Posts

Showing posts from April, 2017

สัมภาษณ์โป๊ปบนเครื่องบิน - อเมริกา เกาหลีเหนือ และชาติเกี่ยวข้องต้องเจรจาสันติภาพโดยด่วน

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงขอร้องอเมริกา เกาหลีเหนือ และนานาชาติ หาทางเจรจาแก้ปัญหาความขัดแย้งในคาบสมุทรเกาหลีโดยเร็ว พร้อมแนะ นอร์เวย์ เป็นอีกประเทศที่พร้อมเป็นคนกลางช่วยเจรจา ส่วนสหประชาชาติต้องเข้ามามีบทบาทมากกว่านี้ เพราะตอนนี้มีบทบาทน้อยมาก  ทรงเผย โดนัลด์ ทรัมพ์ ไม่เคยยื่นเรื่องขอเข้าพบ ถ้ายื่นเรื่องมา พระองค์ยินดีเจอแน่นอนเหมือนที่ปฎิบัติกับผู้นำประเทศอื่นๆ  ทรงยืนยัน ไม่ใส่ใจคำพูดที่ว่า "พร ะสันตะปาปาเข้าข้างรัฐบาลนั้นหรือรัฐบาลนี้" เพราะสิ่งที่ใส่ใจมากกว่าคือรัฐบาลนั้นๆ ชี้นำค่านิยมที่ดีต่อประชาชนหรือไม่  ทรงชี้ มันไม่มีงานคริสตศาสนสัมพันธ์ที่หยุดนิ่งอยู่กับที่ หน้าที่ของนักเทวศาสตร์คือศึกษากันต่อไป แต่มันไม่สามารถหาข้อสรุปแบบดีกับทุกฝ่ายได้หรอก ถ้าพวกเราประชากรของพระเจ้าไม่ก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงให้สัมภาษณ์บรรดานักข่าวสายวาติกันที่ตามเสด็จไปทำข่าวการเยือนอียิปต์ ระหว่างเที่ยวบินกลับจากกรุงไคโรไปยังกรุงโรม รายละเอียดของการสัมภาษณ์มีดังต่อไปนี้ นักข่าว: พระสันตะปาปาครับ พระดำรัสแรกที่พระองค์ตรัสที่อัลอัซฮัร พร

โป๊ปฟรังซิส - สงฆ์และนักบวชอย่าเอาแต่บ่น อย่าเปลี่ยนความยากลำบากมาเป็นข้อแก้ตัว

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเตือนสงฆ์และนักบวชคาทอลิกอียิปต์เกี่ยวกับการประจญ 7 แบบ  อย่าเอาแต่บ่นคนอื่นอย่างเดียว อาทิ บ่นข้อเสียอธิการเจ้าคณะ สงฆ์และนักบวชที่บ่นอย่างเดียวคือคนที่ไม่อยากทำงาน สงฆ์และนักบวชคาทอลิกคือคนที่ได้รับการเจิมจากพระจิต เราคือคนที่เปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาส ไม่ใช่เปลี่ยนความยากลำบากให้เป็นข้อแก้ตัว  อย่านินทาและขี้อิจฉาคนอื่น แทนที่สงฆ์และนักบวชจะยินดีกับความสำเร็จของคนอื่น เรากลับปล่อยให้ความอิจฉาครอบงำ ที่สุดแล้วเราจะออกอาวุธด้วยการนินทาและเหยียดหยามคุณค่าของคนอื่น  อย่าทำตัวเหมือนฟาโรห์ที่จ้องจะให้คนอื่นรับใช้ เพราะสงฆ์และนักบวชคือผู้รับใช้ประชากรของพระเจ้า  ส่วนการประจญอื่นๆ ที่ทรงให้ข้อคิดได้แก่ อย่าดำเนินชีวิตสงฆ์และนักบวชแบบเดินไปเรื่อยไร้จุดหมาย, อย่าทำนิสัยชอบเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น, อย่าให้การมองโลกแง่ร้ายชักจูง และอย่าใช้ชีวิตแบบสนใจตัวเองเท่านั้น ช่วงบ่ายวันเสาร์ที่ 29 เมษายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส เสด็จไปพบปะและเทศน์สอนบรรดาพระสงฆ์และนักบวชคาทอลิกในอียิปต์ โดยนี่เป็นพิธีการสุดท้ายของพระสันตะปาปาในการเยือ

