Posts

Showing posts with the label สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรานซิส

UCANEWS ร่วมรายงานโป๊ปฟรังซิสเยือนพม่า พฤศจิกายน 2017

Image
ตอน 19.00 น. ทวิตเตอร์ของผมสั่นเตือนว่ามีคน tag ผมเข้าในข้อความที่เขาทวีต ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ปรากฏว่า UCANEWS หรือ "ยูแคน" สำนักข่าวคาทอลิกชั้นนำของทวีปเอเชีย ทวีตว่า "สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส จะเสด็จเยือนพม่าในเดือนพฤศจิกายน 2017" (ยูแคน tag ผมเข้าไปในข่าว เพื่อแจ้งให้ผมทราบเป็นข้อมูล ... ปกติ เวลายูแคนรายงานข่าว เขาจะ tag Pope Report เข้าไปเสมอ ผมไม่แน่ใจว่าใครเป็นคนทวีตของยูแคน แต่ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ครับ) หลังอ่านเสร็จ ผมดีใจที่มัน "ไม่พลาด" ... ไม่พลาดในที่นี้ หมายถึง ข่าววงในจากกลุ่มเพื่อนนักข่าวสายวาติกันที่เคยพูดกับผม แล้วผมนำมารายงานต่อให้ทุกคนทราบเมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา (อ่านได้ที่ http://bit.ly/2w91Djh) ทั้งนี้ ยูแคน รายงานว่า เดือนกันยายน 2017 วาติกันจะแถลงข่าวสมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส เสด็จเยือนบังคลาเทศและพม่า การทูลเชิญครั้งนี้ มาจากสองส่วนคือเมื่อครั้ง ออง ซาน ซูจี ทูลเชิญพระสันตะปาปา เมื่อวันที่ 4 พ.ค. 2017 (ตอนนั้น พม่าประกาศสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับสันตะสำนักอย่างเป็นทางการ) ส่วนการเชิญจากสภาพระสังฆราชคาทอลิกแ

มีความเป็นไปได้สูงว่า โป๊ปฟรังซิสจะเยือนบังคลาเทศและพม่าในเดือนพฤศจิกายน 2017

Image
เมื่อครู่นี้ (21.00 น.) กลุ่มนักข่าวสายวาติกันเริ่มมีการพูดถึงข่าวการเสด็จเยือน "ทวีปเอเชีย" ของสมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส และกระแสดูเหมือนว่า น่าจะมีความเป็นไปได้มากขึ้นเรื่อยๆ เพราะกลุ่มที่ผมได้ข้อมูลมา ไม่ค่อยพลาดเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว  ข่าวที่ว่าก็คือ "สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส เตรียมเสด็จเยือนบังคลาเทศและเมียนมา (พม่า) ในเดือนพฤศจิกายน 2017 หรือว่าปลายปีนี" หากใครตามข่าวมาตลอด น่าจะเคยได้ยิน Pope Report รายงานไปว่า พระสันตะปาปามีโปรแกรมจะเยือน "อินเดียและบังคลาเทศ" ในปี 2017 แต่ข้อมูลล่าสุดที่คุยกันในกลุ่มนักข่าวสายวาติกันก็คือ รัฐบาลอินเดียยังไม่พร้อมที่จะเชิญพระสันตะปาปาเยือนประเทศในปีนี้ โดยเลื่อนแผนการเชิญไปเป็นปี 2018 แทน เมื่อเป็นเช่นนี้ พระสันตะปาปาจึงเลือก "พม่า" เป็นประเทศที่เข้ามาแทนอินเดีย และกำหนดการคร่าวๆ ที่มีการคุยกันนั้น พระสันตะปาปาจะมาเยือนบังคลาเทศและพม่า ระหว่างวันที่ 26-30 พฤศจิกายน 2017 ถึงตอนนี้ ยังไม่มีการแถลงข่าวยืนยันจากวาติกัน แต่จากประสบการณ์ของผมที่ตามทำข่าวพระสันตะปาปามาเกิน 10 ปี ข่าวจากเพื่อนนักข่

