Posts

Showing posts from February, 2017

พระสังฆราชท้องถิ่นออกแถลงการณ์ "แม่พระไม่ได้ประจักษ์ที่เมดยูร์กอร์เย"

Image
พระสังฆราช รัตโก้ เปริช พระสังฆราชแห่งมอสตาร์-ดุฟโน่ ประเทศบอสเนียแอนด์เฮอร์เซโกวีน่า ซึ่งเป็นสังฆมณฑลที่ "เมดยูร์กอร์เย" อยู่ในการปกครอง ได้ออกแถลงการณ์บนเว็บไซต์สังฆมณฑล ระบุว่า แม่พระไม่ได้ประจักษ์ที่เมดยูร์กอร์เย แต่อย่างใด  พระสังฆราช เปริช กล่าวในแถลงการณ์ว่า มีคณะกรรมการสอบสวนการประจักษ์ของแม่พระที่เมดยูร์กอร์เย 4 ชุด เริ่มตั้งแต่ คณะกรรมการของสังฆมณฑล ค.ศ.1982-1984 และ ค.ศ.1984-1986 จากนั้นเป็นคณะกรรมการของสภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งยูโกสลาเวีย ค.ศ.1987-1990 แต่คณะกรรมการทั้งสามชุด ไม่สามารถยืนยันถึงการประจักษ์ของแม่พระที่เมดยูร์กอร์เยได้ว่า เป็นเรื่องจริง จากนั้น สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ทรงจัดตั้งคณะกรรมการชุดที่สี่ ซึ่งทำการสอบสวนตั้งแต่ค.ศ.2010-2014 แต่ก็ยังไม่มีการแถลงผลการสอบสวนว่าเป็นเช่นไร ล่าสุด พระสังฆราช รัตโก้ เปริช ได้ออกแถลงผ่านเว็บไซต์ว่า "เป็นที่แน่ชัดตั้งแต่ต้นแล้วว่า ไม่ได้มีเหตุการณ์แม่พระประจักษ์เกิดขึ้นจริงที่เมดยูร์กอร์เย" พระสังฆราชเปริช กล่าวว่า คณะกรรมการทุกชุดได้ศึกษาเทปสัมภาษณ์ของบุคคลทั้งหกที่บอกว่าได้รับการปร

โป๊ปฟรังซิส - จงมีใบหน้าและดวงตาชื่นชมยินดีเวลาสละวัตถุทางโลกแล้วติดตามพระเจ้า

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงแบ่งปัน เราต้องมีใบหน้าและดวงตาชื่นชมยินดีเวลาสละวัตถุทางโลกแล้วติดตามพระเจ้า  อย่าทำตัวเหมือนชายหนุ่มที่หน้าเศร้าหมอง เมื่อถูกขอให้สละทรัพย์สมบัติแล้วมาติดตามพระเยซู  ช่วงเช้าวันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา พระวรสารวันนี้ พระเยซูตรัสว่า "ไม่มีใครที่ละทิ้งบ้านเรือน พี่น้อง บิดามารดา บุตร หรือไร่นา เพราะเห็นแก่เรา เพราะเห็นแก่ข่าวดี จะไม่ได้รับการตอบแทนในโลกนี้ เขาจะได้บ้านเรือน พี่น้อง มารดา บุตร ไร่นา พร้อมกับการเบียดเบียนและในโลกหน้าจะได้ชีวิตนิรันดร" ส่วนบทอ่านวันนี้จากหนังสือบุตรสิรา สอนว่า "อย่าตระหนี่ผลิตผลแรกจากงานที่ทำ ทุกครั้งที่ถวายเครื่องบูชา จงมีหน้าตายิ้มแย้ม จงถวายรายได้หนึ่งในสิบส่วนด้วยความยินดี" พระสันตะปาปาทรงเทศน์แบ่งปันว่า - มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้รับทุกอย่าง แต่ต้องสละทุกอย่าง เราจะตระหนักได้อย่างไรว่า เรากำลังเดินตามหนทางของการมอบทุกสิ่ง เพื่อจะได้รับทุกสิ่ง บทอ่านแรกสอนเราแล้วว่า "อย่าตระหนี่ อย่ามัวแต่กั๊กขอ

