โป๊ปชี้ “ของขวัญจากพระเจ้า จะยิ่งใหญ่ขึ้นเมื่อเราแบ่งปันกัน”

 ➡️ โป๊ปเลโอ ชี้ “อัศจรรย์เรื่องการทวีขนมปังและปลา” สะท้อนความจริงของศีลมหาสนิทว่า “ของขวัญจากพระเจ้าจะยิ่งใหญ่ขึ้นเมื่อแบ่งปันกัน”

➡️ ทรงวิงวอนขอสันติภาพในตะวันออกกลาง เพราะไม่มีชัยชนะใดจะชดเชยความเจ็บปวดของแม่ ความกลัวของเด็ก หรืออนาคตที่ถูกพรากไปได้

ช่วงเที่ยงวันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมา พระสันตะปาปา เลโอ ที่ 14 ทรงออกมานำสวดทูตสวรรค์แจ้ง วันนี้ ศาสนจักรคาทอลิกในหลายประเทศทั่วโลก ทำการสมโภชพระกายและพระโลหิตของพระคริสตเจ้า พระสันตะปาปาจึงแบ่งปันข้อคิดจากพระวรสารซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่พระเยซูทำอัศจรรย์ทวีขนมปังและปลา (ลูกา 9:11-17) เพื่อตอกย้ำความหมายของศีลมหาสนิทและการแบ่งปันในชีวิตคริสตชน

พระสันตะปาปา ตรัสว่า “พระเยซูเชิญบรรดาศิษย์ให้นำสิ่งเล็กน้อยที่พวกเขามีมาให้พระองค์ จากนั้นพระองค์ทรงอวยพรขนมปังและปลา แล้วสั่งให้แจกจ่ายแก่ทุกคน ผลลัพธ์น่าทึ่ง ไม่เพียงทุกคนได้กินจนอิ่ม แต่ยังเหลืออีกเป็นจำนวนมาก”

พระสันตะปาปา บอกว่า ปาฏิหาริย์นี้ไม่ใช่แค่เรื่องอัศจรรย์ แต่เป็น “สัญลักษณ์เตือนใจว่า ของขวัญจากพระเจ้า แม้เพียงเล็กน้อย จะยิ่งใหญ่ขึ้นเสมอเมื่อแบ่งปันกัน … และเมื่ออ่านพระวรสารนี้ในวันสมโภชพระกายและพระโลหิตของพระคริสตเจ้า ยิ่งนำไปสู่การไตร่ตรองถึงความจริงที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นว่า รากเหง้าของการแบ่งปันระหว่างมนุษย์ คือการที่พระเจ้าทรงแบ่งปันพระองค์เองกับเรา”

พระสันตะปาปา เปรียบเทียบว่า “เมื่อเรามอบของขวัญ แม้เพียงเล็กน้อย และเห็นว่าผู้รับชื่นชม เราจะยิ่งมีความสุข เพราะของขวัญนั้นเชื่อมใจเราเข้าด้วยกัน เช่นเดียวกับในศีลมหาสนิท พระเจ้าทรงรับ ขนมปังและเหล้าองุ่นที่เรานำมาถวาย พร้อมกับชีวิตของเรา พระเจ้าอวยพรและเปลี่ยนเป็นพระกายและพระโลหิตของพระคริสต์ เป็นเครื่องบูชาแห่งความรักเพื่อความรอดของโลก”

จากนั้น พระสันตะปาปาไม่ลืมจะเชิญชวนทุกคนให้มาร่วมขบวนแห่ศีลมหาสนิทในกรุงโรม ซึ่งจะจัดเย็นนี้ หรือตรงกับ 22.00 น.ตามเวลาไทย “เราจะร่วมพิธีมิสซา จากนั้นจะออกเดินขบวนแห่ศีลมหาสนิทไปตามถนนในเมือง ร้องเพลง สวดภาวนา และสุดท้ายรวมตัวกันหน้ามหาวิหาร ซานตา มารีอา มาจจอเร่ เพื่อวอนขอพระพรแด่บ้านเรือน ครอบครัว และมนุษยชาติ”

หลังการสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าวจบลง พระสันตะปาปาทรงกล่าวถึงสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะอิหร่าน อิสราเอล และปาเลสไตน์ พระองค์ทรงเตือนว่า “สงครามไม่แก้ปัญหา แต่กลับทำให้ปัญหายิ่งเลวร้ายลงและทิ้งแผลลึกไว้ในประวัติศาสตร์ของชนชาติ ซึ่งต้องใช้เวลาหลายชั่วอายุคนในการเยียวยา ไม่มีชัยชนะทางอาวุธใดจะชดเชยความเจ็บปวดของแม่ ความกลัวของเด็ก หรืออนาคตที่ถูกพรากไปได้”

Source:

- https://www.vatican.va/content/leo-xiv/en/angelus/2025/documents/20250622-angelus.html