โป๊ปฟรังซิส - ชุมชนวัดต้องไม่มีการนินทา

Image
สิ่งหนึ่งที่สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส จะย้ำทุกครั้งเวลาไปเยี่ยมสัตบุรุษตามวัดคาทอลิกต่างๆ ก็คือ "ชุมชนวัดต้องไม่มีการนินทา" เมื่อวานนี้ พระสันตะปาปาทรงเทศน์ในมิสซาที่วัดนักบุญเปียร์ ดามีอานี่ กรุงโรม ใจความว่า ... -คริสตชนต้องมีทัศนคติอ่อนหวานและเคารพกัน มันอุบาทว์มาก (Ugly) ที่เห็นบางคนเรียกตัวเองว่าคริสตชน แต่จิตใจเต็มไปด้วยความเคียดแค้นในจิตใจ - เมื่อครู่นี้ พ่อถวายกำยานหน้ารูปแม่พระ พ่อมองงูที่ถูกแม่พระเหยียบไว้แทบเท้า มันอ้าปากและลิ้นยาวมาก งูตัวนี้ช่วยเราให้คิดถึงกลุ่มคริสตชนที่ไม่ปกป้องพระจิต พวกนี้จะมีลิ้นยาว มีคุณพ่อท่านหนึ่งพูดกับพ่อว่า 'ในเขตวัดของผม มีสัตบุรุษบางคนสามารถรับศีลมหาสนิทขณะยืนอยู่ที่ประตูหน้าวัดได้เลย เพราะลิ้นของเขายาวมากจนมาถึงพระแท่น!' - พ่อพูดเรื่องนี้เป็นประจำ นี่คือเรื่องจริง นิสัยแบบนี้ทำลายกลุ่มคริสตชน พ่อขอโทษที่ต้องพูดเรื่องนี้ซ้ำๆ เวลาไปเยี่ยมวัดต่างๆ แต่พ่อเชื่อว่า การนินทาคือศัตรูตัวจริงที่ทำลายกลุ่มคริสตชน - มันน่าเกลียดขนาดไหนที่คนเขามาวัดเพื่อแสวงหาสันติในจิตใจ แต่ต้องมาเจอการนินทา การอิจฉา และการชิงดีชิงเด่นในเข

BREAKING! โป๊ปประกาศรายชื่อพระคาร์ดินัลใหม่ 5 คน หนึ่งในนั้นมีประเทศลาวด้วย

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงประกาศการสถาปนาพระคาร์ดินัลใหม่ 5 คน หนึ่งในนั้น มี "พระคาร์ดินัลใหม่จากประเทศลาว" รวมอยู่ด้วย การแต่งตั้งครั้งนี้ ไม่มีพระคาร์ดินัลใหม่ที่เป็นชาวอิตาเลี่ยน และพระคาร์ดินัลที่ทำงานในโรมันคูเรีย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงแนวทางการเลือกของพระสันตะปาปา ฟรังซิส นั่นคือ เลือก "ยกระดับความสำคัญของสังฆมณฑลสต็อกโฮล์ม ประเทศสวีเดน" และ "พระศาสนจักรคาทอลิกในลาว" นั่นเอง  ช่วงเที่ยงวันอาทิตย์ที่ 21 พฤษภาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงนำสวดราชินีแห่งสวรรค์ ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน หลังการภาวนาจบลง พระสันตะปาปาทรงแจ้งอย่างเป็นทางการว่า วันที่ 28 มิถุนายน พระองค์จะสถาปนาพระคาร์ดินัลใหม่ 5 คน โดยหนึ่งในนั้น มีจาก "ประเทศลาว" ด้วย รายชื่อพระคาร์ดินัลใหม่ ทั้ง 5 คนมีดังนี้ 1) พระอัครสังฆราช ฌอง แซร์กโบ แห่งอัครสังฆมณฑลบามาโก ประเทศมาลี 2) พระอัครสังฆราช ฆวน โฆเซ่ โอเมย่า แห่งอัครสังฆมณฑลบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน 3) พระสังฆราช อันเดอร์ส ออร์โบเรลิอุส แห่งสังฆมณฑลสต็อกโฮล์ม ประเทศสวีเดน 4) พระสังฆราช หลุยส์ มา

สัมภาษณ์โป๊ปบนเครื่องบิน - ส่วนตัวแล้ว พ่อสงสัยเรื่องแม่พระประจักษ์ที่เม็ดจูร์กอร์เร่

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงยอมรับ โดยส่วนตัว พระองค์สงสัยมากเรื่องแม่พระประจักษ์ที่เม็ดจูร์กอร์เร่ เพราะแม่พระในความคิดของพระองค์คือคนที่เป็นมารดาของพระเยซู ไม่ใช่คนที่เป็นเหมือนหัวหน้าสำนักโทรเลขที่ต้องส่งสารมาในเวลาต่างๆ  ทรงชี้แจงสาเหตุที่การสอบสวนเรื่องนี้เป็นแบบล่าช้า เพราะตอนแรกรายงานการสอบสวนเรื่องเม็ดจูร์กอร์เร่เป็นไปด้วยดี แต่ต่อมา สมณกระทรวงหลักความเชื่อส่งเอกสารแย้งรายงานดังกล่าวหลายประเด็น จนพระองค์ต้องขอให้ส่งเอกสารแย้งนี้มาให้ดูด้วย  ทรงเผย ความสัมพันธ์กับกลุ่มเล็อแฟ๊บวร์เป็นไปแบบพี่น้อง เรื่องนี้ ไม่มีคนชนะหรือคนแพ้ มีแต่ต้องเดินไปข้างหน้าร่วมกัน  ทรงอธิบาย สาเหตุที่มีการพิจารณาคดีความสงฆ์ล่วงละเมิดทางเพศล่าช้า เป็นเพราะมีคดีถูกส่งมาที่วาติกันกว่า 2,000 คดี และพนักงานที่ดูแลเรื่องนี้ก็มีน้อยมาก  ทรงย้ำ กังวลเรื่องคนเกลียดพระสงฆ์คาทอลิก แต่หน้าที่ของพระองค์คือเตือนสติสงฆ์คาทอลิกทั้งหลายว่า อย่าแสวงหาความก้าวหน้าจากการเป็นสงฆ์ เพราะสิ่งนี้ทำให้คนถอยห่างจากพระศาสนจักร และยังเป็นโรคระบาดร้ายแรงในพระศาสนจักรด้วย  ทรงยืนยัน ไม่ตัดสิน "โดนัลด์