โป๊ปฟรังซิส - วิธีเผชิญหน้าและชนะความแตกแยกคือเราต้องสุภาพถ่อมตน

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงชี้ วิธีเผชิญหน้าและชนะความแตกแยกคือเราต้องสุภาพถ่อมตน เหมือนที่นักบุญเปาโลแสดงให้เห็นเวลาอภิบาลคริสตชนเมืองโครินธ์ ซึ่งท่านเคยมีความสัมพันธ์ที่ไม่ราบรื่นกับพวกเขา  ทรงสอน การเป็นคนสุภาพถ่อมตนเวลาประกาศข่าวดี หมายถึง เราต้องไม่ทำให้ตนเองเป็นจุดสนใจ แต่ต้องตระหนักว่างานนี้ขึ้นกับพระเจ้า เพราะนี่คือจุดเริ่มต้นที่พระเจ้าจะทำงานในตัวเรา  ทรงเน้น คริสตศาสนสัมพันธ์ไม่มีวันบรรลุผลถ้าคุยกันแต่เชิงเทวศาสตร์ แต่มันจะสำเร็จถ้าคาทอลิกและแองกลิกันร่วมมือกันทำงานในสังคม ช่วงเย็นวันอาทิตย์ที่ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส เสด็จไปยังโบสถ์นักบุญทั้งหลาย (Anglican Parish of All Saints) ซึ่งเป็นโบสถ์แองกิลกันในกรุงโรม ประเทศอิตาลี เพื่อร่วมงานฉลอง 200 ปีของการก่อตั้งชุมชนแองกลิกันในกรุงโรม นอกจากนี้ การมาเยือนครั้งนี้ ทำให้พระสันตะปาปา ฟรังซิส เป็นพระสันตะปาปาองค์แรกในประวัติศาสตร์ที่มาเยือนโบสถ์แองกลิกันในกรุงโรมด้วย โอกาสนี้ พระสันตะปาปาทรงกล่าวแบ่งปันกับทุกคนว่า - สองศตวรรษที่ผ่านมา หลายสิ่งได้เปลี่ยนไปมากระหว่างแองกลิกันกับคาทอล

โป๊ปฟรังซิส - การแสวงหาเงินแบบเอาเป็นเอาตายเป็นบ่อเกิดของความทุกข์ในจิตใจ

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงแบ่งปัน การแสวงหาเงินแบบเอาเป็นเอาตายเป็นบ่อเกิดของความทุกข์ในจิตใจ ทั้งที่เงินเป็นวัตถุไม่ยั่งยืนแต่เป็นหลายคนก็ถอยห่างจากพระเจ้าเพื่อไปเทิดทูนเงิน  ทรงสอน การที่พระเยซูตรัสว่า "อย่ากังวลถึงวันพรุ่งนี้" คือการบอกเราให้วางใจในพระบิดาผู้ไม่เคยลืมลูกของพระองค์ และสอนให้เรากล้าเผชิญปัญหาด้วยความกล้า  ช่วงเที่ยงวันอาทิตย์ที่ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงออกมานำสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าว ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน พระวรสารวันนี้ พระเยซูทรงสอนว่า "เราจะรับใช้พระเจ้าและเงินทองไปพร้อมกันไม่ได้  ... อย่ากังวลถึงวันพรุ่งนี้ เพราะวันพรุ่งนี้จะกังวลสำหรับตนเอง แต่ละวันมีทุกข์มากพออยู่แล้ว" พระสันตะปาปาทรงแบ่งปันว่า - พระเยซูทรงสอนเราว่าอย่ากังวลเกี่ยวกับวันพรุ่งนี้ จงจำไว้ว่า เหนือสิ่งอื่นใด ยังมีพระบิดาผู้ไม่เคยลืมลูกของพระองค์ การวางใจในพระบิดาไม่ใช่การแก้ปัญหาอย่างมีเวทมนต์ แต่มันเป็นการยอมให้ตัวเราเองได้เผชิญหน้ากับปัญหาในตอนนั้นด้วยความกล้า เพราะเราวางใจในพระบิดาผู้ทรงรักเราอย่างมาก - พระเจ้าทรงเป

