Posts

โป๊ปฟรังซิส - ถ้าเราเชื่อและศรัทธาในพระเจ้าจนวาระสุดท้ายของชีวิต เราจะไม่กลัวความตาย

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอน ถ้าเราเชื่อและศรัทธาในพระเจ้าจนวาระสุดท้ายของชีวิต เราจะไม่กลัวความตาย เพราะเมื่อตายไป เราจะไปสู่วันพิพากษา ซึ่งพระเจ้าจะประทานมงกุฎแห่งชีวิตให้กับผู้ที่เชื่อในพระองค์  ทรงแบ่งปัน ตอนเป็นเด็กและเรียนคำสอน คุณพ่อที่สอนมักขู่ให้กลัวเรื่องวันพิพากษาครั้งสุดท้าย แต่นี่เป็นเรื่องจริงที่เราหนีไม่พ้น คนที่ต้องกลัวการพิพากษาคือคนที่ดำเนินชีวิตถอยห่างจากพระเจ้า  ช่วงเช้าวันอังคารที่ 22 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา บทอ่านวันนี้จากหนังสือวิวรณ์ เป็นเรื่องการพิพากษาครั้งสุดท้าย ส่วนพระวรสารเป็นเหตุการณ์ที่พระเยซูตรัสถึงการพิพากษาครั้งสุดท้ายว่า "จะมีคนพูดว่าฉันคือพระคริสต์ ท่านจงอย่าตามเขาไป อย่าให้ใครมาหลอกลวงท่านได้" พระสันตะปาปาทรงเทศน์สอนว่า - วันนี้ พวกเรามาถึงสัปดาห์สุดท้ายของปีพิธีกรรม  บทอ่านวันนี้ เราได้ยินเสียงเรียกของพระเจ้าให้คิดเกี่ยวกับวาระสุดท้ายของชีวิตและวาระสุดท้ายของเราแต่ละคน เพราะเราทุกคนต้องตาย จริงอยู่เราไม่ชอบคิดว่าเรากำลังจะตาย แต่นี่คือความจริงที่

โป๊ปฟรังซิสขยายเวลาให้สงฆ์คาทอลิกยกโทษบาปทำแท้งได้ - ประกาศให้วันอาทิตย์รองสุดท้ายของปีพิธีกรรมเป็นวันเพื่อผู้ยากไร้

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงออกสารอภิบาลชื่อว่า "Misericordia et misera" (ความเมตตาและความทุกข์ระทม) โอกาสสิ้นสุดปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรม รายละเอียดสำคัญ มีดังต่อไปนี้ 1) คำสอนเรื่องความเมตตาในพระวรสาร ต้องนำทางเราต่อไปเรื่อยๆ ไม่ได้แค่จบลงที่ปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรม 2) ในความสว่างของพระหรรษทานอันยิ่งใหญ่ในความเมตตาที่เราได้รับตลอดปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรม สิ่งแรกที่เราต้องทำคือขอบคุณพระเจ้าสำหรับของขวัญชิ้นนี้ จากนั้น เราต้องก้าวไปข้างหน้าและเฉลิมฉลองความเมตตานี้ เฉพาะอย่างยิ่งในพิธีกรรมต่างๆ ของพระศาสนจักร รวมทั้งในพิธีมิสซา และศีลศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ โดยเฉพาะศีลศักดิ์สิทธิ์แห่งการคืนดีและศีลเจิมคนไข้ 3) พระสันตะปาปากำลังคิดอยู่ว่าจะจัดวันที่ระลึกถึงความเมตตาของพระเจ้าลงในปฏิทินพิธีกรรมอย่างไรดี พร้อมกันนี้ ทรงเรียกร้องคริสตชนให้ร่วมกันรื้อฟื้นศีลศักดิ์สิทธิ์แห่งการคืนดีว่าเป็นศูนย์กลางของชีวิตคริสตชน 4) พระสันตะปาปาทรงขยายระยะเวลาให้กับ "สงฆ์คาทอลิกทุกคนสามารถยกโทษบาปการทำแท้งได้ จากเดิมที่จะจบลงแค่ปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรม อำนาจนี้จะสิ้นสุดลงเมื่