โป๊ปฟรังซิสถาปนานักบุญฟรานซิสโก้ มาร์โต้ และ นักบุญยาชินทา มาร์โต้ อย่างเป็นทางการ

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสถาปนา "นักบุญฟรานซิสโก้ มาร์โต้ และ นักบุญยาชินทา มาร์โต้"  2 ใน 3 เด็กที่เห็นแม่พระประจักษ์ที่ฟาติมา และร่วมฉลอง 100 ปีที่แม่พระประจักษ์ที่ฟาติมา  การสถาปนานี้ ทำให้ "สองพี่น้องตระกูลมาร์โต้" เป็นนักบุญที่อายุน้อยสุดในพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ซึ่งไม่ได้เป็นมรณสักขีด้วย  ช่วงสายวันเสาร์ที่ 13 พฤษภาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาสถาปนา "นักบุญฟรานซิสโก้ มาร์โต้ และ นักบุญยาชินทา มาร์โต้" สองในสามเด็กน้อยที่พบแม่พระประจักษ์ รวมทั้งฉลองครบ 100 ปี แม่พระประจักษ์ที่ฟาติมา พิธีนี้จัดที่สักการะสถานแม่พระแห่งฟาติมา ประเทศโปรตุเกส ท่ามกลางผู้มาร่วมกว่า 500,000 คน ทั้งนี้ ก่อนพิธี พระสันตะปาปาได้ไปภาวนาหน้าหลุมศพของนักบุญใหม่ทั้งสองด้วย สำหรับบทเทศน์ประจำมิสซานี้ พระสันตะปาปาทรงเทศน์สอนว่า - พวกเราทุกคนมีแม่ วันนี้เป็นวันที่สวยสดงดงามเหมือนที่เด็กๆ ที่เห็นแม่พระประจักษ์พูดต่อกันตอนที่พวกเขากลับไปถึงบ้านในวันที่ 13 พฤษภาคม เมื่อ 100 ปีที่แล้ว เย็นวันนั้น ยาชินทาไม่สามารถคุมตัวเ

โป๊ปฟรังซิส - อย่าปล่อยให้ตัวเองตกอยู่ในภาพฝันที่ว่าแม่พระอ่อนหวานและเมตตายิ่งกว่าพระเจ้า

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอน อย่าปล่อยให้ตัวเองตกอยู่ในภาพฝันที่ว่าแม่พระอ่อนหวานและเมตตายิ่งกว่าพระเจ้า เพราะแม่พระที่เราเดินร่วมทางไปหาพระเยซู เป็นแม่พระที่เป็นอาจารย์ชีวิตจิตของเรา เป็นแม่พระที่ได้รับพระพรเพราะเชื่อในพระเจ้า ไม่ใช่แม่พระที่เราเข้าไม่ถึง ไม่ใช่แม่พระที่เป็นรูปพลาสติก และไม่ใช่แม่พระที่เราทำขึ้นมาเอง  ทรงย้ำ ความอยุติธรรมร้ายแรงต่อพระหรรษทานของพระเจ้าคือการพูดว่า บาปคือการตัดสินลงโทษจากพระเจ้า เพราะในความเป็นจริงแล้ว พระวรสารกล่าวไว้ว่า บาปจะได้รับการให้อภัยด้วยพระเมตตาของพระเจ้าต่างหาก  ช่วงค่ำวันศุกร์ที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในการสวดสายประคำหน้ารูปแม่พระแห่งฟาติมา โอกาสเตรียมสมโภชแม่พระประจักษ์ที่ฟาติมา ครบ 100 ปี พิธีนี้จัดที่สักการะสถานแม่พระแห่งฟาติมา ประเทศโปรตุเกส ท่ามกลางสัตบุรุษที่มาร่วมภาวนากว่า 500,000 คน โอกาสนี้ พระสันตะปาปาทรงกล่าวสอนว่า - มีคำพูดว่า 'เดินจาริกไปกับแม่พระ ... ว่าแต่แม่พระไหนล่ะ' แม่พระที่เป็นอาจารย์ของชีวิตฝ่ายจิต และยังเป็นคนแรกที่ติดตามพระเยซูบนทางแค

