Posts

โป๊ปฟรังซิส: "เราต้องเมตตาก่อนตัดสินผู้อื่น เพราะพระเจ้าทรงทำแบบนี้เสมอ"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเปิดประตูศักดิ์สิทธิ์ในมหาวิหารนักบุญเปโตรเรียบร้อยแล้ว พร้อมเทศน์สอนในมิสซาว่า เราต้องให้ความเมตตาก่อนจะตัดสินใคร เพราะเวลาที่พระเจ้าตัดสิน พระองค์จะใช้ความเมตตานำทางเสมอ ทรงรำลึก 50 ปีของการปิดสังคายนาวาติกัน ที่ 2 ว่าเป็นการพบกันระหว่างพระศาสนจักรกับชายและหญิงของยุคสมัย นอกจากนี้ สมเด็จพระสันตะปาปากิตติคุณ เบเนดิกต์ ที่ 16 ก็มาร่วมพิธีเปิดประตูศักดิ์สิทธิ์ด้วย โดยทรงเป็นคนที่สองที่เดินผ่านประตูศักดิ์สิทธิ์ต่อจากพระสันตะปาปา ฟรังซิส ส่วนวันอาทิตย์นี้ 13 ธันวาคม พระสันตะปาปาจะเปิดประตูศักดิ์สิทธิ์ที่มหาวิหารนักบุญจอห์น ลาเตรัน ซึ่งเป็นอาสนวิหารของสังฆมณฑลโรม ช่วงสายวันอังคารที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาสมโภชแม่พระผู้ปฏิสนธินิรมลและเปิดปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรม ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน ท่ามกลางสัตบุรุษที่มาร่วมกว่า 70,000 คน ความพิเศษของวันนี้ ยังเป็นวันครบ 50 ปีของการปิดสังคายนาวาติกัน ที่ 2 และยังเป็นวันที่ 1,000 ในสมณสมัยของสมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส อีกด้วย สำหรับบทเทศน์ประจำมิสซานี้ พระสันตะปาปาทรงเทศน์สอ

โป๊ปฟรังซิส: "คริสตชนต้องกลับใจจากความคิดที่ปิดตายและหัวใจที่ปิดกั้นเพื่อนมนุษย์"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอน การกลับใจไม่ใช่สิ่งที่เราใช้กับคนไม่เชื่อในพระเจ้า แต่คริสตชนก็ต้องกลับใจ เราต้องกลับใจจากความคิดที่ปิดตายและหัวใจที่ปิดกั้นเพื่อนมนุษย์ รวมไปถึงเราต้องกลับใจจากความคิดแก้แค้นและลดความหยิ่งยะโสให้หมดไปจากใจ ทรงย้ำ คริสตชนถูกเรียกมาประกาศพระนามพระเยซูให้กับคนที่ไม่รู้จักพระองค์ แต่การประกาศนี้ ไม่ใช่การไปบังคับเขาให้เปลี่ยนศาสนา ทรงหวังเห็นคาทอลิกทุกคน เตรียมจิตใจอย่างดีก่อนถึงวันเปิดปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรม ซึ่งจะเริ่มในวันอังคารที่ 8 ธันวาคม 2015 นี้ด้วย ช่วงเที่ยงวันอาทิตย์ที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงออกมานำสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าว ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน ท่ามกลางสัตบุรุษที่มาร่วมภาวนาอย่างคับคั่ง วันนี้ พระสันตะปาปาทรงแบ่งปันพระวรสารประจำวันอาทิตย์ที่ 2 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ นักบุญจอห์น บัปติสต์ เริ่มออกเทศนาสั่งสอนให้ทุกคนกลับใจและเตรียมทางให้กับพระคริสตเจ้า พระสันตะปาปาทรงแบ่งปันว่า - พวกเราคงถามตัวเองว่า 'ทำไมเราต้องกลับใจด้วยล่ะ' การกลับใจใช้กับคนที่ไม่มีศาสนาไม่ใช่เหรอ

