Posts

Showing posts from March, 2017

โป๊ปฟรังซิส - หัวใจของมนุษย์มีความไม่ซื่อสัตย์อยู่เสมอ สิ่งนี้ทำให้พระเจ้าผิดหวัง

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอน หัวใจของมนุษย์มีความไม่ซื่อสัตย์อยู่เสมอ นี่จึงทำให้พระเจ้าทรงผิดหวังและร้องไห้ อย่างไรก็ตาม พระเจ้าทรงมีหัวใจที่อ่อนโยน พร้อมให้อภัยและเฝ้ารอการกลับมาของเรา เหมือนอย่างอุปมาเรื่องบิดาที่ยังเฝ้ารอการกลับมาของลูกล้างผลาญอยู่เสมอ  ช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ 30 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา บทอ่านวันนี้จากหนังสืออพยพ เป็นเหตุการณ์ที่ โมเสส ทรงขอร้องพระเจ้าว่าอย่าลงโกรธและอย่าลงโทษประชากรที่กำลังทำผิดเลย แม้พวกเขาจะดื้อและทำผิดซ้ำไปซ้ำมาก็ตาม อาทิ หล่อรูปลูกโคขึ้นมาแล้วกราบนมัสการแทนพระเจ้า ผลที่สุด พระเจ้าทรงใจอ่อน พระองค์ทรงเปลี่ยนพระทัยและไม่ลงโทษประชากรของพระองค์ พระสันตะปาปาทรงเทศน์แบ่งปันว่า - บทอ่านวันนี้เป็นเรื่องความฝันและความผิดหวังของพระเจ้า ประชากรทั้งหลายนี่แหละคือความฝันของพระเจ้า พระองค์ฝันถึงพวกเขาเพราะทรงรักพวกเขา แต่ประชากรเหล่านี้ทรยศความฝันของพระบิดา พระเจ้าจึงทรงเริ่มผิดหวังกับพวกเขา ประชากรเหล่านี้หล่อรูปลูกโคขึ้นมากราบไหว้ พวกเขาลืมพระเจ้าผู้ทรงช่วยเขาออกจากแผ

โป๊ปฟรังซิส - อย่ามีทัศนคติบ่นตลอดเวลาและเอาแต่ต่อว่าคนอื่น

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอน อย่ามีทัศนคติบ่นตลอดเวลาและเอาแต่ต่อว่าคนอื่น นี่คือบาปน่ารังเกียจและเป็นบาปของนิสัยเฉื่อยชา  ตัวอย่างชัดเจนคือชายที่ป่วยมานาน 38 ปีที่นอนอยู่ข้างสระน้ำ แล้วบ่นว่าไม่มีใครช่วยจุ่มเขาลงสระน้ำ  ทรงชี้ การเป็นคริสตชนที่ขี้เกียจและเฉื่อยชา เลวร้ายกว่าการมีหัวใจเย็นชาด้วยซ้ำ เพราะมันทำให้เราไม่ก้าวไปข้างหน้าและสูญเสียความชื่นชมยินดีในการดำเนินชีวิต ช่วงเช้าวันอังคารที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา พระวรสารวันนี้ พระเยซูทรงรักษาชายที่ป่วยมานาน 38 ปี แต่ชาวยิวหาว่าพระองค์รักษาคนป่วยในวันสับบาโต (วันพระเจ้า ซึ่งชาวยิวห้ามทำการใดๆ ในวันดังกล่าว) ส่วนบทอ่านวันนี้จากหนังสือประกาศกเอเซเคียล ที่กล่าวถึงน้ำทรงชีวิต น้ำนี้ไหลไปที่ใด ที่นั่นก็จะมีชีวิต พระสันตะปาปาทรงเทศน์แบ่งปันว่า - พระเยซูทรงถามชายคนป่วยว่า 'ท่านอยากจะหายป่วยไหม' คำถามนี้ พระเยซูทรงถามเราด้วยเช่นกัน พระองค์ถามเราว่า 'ท่านอยากมีความสุขไหม ท่านอยากจะทำชีวิตตัวเองให้ดีขึ้นหรือเปล่า ท่านอยากจะได้รับการเ