โป๊ปฟรังซิส - สงฆ์คาทอลิกไม่ใช่อาชีพ ดังนั้นอย่าเป็นสงฆ์ที่แสวงหาความก้าวหน้า

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงบวชสงฆ์ใหม่ พร้อมสอน สงฆ์คาทอลิกไม่ใช่ "อาชีพ" ดังนั้นอย่าเป็นสงฆ์ที่แสวงหาความก้าวหน้า  ทรงย้ำ อย่าเทศน์แบบโชว์ภูมิหรือเทศน์ให้มันซับซ้อนเกินไป จงเทศน์ง่ายๆ เหมือนเวลาพระเจ้าตรัสสอน  ทรงชี้ สงฆ์บางคนได้ปริญญาเทวศาสตร์หลายใบ แต่ถ้าเขาไม่ได้เรียนเรื่องการแบกกางเขนของพระเยซู เขาก็ไม่ใช่สงฆ์คาทอลิกที่ดี  ทรงขอร้อง อย่าวางภาระหนักที่ตัวเองทำไม่ไหวไว้บนบ่าของสัตบุรุษ ถ้าทำแบบนี้ พระเยซูจะตำหนิว่าเราเป็นพวกหน้าซื่อใจคด  ทรงเตือนสติ สงฆ์อย่าทำตัวเป็น "เจ้านาย" อย่าสร้าง "นครสงฆ์" ขึ้นมา แต่จงเป็นนายชุมพาบาลและเป็นผู้อภิบาลประชากรของพระเจ้า ช่วงสายวันอาทิตย์ที่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาอาทิตย์ที่ 4 เทศกาลปาสกาซึ่งตรงกับวันภาวนาเพื่อกระแสเรียก พร้อมบวชสงฆ์คาทอลิก 10 คน ในมหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน มิสซานี้ พระสันตะปาปาเทศน์สอนว่า - การเป็นสงฆ์ไม่ใช่ "อาชีพ" ดังนั้นอย่าดำเนินชีวิตเพื่อแสวงหาความก้าวหน้าในพระศาสนจักร แต่จงใช้ศักดิ์สงฆ์นี้รับใช้เพื่อนมนุษย์ -

โป๊ปต้อนรับ ออง ซาน ซูจี วาติกันเตรียมเปิดสถานทูตในเมียนมา

Image
ช่วงสายวันพฤหัสบดีที่ 4 พฤษภาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงต้อนรับ ออง ซาน ซูจี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และรัฐมนตรีประจำทำเนียบประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ที่มาเข้าเฝ้าในวาติกัน รายละเอียดของการสนทนาของผู้นำทั้งสองไม่เป็นที่เปิดเผย โดยนี่เป็นครั้งที่สองที่พระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงต้อนรับ ซูจี ที่มาเข้าเฝ้าในวาติกัน อย่างไรก็ตาม หลังการเข้าเฝ้า วาติกันได้แถลงอย่างเป็นทางการว่า วาติกันและรัฐบาลเมียนมา ตกลงสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเต็มรูปแบบ โดยเตรียมจะมีการเปิดสถานทูตวาติกันในเมียนมาในอนาคตด้วย

วาติกันยืนยัน ทรัมพ์ จะมาเข้าเฝ้า โป๊ปฟรังซิส วันที่ 24 พฤษภาคม

Image
วาติกัน แถลงอย่างเป็นทางการ โดนัลด์ ทรัมพ์ ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา จะมาเข้าเฝ้าสมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ในวันพุธที่ 24 พฤษภาคม 2017 หลังจากก่อนหน้านี้ พระสันตะปาปาเพิ่งให้สัมภาษณ์ระหว่างเที่ยวบินกลับจากอียิปต์ว่า โดนัลด์ ทรัมพ์ ไม่เคยยื่นความประสงค์ว่าอยากมาพบพระองค์ กระนั้น พระองค์พบผู้นำประเทศทุกแห่ง ถ้าผู้นำคนนั้นยื่นเรื่องขอเข้าพบ ทั้งนี้ ทรัมพ์ จะมาพบพระสันตะปาปา ในเวลา 8.30 น. (13.30 น. ตามเวลาไทย) ซึ่งถือว่าเป็นเวลาที่เช้ามาก เพราะตามปกติ พระสันตะปาปาทุกพระองค์จะต้อนรับผู้นำประเทศต่างๆ ตั้งแต่เวลา 9.30 น. เป็นต้นไป การมาเยือนวาติกันครั้งนี้ จะเป็น "การเยือนต่างประเทศครั้งแรก" ของ ทรัมพ์ ในฐานะประธานาธิบดีของอเมริกา โดยประเทศที่อยู่ในทริปแรกนี้ ได้แก่ อิสราเอล วาติกัน และซาอุดิอาระเบีย