โป๊ปฟรังซิส - พระเจ้าพอใจเฉพาะความเชื่อที่ถูกประกาศผ่านการดำเนินชีวิตของเราเท่านั้น

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงย้ำ พระเจ้าพอพระทัยเฉพาะความเชื่อที่ได้รับการประกาศผ่านการดำเนินชีวิตของเราเท่านั้น  ความหลงใหลที่พระเจ้าพอพระทัยคือความรักความเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ ความหลงใหลอย่างอื่นไม่เป็นเป็นที่พอพระทัยพระองค์  ทรงสอน จงอย่ากลัวที่จะรักทุกคน รวมถึงศัตรู เพราะพละกำลังและทรัพย์สมบัติของผู้เชื่อในพระเจ้าตั้งอยู่บนชีวิตแห่งความรักนั่นเอง ช่วงสายวันเสาร์ที่ 29 เมษายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาให้กับชาวคาทอลิกในอียิปต์กว่า 15,000 คน ภายในสนามกีฬา 30 มิถุนายน กรุงไคโร ประเทศอียิปต์ โดยนี่เป็นมิสซาเดียวในการเสด็จเยือนอียิปต์ด้วย พระวรสารประจำมิสซานี้เป็นเหตุการณ์ที่ศิษย์สองคนเดินไปหมู่บ้านเอ็มมาอุส และพระเยซูทรงเดินร่วมทางไปกับเขาด้วย แต่พวกเขาจำพระองค์ไม่ได้ พระสันตะปาปาทรงเทศน์แบ่งปันว่า - การได้พบกับพระเยซูผู้ทรงกลับคืนชีพได้แปรเปลี่ยนการดำเนินชีวิตของศิษย์สองคนนั้น เพราะการได้พบกับพระผู้ทรงกลับคืนชีพได้แปรเปลี่ยนทุกชีวิตและทำให้สิ่งที่ไม่เกิดผลได้บังเกิดผล ความเชื่อในการกลับคืนชีพไม่ใช่สินค้าของพระศาสนจักร แต่พระศาส

โป๊ปฟรังซิสลงนามร่วมกับโป๊ปทาวาดรอส คาทอลิกและค็อปติกตระหนักถึงศีลล้างบาปที่ได้รับว่าเป็นหนึ่งเดียวกัน

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ผู้นำสูงสุดแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรงลงนามในข้อตกลงร่วมกับ โป๊ป ทาวาดรอส ที่ 2 ผู้นำสูงสุดแห่งพระศาสนจักรค็อปติก ว่าด้วยจะไม่มีการโปรดศีลล้างบาปซ้ำให้กับชาวคาทอลิกหรือชาวค็อปติกที่เคยได้รับศีลล้างบาปในพระศาสนจักรของตน และต้องการจะเปลี่ยนไปเป็นสมาชิกของอีกพระศาสนจักรหนึ่ง เพราะอาศัยศีลล้างบาปแรกที่เคยได้รับในพระศาสนจักรคาทอลิกหรือค็อปติก พระจิตได้ทำให้เราร่วมเป็นหนึ่งเดียวกันในพระกายของพระเยซูอย่างสมบูรณ์แล้ว  ทรงย้ำ ผู้นำศาสนาต้องร่วมกันฉีกหน้ากากความรุนแรงที่ปลอมตัวเข้ามาในศาสนา แล้วอ้างผิดๆ ว่าทำเพื่อนามของพระเจ้า  ช่วงบ่ายวันศุกร์ที่ 27 เมษายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเริ่มพันธกิจแรกในการเยือนอียิปต์ด้วยการพบกับ อับเดล ฟาตาห์ เอล-ซิซี่ ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ จากนั้น พระองค์ทรงกล่าวคำปราศรัยต่อประธานาธิบดี รวมทั้งฝ่ายบริหารประเทศ ด้วยการรำลึกถึงเหตุก่อการร้ายที่กลุ่มไอเอสวางระเบิดสังหารระหว่างพิธีมิสซาอาทิตย์ใบลานของพระศาสนจักรค็อปติก ใจความสำคัญที่พระสันตะปาปาตรัส มีว่า "ข้าพเจ้าคัดค้

