Posts

โป๊ปฟรังซิส: "ถ้าบทบัญญัติที่เรานับถือ ไม่นำเราไปหาพระเยซู บทบัญญัตินั้นก็ตายไปแล้ว"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงสอน ถ้าบทบัญญัติที่เรายึดถือไม่ได้นำเราไปหาพระเยซู ไม่ได้ทำให้เราใกล้ชิดกับพระเยซู บทบัญญัตินั้นก็ตายไปแล้ว ทรงชี้ พวกธรรมาจารย์ไม่เข้าใจเครื่องหมายของกาลเวลา เพราะพวกเขาปิดตัวเองจากทุกสิ่ง พวกนี้คิดว่าตัวเองเก่งที่สุด จนถึงกับท้าพระเยซูให้แสดงเครื่องหมายแห่งกาลเวลาให้พวกเขาได้เห็น ทั้งที่พระองค์เผยแสดงแล้วว่า พระองค์คือพระบุตรของพระเจ้า ช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายพิธีบูชาขอบพระคุณในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา พระวรสารประจำมิสซานี้ พระเยซูทรงเตือนว่า "คนยุคนี้เป็นคนชั่วร้าย พวกเขาอยากเห็นเครื่องหมาย แต่ก็จะไม่เห็นเครื่องหมายใดนอกจากเครื่องหมายของประกาศกโยนาห์" (ลูกา 11:29-32) พระสันตะปาปาทรงเทศน์สอนเกี่ยวกับพระวรสารตอนนี้ว่า "ทำไมพวกธรรมาจารย์ถึงไม่สามารถจะเข้าใจเครื่องหมายของกาลเวลา? ทำไมพวกเขาต้องการเครื่องหมายพิเศษกว่าที่พระเยซูทรงมอบให้พวกเขา ทำไมพวกเขาถึงไม่เข้าใจอะไรเลย? "คำตอบแรกคือพวกเขาปิดตัวเอง พวกเขาปิดระบบความคิดทุกอย่าง พวกเขาจัดระบบความคิดของตัวเองเพื่อ

โป๊ปฟรังซิส: "ธรรมทูตคือคนที่เชื่อฟังพระจิตและดำเนินชีวิตอยู่ในพระวรสาร"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงชี้ ธรรมทูตแพร่ธรรมคือคนที่นบนอบเชื่อฟังพระจิตและดำเนินชีวิตอยู่ในพระวรสาร เฉกเช่นนักบุญใหม่ในวันนี้ "นักบุญฟร็องซัวส์ เด ลาวัล" และ "นักบุญมารี เดล อินการ์นาติออง" พร้อมกันนี้ ทรงแบ่งปันพระวรสาร พระเจ้าเชิญทุกคนให้มาหาพระองค์ เชิญแบบไม่แบ่งแยกไม่กีดกันใครทั้งนั้น ทุกคนมีโอกาสเท่ากันในการตอบรับคำเชิญของพระเจ้า ช่วงสายวันอาทิตย์ที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในพิธีบูชาขอบพระคุณ โอกาสฉลองนักบุญใหม่ ได้แก่ "นักบุญฟร็องซัวส์ เด ลาวัล" พระสังฆราชคาทอลิกองค์แรกของควิเบก ประเทศแคนาดา และ "นักบุญมารี เดล อินการ์นาติออง" ซิสเตอร์ชาวฝรั่งเศสของคณะอุร์สุลินที่ไปแพร่ธรรมในแคนาดา พิธีนี้จัดในมหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน ท่ามกลางสัตบุรุษที่มาร่วมจำนวนมาก สำหรับการประกาศเป็นนักบุญโดยไม่มีการจัดพิธีบูชาขอบพระคุณแบบพิธีนี้ เรียกว่า "Equivalent Canonisation" (เทียบเท่าการสถาปนาเป็นนักบุญ) วิธีการนี้ แทบจะไม่พบเห็นในยุคปัจจุบัน วิธีนี้จะใช้การพิจารณาชีวิตของผู้ได้รับการเสนอ