สัมภาษณ์โป๊ปบนเครื่องบิน - อเมริกา เกาหลีเหนือ และชาติเกี่ยวข้องต้องเจรจาสันติภาพโดยด่วน

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงขอร้องอเมริกา เกาหลีเหนือ และนานาชาติ หาทางเจรจาแก้ปัญหาความขัดแย้งในคาบสมุทรเกาหลีโดยเร็ว พร้อมแนะ นอร์เวย์ เป็นอีกประเทศที่พร้อมเป็นคนกลางช่วยเจรจา ส่วนสหประชาชาติต้องเข้ามามีบทบาทมากกว่านี้ เพราะตอนนี้มีบทบาทน้อยมาก  ทรงเผย โดนัลด์ ทรัมพ์ ไม่เคยยื่นเรื่องขอเข้าพบ ถ้ายื่นเรื่องมา พระองค์ยินดีเจอแน่นอนเหมือนที่ปฎิบัติกับผู้นำประเทศอื่นๆ  ทรงยืนยัน ไม่ใส่ใจคำพูดที่ว่า "พร ะสันตะปาปาเข้าข้างรัฐบาลนั้นหรือรัฐบาลนี้" เพราะสิ่งที่ใส่ใจมากกว่าคือรัฐบาลนั้นๆ ชี้นำค่านิยมที่ดีต่อประชาชนหรือไม่  ทรงชี้ มันไม่มีงานคริสตศาสนสัมพันธ์ที่หยุดนิ่งอยู่กับที่ หน้าที่ของนักเทวศาสตร์คือศึกษากันต่อไป แต่มันไม่สามารถหาข้อสรุปแบบดีกับทุกฝ่ายได้หรอก ถ้าพวกเราประชากรของพระเจ้าไม่ก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงให้สัมภาษณ์บรรดานักข่าวสายวาติกันที่ตามเสด็จไปทำข่าวการเยือนอียิปต์ ระหว่างเที่ยวบินกลับจากกรุงไคโรไปยังกรุงโรม รายละเอียดของการสัมภาษณ์มีดังต่อไปนี้ นักข่าว: พระสันตะปาปาครับ พระดำรัสแรกที่พระองค์ตรัสที่อัลอัซฮัร พร

โป๊ปฟรังซิส - สงฆ์และนักบวชอย่าเอาแต่บ่น อย่าเปลี่ยนความยากลำบากมาเป็นข้อแก้ตัว

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเตือนสงฆ์และนักบวชคาทอลิกอียิปต์เกี่ยวกับการประจญ 7 แบบ  อย่าเอาแต่บ่นคนอื่นอย่างเดียว อาทิ บ่นข้อเสียอธิการเจ้าคณะ สงฆ์และนักบวชที่บ่นอย่างเดียวคือคนที่ไม่อยากทำงาน สงฆ์และนักบวชคาทอลิกคือคนที่ได้รับการเจิมจากพระจิต เราคือคนที่เปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาส ไม่ใช่เปลี่ยนความยากลำบากให้เป็นข้อแก้ตัว  อย่านินทาและขี้อิจฉาคนอื่น แทนที่สงฆ์และนักบวชจะยินดีกับความสำเร็จของคนอื่น เรากลับปล่อยให้ความอิจฉาครอบงำ ที่สุดแล้วเราจะออกอาวุธด้วยการนินทาและเหยียดหยามคุณค่าของคนอื่น  อย่าทำตัวเหมือนฟาโรห์ที่จ้องจะให้คนอื่นรับใช้ เพราะสงฆ์และนักบวชคือผู้รับใช้ประชากรของพระเจ้า  ส่วนการประจญอื่นๆ ที่ทรงให้ข้อคิดได้แก่ อย่าดำเนินชีวิตสงฆ์และนักบวชแบบเดินไปเรื่อยไร้จุดหมาย, อย่าทำนิสัยชอบเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น, อย่าให้การมองโลกแง่ร้ายชักจูง และอย่าใช้ชีวิตแบบสนใจตัวเองเท่านั้น ช่วงบ่ายวันเสาร์ที่ 29 เมษายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส เสด็จไปพบปะและเทศน์สอนบรรดาพระสงฆ์และนักบวชคาทอลิกในอียิปต์ โดยนี่เป็นพิธีการสุดท้ายของพระสันตะปาปาในการเยือ

โป๊ปฟรังซิส - พระเจ้าพอใจเฉพาะความเชื่อที่ถูกประกาศผ่านการดำเนินชีวิตของเราเท่านั้น