โป๊ปฟรังซิส - คริสตชนต้องเป็นประจักษ์พยานถึงการนบนอบเชื่อฟังพระเจ้า

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอน คริสตชนต้องเป็นประจักษ์พยานถึงการนบนอบเชื่อฟังพระเจ้า เหมือนที่พระเยซูนบนอบเชื่อฟังพระบิดา และเหมือนที่เปโตรกล่าวในสภาซันเฮดรินว่า "เราต้องเชื่อฟังพระเจ้ามากกว่ามนุษย์"  ทรงชี้ ผลลัพธ์ของการเชื่อฟังพระเจ้ามากกว่ามนุษย์คือการถูกใส่ร้ายและถูกเบียดเบียน แต่เราต้องอย่ากลัว เพราะพระจิตจะบอกเราเองว่า เราจะตอบพวกที่ใส่ร้ายและเบียดเบียนเราอย่างไร  ทรงย้ำ พระจิตจะประทานพระหรรษทานแห่งการเป็นประจักษ์พยานถึงการนบนอบเชื่อฟังพระเจ้าให้กับเรา จริงอยู่ที่เราอาจมีเครื่องยึดเหนี่ยวทางจิตใจให้เป็นประจักษ์พยาน แต่พระจิตเท่านั้นที่จะเปลี่ยนหัวใจของเราได้ ช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ 27 เมษายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา บทอ่านวันนี้จากหนังสือกิจการอัครสาวก เป็นเหตุการณ์ที่ชาวยิวนำบรรดาอัครสาวกมายังสภาซันเฮดริน ก่อนที่มหาสมณะจะกล่าวห้ามไม่ให้พวกอัครสาวกประกาศคำสอนของพระเยซู" แต่เปโตรและบรรดาอัครสาวกตอบว่า "ท่านต้องเชื่อฟังพระเจ้ามากกว่ามนุษย์" ทำให้ทุกคนในสภาซันเฮดรินโกรธจัดและหาท

โป๊ปฟรังซิส - ถ้าประกาศพระวรสารแล้วไม่ถูกเบียดเบียน แสดงว่าเรากำลังประกาศเรื่องไร้ค่า

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงย้ำ ถ้าเราประกาศพระวรสารแล้วไม่ถูกเบียดเบียนหรือถูกมารผจญ แสดงว่าเรากำลังประกาศเรื่องไร้สาระอยู่นั่นเอง เพราะถ้าเราประกาศพระวรสารเที่ยงแท้ ปีศาจจะหวาดวิตกและหาทางประจญเราเสมอ  ทรงสอน พระวรสารต้องได้รับการประกาศด้วยความสุภาพถ่อมตน เพราะพระเยซูทรงความสุภาพอยู่แล้ว อย่าประกาศพระวรสารด้วยการไขว่คว้าหาความก้าวหน้า เช่นเดียวกัน อย่าประกาศพระวรสารแบบงานคาร์นิวัลหรือปาร์ตี้เด็ดขาด  ทรงชี้ ผู้ประกาศพระวรสารที่เที่ยงแท้ ต้องก้าวออกจากตัวเองไปยังที่ซึ่งพระเยซูถูกเบียดเบียน ถ้าผู้ประกาศพระวรสารเรียกร้องหา "การทำประกันชีวิต" เวลาถูกส่งไปประกาศพระวรสารในที่อันตราย เขาก็ไม่ใช่ผู้ประกาศพระวรสารที่แท้จริง เพราะเขาเลือกอยู่แต่ในที่ปลอดภัย ช่วงเช้าวันอังคารที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา วันนี้เป็นวันฉลองนักบุญมาร์โก ผู้นิพนธ์พระวรสาร และยังเป็นผู้ก่อตั้งพระศาสนจักรที่อเล็กซานเดรีย ประเทศอียิปต์ ท่านจึงเป็นองค์อุปถัมภ์ของพระศาสนจักรค็อปติก พระสันตะปาปาจึงเริ่มต้นมิสซานี้ ด้วยการ

