Posts

โป๊ปฟรานซิสขอร้องคริสตชน "อย่าลืมขอบคุณพระเจ้า"

Image
วันพุธที่ 30 ธันวาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงเทศน์สอนในการเข้าเฝ้าทั่วไปจากห้องสมุดส่วนพระองค์ ใจความสำคัญของการเทศน์สอน มี 3 ประเด็น ไปติดตามกันได้เลย Photo: Vatican Media 1) พระสันตะปาปาแบ่งปันเหตุการณ์ที่พระเยซูทรงรักษาคนโรคเรื้อน 10 คน แต่มีเพียง 1 คนเท่านั้นที่กลับมาขอบคุณพระเยซูด้วยความสำนึก พระสันตะปาปาแบ่งปันว่า เหตุการณ์นี้แบ่งโลกออกเป็นสองส่วน หนึ่งคือคนที่ไม่ขอบคุณพระเจ้า คนที่ทำราวกับว่าทุกอย่างมาจากตัวเขาเอง สองคือคนที่ขอบคุณพระเจ้า คนที่น้อมรับทุกสิ่งที่เกิดเป็นเหมือนของขวัญและพระหรรษทานจากพระองค์ 2) พระสันตะปาปาย้ำว่า การภาวนาขอบคุณพระเจ้ามักจะเริ่มด้วยการตระหนักถึงพระหรรษทานที่พระเจ้ามีต่อเรา ถ้าเรามีมุมมองต่อชีวิตเช่นนี้ คำขอบคุณจะเป็นแรงจับเคลื่อนในแต่ละวันให้เรา 3) จากเหตุการณ์ในพระวรสารที่มีคนโรคเรื้อน 1 คนเท่านั้นที่กลับมาขอบคุณพระเยซู พระสันตะปาปาจึงขอร้องคริสตชนทุกคนว่า ขอให้รักษาความชื่นชมยินดีที่ได้พบกับพระเยซูอยู่เสมอ ที่สำคัญ จงอย่าลืมขอบคุณพระเจ้า ถ้าเราเป็นคนรู้จักสำนึกบุญคุณ โลกจะดีกว่านี้ แม้มันจะเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่มันก็เพียงพอที่จะส่งมอบ

โป๊ปฟรานซิสประกาศปีเพื่อศึกษาเนื้อหาสาส์นเตือนใจ Amoris laetitia

Image
ในการสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าวเมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 ธันวาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงประกาศปีเพื่อศึกษาเนื้อหาในสาส์นเตือนใจ Amoris laetitia (ความชื่นชมยินดีในความรัก) พระองค์ต้องการให้ศาสนจักรคาทอลิกทั่วโลกศึกษาเนื้อหาในสาส์นเตือนใจนี้ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น  Photo: Vatican Media ประเด็นสำคัญของการประกาศนี้เป็นอย่างไร เรามาติดตามกัน 1) วันอาทิตย์ที่ 27 ธันวาคม โอกาสวันฉลองครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ พระสันตะปาปาทรงกล่าวว่า "ทุกครอบครัวมีปัญหาของตัวเอง เพราะเราเป็นมนุษย์ เพราะเราอ่อนแอ เราจึงโต้เถียงกันในครอบครัว ถ้าเราเปิดศึกในครอบครัว จงอย่าให้วันนั้นผ่านไปโดยไม่คืนดีกัน" 2) พระสันตะปาปาแนะนำว่า มี 3 คำที่ควรเป็นคำสามัญประจำครอบครัว นั่นคือ "ได้โปรด, ขอบคุณ และขอโทษ" (Please, Thank you and I'm sorry) ถ้าสามคำนี้ปรากฏในครอบครัว ครอบครัวนั้นจะสุขภาพดี 3) ย้อนกลับเมื่อเกือบ 5 ปีที่แล้ว วันสมโภชนักบุญโจเซฟ (19 มีนาคม 2016) พระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงลงนามในสาส์นเตือนใจ Amoris laetitia มาวันนี้โอกาสฉลองครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ พระสันตะปาปาทรงประกาศว่า ปี 2021 จะเป็นปีแห่งการไต

สรุปสาระสำคัญจากการประทานพรแด่โรมและโลก (Urbi et Orbi)