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงย้ำ พระเจ้าพอพระทัยเฉพาะความเชื่อที่ได้รับการประกาศผ่านการดำเนินชีวิตของเราเท่านั้น  ความหลงใหลที่พระเจ้าพอพระทัยคือความรักความเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ ความหลงใหลอย่างอื่นไม่เป็นเป็นที่พอพระทัยพระองค์  ทรงสอน จงอย่ากลัวที่จะรักทุกคน รวมถึงศัตรู เพราะพละกำลังและทรัพย์สมบัติของผู้เชื่อในพระเจ้าตั้งอยู่บนชีวิตแห่งความรักนั่นเอง ช่วงสายวันเสาร์ที่ 29 เมษายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาให้กับชาวคาทอลิกในอียิปต์กว่า 15,000 คน ภายในสนามกีฬา 30 มิถุนายน กรุงไคโร ประเทศอียิปต์ โดยนี่เป็นมิสซาเดียวในการเสด็จเยือนอียิปต์ด้วย พระวรสารประจำมิสซานี้เป็นเหตุการณ์ที่ศิษย์สองคนเดินไปหมู่บ้านเอ็มมาอุส และพระเยซูทรงเดินร่วมทางไปกับเขาด้วย แต่พวกเขาจำพระองค์ไม่ได้ พระสันตะปาปาทรงเทศน์แบ่งปันว่า - การได้พบกับพระเยซูผู้ทรงกลับคืนชีพได้แปรเปลี่ยนการดำเนินชีวิตของศิษย์สองคนนั้น เพราะการได้พบกับพระผู้ทรงกลับคืนชีพได้แปรเปลี่ยนทุกชีวิตและทำให้สิ่งที่ไม่เกิดผลได้บังเกิดผล ความเชื่อในการกลับคืนชีพไม่ใช่สินค้าของพระศาสนจักร แต่พระศาส

โป๊ปฟรังซิสลงนามร่วมกับโป๊ปทาวาดรอส คาทอลิกและค็อปติกตระหนักถึงศีลล้างบาปที่ได้รับว่าเป็นหนึ่งเดียวกัน

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ผู้นำสูงสุดแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรงลงนามในข้อตกลงร่วมกับ โป๊ป ทาวาดรอส ที่ 2 ผู้นำสูงสุดแห่งพระศาสนจักรค็อปติก ว่าด้วยจะไม่มีการโปรดศีลล้างบาปซ้ำให้กับชาวคาทอลิกหรือชาวค็อปติกที่เคยได้รับศีลล้างบาปในพระศาสนจักรของตน และต้องการจะเปลี่ยนไปเป็นสมาชิกของอีกพระศาสนจักรหนึ่ง เพราะอาศัยศีลล้างบาปแรกที่เคยได้รับในพระศาสนจักรคาทอลิกหรือค็อปติก พระจิตได้ทำให้เราร่วมเป็นหนึ่งเดียวกันในพระกายของพระเยซูอย่างสมบูรณ์แล้ว  ทรงย้ำ ผู้นำศาสนาต้องร่วมกันฉีกหน้ากากความรุนแรงที่ปลอมตัวเข้ามาในศาสนา แล้วอ้างผิดๆ ว่าทำเพื่อนามของพระเจ้า  ช่วงบ่ายวันศุกร์ที่ 27 เมษายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเริ่มพันธกิจแรกในการเยือนอียิปต์ด้วยการพบกับ อับเดล ฟาตาห์ เอล-ซิซี่ ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ จากนั้น พระองค์ทรงกล่าวคำปราศรัยต่อประธานาธิบดี รวมทั้งฝ่ายบริหารประเทศ ด้วยการรำลึกถึงเหตุก่อการร้ายที่กลุ่มไอเอสวางระเบิดสังหารระหว่างพิธีมิสซาอาทิตย์ใบลานของพระศาสนจักรค็อปติก ใจความสำคัญที่พระสันตะปาปาตรัส มีว่า "ข้าพเจ้าคัดค้

โป๊ปฟรังซิส - คริสตชนต้องเป็นประจักษ์พยานถึงการนบนอบเชื่อฟังพระเจ้า

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอน คริสตชนต้องเป็นประจักษ์พยานถึงการนบนอบเชื่อฟังพระเจ้า เหมือนที่พระเยซูนบนอบเชื่อฟังพระบิดา และเหมือนที่เปโตรกล่าวในสภาซันเฮดรินว่า "เราต้องเชื่อฟังพระเจ้ามากกว่ามนุษย์"  ทรงชี้ ผลลัพธ์ของการเชื่อฟังพระเจ้ามากกว่ามนุษย์คือการถูกใส่ร้ายและถูกเบียดเบียน แต่เราต้องอย่ากลัว เพราะพระจิตจะบอกเราเองว่า เราจะตอบพวกที่ใส่ร้ายและเบียดเบียนเราอย่างไร  ทรงย้ำ พระจิตจะประทานพระหรรษทานแห่งการเป็นประจักษ์พยานถึงการนบนอบเชื่อฟังพระเจ้าให้กับเรา จริงอยู่ที่เราอาจมีเครื่องยึดเหนี่ยวทางจิตใจให้เป็นประจักษ์พยาน แต่พระจิตเท่านั้นที่จะเปลี่ยนหัวใจของเราได้ ช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ 27 เมษายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา บทอ่านวันนี้จากหนังสือกิจการอัครสาวก เป็นเหตุการณ์ที่ชาวยิวนำบรรดาอัครสาวกมายังสภาซันเฮดริน ก่อนที่มหาสมณะจะกล่าวห้ามไม่ให้พวกอัครสาวกประกาศคำสอนของพระเยซู" แต่เปโตรและบรรดาอัครสาวกตอบว่า "ท่านต้องเชื่อฟังพระเจ้ามากกว่ามนุษย์" ทำให้ทุกคนในสภาซันเฮดรินโกรธจัดและหาท