โป๊ปฟรังซิส: "การทดสอบความรู้สึกผิดชอบชั่วดีคือการปกป้องหัวใจจากความคิดชั่วๆ"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงย้ำ จงรู้จักทดสอบความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของใจตนเอง เพราะนี่คือการปกป้องหัวใจให้ปลอดภัยจากความคิดชั่วๆ ทรงชี้ การปกป้องหัวใจคือการปกป้องพระจิตผู้ประทับอยู่ในตัวเรา ทรงเตือน ปีศาจมันกลับมาหลอกลวงเราเสมอ เฉกเช่นที่มันมาล่อลวงพระเยซูจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิตบนไม้กางเขน ช่วงเช้าวันศุกร์ที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายพิธีบูชาขอบพระคุณในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา พระวรสารประจำมิสซานี้ พระเยซูทรงย้ำว่า ปีศาจมันจะกลับมาล่อลวงมนุษย์เสมอ มันไม่เคยหยุดการหลอกล่อมนุษย์เลย (ลูกา 11:14-26) พระสันตะปาปา ตรัสสอนว่า "หลังจากการประจญล่อลวงพระเยซูที่ถิ่นทุรกันดาร ปีศาจมันก็หายไปจากพระเยซูสักพักหนึ่ง แต่ตลอดชีวิตของพระเยซู ปีศาจมันกลับมาหาพระองค์ครั้งแล้วครั้งเล่า ปีศาจพยายามจะหาทางทดสอบพระเยซู มันพยายามที่จะทำให้พระองค์ติดกับดัก ดูได้จากช่วงพระมหาทรมานและวินาทีสุดท้ายบนไม้กางเขน ปีศาจมันยังพูดว่า 'ถ้าท่านเป็นบุตรของพระเจ้าจริงๆ จงลงมาจากกางเขนซิ ทำซิ ทำให้เราดูหน่อย หรือท่านทำไม่ได้ล่ะ' นี่คือวิธีการที่ปีศาจพยายามล

โป๊ปฟรังซิส: "จงสวดขอพระเจ้าโปรดประทานพระจิตให้กับเรา"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงสอน เวลาเราสวดขอพระเจ้า เรามักขอสิ่งต่างๆมากมาย แต่ของดีที่สุดที่พระเจ้าจะมอบให้เราก็คือพระจิต ดังที่พระเยซูทรงสอนว่า จงขอเถิดแล้วท่านจะได้รับ จงเคาะเพื่อวอนขอที่จิตใจของพระเจ้า จากนั้น พระบิดาจะประทานพระจิตมาให้กับผู้ที่วอนขอ ช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายพิธีบูชาขอบพระคุณในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา พระวรสารประจำมิสซานี้ พระเยซูทรงสอนบรรดาศิษย์ว่า "จงขอเถิดแล้วท่านจะได้รับ จงแสวงหาเถิดแล้วท่านจะพบ จงเคาะประตูเถิดแล้วเขาจะเปิดรับท่าน" (ลูกา 11:5-13) พระสันตะปาปาทรงเทศน์แบ่งปันพระวรสารตอนนี้ว่า "พระเจ้าทรงมีพระเมตตามากๆ ลองดูซิในบทภาวนาภาคแรกของประธาน (Collecta) พวกเราเริ่มด้วยการวอนขอพระเจ้าเพื่อการอภัยและโปรดรับคำภาวนาที่ไม่กล้าที่จะคาดหวังต่อสิ่งใด สิ่งนี้ทำให้พ่อฉุกคิด กล่าวคือ มันเห็นได้ชัดว่า พระเมตตาของพระเจ้าไม่ได้มีเพื่อให้อภัยเท่านั้น พวกเราทุกคนต่างทราบดีว่า พระเมตตาของพระเจ้ายังมีเมตตาและมีแต่ให้และให้มากขึ้นเรื่อยๆ "พระวรสารวันนี้ มีคำหลักๆ อยู่ 3 คำ คือ