Image
 ช่วงเที่ยงวันศุกร์ที่ 25 ธันวาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงเป็นประธานในการประทานพรแด่โรมและโลก (Urbi et Orbi) จากโถงในมหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน ปีนี้ พระสันตะปาปาไม่ได้ประทานพรจากบนระเบียงมหาวิหาร เนื่องจากอิตาลีประกาศล็อกดาวน์ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ด้วยเหตุนี้ ลานหน้ามหาวิหานักบุญเปโตรจึงปิดไม่ให้คนมาร่วมพิธี Photo: Vatican Media สำหรับสาระสำคัญที่พระสันตะปาปาตรัสก่อนประทานพรนั้น ผมสรุปมาให้ 4 ประเด็น ดังต่อไปนี้ 1) พระสันตะปาปาตรัสว่า การเกิดคือบ่อเกิดของความหวังอยู่เสมอ นี่คือชีวิตที่เจริญเติบโต นี่คือคำมั่นสัญญาของอนาคต ยิ่งไปกว่านั้น พระกุมารเยซูได้บังเกิดมา "เพื่อเรา": "เพื่อเรา" แบบไม่มีขอบเขต ไม่มีสิทธิพิเศษ หรือการกีดกันใครทั้งนั้น หรือพูดง่ายๆ ว่า เราทุกคนคือ "พี่น้องกัน" 2) พระสันตะปาปาทรงย้ำว่า เราต้องอย่ายอมให้ความรู้สึกชาตินิยมในรูปแบบต่างๆ เข้ามาใกล้และมาสกัดกั้นเราจากการดำเนินชีวิตเฉกเช่นครอบครัวที่แท้จริง เราต้องอย่ายอมให้ไวรัสการเห็นแก่ประโยชน์ของตัวเองแต่เพียงผู้เดียว มาพรากสิ่งดีไปจากเราและทำให้เราเฉยชาต่

ผลตรวจโควิด-19 ของโป๊ปฟรานซิสเป็น "ลบ" หลัง 2 คาร์ดินัลในวาติกันติดเชื้อ

Image
เย็นวันพุธที่ 23 ธ.ค.ที่ผ่านมา วาติกัน แจ้งผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ของสมเด็จพระสันตะปาปา ฟรานซิส ว่าผลเป็นลบ (ไม่พบเชื้อ) CNS photo/Paul Haring โดยพระสันตะปาปาทรงเข้ารับการตรวจเชื้อเมื่อวันที่ 21 ธ.ค. ภายหลังคาร์ดินัลคอนราด ครายิวสกี้ นักสังคมสงเคราะห์ส่วนพระองค์ และ คาร์ดินัล จูเซ็ปเป้ แบร์เตลโล่ สมณมนตรีฝ่ายบริหารนครรัฐวาติกัน ต่างติดเชื้อโควิด-19 ทั้งสองคน ในส่วนของคาร์ดินัลครายิวสกี้ เพิ่งเข้าเฝ้าพระสันตะปาปาไปเมื่อวันที่ 19 ธ.ค. ทำให้วาติกันต้องตรวจหาเชื้อให้พระสันตะปาปาทันที และผลตรวจของพระองค์ออกมาเป็นลบ

สรุปประเด็นหลักที่โป๊ปฟรานซิสตรัสกับโรมันคูเรีย โอกาสคริสต์มาส 2020

Image
สรุปประเด็นหลักที่โป๊ปฟรานซิสตรัสกับโรมันคูเรีย โอกาสคริสต์มาส 2020 เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2020 Photo: Vatican Media 1) พระสันตะปาปาตรัสว่า นี่คือคริสต์มาสในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 วิกฤตินี้ทำร้ายคนทั้งโลกแบบไม่มีแบ่งแยกชนชั้น การระบาดของโรคโควิด-19 เป็นช่วงเวลาของการทดลองและทดสอบ และยังเป็นโอกาสสำคัญสำหรับการกลับใจด้วย 2) การไตร่ตรองเรื่องวิกฤติ (Crisis) ย้ำเตือนเราว่า อย่าด่วนตัดสินพระศาสนจักรเร็วเกินไปในเรื่องวิกฤติที่เกิดจากความเสื่อมเสียทั้งในอดีตและปัจจุบัน ความแตกต่างเดียวก็คือปัญหาจะจบลงตามหน้าหนังสือพิมพ์แบบด่วนๆ ขณะที่เครื่องหมายแห่งความหวังจะเป็นข่าวแบบช้าๆ ดังนั้น เราต้องรวบรวมความกล้าและความสุภาพถ่อมตนที่จะยอมรับว่า ช่วงเวลาวิกฤติคือช่วงเวลาของพระจิตจะทำงาน พระสันตะปาปายกตัวอย่างในพระคัมภีร์หลายตอน หนึ่งในนั้นคือวิกฤติที่เกิดกับ จอห์น บัปติสตา ตอนที่ถูกจองจำในคุก จอห์นเริ่มสงสัยว่าพระเยซูเป็นพระเมสซิยาห์จริงหรือเปล่า (มธ 11:2-6) เพราะภาพลักษณ์ของพระเมสซิยาห์ในความคิดของจอห์น กับสิ่งที่พระเยซูปฏิบัตินั้น มันขัดกันสิ้นเชิง 3) จบจากวิกฤติ ก็เป็น "ความขัดแย้ง" (Co