โป๊ปฟรังซิส - เราต้องละทิ้งความสว่างจอมปลอม ซึ่งก็คือการสนใจแต่ตัวเอง

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงแบ่งปัน เราต้องละทิ้งความสว่างจอมปลอม ซึ่งก็คือการสนใจแต่ตัวเอง แล้วหันหน้าไปหาความสว่างที่แท้จริงนั่นคือพระเยซูคริสต์  ทรงชี้ ตัวเราไม่ต่างจากชายตาบอดในพระวรสารวันนี้ เราตาบอดเพราะเราไม่ตระหนักว่าพระเยซูคือแสงสว่างของโลก  ช่วงเที่ยงวันอาทิตย์ที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงออกมานำสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าว ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน พระวรสารวันนี้ เป็นเหตุการณ์ที่พระเยซูทรงรักษาคนตาบอดให้มองเห็นอีกครั้ง พระสันตะปาปาทรงเทศน์แบ่งปันว่า - อัศจรรย์ที่พระเยซูทรงทำในวันนี้ พระเยซูทรงเผยแสดงว่า พระองค์คือแสงสว่างของโลก เราแต่ละคนคือคนตาบอด เราถูกสร้างมาให้รู้จักพระเจ้า แต่เป็นเพราะบาป เราจึงเป็นเหมือนคนตาบอด เราต้องการแสงสว่างอีกครั้ง นั่นคือแสงแห่งความเชื่อที่พระเจ้าจะประทานให้เราแต่ละคน - ในความเป็นจริงแล้ว ชายตาบอดในพระวรสารกลับมามองเห็นอีกครั้งก็ด้วยการเปิดตนเองต่อธรรมล้ำลึกของพระคริสตเจ้า ชายคนนี้คือตัวแทนของเราในเวลาที่เราไม่ตระหนักว่าพระเยซูคือแสงสว่างของโลก เราเป็นแบบนี้เวลาที่เราชอบมองสิ่งอื่นมากกว่าหรือเราช

โป๊ปฟรังซิส - เยาวชนต้องพูดคุยกับปู่ย่าตายายและใกล้ชิดพวกท่านให้มากๆ

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอนเยาวชน จงพูดคุยกับปู่ย่าตายายและใกล้ชิดพวกท่านให้มากๆ แม้ท่านจะเกิดคนละยุคกับเรา แต่ท่านสามารถถ่ายทอดความรู้ล้ำค่าให้เราได้  ทรงขอร้องพ่อแม่ จงใช้เวลาเล่นกับลูกให้มากๆ อย่าคิดว่าเล่นกับลูกเป็นการเสียเวลา  ทรงยอมรับ เศร้าใจที่พ่อแม่หลายคนต้องทำงานในวันหยุด ทำให้เวลาไม่ตรงกับลูกของตน  ทรงชี้ การจะเป็นครูที่ดี เราต้องรู้ว่าจะดึงคุณภาพจากตัวลูกศิษย์เราได้อย่างไร  ทรงขอร้อง เยาวชนอย่าทำตัวเป็นอันธพาล ยั่วยุคนอื่น และรังแกเพื่อนๆ เด็ดขาด ช่วงเย็นวันเสาร์ที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงพบปะและให้โอวาทแก่เยาวชนคาทอลิกกว่า 80,000 คน ภายในสนามฟุตบอลซาน ซีโร่ เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี โดยนี่เป็นพิธีการสุดท้ายของการเยือนอัครสังฆมณฑลมิลาน จากนั้น พระสันตะปาปาจะเสด็จกลับไปกรุงโรมทันที สำหรับพระดำรัสที่พระสันตะปาปาตรัสสอน พระองค์ทรงใช้วิธีถามตอบกับเยาวชน คำถามมาจากเยาวชนที่เพิ่งรับศีลกำลัง, เยาวชนที่เพิ่งแต่งงาน และครูคำสอน ใจความว่า คำถามแรกจากเยาวชนที่เพิ่งได้รับศีลกำลัง ถามพระสันตะปาปาว่า "ตอนที

โป๊ปฟรังซิส - คริสตชนต้องค้นหาความชื่นชมยินดีในชีวิต ไม่ใช่เอาแต่คร่ำครวญหรือเดาอนาคตคนอื่น

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาระหว่างเยือนมิลาน ท่ามกลางสัตบุรุษที่มาร่วมกว่า 1 ล้านคน  ทรงย้ำ คริสตชนต้องค้นหาความชื่นชมยินดีในการดำเนินชีวิต ไม่ใช่เอาแต่คาดเดาอนาคตของคนอื่น หรือคร่ำครวญกับปัญหาต่างๆ  ทรงแนะ กุญแจที่จะทำให้เราพบความชื่นชมยินดีในชีวิตคือความทรงจำถึงพระสัญญาของพระเจ้า ความรู้สึกว่าเราประชากรของพระเจ้า และการมองถึงความเป็นไปได้ในความเป็นไปไม่ได้ บ่ายวันเสาร์ที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส เสด็จไปถวายมิสซาที่สวนสาธารณะเมืองมอนซ่า ในเขตปกครองของอัครสังฆมณฑลมิลาน ประเทศอิตาลี ท่ามกลางสัตบุรุษที่มาร่วมกว่า 1 ล้านคน ความพิเศษของวันนี้คือเป็นวันสมโภชแม่พระรับการแจ้งข่าวจากอัครเทวดากาเบรียลด้วย สำหรับบทเทศน์ประจำมิสซานี้ พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า - พ่ออยากเชิญชวนเราให้เป็นประชากรของพระเจ้าที่เปี่ยมด้วยความชื่นชมยินดีในการดำเนินชีวิต และขอให้เราหลีกเลี่ยงการคาดเดาอนาคตของคนอื่นว่าจะเป็นอย่างไร นอกจากนี้ มี 2 คำถามที่พ่ออยากให้เราไตร่ตรอง หนึ่ง เราจะดำเนินชีวิตด้วยความชื่นชมยินดีแห่งพระวรสารในเมืองของเราได้อย่างไร

โป๊ปฟรังซิส: เวลาประกาศข่าวดี อย่าทำหน้าเศร้า + ความเชื่อที่ถูกท้าทายเป็นเรื่องดี