โป๊ปฟรังซิส: "คริสตชนต้องอย่ายอมแพ้ต่อความแตกแยกในกลุ่มคริสตชน"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงย้ำ คริสตชนต้องอย่ายอมแพ้ต่อความแตกแยกในกลุ่มคริสตชน แต่จงเอาชนะความแตกแยก รู้จักให้อภัย และร่วมเป็นหนึ่งเดียวกันกับคริสตชนนิกายอื่นๆ เพื่อจะได้เดินไปสู่ความเป็นหนึ่งเดียวกัน ซึ่งเป็นความปรารถนาของพระคริสตเจ้าที่ต้องการให้ศิษย์ของพระองค์เป็นหนึ่งเดียวกัน นอกจากนี้ ทรงแบ่งปัน วันนี้เมื่อ 70 ปีที่แล้ว พระองค์ทรงได้รับศีลมหาสนิทเป็นครั้งแรกด้วย ช่วงสายวันพุธที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในการเข้าเฝ้าทั่วไป ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน ท่ามกลางสัตบุรุษที่มาร่วมกว่า 60,000 คน โดยวันนี้ พระสันตะปาปาทรงเทศน์สอนเรื่องความแตกแยกในกลุ่มคริสตชนระหว่างนิกายต่างๆ ว่าเป็นการทำร้ายพระศาสนจักรและพระคริสตเจ้า พระสันตะปาปา ตรัสสอนว่า "พวกเราหลายคน แม้แต่คนที่อยู่ในพระศาสนจักรคาทอลิก เรายังยอมแพ้ให้กับความแตกแยกในกลุ่มคริสตชน ซึ่งบ่อยครั้งก่อให้เกิดความขัดแย้งและความทุกข์ตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมา "พ่ออยากให้เราทบทวนตัวเองอีกครั้งว่า เรายอมแพ้ รวมทั้งไม่สนใจต่อความแตกแยกในกลุ่มคริสตชนจริงๆใช่ไหม หรือว่า เรา

โป๊ปฟรังซิส: "เราต้องจดจำว่าเคยทำบาปอะไร ไม่ใช่ทำเป็นลืมๆ และไม่จำ"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงสอน เราต้องรู้จักจดจำบาปของตนเอง ไม่ใช่ทำเป็นลืมบาปผิดในอดีต จงดำเนินชีวิตเหมือนนักบุญเปาโลที่ไม่เคยลืมอดีตว่า เคยเป็นคนนิสัยไม่ดี เคยไล่ทำลายผู้มีความเชื่อในพระคริสตเจ้า แต่สุดท้าย กลับใจและกลายมาเป็นคนประกาศความเชื่อที่ตนเคยคิดจะทำลายล้างเสียเอง  ช่วงเช้าวันอังคารที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา บทอ่านประจำมิสซานี้จากจดหมายนักบุญเปาโลถึงชาวกาลาเทีย นักบุญเปาโลยอมรับว่าเคยทำบาปหนักอย่างรุนแรง ด้วยการเคยเบียดเบียนข่มเหงผู้ที่มีความเชื่อในพระเยซู แต่บัดนี้ ท่านกลับใจและกลายเป็นผู้ประกาศความเชื่อที่ท่านเคยคิดจะทำลายให้สิ้นซากไป พระสันตะปาปาตรัสให้ข้อคิดเกี่ยวกับบทอ่านนี้ว่า "ความทรงจำที่ไม่ลืมเลือนของนักบุญเปาโลเกี่ยวกับความจริงที่ว่าท่านเคยเป็นคนบาปที่เบียดเบียนพระเยซู จัดเป็นสิ่งที่สร้างตัวของนักบุญเปาโลขึ้นมา ท่านประกาศอย่างไม่อายเลยว่า เคยเบียดเบียนข่มเหงคริสตชน เปาโลไม่ได้พูดว่า 'ข้าพเจ้าเป็นคนดี ข้าพเจ้าเป็นบุตรของครอบครัวที่มั่งคั่ง ข้าพเจ้าเป็นชนชั้นสูง'