โป๊ปฟรังซิส - บางครั้งพระศาสนจักรก็ติดกับดักที่ว่า ทำแบบนั้นได้ ทำแบบนี้ไม่ได้

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงชี้ บางครั้งพระศาสนจักรติดกับดักเทวศาสตร์ที่ทำให้เราคิดว่า "คุณทำแบบนี้ได้ แต่ทำแบบนั้นไม่ได้นะ" กับดักนี้ทำให้เราหลงลืมพลังและอิสรภาพของพระจิตที่พระเจ้าประทานให้เรา  ทรงย้ำ คนที่ได้รับพระจิตจะเป็นคนตรงไปตรงมาในการประกาศพระนามพระเยซู ไม่มีการหยวนๆ ให้สิ่งที่ขัดกับความเชื่อ แม้ต้องแลกด้วยชีวิตดุจมรณสักขีก็ตาม ช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 24 เมษายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา พระวรสารวันนี้ พระเยซูตรัสกับนิโคเดมัสว่า "สิ่งใดที่เกิดจากพระจิตย่อมเป็นจิต" ส่วนบทอ่านประจำมิสซานี้จากหนังสือกิจการอัครสาวก เป็นเหตุการณ์ที่เปโตรและจอห์นถูกปลดปล่อยจากการถูกคุมขังและไปพบบรรดาศิษย์คนอื่น พวกเขาภาวนาจบ แผ่นดินก็สั่นสะเทือนและทุกคนได้รับพระจิต เพื่อเริ่มประกาศพระวาจาด้วยความกล้าหาญ พระสันตะปาปาทรงเทศน์แบ่งปันว่า - เพื่อจะได้เข้าใจทุกอย่างได้ดีขึ้น พวกเราจะโฟกัสไปที่บทอ่านแรกกันก่อน เปโตรและจอห์นรักษาคนพิการ แต่พวกธรรมาจารย์ไม่รู้ว่าจะจัดการอย่างไร ไม่รู้ที่จะปกปิดเรื่องที่เกิดได้อย่างไ

โป๊ปฟรังซิส - ความเมตตาทำให้ความรุนแรง ความแค้น และการแก้แค้น เป็นเรื่องไร้ค่า

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงแบ่งปัน ความเมตตาทำให้เราตระหนักว่า ความรุนแรง ความเคียดแค้น และการแก้แค้น เป็นเรื่องไร้ค่า ความเมตตาจะทำให้เราใกล้ชิดกับคนที่อยู่อย่างโดดเดี่ยวและเป็นส่วนเกินของสังคม  ทรงสอน ความเมตตาคือทุกคนที่อุทิศตนให้กับการเป็นเครื่องมือแห่งความยุติธรรม การคืนดี และสันติภาพ  สำคัญสุด เราต้องอย่าลืมความเมตตาว่าเป็นหลักสำคัญในชีวิตความเชื่อ ช่วงเที่ยงวันอาทิตย์ที่ 23 เมษายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงออกมานำสวดราชินีแห่งสวรรค์ ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน วันนี้เป็นวันอาทิตย์สัปดาห์ที่สองในเทศกาลปาสกาและเป็นวันฉลองพระเมตตาที่สมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 ทรงกำหนดขึ้นด้วย สำหรับการแบ่งปันพระวรสารวันนี้ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่พระเยซูเสด็จเข้ามาหาบรรดาศิษย์ พร้อมกล่าวกับพวกเขาว่า "จงรับพระจิตเจ้าเถิด ... ท่านทั้งหลายอภัยบาปของผู้ใด บาปของผู้นั้นก็ได้รับการอภัย" พระสันตะปาปาตรัสแบ่งปันว่า - ความรู้สึกถึงความเมตตา การอภัยโทษบาป ได้เกิดขึ้นในวันที่พระเยซูเสด็จกลับคืนชีพ พระเยซูผู้ทรงกลับคืนชีพทรงส่งพระศาสนจักรของพระอง