โป๊ปฟรังซิส - พ่อเป็นโรคภูมิแพ้พวกประจบสอพลอ มันเป็นเรื่องน่าละอาย

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงให้สัมภาษณ์พิเศษ พระองค์เป็นโรคภูมิแพ้พวกขี้ประจบ การประจบสอพลอเป็นเรื่องน่าละอาย เพราะมันคือการใช้คนอื่นเพื่อปกปิดความต้องการแท้จริงของเราในการได้รับอะไรบางอย่าง  ทรงย้ำ พระองค์เฉยๆ และไม่คิดมากเวลามีคนพูดจาให้ร้ายหรือนินทา เพราะรู้ว่าตนเองเป็นคนบาปอยู่แล้ว  ทรงชี้ เงินคือศัตรูที่น่ากลัวสุดต่อพระเจ้า เส้นทางสุดโปรดที่ปีศาจเจาะเข้ามาล่อลวงมนุษย์คือ "กระเป๋าสตางค์" พระเยซูถึงเตือนเราว่า จะรับใช้พระเจ้าและเงินไปพร้อมกันไม่ได้  ทรงแบ่งปัน พระสันตะปาปาก็เจอปีศาจประจญเช่นกัน มันชอบล่อลวงให้พระองค์ไม่อดทน เห็นแก่ตัว และบางครั้งชวนให้พระองค์ขี้เกียจ  ทรงเผย สวดขอพระเจ้าทุกวันให้พระองค์เป็นคนอารมณ์ดีและหัวเราะบ่อยๆ เพราะการเป็นคนอารมณ์ดีคือคติในการดำเนินชีวิตของพระองค์   ทรงเล่าเคล็ดลับการเป็นคนสุขภาพแข็งแรงทั้งที่อายุจะ 80 แล้ว สิ่งนี้เกิดจาก "การเป็นคนหลับลึก หลับสนิท 6 ชั่วโมงต่อคืน หลับเป็นตายยังกะท่อนไม้" ยิ่งวันที่มีแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงในอิตาลี คนในกรุงโรมตื่นกลางดึกเพราะสัมผัสแรงสะเทือนที่รุนแรง แต่พระองค์นอนหล

โป๊ปฟรังซิสปิดประตูศักดิ์สิทธิ์ ย้ำแม้ประตูนี้ปิดลง แต่หัวใจพระเยซูยังเปิดเพื่อเราเสมอ

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงชี้ แม้ประตูศักดิ์สิทธิ์จะปิดลง แต่หัวใจของพระเยซูซึ่งเป็นประตูแห่งความเมตตาที่แท้จริงยังคงเปิดให้เราเสมอ  ทรงสอน การท้าทายและล่อลวงพระเจ้าให้ลงจากกางเขน เป็นสิ่งชั่วร้ายมาก เราต้องอย่าล่อลวงพระเจ้า เพราะนี่คือนิสัยปีศาจที่ทำตั้งแต่สมัยสร้างโลก  ช่วงสายวันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงปิดประตูศักดิ์สิทธิ์ของปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรม จากนั้น ทรงถวายมิสซาสมโภชพระคริสตเจ้ากษัตริย์แห่งสากลจักรวาล พร้อมกับบรรดาพระคาร์ดินัลใหม่ 16 คน ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน พระวรสารมิสซานี้เป็นเหตุการณ์ที่พระเยซูถูกตรึงร่วมกับโจรอีก 2 คน มิสซานี้ พระสันตะปาปาทรงเทศน์สอนว่า - บนไม้กางเขน เราได้เห็นธรรมชาติความเป็นกษัตริย์ที่แท้จริงของพระเยซู พระองค์ไม่อวดอำนาจของตนเอง พระองค์ดูเหมือนเป็นฝ่ายพ่ายแพ้มากกว่าเป็นผู้ชนะ ความยอดเยี่ยมยิ่งใหญ่ของอาณาจักรพระเจ้าไม่ได้อยู่ที่อำนาจซึ่งโลกนี้มอบให้ แต่มันอยู่ที่ความรักของพระเจ้าต่างหาก ความรักที่สามารถเผชิญหน้าและรักษาทุกสิ่ง - กษัตริย์ของเราจบชีวิตบนโลกเพื่อช่วย