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงย้ำสงฆ์และนักบวชเมืองมิลาน เวลาประกาศข่าวดี อย่าทำหน้าเศร้า ถ้าทำแบบนั้นแสดงว่าเราไม่เชื่อว่าพระเยซูคือองค์แห่งความชื่นชมยินดี  ทรงสอน ความเชื่อที่ถูกท้าทายเป็นสิ่งดีงาม เพราะมันทำให้เราเติบโตขึ้น ตรงกันข้าม ความเชื่อที่ไม่ถูกท้าทายจะทำให้เราปิดตัวเองและไม่ร้อนรน  ทรงชี้ คณะนักบวชที่ไม่ถือความยากจน ไม่ช่วยคนยากไร้ พระเจ้าจะส่งเหรัญญิกมาทำลายเงินฝากที่เก็บไว้ในธนาคารแน่นอน ช่วงเช้าวันเสาร์ที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ประทับเครื่องบินออกจากสนามบินฟิวมิชิโน่ กรุงโรม ไปยังสนามบินมิลาโน่ ลินาเต้ เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี เพื่ออภิบาลคาทอลิกที่นั่นเป็นเวลา 1 วัน ทันทีที่มาถึง พระสันตะปาปาเสด็จไปพบปะบรรดาสัตบุรุษและบรรดาผู้ลี้ภัยที่เป็นชาวยิปซีและมุสลิมที่อาศัยอยู่ในเขตฟอร์ลานินี่ ชานเมืองมิลาน โอกาสนี้ บรรดาคาทอลิกของอัครสังฆมณฑลมิลานได้ถวาย "สตอลา"และภาพแม่พระให้กับพระองค์ พระสันตะปาปาตรัสขอบคุณทุกคนที่มอบของให้พระองค์ และย้ำว่า มันเป็นเรื่องสำคัญมากที่พระองค์ได้รับการต้อนรับจากครอบครัวต่างๆ ที่อาศั

โป๊ปฟรังซิสอนุมัติอัศจรรย์ผ่านคำวิงวอนของบุญราศีฟรานซิสโก้และบุญราศียาชินทา

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงอนุมัติอัศจรรย์ที่มีผู้สวดขอพระเจ้าผ่านคำเสนอวิงวอนของ "บุญราศีฟรานซิสโก้ มาร์โต้ และบุญราศี ยาชินทา มาร์โต้" สองในสามเด็กน้อยที่แม่พระประจักษ์มาหาที่ฟาติมา ประเทศโปรตุเกสเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  นั่นหมายความว่า ขั้นตอนต่อไปคือการแต่งตั้งทั้งสองเป็น "นักบุญ" อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการเรื่องการแต่งตั้งทั้งสองเป็นนักบุญ แต่บรรดานักข่าวสายวาติกันมั่นใจว่า การแต่งตั้งทั้งสองเป็นนักบุญ จะเกิดขึ้นในช่วงที่สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส เสด็จเยือนฟาติมา ระหว่างวันที่ 12-13 พฤษภาคม 2017 ค่อนข้างแน่ (99 เปอร์เซนต์) ยังไง โปรดรอติดตามกันได้ และ Pope Report จะรายงานให้ทราบเช่นเดิม

โป๊ปฟรังซิส - ถ้าหัวใจเราแข็งกระด้าง เราจะเป็นคาทอลิกที่ไม่เชื่อพระเจ้า

Image
ช่วงนี้ งานออฟฟิศหนักหนาสาหัสมาก จึงต้องแบ่งเวลาดีๆ เพื่อมาทำข่าวพระสันตะปาปา การทำคลิปจึงเป็นคำตอบที่ดีที่สุด เพราะผมประหยัดเวลา และคุณผู้อ่านก็ไม่ตกข่าวประจำวันด้วย (ผิด concept ที่ไม่อยากโชว์หน้าตัวเอง แต่ช่วงนี้ ต้องยอม เพื่อให้งานทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี) มิสซาเช้าวันนี้ พระสันตะปาปาทรงย้ำว่า คาทอลิกต้องหยุดฟังเสียงของพระเจ้า ไม่งั้นหัวใจของเราจะแข็งกระด้าง ส่วนเมื่อวานนี้ การเข้าเฝ้าทั่วไป พระสันตะปาปาสอนอะไร ไปติดตามกันได้ เช่นเดียวกับสารวันเยาวชนโลก 2017 พระสันตะปาปาเตือนเยาวชนว่า "อย่าทำตัวเป็นพวกนั่งๆนอนๆ แต่ไม่ลงมือทำอะไรเลย" (น่าจะเป็นพระสันตะปาปาองค์แรกที่ใช้คำพูดพวกนี้กับเยาวชนก็ว่าได้)

โป๊ปฟรังซิส - เวลาไปแก้บาป ต้องสำนึกในบาปที่ทำ ไม่ใช่ไปแก้บาปเหมือนเป็นภาระหน้าที่