โป๊ปฟรังซิส - ถ้าประเทศชาติต้องการฮีโร่ พระศาสนจักรคาทอลิกก็ต้องการมรณสักขีและประจักษ์พยาน

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงย้ำ ถ้าประเทศชาติต้องการฮีโร่ พระศาสนจักรคาทอลิกก็ต้องการมรณสักขีและประจักษ์พยานถึงพระเจ้า  ทรงชี้ พระศาสนจักรต้องการคนกล้าที่จะยอมรับพระหรรษทานแห่งการเป็นประจักษ์พยานจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต  ช่วงบ่ายวันเสาร์ที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในการภาวนารำลึกถึงมรณสักขีในโลกยุคนี้ ภายในมหาวิหารนักบุญบาร์โธโลมิว ใกล้แม่น้ำเตเวเร (ไทเบอร์) กรุงโรม พิธีนี้ พระสันตะปาปาทรงใช้สตอลาของ "คุณพ่อรากีด อาซิส" สงฆ์คาทอลิกชาวอิรักที่ถูกฆ่ายตายในเมืองโมซุลปี 2007 นอกจากนี้ "โรเซลีน อาเมล" น้องสาวของ "คุณพ่อฌักส์ อาเมล" สงฆ์คาทอลิกชาวฝรั่งเศสที่ถูกผู้ก่อการร้ายจากกลุ่มไอเอส ฆ่าปาดคอระหว่างถวายมิสซาในสังฆมณฑลรวง ประเทศฝรั่งเศส ก็มาร่วมพิธีด้วย พิธีนี้ เริ่มด้วยการแบ่งปันประสบการณ์จากญาติพี่น้องของบรรดามรณสักขีที่ถูกฆ่าตายในยุคนี้ จากนั้น พระสันตะปาปาทรงเทศน์สอน ใจความว่า - ทุกวันนี้ กลุ่มคริสตชนหลายแห่งถูกเบียดเบียน เพียงเพราะพวกเขาเป็นศิษย์ของพระเยซู สิ่งนี้เกิดจากความเกลียดชังจากจิตตารมณ์ทาง

เป็นทางการ! สถาปนา บุญราศีฟรานซิสโก้และยาชินทา เป็นนักบุญวันที่ 13 พฤษภาคม 2017

Image
วาติกันประกาศอย่างเป็นทางการ สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส จะถวายมิสซาสถาปนา "บุญราศีฟรานซิสโก้ และ บุญราศียาชินทา" เป็น "นักบุญ" ในวันเสาร์ที่ 13 พฤษภาคม 2017 ระหว่างที่พระองค์เสด็จเยือนฟาติมา ประเทศโปรตุเกส เพื่อร่วมฉลองแม่พระประจักษ์ที่ฟาติมา ครบ 100 ปี การประกาศนี้ มีขึ้นเช้าวันนี้ (20 เมษายน) ภายหลังคณะพระคาร์ดินัลได้ลงมติเห็นชอบและกำหนดวันร่วมกับพระสันตะปาปา ทั้งนี้ "ฟรานซิสโก้ และ ยาชินทา" ได้รับการสถาปนาเป็นบุญราศี โดยสมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม ค.ศ.2000 ครั้งนั้น สมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 ก็เสด็จเยือนฟาติมาเช่นกัน

โป๊ปฟรังซิส - ความเชื่อของคริสตชนเริ่มที่การเชื่อว่าพระเยซูทรงกลับคืนชีพจากความตาย