โป๊ปฟรังซิส - จงระวังไวรัสของการแบ่งฝ่ายและความเกลียดชังที่แทรกซึมในหมู่พระคาร์ดินัลหรือพระสงฆ์

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงย้ำเตือน ในหมู่พระคาร์ดินัลหรือพระสงฆ์ มีไวรัสของการแบ่งฝ่ายและความเกลียดชังแทรกซึมอยู่ สิ่งนี้ทำลายความหลากหลายในพระพรของพระศาสนจักร  ทรงชี้ น่าเศร้าที่โลกยุคนี้มีความแตกแยกออกเป็นสองขั้ว และเศร้ายิ่งกว่าที่เรามองว่า การกีดกันคนออกจากสังคมเป็นหนทางแก้ความขัดแย้ง  ทรงสอน ปฏิกิริยาโต้ตอบศัตรูของเราคือ "ให้ร้ายและยัดเยียดให้ศัตรูเป็นปีศาจไว้ก่อน" เพื่อเราจะได้เป็นคนชอบธรรมขับไล่พวกเขา แต่นี่เป็นสิ่งตรงกันข้ามกับพระเยซูสอน พระองค์สอนเราว่า จงรักศัตรู จงทำดีกับคนที่เกลียดท่าน จงอวยพรคนที่สาปแช่งท่าน และจงภาวนาให้คนที่ทำร้ายท่าน  หลังพิธีจบลง พระสันตะปาปาทรงเชิญพระคาร์ดินัลใหม่ ไปเยี่ยมคำนับสมเด็จพระสันตะปาปากิตติคุณ เบเนดิกต์ ที่ 16 ในอารามมารดาพระศาสนจักรด้วย ช่วงสายวันเสาร์ที่ 19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในพิธีสถาปนาพระคาร์ดินัลใหม่ 17 คน โดย 13 คน อายุต่ำกว่า 80 ปีและมีสิทธิ์เข้าร่วมการเลือกตั้งพระสันตะปาปาองค์ต่อไป ส่วนอีก 4 คน อายุมากกว่า 80 ปีและจะไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมพระสันตะป

โป๊ปฟรังซิส - บางคนมองสิ่งต่างๆ แค่ดำหรือขาวเท่านั้น แต่ไม่แยกแยะสาเหตุที่มาที่ไป

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงตอบนักข่าวที่ถามเรื่องพระคาร์ดินัลสายอนุรักษ์นิยม 4 คน ซึ่งข้องใจเนื้อหาในสมณสาส์น Amoris Laetitia (ความชื่นชมยินดีแห่งความรัก) โดยตรัสว่า บางคนตีความสิ่งต่างๆ แค่ปลายทางว่าถูกหรือผิด แต่ไม่วิเคราะห์เส้นทางนั้นว่าทำไมมันถึงเป็นแบบนั้น  ทรงย้ำ ความเมตตาเป็นจุดอ่อนของพระเจ้า พระองค์ทรงเมตตาเราเสมอ เราทำผิดและขอโทษพระเจ้า พระองค์ก็ให้อภัยและไม่จดจำความผิดของเรา  ทรงชี้ มะเร็งร้ายในพระศาสนจักรคือพวกที่ตั้งใจแสวงหาอำนาจและหวังจะได้รับการยกย่องจากสถานะในพระศาสนจักร คนพวกนี้ใช้พระศาสนจักรเป็นเครื่องมือเพิ่มความทะเยอทะยาน ถ้าเป็นแบบนี้ จุดจบของพระศาสนจักรคือความแตกแยก สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงให้สัมภาษณ์กับ "สเตฟาเนีย ฟาลาสก้า" นักข่าวจาก "อัฟเวนิเร" หนังสือพิมพ์คาทอลิกของอิตาลีในหลายหัวข้อ อย่างไรก็ตาม Pope Report สรุปประเด็นที่น่าสนใจมา 3 หัวข้อ ดังต่อไปนี้ กรณีที่พระคาร์ดินัลสายอนุรักษ์นิยม(กึ่งสุดขั้ว) 4 คน ได้แก่ พระคาร์ดินัล เรย์มอนด์ เบิร์ก (อเมริกัน), พระคาร์ดินัล คาร์โล กัฟฟาร์ร่า (อิตาลี), พระคาร์ดินัลโยอาคิ