โป๊ปฟรังซิส: "คิดอะไรอยู่ พูดออกมาเลย อย่ากลัวว่าพูดแล้ว โป๊ปจะไม่พอใจ"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงขอร้องผู้ร่วมสมัชชาพระสังฆราชคาทอลิก คิดอะไรอยู่ ขอให้พูดออกมาให้หมด อย่ากลัวว่า ถ้าพูดออกมาแล้ว พระสันตะปาปาจะไม่พอใจ เพราะการประชุมคือการแสดงความเห็น และความเห็นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการอภิบาลสัตบุรุษทุกคน ช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในการเปิดการประชุมสมัชชาพระสังฆราชคาทอลิก ในหัวข้อครอบครัว ซึ่งเริ่มขึ้นเป็นช่วงแรก การประชุมนี้ มีผู้แทนสภาพระสังฆราชคาทอลิกจากทุกประเทศทั่วโลกมาร่วมงาน สำหรับประเทศไทย มีผู้แทนเข้าร่วมประชุมคือ พระอัครสังฆราช หลุยส์ จำเนียร สันติสุขนิรันดร์ พระอัครสังฆราชแห่งท่าแร่-หนองแสง สำหรับโอวาทในการเปิดการประชุม พระสันตะปาปาตรัสว่า "ขอให้ทุกคนใช้การประชุมนี้ พูดทุกอย่างออกมา จงพูดแบบตรงๆ ไม่ต้องกลัวเรื่องใดๆ ทั้งสิ้น นอกจากนี้ ขอให้รับฟังความเห็นของคนอื่นด้วยจิตแห่งความรักความเมตตาด้วย "มันสำคัญมากสำหรับสมัชชาพระสังฆราชคาทอลิกที่เราจะต้องพูดทุกสิ่งออกมาตามความรู้สึกของเรา เพราะสิ่งที่เราจะแสดงความเห็นกันออกมาในการประชุมนี้ จะเป็นก้าวย่างสำคัญในการแบ่งปั

โป๊ปฟรังซิส: "ผู้อภิบาลต้องอย่าตกเป็นเหยื่อความโลภเงินและอำนาจ"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงเตือนสติ ผู้อภิบาลต้องอย่าตกเป็นเหยื่อความโลภเงินและอำนาจ ทรงชี้ ความฝันของพระเจ้าต้องพังทลายเสมอ เพราะความเจ้าเล่ห์ของผู้รับใช้บางคนของพระองค์ ส่วนผู้อภิบาลที่ชั่วร้ายก็จะดีแต่สั่งคนอื่น แต่ตัวเองไม่คิดจะลงมือทำ ทรงย้ำ สมัชชาพระสังฆราชคาทอลิก ไม่ต้องการให้พระสังฆราชมาเถียงกันว่า ใครเก่งกว่ากัน ช่วงสายวันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในพิธีมิสซาเปิดการประชุมสมัชชาพระสังฆราชคาทอลิกสมัยพิเศษ ในหัวข้อครอบครัว โดยพิธีนี้ จัดขึ้นในมหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน ท่ามกลางสัตบุรุษที่มาร่วมจำนวนมาก ในส่วนของบทเทศน์ประจำมิสซานี้ พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า "สวนองุ่นของพระเจ้าจัดเป็นโครงการแห่งความฝัน ซึ่งพระเจ้าทรงเพาะปลูกด้วยความรักทั้งหมดของพระองค์ ประหนึ่งชาวสวนที่ทุ่มเททั้งชีวิตให้กับสวนองุ่นของตน องุ่นเป็นพืชผลที่จำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างดี อย่างไรก็ตาม ความฝันของพระเจ้าก็ต้องถูกขัดขวาง สวนองุ่นที่พระเจ้าทรงรักและดูแลอย่างดีกลับไม่ออกผลตามที่ควรจะเป็น พระเจ้าทรงคาดหวังความยุติธรรม แต่พระองค์ต้องมาพบกั