โป๊ปฟรังซิส: "พ่อไปแก้บาปทุกๆ 15-20 วัน เพราะรู้ตัวว่าต้องการพระเมตตาจากพระเจ้า"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเผย พระองค์ไปแก้บาปทุกๆ 15-20 วัน เพราะสำนึกในบาปที่ได้ทำและรู้ตัวว่าต้องการพระเมตตาจากพระเจ้า ทรงรู้สึกว่า "นักบุญแม็ทธิว" มีความเกี่ยวข้องกับพระองค์มากๆ เพราะวันที่สัมผัสถึงกระแสเรียก เกิดในวันฉลองนักบุญแม็ทธิว นอกจากนี้ คำขวัญสมัยเป็นพระสังฆราชและพระสันตะปาปาก็เป็นเหตุการณ์ที่พระเยซูทรงเรียกนักบุญแม็ทธิวให้มาติดตามพระองค์ ทรงเน้น พระศาสนจักรต้องไม่ติดกับดักการประจญที่ทำให้เรายึดกฏเป็นที่ตั้งอย่างเดียว เพราะถ้าเป็นเช่นนั้น จะมีคนจำนวนมากขนาดไหนที่จะถูกกีดกันออกไป ทรงชี้ โลกยุคนี้เคยชินกับข่าวร้ายไปแล้ว ทั้งที่ความจริงเราต้องแสวงหาข่าวดีจากพระเจ้าต่างหาก เพราะนี่คือสิ่งจะขับเคลื่อนเราไปข้างหน้า ทรงย้ำคำเดิมว่า ต้องการให้พระศาสนจักรเป็น "โรงพยาบาลสนาม" ที่บาดเจ็บจากการออกไปตามท้องถนน มากกว่า เจ็บป่วยเพราะอยู่เฉยๆ ไม่ขยับตัวทำอะไรเลย  สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงประทานการสัมภาษณ์แก่ "เครเดเร่" วารสารทางการของปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรม ในประเด็นต่างๆ ก่อนเปิดปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรม โดยรายละเอียดสำคัญ มีดังนี้ - พระสันตะปา

บทสัมภาษณ์พระสันตะปาปาบนเครื่องบินขากลับจากแอฟริกา

Image
1) สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงตั้งคำถาม จำเป็นด้วยหรือที่ผู้นำศาสนาต้องชักจูงศาสนิกชนของตนให้เป็นพวกหัวรุนแรง 2)ทรงชี้ การคลั่งศาสนาแบบหัวรุนแรงมีอยู่ในทุกศาสนา คาทอลิกก็มีเช่นกัน เช่นพวกที่คิดว่าตัวเองยึดมั่นความจริงเที่ยงแท้ และทำให้คนอื่นมัวหมองด้วยการให้ร้ายและทำลายชื่อเสียงของเขา 3) ทรงยอมรับ การใช้ถุงยางอนามัยป้องกันโรคเอดส์ ทำให้พระศาสนจักรเจอภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก มันเหมือนกับการที่ฟาริสีถามพระเยซูว่า "ถูกต้องหรือไม่ที่จะรักษาคนป่วยในวันสับบาโต" 4) ทรงประณาม สงครามกลายเป็นอุตสาหกรรมไปแล้ว พร้อมถาม ผู้ก่อการร้ายผลิตอาวุธเองได้หรือ ใครให้อาวุธกับพวกก่อการร้าย พออาวุธมากขึ้นเรื่อยๆ ผู้ผลิตก็ได้ประโยชน์ทั้งนั้น 5) ทรงยอมรับ เป็นความผิดพลาดที่แต่งตั้ง มองซินญอร์ ลูโช่ บัลเลโฆ่ บัลดา และ ดร.ฟรานเชสก้า ชาอูกี้ เป็นทีมงานคณะกรรมการตรวจสอบการบริหารจัดการโครงสร้างสันตะสำนัก จนนำไปสู่การขโมยเอกสารสำคัญของวาติกัน 6) ทรงย้ำ สื่อมวลชนที่เป็นมืออาชีพตัวจริง ต้องรายงานความจริงให้ครบ อย่ารายงานครึ่งเดียว เจอเรื่องโกงต้องรายงานและพูดไปตามจริง แต่ถ้ารายงานผิด ต้องกล้าออกมาขอโทษ สมเ

โป๊ปฟรังซิส: "เราต้องขอโทษพระ เวลาลังเลหรือไม่เต็มใจจะเป็นประจักษ์พยานถึงพระองค์"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอน คริสตชนถูกเรียกมาเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้น เราต้องขอโทษพระเจ้าในเวลาที่เราเกิดความลังเลหรือไม่เต็มใจที่จะเป็นประจักษ์พยานถึงพระเจ้า ทรงขอร้องคริสตชนในสาธารณรัฐแอฟริกากลาง จงรักษาความกระตือรือร้นในการเป็นผู้นำข่าวดี จงช่วยกันฟื้นฟูประเทศทั้งด้านมนุษยธรรมและจิตวิญญาณ ช่วงสายวันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาวันฉลองนักบุญแอนดรูว์ อัครสาวกและมรณสักขี ภายในสนามกีฬาบาร์กเตเลมี โบก็องดา กรุงบังกี้ สาธารณรัฐแอฟริกากลาง ท่ามกลางสัตบุรุษที่มาร่วมกว่า 30,000 คน โดยมิสซานี้เป็นมิสซาปิดท้ายการเยือนทวีปแอฟริกาของพระสันตะปาปาด้วย สำหรับบทเทศน์ประจำมิสซานี้ พระสันตะปาปาทรงเทศน์สอนว่า - เป็นเรื่องดีในช่วงเวลาแห่งความยากลำบาก การทดลอง และความทุกข์ระทม ยิ่งอนาคตยังไม่แน่นอนและเราสัมผัสถึงความอ่อนล้าและหวาดระแวง เราได้มาอยู่ต่อหน้าพระเจ้าโดยพร้อมเพรียงกัน เรามาอยู่ร่วมกันในวันนี้เพื่อเฉลิมฉลองการประทับอยู่ของพระเจ้าโดยพร้อมหน้ากัน - การมองไปยังชีวิตนิรันดรไม่ใช่ความเชื่อผิดๆ มันไม่ใช่การต่อสู้ของโลกนี้ แต่นี่คือความจริงที่ทรงพลังซ