โป๊ปฟรังซิส - สัตบุรุษจะไม่ยกโทษให้สงฆ์ที่ยึดติดกับเงินและข่มเหงพวกเขา

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงย้ำ สัตบุรุษจะไม่ยกโทษให้สงฆ์ที่ยึดติดกับเงินและข่มเหงพวกเขา  ส่วนบาปและความผิดที่เกิดจากความอ่อนแอตามประสามนุษย์ที่พระสงฆ์ทำ สัตบุรุษอาจประณามพระสงฆ์ แต่สุดท้าย พวกเขาพร้อมให้อภัย  ทรงชี้ การยึดติดกับเงินจะทำให้สงฆ์กลายเป็นหัวหน้าบริษัทและทำตัวเป็นเจ้าชาย ผลที่ตามมาคือเขาจะไม่หยุดกับเงินที่มี แต่จะต้องไขว่คว้าให้ได้มากขึ้นไปอีก  ทรงแบ่งปัน น่าเศร้าถ้าต้องเห็นฉากจบชีวิตพระสงฆ์ที่ยึดติดกับเงินและกำลังจะตาย จะมีญาติที่มารอเฝ้าข้างเตียง แต่คิดในใจว่า "เราจะเอาสมบัติอะไรได้บ้าง" ช่วงเช้าวันศุกร์ที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา พระวรสารวันนี้เป็นเหตุการณ์ที่พระเยซูทรงขับไล่พวกพ่อค้าออกจากพระวิหาร พร้อมตรัสว่า คนพวกนี้กำลังจะทำให้บ้านของพระเจ้ากลายเป็นซ่องโจร พระสันตะปาปาทรงเทศน์แบ่งปันว่า - การกระทำของพระเยซูช่วยเราเข้าใจว่า ที่ไหนที่มีเมล็ดพันธุ์ของพวกต่อต้านพระคริสตเจ้าอยู่ด้วย ที่นั่นจะมีเมล็ดพันธุ์ของศัตรูซึ่งทำลายพระอาณาจักรของพระองค์ และสิ่งนั้นก็คือกา

โป๊ปฟรังซิส - นักธุรกิจอย่าใช้เงินครอบงำคนอื่น แต่จงใช้เงินเพื่อรับใช้สังคม

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอน นักธุรกิจต้องใช้เงินเพื่อรับใช้สังคม ไม่ใช้ใช้เงินเพื่อปกครองคนอื่น ทรงย้ำ การโกงคือโรคระบาดที่เลวร้ายสุดในสังคม ความพยายามและจุดเริ่มต้นที่จะโกง เกิดจากการบูชาเงินเป็นพระเจ้า  ทรงหวังเห็นนายจ้างและลูกจ้างเคารพซึ่งกันและกัน เพื่อสร้างความเป็นหนึ่งเดียวกันและเห็นอกเห็นใจกัน วันพฤหัสบดีที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงให้โอวาทกับนักธุรกิจคาทอลิก ที่มาร่วมการประชุมของสมณสภาเพื่อยุติธรรมและสันติ ใจความว่า 1) การใช้เงินในทางที่ถูกต้อง - เงินเป็นหนึ่งในหัวข้อที่ยากที่สุดเกี่ยวกับการตระหนักด้านศีลธรรม นักธุรกิจต้องใช้เงินเพื่อรับใช้สังคม ไม่ใช้ใช้เงินเพื่อปกครองคนอื่น 2) ความซื่อสัตย์ - การโกงคือโรคระบาดที่เลวร้ายสุดในสังคม ความพยายามและจุดเริ่มต้นที่จะโกง เกิดจากการบูชาเงินเป็นพระเจ้า นักธุรกิจจะต้องไม่เป็นเช่นนั้น เราต้องยึดมั่นในความซื่อสัตย์และไม่บูชาเงินเป็นพระเจ้า 3) ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน - ความสัมพันธ์ระหว่างนายจ้างกับลูกจ้างควรได้รับการเคารพและเรียกร้องทุกฝ่ายให้ตระหนักถึงสิ่งนี้ เช่นเดียวกัน กา