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอน ความเชื่อของคริสตชนเริ่มต้นในวันอาทิตย์ปาสกา มันเริ่มด้วยการเชื่อว่าพระเยซูทรงกลับคืนชีพจากความตาย  ทรงย้ำ การยอมรับว่าพระคริสตเจ้าได้สิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนไม่ใช่ความเชื่อ แต่การเชื่อว่าพระองค์ทรงกลับคืนชีพจากความตายต่างหากที่เป็นความเชื่อ ช่วงสายวันพุธที่ 19 เมษายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงออกมาสอนคำสอนในการเข้าเฝ้าทั่วไป ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน วันนี้ หัวข้อการสอนคำสอนเป็นเรื่องเกี่ยวกับความหวังตามแบบคริสตชนต่อการเสด็จกลับคืนชีพของพระเยซู พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า - ศาสนาคริสต์ไม่ใช่เรื่องในอุดมคติหรือระบบปรัชญา แต่ศาสนาคริสต์เป็นหนทางของความเชื่อที่เริ่มจากเหตุการณ์การเสด็จกลับคืนชีพของพระเยซู - พึงระลึกเสมอว่า ความเชื่อของคริสตชนเริ่มต้นในวันที่พระเยซูเสด็จกลับคืนชีพจากความตาย การยอมรับว่าพระคริสตเจ้าได้สิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนไม่ใช่ความเชื่อ แต่การเชื่อว่าพระองค์ทรงกลับคืนชีพจากความตายต่างหากที่เป็นความเชื่อ ความเชื่อของคริสตชนเริ่มต้นในวันอาทิตย์ปาสกา - นักบุญเปาโล ผู้ซึ่งครั้งหนึ่งได้เบียดเบียนพระศาสนจ

โป๊ปฟรังซิสยก คาร์ดินัลคาซาโรลี่ เป็นแบบอย่างให้พระองค์ไปเยี่ยมผู้ต้องขัง

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเผย บุคคลต้นแบบทำให้พระองค์ชอบไปเยี่ยมผู้ต้องขังคือ "พระคาร์ดินัล อกอสติโน่ คาซาโรลี่" อดีตเลขาธิการนครรัฐวาติกันในยุคของสมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2  สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงให้สัมภาษณ์กับ "ลา เรปุบบลีก้า" หนังสือพิมพ์อิตาลี ต่อคำถามที่ว่า พระองค์ได้แรงบันดาลใจและแบบอย่างในการไปเรือนจำเพื่อเยี่ยมผู้ต้องขังจากใคร ซึ่งคำตอบที่พระองค์เฉลยคือจากอดีตเลขาธิการนครรัฐวาติกันในยุคของสมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 นั่นเอง พระสันตะปาปา ฟรังซิส ตรัสว่า "พ่อเรียนรู้เรื่องนี้จากแบบอย่างของ พระคาร์ดินัล อกอสติโน่ คาซาโรลี่ (อดีตเลขาธิการนครรัฐวาติกันระหว่าง ค.ศ.1979-1990) ทุกเย็นวันเสาร์ ท่านจะหายตัวไปเสมอ หลายคนบอกว่า ท่านพักผ่อน แต่ท่านไปที่สถานพินิจ (เรือนจำเยาวชน) ต่างหาก ท่านถือกระเป๋าและนั่งรถเมล์ไปเรือนจำ และจะไปโปรดศีลอภัยบาปให้กับเยาวชน พร้อมเล่นกับพวกเขา เยาวชนเหล่านั้นเรียกท่านว่า คุณพ่ออกอสติโน่ แต่ไม่มีใครรู้หรอกว่าจริงๆแล้ว ท่านเป็นใคร "พระคาร์ดินัลคาซาโรลี่ไปเยี่ยมเยาวชนในเรือนจำก่อนที่ท่านจะเป็นพร