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอน เวลาเราไปแก้บาป เราต้องสำนึกผิดในบาป ไม่ใช่ไปแก้บาปเหมือนเป็นภาระที่ต้องทำ  เพราะถ้าทำแบบนั้น มันไม่ต่างจาก "การซักแห้ง" ที่แค่นำบาปผิดออกจากตัวเราเท่านั้น แต่พอออกมา เราก็กลับมานินทาคนอื่นและทำบาปเหมือนเดิม  ทรงชี้ ถ้าเราไม่มีความเข้าใจอย่างถ่องแท้เรื่องการให้อภัย เราก็จะไม่สามารถให้อภัยคนอื่นได้เลย  ทรงถาม พระเจ้าให้อภัยเราทุกคน แล้วทำไมเราให้อภัยคนอื่นไม่ได้ล่ะ ช่วงเช้าวันอังคารที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา พระวรสารวันนี้ พระเยซูตรัสสอนว่า "เราไม่ได้บอกท่านว่าต้องยกโทษให้เจ็ดครั้ง แต่ต้องยกโทษให้เจ็ดสิบคูณเจ็ดสิบครั้ง" พระสันตะปาปาทรงเทศน์สอนว่า - การที่เราได้รับการยกโทษและการที่เราเข้าใจเรื่องการยกโทษ จะช่วยเราให้สามารถยกโทษให้คนอื่นได้ด้วย เหมือนตัวอย่างในพระวรสารที่เจ้าหนี้ซึ่งได้รับการยกหนี้จากกษัตริย์ แต่เขากลับไม่ยอมยกหนี้ให้กับเพื่อนของตนที่ติดเงินเขาอยู่ นี่คือตัวอย่างของคนที่ไม่เข้าใจธรรมล้ำลึกของการยกโทษให้กัน - ถ้าพ่อถามทุ

โป๊ปฟรังซิส - น.โยเซฟเป็นคนมีอำนาจ แต่เลือกไม่อวดอำนาจและใช้ชีวิตเงียบๆ

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงยกย่องนักบุญโยเซฟเป็นคนที่มีอำนาจล้นมือ แต่เลือกไม่อวดเบ่งอำนาจที่มี ตรงกันข้าม ท่านเลือกใช้ชีวิตเงียบๆ ทำตัวเป็นคนเบื้องหลัง และไม่พูดมาก  ทรงหวังเห็นเยาวชน กล้าคิดกล้าฝันที่จะทำสิ่งดีๆ เมื่อฝันแล้ว ต้องกล้าเสี่ยงลงมือทำ และอย่าท้อเวลาเผชิญหน้าต่อความยากลำบาก ดังเช่นนักบุญโยเซฟได้ทำให้เห็น เมื่อทำตามความฝันที่พระเจ้าบอกให้พาแม่พระและพระเยซูหนีไปอียิปต์  ช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา วันนี้ พระศาสนจักรคาทอลิกกำหนดให้สมโภชนักบุญโยเซฟ ซึ่งตามปกติจะสมโภชวันที่ 19 มีนาคม แต่ปีนี้ตรงกับวันอาทิตย์ในเทศกาลมหาพรต จึงเลื่อนมาสมโภชวันนี้แทน สำหรับบทเทศน์ประจำมิสซานี้ พระสันตะปาปาทรงเทศน์สอนโดยเน้นเรื่องของนักบุญโยเซฟ ใจความว่า - นักบุญโยเซฟเป็นคนที่เชื่อฟังทูตสวรค์ที่ปรากฎมาในความฝัน ท่านจึงรับแม่พระเป็นภรรยา นักบุญโยเซฟเป็นคนที่เงียบๆ แต่เชื่อฟังพระเจ้า ท่านเป็นนักฝันและสามารถที่จะน้อมรับหน้าที่ที่พระเจ้ามอบให้ แม้มันจะเป็นหน้าที่อันหนักหนาก็ตาม ท่านก็ทำหน้าที่น

โป๊ปฟรังซิส - เรารู้ว่าพระเยซูเป็นใคร แต่บางครั้งเราไม่ตระหนักว่าพระองค์คือพระผู้ช่วยให้รอด

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงแบ่งปัน เรารู้ว่าพระเยซูเป็นใคร แต่บางครั้งเราไม่ตระหนักเองว่าพระองค์คือพระผู้ช่วยให้รอด  ทรงสอน ในตัวผู้ตกทุกข์ได้ยาก เราจะได้พบกับพระพักตร์ของพระเยซู  ทรงเชิญทุกคน "ปรบมือให้กับคนที่เป็นพ่อ" โอกาสที่วันพรุ่งนี้เป็นวันสมโภชนักบุญโยเซฟ ช่วงเที่ยงวันอาทิตย์ที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงออกมานำสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าว ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน พระวรสารวันนี้ เป็นเหตุการณ์ที่พระเยซูทรงสนทนากับหญิงชาวสะมาเรียที่บ่อน้ำ พระสันตะปาปาทรงเทศน์แบ่งปันว่า - แม้หญิงคนนั้นจะเป็นชาวสะมาเรียซึ่งถูกชาวยิวมองว่าเป็นคนบาป แต่เมื่อพระเยซูตรัสกับเธอเกี่ยวกับความเชื่อที่แท้จริง เธอก็เปิดตัวเองต้อนรับพระวาจาของพระคริสตเจ้า หญิงชาวสะมาเรียคนนี้ตระหนักว่าพระเยซูคือประกาศกและหยั่งรู้ว่าพระองค์อาจจะเป็นพระเมสสิยาห์ พระเยซูจึงตรัสกับเธอไปตรงๆ ว่า พระองค์นี่แหละคือพระเมสสิยาห์ นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นน้อยมากในพระวรสารเลยก็ว่าได้ (การที่พระเยซูทรงกล่าวแบบนี้กับคนที่ไม่ใช่ศิษย์ของพระองค์) - พระวรสารวันนี้เพื่อเราทุกคน พระเยซ