โป๊ปฟรังซิส - ถ้าประกาศพระวรสารแล้วไม่ถูกเบียดเบียน แสดงว่าเรากำลังประกาศเรื่องไร้ค่า

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงย้ำ ถ้าเราประกาศพระวรสารแล้วไม่ถูกเบียดเบียนหรือถูกมารผจญ แสดงว่าเรากำลังประกาศเรื่องไร้สาระอยู่นั่นเอง เพราะถ้าเราประกาศพระวรสารเที่ยงแท้ ปีศาจจะหวาดวิตกและหาทางประจญเราเสมอ  ทรงสอน พระวรสารต้องได้รับการประกาศด้วยความสุภาพถ่อมตน เพราะพระเยซูทรงความสุภาพอยู่แล้ว อย่าประกาศพระวรสารด้วยการไขว่คว้าหาความก้าวหน้า เช่นเดียวกัน อย่าประกาศพระวรสารแบบงานคาร์นิวัลหรือปาร์ตี้เด็ดขาด  ทรงชี้ ผู้ประกาศพระวรสารที่เที่ยงแท้ ต้องก้าวออกจากตัวเองไปยังที่ซึ่งพระเยซูถูกเบียดเบียน ถ้าผู้ประกาศพระวรสารเรียกร้องหา "การทำประกันชีวิต" เวลาถูกส่งไปประกาศพระวรสารในที่อันตราย เขาก็ไม่ใช่ผู้ประกาศพระวรสารที่แท้จริง เพราะเขาเลือกอยู่แต่ในที่ปลอดภัย ช่วงเช้าวันอังคารที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา วันนี้เป็นวันฉลองนักบุญมาร์โก ผู้นิพนธ์พระวรสาร และยังเป็นผู้ก่อตั้งพระศาสนจักรที่อเล็กซานเดรีย ประเทศอียิปต์ ท่านจึงเป็นองค์อุปถัมภ์ของพระศาสนจักรค็อปติก พระสันตะปาปาจึงเริ่มต้นมิสซานี้ ด้วยการ

โป๊ปฟรังซิส - บางครั้งพระศาสนจักรก็ติดกับดักที่ว่า ทำแบบนั้นได้ ทำแบบนี้ไม่ได้

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงชี้ บางครั้งพระศาสนจักรติดกับดักเทวศาสตร์ที่ทำให้เราคิดว่า "คุณทำแบบนี้ได้ แต่ทำแบบนั้นไม่ได้นะ" กับดักนี้ทำให้เราหลงลืมพลังและอิสรภาพของพระจิตที่พระเจ้าประทานให้เรา  ทรงย้ำ คนที่ได้รับพระจิตจะเป็นคนตรงไปตรงมาในการประกาศพระนามพระเยซู ไม่มีการหยวนๆ ให้สิ่งที่ขัดกับความเชื่อ แม้ต้องแลกด้วยชีวิตดุจมรณสักขีก็ตาม ช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 24 เมษายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา พระวรสารวันนี้ พระเยซูตรัสกับนิโคเดมัสว่า "สิ่งใดที่เกิดจากพระจิตย่อมเป็นจิต" ส่วนบทอ่านประจำมิสซานี้จากหนังสือกิจการอัครสาวก เป็นเหตุการณ์ที่เปโตรและจอห์นถูกปลดปล่อยจากการถูกคุมขังและไปพบบรรดาศิษย์คนอื่น พวกเขาภาวนาจบ แผ่นดินก็สั่นสะเทือนและทุกคนได้รับพระจิต เพื่อเริ่มประกาศพระวาจาด้วยความกล้าหาญ พระสันตะปาปาทรงเทศน์แบ่งปันว่า - เพื่อจะได้เข้าใจทุกอย่างได้ดีขึ้น พวกเราจะโฟกัสไปที่บทอ่านแรกกันก่อน เปโตรและจอห์นรักษาคนพิการ แต่พวกธรรมาจารย์ไม่รู้ว่าจะจัดการอย่างไร ไม่รู้ที่จะปกปิดเรื่องที่เกิดได้อย่างไ