โป๊ปฟรังซิส - พระเจ้าเสด็จมาหาเราทุกวัน แต่เราตระหนักถึงเสียงเรียกของพระเจ้าในใจเราหรือเปล่า

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอน พระเจ้าเสด็จมาหาเราทุกวัน แต่เราตระหนักถึงเสียงเรียกของพระเจ้าในใจเราบ้างหรือเปล่า  ทรงย้ำ เราต้องอย่าเป็นแบบชาวกรุงเยรูซาเล็มที่ไม่ตระหนักว่าพระเจ้ากำลังจะเสด็จมาเยี่ยม พระเยซูจึงร้องไห้ต่อบาปที่พวกเขาทำ  ช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา วันนี้ตรงกับวันระลึกถึงนักบุญเอลิซาเบ็ธแห่งฮังการี่ ราชินีผู้อุทิศตนช่วยเหลือคนยากไร้ พระวรสารวันนี้เป็นเหตุการณ์ที่พระเยซูทรงร้องไห้ให้กับบาปของกรุงเยรูซาเล็ม พระสันตะปาปาทรงเทศน์แบ่งปันว่า - ความไม่ซื่อสัตย์ของประชากรของพระเจ้านี่แหละคือสิ่งที่ทำให้หัวใจของพระเยซูต้องเจ็บปวด นี่คือการย้ำว่าคนเหล่านี้ไม่ตระหนักว่าพระเจ้าทรงห่วงใยและรักพวกเขาแค่ไหน พระเยซูทรงเห็นแล้วว่ากรุงเยรูซาเล็มจะทำอะไรกับพระองค์ พระองค์จึงร้องไห้เพราะพวกเขาไม่ตระหนักเลยว่าพระเจ้ากำลังมาหาพวกเขา เรื่องดราม่าแบบนี้ไม่ได้เกิดแค่ในยุคของพระเยซูและจบลงไปพร้อมกับพระองค์ แต่ดราม่าแบบนี้ยังเกิดทุกวันในยุคนี้ด้วย - พระวรสารเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เป

โป๊ปฟรังซิส - เวลาเจอคนน่ารำคาญ เราต้องอดทน แต่ดูตัวเองด้วยว่า เราทำให้คนอื่นรำคาญหรือเปล่า

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอน เวลาเราเจอคนน่ารำคาญในชีวิต อาทิ คนที่ชอบโทรมานินทาคนอื่นให้ฟัง เราต้องอดทนเหมือนที่พระเยซูทรงแสดงออกตอนที่แม่ของยาค็อบและจอห์นเข้ามาถามพระเยซูเรื่องการนั่งฝั่งซ้ายและขวาของพระองค์  ทรงย้ำ เวลาสอนใครไป ก็ต้องทำตัวตามที่สอนด้วย เหมือนตอนที่พระเยซูสอนแม่ของยาค็อบและจอห์นว่าอย่ามักใหญ่ใฝ่สูง แต่จงรับใช้เพื่อนมนุษย์ พระองค์ก็ทำตัวเป็นแบบอย่างให้เห็นตลอดมา  ทรงชี้ มันง่ายมากที่จะหาว่าคนอื่นน่ารำคาญ แต่เราควรตรวจสอบความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของเราด้วยว่า เราทำให้คนอื่นรำคาญหรือเปล่า  ช่วงสายวันพุธที่ 16 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงออกมาพบปะและเทศน์สอนสัตบุรุษในการเข้าเฝ้าทั่วไป ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน วันนี้ เป็นการเข้าเฝ้าทั่วไปก่อนจะปิดปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรม ซึ่งจะมีพิธีในวันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน พระสันตะปาปาจึงสอนเรื่องการปฎิบัติกิจเมตตาเป็นการส่งท้ายด้วย พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า - งานเมตตาอย่างสุดท้ายที่พ่ออยากแบ่งปันเป็นเรื่องที่ทุกคนรู้กันดี แต่บางครั้งเราไม่ได้นำไปปฎิบัติเท่าที่ควร นั่นคือ เราจ