พวกท่านรู้ดีว่าคำถามเรื่องคนจนนำไปสู่แก่นแท้ความเชื่อของเรา เพราะพวกเขาคือร่างกายของพระคริสต์ (Dilexi Te, 110)”

“นักบุญเปาโลเตือนเราคริสตชนว่า ‘อย่าใช้ชีวิตแบบการปลีกวิเวกทางศาสนา (Religious Seclusion) ที่แยกเราออกจากผู้อื่น’ แต่จงสร้างสะพานเชื่อมทุกฝ่ายเข้าหากัน” พระสันตะปาปาตรัสในตอนท้าย

4. โป๊ปเลโอ ย้ำถึงสมณสาส์น Dilexi Te (เรารักท่าน) ที่โป๊ปฟรานซิสเริ่มงานไว้

หลังมิสซาจบลง พระสันตะปาปาทรงออกมานำสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าว และหลังการภาวนาจบลง พระองค์ตรัสขอบคุณทุกคนที่จัดกิจกรรมช่วยเหลือผู้ที่ด้อยโอกาสที่สุด

พระสันตะปาปา ตรัสว่า “วันนี้เป็นวันเหมาะสมที่จะเน้นย้ำอีกครั้งถึง สมณสาส์นเตือนใจ Dilexi Te (เรารักท่าน) ซึ่งเป็นเรื่องความรักต่อคนจน เอกสารที่พระสันตะปาปา ฟรานซิส ได้เตรียมการในเดือนสุดท้ายของชีวิต และพ่อได้ทำให้เสร็จสมบูรณ์ด้วยความยินดียิ่ง” 

Sources:

1. https://www.vatican.va/content/leo-xiv/en/homilies/2025/documents/20251116-messa-giornata-poveri.html

2. https://www.vatican.va/content/leo-xiv/en/angelus/2025/documents/20251116-angelus.html