โป๊ปฟรังซิสนำภาวนาก่อนวันเปิดประชุมซีน็อตให้หัวข้อครอบครัว

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงหวังเห็นบรรดาพระสังฆราชคาทอลิกที่เข้าร่วมประชุมซีน็อต เปิดใจฟังเสียงพระเจ้า ก่อนจะประชุมเรื่องปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับคาทอลิกหย่าร้างและแต่งงานใหม่ รวมถึงประเด็นครอบครัว ทรงย้ำ ครอบครัวเป็นโรงเรียนที่ดีที่สุดในการสอนมนุษย์ทุกคน  ช่วงค่ำวันเสาร์ที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในการภาวนาคืนตื่นเฝ้า เพื่อการประชุมสมัชชาพระสังฆราชคาทอลิกในหัวข้อครอบครัว พิธีนี้ จัด ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน ท่ามกลางสัตบุรุษที่มาร่วมภาวนากว่า 40,000 คน ในส่วนบทเทศน์ประจำพิธีนี้ พระสันตะปาปาทรงขอร้องบรรดาพระสังฆราชที่เข้าร่วมการประชุม เปิดใจและวางใจในพระเจ้า พร้อมฟังเสียงพระเจ้าให้ดีๆว่า พระองค์ตรัสถึงปัญหาครอบครัวในโลกยุคนี้ว่าอย่างไรบ้าง พระสันตะปาปา ตรัสว่า "ขอให้เราวิงวอนขอพระเจ้า โปรดช่วยให้เราเปิดใจด้วยความจริงใจ พร้อมแลกเปลี่ยนมุมมองด้วยความรู้สึกเป็นพี่น้องกัน เพื่อที่ว่า การประชุมนี้จะทำให้เราเปี่ยมด้วยความรับผิดชอบในการทำงานอภิบาล เพื่อตอบสนองปัญหาต่างๆ ที่ความเปลี่ยนแปลงของกาลเวลาได้นำให้เราแก้ไข ขอให้เรา

โป๊ปฟรังซิส: "วิธีให้คนสมัครบวชเยอะๆ แต่ตอนบวชไม่กรองให้ดี ส่งผลเสียต่อพระศาสนจักร"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงเผย ไม่เห็นด้วยกับวิธีการที่เชิญชวนให้คนเยอะๆ มาสมัครบวชเป็นพระสงฆ์ แต่สุดท้าย ไม่คัดกรองคุณสมบัติให้ดี ผลเสียจึงเกิดกับพระศาสนจักร ทรงย้ำ พระสงฆ์ต้องตระหนักให้มากๆ ถึงการเป็นพระสงฆ์ ไม่ใช่หลงปล่อยตัวไปตามจิตตารมณ์ทางโลก ทรงชี้ กระบวนการอบรมเป็นพระสงฆ์ ต้องเคี่ยวเข็ญเรื่องมิติด้านสติปัญญา ความเป็นมนุษย์ และมิติฝ่ายจิตของแต่ละคน ช่วงเช้าวันศุกร์ที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงต้อนรับบรรดาผู้เข้าร่วมการประชุมของสมณกระทรวงพระสงฆ์ ที่มาเข้าเฝ้าในวาติกัน โอกาสนี้ พระสันตะปาปาทรงเตือนสติพวกเขาแบบจัดเต็ม ไล่ตั้งแต่การกล่าวถึงกระบวนการอบรมเตรียมตัวเพื่อบวชเป็นสงฆ์, การให้กำลังใจสงฆ์ที่ล้มลงระหว่างติดตามพระเยซู รวมไปถึงการแสดงความเห็นส่วนพระองค์ว่า เวลาคัดเลือกคนจะบวชเป็นสงฆ์ ต้องคัดให้ดีๆ มิฉะนั้น ผลเสียจะตกกับพระศาสนจักร พระสันตะปาปา ตรัสว่า "ผู้ที่ได้รับกระแสเรียกให้มาทำงานอภิบาลสงฆ์ พวกเขาไม่ใช่เจ้านายของกระแสเรียก แต่เป็นคนทำงาน เป็นผู้บริหารพระพรที่พระเจ้าทรงมอบความวางใจในตัวเขา ทั้งนี้ เพื่อจะได้รับใช้คุณความดีแ