โป๊ปฟรานซิส: คริสต์มาสปีนี้คือโอกาสให้เราช่วยเหลือผู้อื่น ไม่ใช่ต่อว่าโรคระบาด

Image
การสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าว 20 ธ.ค. 2020 - สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงแบ่งปันพระวรสารตอนที่ทูตสวรรค์กาเบรียลมาแจ้งข่าวแก่แม่พระว่า ท่านจะตั้งครรภ์และต้องเป็นมารดาของพระเจ้า พระสันตะปาปาชี้ให้เห็นว่า ตอนที่แม่พระทราบเรื่องนี้ แม่พระต้องตัดสินใจครั้งสำคัญว่าจะตอบ YES หรือ No การตอบ Yes จัดว่าเสี่ยงมาก เพราะอย่างที่รู้กันว่าแม่พระยังหมั้นอยู่กับนักบุญโจเซฟ ถ้าถูกจับได้ว่าตั้งครรภ์ก่อนแต่งงาน จะอับอายและเจอบทลงโทษอย่างมาก ถ้าตอบปฏิเสธ (No) มันก็ง่ายกับแม่พระ เพราะนี่คือการเลือกใช้ชีวิตตามปกติต่อไป อย่างที่ทราบกัน แม่พระตอบ Yes (ขอให้เป็นไปกับข้าพเจ้าตามวาจาของท่านเถิดด้วย) นี่คือการตอบ Yes ด้วยการให้พระเจ้ามาเป็นอันดับแรก ตอบ Yes แบบหนักแน่นและไม่มีเงื่อนไข ตัดกลับมาที่ตัวเราบ้าง พระสันตะปาปาบอกว่า หลายครั้งเหลือเกินที่เราสร้างเงื่อนไขกับพระเจ้า ชอบผลัดวันประกันพรุ่ง ไม่เว้นแม้แต่ชีวิตฝ่ายจิต เราก็ชอบผลัดวันไปเรื่อย ตัวอย่างชัดๆ เรารู้ว่าการสวดภาวนาเป็นเรื่องดี แต่เราก็อ้างว่า "ไม่มีเวลา พรุ่งนี้ค่อยสวดละกัน" สิ่งสุดท้ายที่พระสันตะปาปาต้องการให้เราดูตัวอย่างจากแม่พระคือ "การต

UPDATE: โป๊ปกิตติคุณเบเนดิกต์ ที่ 16 ป่วยด้วยโรคงูสวัด

Image
โป๊ปกิตติคุณเบเนดิกต์ ที่ 16 ขณะเดินทางไปเยี่ยมพี่ชายที่ป่วยที่เยอรมนี/ Photo: AP เมื่อวานนี้ (3 ส.ค. 2020) มีพาดหัวข่าวใหญ่เกี่ยวกับสมเด็จพระสันตะปาปากิตติคุณเบเนดิกต์ ที่ 16 นั่นคือ "โป๊ปกิตติคุณป่วย(หนัก)"  ข่าวดังกล่าวมาจากหนังสือพิมพ์จากแคว้นบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี นามว่า "พาสซาว นอย เพรสเซ่" (Passauer Neue Presse) ซึ่งไปสัมภาษณ์ ปีเตอร์ ซีวัลด์ นักข่าวชาวเยอรมันและยังเป็นผู้เขียนชีวประวัติและหนังสือบทสัมภาษณ์ของสมเด็จพระสันตะปาปากิตติคุณเบเนดิกต์ ที่ 16 ด้วย (ซีวัลด์ สนิทกับพระสันตะปาปากิตติคุณมากๆ) ซีวัลด์ บอกว่า ตอนนี้ พระสันตะปาปากิตติคุณ วัย 93 ปี ดูป่วยมาก และตอนนี้ฟังเสียงพูดของพระองค์แทบไม่ค่อยได้ยินแล้ว ตอนแรกที่เห็นพาดหัวข่าว ผมก็ตกใจพอสมควร แต่หลังจากนั้นไม่นาน อาร์คบิช็อปเกยอร์ก เกนสไวน์ เลขาฯ ส่วนพระองค์ของพระสันตะปาปากิตติคุณ ก็ออกมายืนยันว่า "พระสันตะปาปากิตติคุณเบเนดิกต์ ป่วยจริง แต่ไม่ได้มีอะไรน่ากังวลเป็นพิเศษ ตอนนี้พระองค์ป่วยด้วยโรคงูสวัดที่ใบหน้า และกำลังรักษาตัวอยู่"  ก็เป็นอันว่า สถานการณ์ตอนนี้ยังไม่มีอะไรน่ากังวลหากเราพิจารณาตา