โป๊ปฟรังซิส - คนที่หัวใจคดโกงและแข็งกระด้าง มันยากจะรักษาให้หายได้

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงย้ำ คนบาปสามารถสำนึกผิดและกลับใจ แต่คนที่หัวใจคดโกงและแข็งกระด้าง มันยากจะรักษาให้หายได้ วิบัติจะเกิดกับคนที่ไม่คิดจะห่วงใยคนยากไร้และคนเร่ร่อน  ทรงสอน เวลาเห็นคนตกทุกข์ได้ยาก อย่าเอาแต่พูดว่า 'จะสวดให้นะ' แต่จิตใจไม่ได้สงสารจริงๆ ถ้าทำแบบนี้ เราจะเป็นเหมือนเศรษฐีจอมปาร์ตี้ที่ไม่ได้สัมผัสถึงความทุกข์ของ ลาซารัส ผู้ยากไร้ ซึ่งนอนอยู่หน้าประตูบ้านของตน  ช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา พระวรสารวันนี้พระเยซูตรัสกับพวกฟาริสีเกี่ยวกับเรื่องของลาซารัสผู้ยากไร้กับเศรษฐีที่กินดื่มแบบทิ้งขว้างไม่แยแสคนยากจน พระสันตะปาปาทรงเทศน์แบ่งปันว่า - เมื่อคนๆ หนึ่งดำเนินชีวิตในสภาพแวดล้อมที่ปิดตัว รายล้อมไปด้วยความร่ำรวย ความหยิ่งยะโส และเชื่อมั่นใจเครื่องใช้ของตนเอง คนเหล่านี้จะสูญเสียการควบคุมตนเองและไม่คิดว่าตนเองมีข้อจำกัด เหมือนกับที่มันเกิดกับเศรษฐีในพระวรสารซึ่งใช้เวลาไปกับการปาร์ตี้และไม่เคยเหลียวแลคนยากจนที่นอนอยู่ที่ประตูบ้านของตนเลย ทั้งที่เขารู้ว่าคนยากจ

โป๊ปฟรังซิส - กฎของการกลับใจคือจงหลีกหนีความชั่วและเรียนรู้ที่จะทำความดี

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงย้ำ กฎของการกลับใจคือจงหลีกหนีความชั่วและเรียนรู้ที่จะทำความดี  ทรงชี้ การกลับใจไม่ได้เกิดจากนางฟ้าที่เปลี่ยนเราด้วยเวทมนตร์ แต่มันคือการเดินทางของการหลีกเลี่ยงความชั่วและการเรียนรู้ที่จะทำความดี  ช่วงเช้าวันอังคารที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา บทอ่านวันนี้จากหนังสือประกาศกอิสยาห์ ใจความว่า "จงเลิกทำความชั่ว จงเรียนรู้ที่จะทำความดี" ส่วนพระวรสารวันนี้ พระเยซูทรงสอนบรรดาศิษย์ว่า "ถ้าธรรมาจารย์และฟาริสีสั่งสอน จงปฏิบัติตามที่เขาสอน แต่อย่าปฏิบัติตามพฤติกรรมของเขา" พระสันตะปาปาทรงเทศน์แบ่งปันว่า - ทุกวัน เราแต่ละคนทำเรื่องน่าเกลียดด้วยกันทั้งนั้น พระคัมภีร์กล่าวไว้ว่า 'แม้แต่ผู้ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดยังทำบาปเจ็ดครั้งต่อวัน' แต่ปัญหาคือเราอย่าจมอยู่กับนิสัยของการดำเนินชีวิตในสิ่งน่าเกลียดเหล่านี้ จงหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้ที่เป็นพิษต่อจิตวิญญาณ - มันไม่ง่ายที่จะทำความดี แต่พระเจ้าทรงสอนว่า เราต้องเรียนรู้อยู่เสมอที่จะทำความดี เราต้องเรียนรู้เหมือนเด็กๆ

โป๊ปฟรังซิส: พระเยซูประจักษ์พระวรกายเพื่อให้รู้ว่าจุดหมายของการแบกกางเขนคือที่ไหน