โป๊ปฟรังซิส - แม้เราเป็นศิลาที่ถูกทิ้งขว้าง แต่พระเจ้าไม่ทอดทิ้งเราแน่นอน

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงร้องขอคริสตชนมีความหวังในการดำเนินชีวิต แม้วันนี้เราจะเป็นศิลาที่ถูกทิ้งขว้าง ต้องทนทุกข์มากมาย แต่พระเจ้าทรงมีเป้าหมายให้เราที่เป็นก้อนกรวดเล็กๆ ว่าเราไม่ถูกทอดทิ้งและไม่สูญเปล่าแน่นอน เฉกเช่นพระเยซูผู้ทรงถูกปฎิเสธและต้องรับความตาย แต่สุดท้าย ศิลาที่ถูกทิ้งขว้างนี้แหละคือบ่อเกิดของชีวิต  ทรงแบ่งปัน วันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์ พระองค์โทรศัพท์ไปให้กำลังใจเยาวชนที่เป็นวิศวกรซึ่งกำลังป่วยหนัก และบอกเขาว่า เป็นเรื่องยากจะอธิบาย ทำไมพระบิดาให้พระบุตรต้องทนทุกข์ด้วยวิธีนี้ แต่เยาวชนคนนั้นตอบมาว่า "พระบุตรยินดีทำตามพระประสงค์ของพระบิดา แต่สำหรับเขาแล้ว พระเจ้าไม่เคยถามความสมัครใจว่า เขายินดีรับความเจ็บป่วยนี้ไหม"  ทรงอวยพรแด่โรมและโลก และวอนขอสันติภาพในซีเรีย ยูเครน และหลายพื้นที่ในทวีปแอฟริกาและอเมริกาใต้ ช่วงสายวันอาทิตย์ที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาสมโภชปาสกา จากนั้น ทรงอวยพร "แด่โรมและโลก" โอกาสปาสกา ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน มิสซานี้ มีผู้มาร่วมกว่า 90,000 คน ส่วนด

โป๊ปฟรังซิสโปรดศีลล้างบาปให้คาทอลิกใหม่ 11 คนคืนวันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาวันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์ พร้อมล้างบาปให้คาทอลิกใหม่ 11 คน  ทรงสอน การกลับคืนชีพของพระเยซูได้นำความหวังมามอบให้เราทุกคน เฉพาะอย่างยิ่ง คนที่เผชิญหน้ากับความอยุติธรรมทั้งหลาย ทรงชี้ ใบหน้าของมารีอา มักดาเลนา และมารีอาอีกคนหนึ่งที่ไปคูหาฝังศพพระเยซู เปรียบเหมือนใบหน้าของสตรีและคนเป็นแม่ที่ลูกของตนต้องเจอกับการกดขี่ข่มเหงอย่างโหดร้าย  ช่วงค่ำวันเสาร์ที่ 15 เมษายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในพิธีตื่นเฝ้าปาสกา เสกน้ำ เสกไฟ และโปรดศีลล้างบาปให้คาทอลิกใหม่ 11 คน ที่มาจากสเปน, สาธารณรัฐเช็ก, อิตาลี, อเมริกา, อัลบาเนีย, มอลตา, มาเลเซีย และจีน โดยคาทอลิกใหม่ที่อายุน้อยสุดคือ 9 ขวบ และอายุมากสุดคือ 50 ปี พิธีนี้จัดในมหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน มิสซานี้ พระสันตะปาปาทรงเทศน์สอนว่า - พ่ออยากเชิญชวนเราให้คิดถึงตอนที่ มารีอา มักดาเลนา และมารีอาอีกคนหนึ่งกำลังไปที่คูหาฝังศพของพระเยซู พวกเธอเดินไปที่นั่นเหมือนคนที่กำลังเดินไปหลุมศพในสภาพที่เศร้าหมองและอ่อนแรง พวกเราสามารถนึกภาพหน้าของพวกเธอได้เลยว่าเศร้าเพีย

โป๊ปฟรังซิสเป็นประธานในพิธีเดินรูป 14 ภาค ณ โคลอสเซโอ

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในพิธีเดินรูป 14 ภาค ณ โคลอสเซโอ กรุงโรม ประเทศอิตาลี โอกาสนี้ พระสันตะปาปาตรัสแบ่งปันว่า "เป็นเรื่องน่าละอายที่เราเลือกจะเงียบเฉยต่อความอยุติธรรมทั้งหลายที่ปรากฎ เช่นเดียวกัน เป็นเรื่องน่าละอายสำหรับช่วงเวลาที่พวกเราบรรดาพระสังฆราช พระสงฆ์ และนักบวชชายหญิงได้สร้างความเสื่อมเสียและสร้างบาดแผลให้กับพระกายของพระคริสตเจ้าซึ่งก็คือพระศาสนจักร"/ Photo: Getty Images

โป๊ปฟรังซิสเป็นประธานในพิธีนมัสการไม้กางเขนที่วาติกัน

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในพิธีนมัสการไม้กางเขน ภายในมหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน Photo: Álvaro de Juana of ACI Prensa, Getty Images