โป๊ปฟรังซิส - ความเมตตาทำให้ความรุนแรง ความแค้น และการแก้แค้น เป็นเรื่องไร้ค่า

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงแบ่งปัน ความเมตตาทำให้เราตระหนักว่า ความรุนแรง ความเคียดแค้น และการแก้แค้น เป็นเรื่องไร้ค่า ความเมตตาจะทำให้เราใกล้ชิดกับคนที่อยู่อย่างโดดเดี่ยวและเป็นส่วนเกินของสังคม  ทรงสอน ความเมตตาคือทุกคนที่อุทิศตนให้กับการเป็นเครื่องมือแห่งความยุติธรรม การคืนดี และสันติภาพ  สำคัญสุด เราต้องอย่าลืมความเมตตาว่าเป็นหลักสำคัญในชีวิตความเชื่อ ช่วงเที่ยงวันอาทิตย์ที่ 23 เมษายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงออกมานำสวดราชินีแห่งสวรรค์ ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน วันนี้เป็นวันอาทิตย์สัปดาห์ที่สองในเทศกาลปาสกาและเป็นวันฉลองพระเมตตาที่สมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 ทรงกำหนดขึ้นด้วย สำหรับการแบ่งปันพระวรสารวันนี้ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่พระเยซูเสด็จเข้ามาหาบรรดาศิษย์ พร้อมกล่าวกับพวกเขาว่า "จงรับพระจิตเจ้าเถิด ... ท่านทั้งหลายอภัยบาปของผู้ใด บาปของผู้นั้นก็ได้รับการอภัย" พระสันตะปาปาตรัสแบ่งปันว่า - ความรู้สึกถึงความเมตตา การอภัยโทษบาป ได้เกิดขึ้นในวันที่พระเยซูเสด็จกลับคืนชีพ พระเยซูผู้ทรงกลับคืนชีพทรงส่งพระศาสนจักรของพระอง

โป๊ปฟรังซิส - ถ้าประเทศชาติต้องการฮีโร่ พระศาสนจักรคาทอลิกก็ต้องการมรณสักขีและประจักษ์พยาน

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงย้ำ ถ้าประเทศชาติต้องการฮีโร่ พระศาสนจักรคาทอลิกก็ต้องการมรณสักขีและประจักษ์พยานถึงพระเจ้า  ทรงชี้ พระศาสนจักรต้องการคนกล้าที่จะยอมรับพระหรรษทานแห่งการเป็นประจักษ์พยานจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต  ช่วงบ่ายวันเสาร์ที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในการภาวนารำลึกถึงมรณสักขีในโลกยุคนี้ ภายในมหาวิหารนักบุญบาร์โธโลมิว ใกล้แม่น้ำเตเวเร (ไทเบอร์) กรุงโรม พิธีนี้ พระสันตะปาปาทรงใช้สตอลาของ "คุณพ่อรากีด อาซิส" สงฆ์คาทอลิกชาวอิรักที่ถูกฆ่ายตายในเมืองโมซุลปี 2007 นอกจากนี้ "โรเซลีน อาเมล" น้องสาวของ "คุณพ่อฌักส์ อาเมล" สงฆ์คาทอลิกชาวฝรั่งเศสที่ถูกผู้ก่อการร้ายจากกลุ่มไอเอส ฆ่าปาดคอระหว่างถวายมิสซาในสังฆมณฑลรวง ประเทศฝรั่งเศส ก็มาร่วมพิธีด้วย พิธีนี้ เริ่มด้วยการแบ่งปันประสบการณ์จากญาติพี่น้องของบรรดามรณสักขีที่ถูกฆ่าตายในยุคนี้ จากนั้น พระสันตะปาปาทรงเทศน์สอน ใจความว่า - ทุกวันนี้ กลุ่มคริสตชนหลายแห่งถูกเบียดเบียน เพียงเพราะพวกเขาเป็นศิษย์ของพระเยซู สิ่งนี้เกิดจากความเกลียดชังจากจิตตารมณ์ทาง

เป็นทางการ! สถาปนา บุญราศีฟรานซิสโก้และยาชินทา เป็นนักบุญวันที่ 13 พฤษภาคม 2017

Image
วาติกันประกาศอย่างเป็นทางการ สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส จะถวายมิสซาสถาปนา "บุญราศีฟรานซิสโก้ และ บุญราศียาชินทา" เป็น "นักบุญ" ในวันเสาร์ที่ 13 พฤษภาคม 2017 ระหว่างที่พระองค์เสด็จเยือนฟาติมา ประเทศโปรตุเกส เพื่อร่วมฉลองแม่พระประจักษ์ที่ฟาติมา ครบ 100 ปี การประกาศนี้ มีขึ้นเช้าวันนี้ (20 เมษายน) ภายหลังคณะพระคาร์ดินัลได้ลงมติเห็นชอบและกำหนดวันร่วมกับพระสันตะปาปา ทั้งนี้ "ฟรานซิสโก้ และ ยาชินทา" ได้รับการสถาปนาเป็นบุญราศี โดยสมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม ค.ศ.2000 ครั้งนั้น สมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 ก็เสด็จเยือนฟาติมาเช่นกัน