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงย้ำ พระเยซูประจักษ์พระวรกายบนเขาทาบอร์ เพื่อแสดงให้ศิษย์รู้ว่าจุดหมายปลายทางของการแบกไม้กางเขนคือที่ไหน  ทรงยืนยัน ใครที่ตายกับพระคริสตเจ้า ก็จะกลับเป็นขึ้นมาอีกครั้ง เพราะไม้กางเขนคือประตูสู่การกลับคืนชีพจากความตาย  ทรงสอน ไม้กางเขนไม่ใช่เครื่องประดับ แต่เป็นสิ่งที่เตือนเราถึงความรักที่พระเยซูมีต่อเรา ช่วงเที่ยงวันอาทิตย์ที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงออกมานำสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าว ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน พระวรสารวันนี้ พระเยซูทรงประจักษ์พระวรกายบนภูเขาต่อหน้าศิษย์ 3 คน พระสันตะปาปาทรงเทศน์แบ่งปันว่า - การประจักษ์พระวรกายบนภูเขาทาบอร์ พระเยซูทรงปรารถนาที่จะแสดงถึงพระสิริรุ่งโรจน์ต่อบรรดาศิษย์ ไม่ใช่เพื่อรั้งพวกเขาจากการเดินผ่านกางเขน แต่เพื่อแสดงให้เขาเห็นว่าเมื่อแบกกางเขนแล้ว จุดหมายปลายทางคือที่ไหน ใครที่ตายกับพระคริสตเจ้า ก็จะกลับเป็นขึ้นมาอีกครั้ง ใครที่ต่อสู้ไปกับพระองค์ ก็จะได้รับชัยชนะ เพราะไม้กางเขนคือประตูสู่การกลับคืนชีพจากความตาย - ไม้กางเขนคือสิ่งที่เรียกร้องเราอย่างสม่ำเสมอให้เข้มแข็งใน

โป๊ปฟรังซิส - พ่อไม่มองคาร์ดินัลเบิร์กคือศัตรู ไม่คิดมากเรื่องคนโจมตีหรือต่อต้าน

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์จากเยอรมนี  พร้อมย้ำ พระคาร์ดินัล เรย์มอนด์ เบิร์ก ไม่ใช่ "ศัตรู"  ทรงยืนยัน ไม่คิดมากเรื่องคนโจมตีหรือเจอกระแสต่อต้าน และรู้ด้วยว่า บางคนไม่ชอบแนวทางการแสดงออกของพระองค์ ทรงชี้ มีการหารือเรื่องการครองโสดของสงฆ์ กระนั้น ประเด็นสงฆ์ต้องถือโสดหรือไม่ ไม่ใช่ทางออกของปัญหาขาดแคลนพระสงฆ์  ทรงยอมรับ พระองค์ก็มีช่วงมืดมนฝ่ายจิต และตัดพ้อกับพระเจ้าว่า "ทำไมมันต้องเกิดแบบนี้กับลูก พระองค์ต้องการอะไรจากลูกกันแน่" สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ประทานการสัมภาษณ์แก่ ดี ไซต์ (Die Zeit) หนังสือพิมพ์ของเยอรมนี ในหลายหัวข้อ โอกาสนี้ Pope Report ขอสรุปประเด็นสำคัญออกมาดังนี้ 1) พระคาร์ดินัล เรย์มอนด์ เบิร์ก ไม่ใช่ "ศัตรู" - พระสันตะปาปา ย้ำว่า พระองค์ไม่เคยมองว่า พระคาร์ดินัล เรย์มอนด์ เบิร์ก เป็นศัตร ภายหลังพระคาร์ดินัลเบิร์ก ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่พระคาร์ดินัลที่นำจดหมายที่พวกเขาขอให้พระสันตะปาปาช่วยชี้แจงเนื้อหาในสารเตือนใจ Amoris Laetitia (ความชื่นชมยินดีแห่งความรัก) ว่าจะอนุญาตให้คาทอลิกหย่าร้างและไปแต

โป๊ปฟรังซิสเยือน "โคลอมเบีย" 6-11 กันยายน 2017

Image
วาติกันประกาศอย่างเป็นทางการ สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส จะเสด็จเยือน "โคลอมเบีย" ระหว่างวันที่ 6-11 กันยายน 2017 โดยเมืองที่จะเสด็จ ประกอบไปด้วย โบโกตา, บียาบีเซนโซ่, เมเดจิน และ การ์ตาเฮน่า ในส่วนของโลโก้ประจำการเสด็จเยือนนี้ มีความหมายว่า "ขอให้เราออกเดินก้าวแรก" (Demos el primer paso) การเสด็จเยือนนี้ มีขึ้นหลังรัฐบาลและกลุ่มกบฏ FARC (กองกำลังติดอาวุธเพื่อการปฏิวัติแห่งโคลอมเบีย) ลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพ หลังสองฝ่ายสู้รบกันมาตั้งแต่ ค.ศ.1964 หรือ 53 ปีเลยทีเดียว โดยพระสันตะปาปาทรงมุ่งหวังจะเสริมสร้างการคืนดีของคนในชาติ หลังแบ่งแยกกันมากว่าห้าสิบปี