โป๊ปฟรังซิสเสด็จเยี่ยมพี่น้องชาวมุสลิมในสาธารณรัฐแอฟริกากลาง

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงขอร้อง "พี่น้องชาวมุสลิม" ในสาธารณรัฐแอฟริกากลาง ร่วมกันสร้างความสามัคคีและความเป็นพี่น้องกันให้เกิดอีกครั้งในสังคม ภายหลังประเทศแห่งนี้ต้องพบกับภาวะสงครามมายาวนานจนถึงทุกวันนี้ ทรงย้ำ การมาเยือนสาธารณรัฐแอฟริกากลางจะไม่สมบูรณ์แบบ ถ้าไม่ได้มาเยี่ยมพี่น้องมุสลิม ช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส เสด็จไปพบผู้นำชาวมุสลิม ภายในมัสยิดกลาง กรุงบังกี้ สาธารณรัฐแอฟริกากลาง โดยพื้นที่ที่มัสยิดตั้งอยู่นั้น เป็นเขตสงครามกลางเมืองของสาธารณรัฐแอฟริกากลางด้วย ในส่วนพระดำรัสที่พระสันตะปาปาตรัสกับผู้นำมุสลิม พระองค์กล่าวว่า - พี่น้องที่รัก ข้าพเจ้าชื่นชมยินดียิ่งที่ได้มาอยู่ท่ามกลางท่านทุกคน ขอบคุณสำหรับการต้อนรับอย่างอบอุ่น การเดินทางมาสาธารณรัฐแอฟริกากลางครั้งนี้จะไม่สมบูรณ์แบบ ถ้าหากข้าพเจ้าไม่ได้มาพบกับชุมชนชาวมุสลิม - คริสตชนและมุสลิมคือพี่น้องชายหญิง พวกเราทราบดีว่า เหตุการณ์รุนแรงที่ผ่านมานั้นได้ทำร้ายประเทศของเราและไม่ได้ตั้งอยู่บนความต้องการที่ถูกต้องตามหลักศาสนา ในช่วงเวลาดังกล่าว ผู้นำคริสตชนและมุสลิมต่างมีบทบาทสำคั

โป๊ปฟรังซิส: "สันติภาพไม่ใช่เอกสารที่แค่เซ็นต์แล้วก็เกิดได้"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอนเยาวชน สันติภาพไม่ใช่เอกสารที่แค่นั่งลงแล้วเซ็นต์ชื่อ ก็เกิดขึ้นได้ แต่สันติภาพเรียกร้องการทำงานด้วยมือและชีวิตของเรา ทรงย้ำ วิธีสร้างสันติภาพคือต้องกำจัดความเกลียดชังออกจากจิตใจ ต้องรู้จักให้อภัยต่อคนที่ทำผิดกับเรา ทรงขอร้องเยาวชน ช่วยสวดให้พระองค์ด้วย เพื่อจะได้เป็นพระสันตะปาปาที่ดี ช่วงค่ำวันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงออกมาพบปะและเทศน์สอนเยาวชนจากสาธารณรัฐแอฟริกากลาง ณ ลานหน้าอาสนวิหารแม่พระผู้ปฏิสนธินิรมล อัครสังฆมณฑลบังกี้ คืนนี้ พระสันตะปาปาทรงเทศน์สอนพวกเขาแบบสดๆ จากใจว่า - ในช่วงเวลาของความยากลำบากของสงครามและความเกลียดชัง พวกลูกต้องรู้จักการอดทนอดกลั้น พวกลูกคนบางคนอยากจะหนีไปให้ไกลๆ จากสถานการณ์ที่ดูเหมือนไม่มีคำตอบให้กับชีวิต แต่สิ่งสำคัญสุดคือลูกต้องกล้าที่จะอดทน ต่อสู้เพื่อแสวงหาสิ่งดีงาม คนที่หนีคือคนที่ไม่มีความกล้าที่จะมอบชีวิตใหม่ให้สังคม - ว่าแต่ เราจะมีความกล้าได้อย่างไร สิ่งแรกเลย เราต้องสวดภาวนา การภาวนาจะชนะความชั่ว การภาวนาจะทำให้เราใกล้ชิดกับพระเจ้า - สอง เราต้องทำงานเพื่อสร้างสันติภาพ คำว่าสัน