ครบ 59 ปี ฆอร์เค่ แบร์โกโญ่ เข้าคณะเยสุอิต

Image
วันนี้ เมื่อ 59 ปีที่แล้ว (11 มีนาคม ค.ศ.1958) "ฆอร์เค่ แบร์โกโญ่" ได้เข้าสู่คณะเยสุอิตเป็นครั้งแรกในฐานะโนวิส หลังจากใช้เวลาไตร่ตรองเรื่องกระแสเรียกการเป็นสงฆ์นาน 3 ปี แบร์โกโญ่ ไตร่ตรองเรื่องกระแสเรียก หลังไปแก้บาปในวันฉลองนักบุญแม็ทธิว (21 กันยายน ค.ศ.1955) ซึ่งขณะนั้น แบร์โกโญ่ ทำงานเป็นพนักงานในแผนกเคมีอาหาร บริษัท Hickethier-Bachmann Laboratory ในประเทศอาร์เจนตินา ปัจจุบัน ฆอร์เค่ แบร์โกโญ่ ก็คือ สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส นั่นเอง

โป๊ปฟรังซิสทรงเสร็จสิ้นการฟื้นฟูจิตใจประจำปีแล้ว

Image
เย็นวันศุกร์ที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเสร็จสิ้นการเข้าเงียบฟื้นฟูจิตใจประจำปีที่อาริคช่า ทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงโรม และเสด็จกลับถึงวาติกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ ก่อนการเข้าเงียบจะจบลง พระสันตะปาปา พร้อมด้วยพระคาร์ดินัลและพระสังฆราชที่ปฏิบัติงานในโรมันคูเรีย ได้ถวายมิสซาปิดการเข้าเงียบเพื่อขอพรแด่ประเทศซีเรีย นอกจากนี้ พระสันตะปาปายังส่งเงินบริจาคจำนวน 100,000 ยูโร ผ่านทางสำนักสังคมสงเคราะห์ส่วนพระองค์ ไปช่วยคริสตชนในซีเรียด้วย ส่วนการเข้าเงียบครั้งนี้ พระสันตะปาปาทรงขอบคุณ คุณพ่อจูลิโอ มิเคลินี่ ผู้เทศน์เตรียมจิตใจให้พระองค์และสมาชิกโรมันคูเรียตลอดการเข้าเงียบครั้งนี้ด้วย

โป๊ปฟรังซิส - เราควรพกไบเบิ้ลติดตัวเหมือนพกมือถือ หยิบมาอ่านบ่อยๆ เหมือนอ่านข้อความในมือถือ

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงหวังเห็นคริสตชนปฏิบัติต่อไบเบิ้ลเหมือนตอนใช้โทรศัพท์มือถือ ไม่ว่าจะเป็นการพกติดตัว หยิบขึ้นมาอ่านบ่อยๆ เหมือนที่หยิบมือถือขึ้นมาอ่านข้อความตลอดเวลา  ทรงสอน ถ้าเรามีพระวาจาของพระเจ้าอยู่ในใจตลอดเวลา ไม่มีการประจญใดนำเราถอยห่างจากพระเจ้าแน่นอน  นอกจากนี้ ถ้าเรามีพระวาจาของพระเจ้าอยู่ในใจเสมอ เราจะยอมรับและรักศัตรูของเราด้วย ช่วงเที่ยงวันอาทิตย์ที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงออกมานำสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าว ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน พระวรสารวันนี้ ปีศาจมาประจญล่อลวงพระเยซูหลังจากทรงอดอาหาร 40 วันในถิ่นทุรกันดาร แต่พระเยซูตรัสตอบมันว่า "มีเขียนในพระคัมภีร์ว่า จงนมัสการพระเจ้าของท่านและรับใช้พระองค์แต่เพียงผู้เดียว" พระสันตะปาปาทรงเทศน์แบ่งปันว่า - มหาพรตคือการเดินทางของการกลับใจและต่อสู้กับปีศาจ เราต้องทำความคุ้นเคยกับพระคัมภีร์ไบเบิ้ล กล่าวคือ อ่านพระคัมภีร์บ่อยๆ รำพึงไตร่ตรอง และซึมซับเข้าไปในจิตใจ พระคัมภีร์บรรจุพระวาจาของพระเจ้าไว้ในนั้นซึ่งเป็นเรื่องทันสมัยและทรงประสิทธิภาพอยู่เสมอ มีคนเคยบอกพ่อว่

โป๊ปฟรังซิส - พ่ออยากให้มีการนำเสนอผลงานที่ดีที่สุดเพื่อฟื้นฟูดนตรีศักดิ์สิทธิ์

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงหวังเห็นการฟื้นฟูดนตรีศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้ในพิธีกรรม เฉพาะอย่างยิ่ง คุณภาพของงานดนตรีที่เราต้องใส่ใจ  ทรงชี้ บางครั้ง ดนตรีที่ฉาบฉวยและไม่สร้างสรรค์ ทำให้ความงดงามของพิธีกรรมหายไป ช่วงสายวันเสาร์ที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงต้อนรับผู้เข้าร่วมการสัมมนาเรื่องดนตรีศักดิ์สิทธิ์ ภายในหอประชุมเคลเมนติน่า วาติกัน งานสัมมนานี้จัดโดยสมณกระทรวงเพื่อการศึกษาคาทอลิก และสมณสภาเพื่อวัฒนธรรม โอกาสนี้ พระสันตะปาปาตรัสกับพวกเขาว่า - แน่นอนว่า การพบกับความทันสมัยและการนำเสนอภาษาแม่(ภาษาท้องถิ่น) ในพิธีกรรม ได้ทำให้เกิดปัญหาหลายอย่าง อาทิ ภาษาทางดนตรี รูปแบบ และท่วงทำนองของดนตรี บางครั้ง สิ่งนี้ทำให้เกิดความธรรมดาๆ ความฉาบฉวย และความไม่สร้างสรรค์ได้ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อความสวยงามและความกระตือรือร้นของการฉลองทางพิธีกรรม ดังนั้น พ่อจึงอยากให้บรรดาผู้ประพันธ์เพลง คอนดักเตอร์ นักดนตรี และนักขับร้อง นำเสนอผลงานที่ดีที่สุดเพื่อฟื้นฟูดนตรีศักดิ์สิทธิ์ การขับร้องทางพิธีกรรม เฉพาะอย่างยิ่ง คุณภาพของดนตรีศักดิ์สิทธิ์ที่เราต้องใส่ใจ - การจะ

โป๊ปฟรังซิส - อย่าอดอาหารในเทศกาลมหาพรตแบบเสแสร้งให้ตัวเองดูเป็นคนดี

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอน อย่าอดอาหารในเทศกาลมหาพรตอย่างคนเสแสร้ง ซึ่งอดเพื่อให้ตัวเองดูเป็นคนดีและชอบธรรม  แต่ในชีวิตจริง เอาเปรียบคนอื่น กดขี่ลูกน้อง จ่ายเงินเดือนอย่างไม่ยุติธรรม  ทรงย้ำ พระเยซูสอนเราแล้วว่า "เวลาภาวนา จงภาวนาแบบเงียบๆ เวลาทำบุญ จงอย่าเป่าแตรป่าวประกาศ เวลาอดอาหาร อย่าทำหน้าเศร้า" ช่วงเช้าวันศุกร์ที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา บทอ่านวันนี้จากหนังสือประกาศอิสยาห์ที่ระบุว่า "ในวันที่ท่านจำศีลอดอาหาร ท่านยังแสวงหาผลประโยชน์ของตนและข่มเหงคนงานทุกคนของท่าน ท่านจำศีลอดอาหารแต่ยังทะเลาะวิวาท โต้เถียง และชกต่อยกันอย่างอยุติธรรม การจำศีลแบบนี้จะไม่ทำให้เสียงของท่านไปถึงเบื้องบนเลย" พระสันตะปาปาทรงเทศน์สอนว่า - บทอ่านวันนี้พูดเรื่องการอดอาหารเพื่อให้เราได้ใกล้ชิดกับพระเจ้า ผู้ทรงพอพระทัยในหัวใจที่สำนึกผิดและรู้ว่าตนเป็นคนบาป พระเจ้าทรงตำหนิความศรัทธาในศาสนาแบบผิดๆ ของพวกเสแสร้งที่อดอาหาร แต่ขณะเดียวกันกดขี่ข่มเหงลูกน้องของตน ทุบตีเขาด้วยมืออันชั่วร้าย หรือจะเป็น

โป๊ปฟรังซิส - มหาพรตเป็นช่วงเวลาให้ชีวิตฝ่ายจิตของเราได้หายใจอีกครั้ง

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอน มหาพรตเป็นช่วงเวลาให้ชีวิตฝ่ายจิตของเราได้หายใจอีกครั้ง  และเป็นช่วงเวลาให้เราปฏิเสธการอดอาหารเพื่อให้ตัวเองดูดี ปฏิเสธคำพูดที่ไร้ราคา  นอกจากนี้ เป็นช่วงเวลาให้เราเปิดหัวใจ เพื่อรับลมหายใจของพระเจ้าที่เป่ามาที่เราแต่ละคน นี่คือลมหายใจที่สามารถเปลี่ยนผงธุลีดินให้เป็นมนุษย์ ช่วงบ่ายวันพุธที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาวันพุธรับเถ้า ภายในมหาวิหารซานตา ซาบีน่า กรุงโรม มิสซานี้ พระสันตะปาปาเทศน์สอนว่า - เครื่องหมายของการรับเถ้า เตือนใจเราว่า พระเจ้าทรงเป่าลมหายใจมายังเราแต่ละคน ลมหายใจที่เป็นชีวิตของพระเจ้าช่วยเราจากภาวะหายใจไม่ออก ซึ่งทำให้ความเชื่อของเราสิ้นหวังและทำให้ความเมตตาของเราอ่อนแอ - เทศกาลมหาพรตคือช่วงเวลาที่เราจะปฏิเสธภาวะหายใจไม่ออกของชีวิตฝ่ายจิต อันเกิดจากความไม่สนใจต่อความทุกข์ของคนอื่น มหาพรตเป็นช่วงเวลาให้เราปฏิเสธมลพิษของคำพูดที่ว่างเปล่าและไร้ค่า มหาพรตเป็นช่วงเวลาให้เราปฏิเสธการทำบุญเพื่อทำให้เราเกิดความพอใจ และเป็่นช่วงเวลาให้เราปฏิเสธการอดอาหารเพื่อให้เราดูดี - มหาพรตยังเป็นช่ว