โป๊ปฟรังซิส - อย่าเป็นคนหน้าซื่อใจคดที่ใช้หลักคำสอนตัดสินปัญหาแบบผิดๆ โดยไร้ความเมตตา

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอน อย่าทำตัวเป็นคนหน้าซื่อใจคดที่ใช้หลักคำสอนมาตัดสินปัญหาแบบผิดๆ เหมือนพวกฟาริสี อาทิ การพูดแค่ว่า "แบบนี้ทำได้ แบบนั้นทำไม่ได้"  เพราะในความเป็นจริง พระเยซูไม่เคยใช้นิสัยแบบนี้ พระองค์ทรงตัดสินปัญหาโดยใช้หลักความยุติธรรมคู่กับความเมตตา  ทรงชี้ การจะเข้าใจแนวคิดความยุติธรรมคู่กับความเมตตา เป็นเรื่องยากมาก แต่ถ้าเราทำได้ เราจะมีความสุขและคนอีกมากก็จะมีความสุขด้วย  ช่วงเช้าวันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา พระวรสารวันนี้ พวกฟาริสีถามพระเยซูว่า "ถูกต้องหรือไม่ที่ชายจะหย่ากับภรรยา" พระเยซูไม่ตรัสตอบฟาริสี แต่หลังจากนั้น พระองค์ตรัสกับบรรดาศิษย์ว่า "ผู้ใดหย่าร้างกับภรรยาและไปแต่งงานกับอีกคนหนึ่ง เขาก็ทำผิดประเวณีต่อภรรยาคนเดิม ถ้าหญิงคนหนึ่งหย่ากับสามีไปแต่งงานกับอีกคนหนึ่ง ก็ทำผิดประเวณีเช่นเดียวกัน" พระสันตะปาปาทรงเทศน์สอนว่า - เป็นอีกครั้งที่เราได้ยินคำถามที่มาทดสอบพระบุตรของพระเจ้า แต่พระเยซูไม่ตอบคำถามเหล่านี้ว่ามันถูกต้องหรือไ

โป๊ปฟรังซิส - คาทอลิกอย่าดำเนินชีวิตสองมาตรฐาน เช่นศรัทธาพระเจ้าแต่เอาเปรียบคนจน

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงชี้ คาทอลิกอย่าดำเนินชีวิตสองมาตรฐาน เช่น ทำตัวศรัทธา ทำบุญเยอะ ไปร่วมมิสซาเป็นประจำ แต่ใช้ชีวิตกดขี่ลูกจ้างของตน จ้องหาผลประโยชน์จากคนอื่น ทำธุรกิจสกปรกและฟอกเงิน  ถ้าเป็นแบบนี้อย่าเป็นคาทอลิกเลย เป็นคนไม่เชื่อพระเจ้าจะดีกว่า เพราะการเป็นคาทอลิก เราต้องเป็นประจักษ์พยานถึงพระเจ้า ไม่ทำดำเนินชีวิตสร้างความเสื่อมเสียและเอาเปรียบคนอื่น  ช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา พระวรสารวันนี้ พระเยซูทรงสอนว่า "จงตัดมือข้างที่ทำให้ท่านทำบาปทิ้ง ... ถ้าตาข้างหนึ่งเป็นเหตุให้ท่านทำบาป จงควักมันทิ้ง เพราะท่านจะเข้าสู่ชีวิตนิรันดรโดยมีมือและตาข้างเดียว ยังดีกว่ามีมือและตาสองข้างแต่ต้องตกนรก" พระสันตะปาปาทรงเทศน์แบ่งปันว่า - การทำเรื่องเสื่อมเสียหรือทำบาปคืออะไร มันคือการพูดอย่างหนึ่งแต่ทำอีกอย่างหนึ่ง นี่คือชีวิตสองมาตรฐาน ว่าแต่ชีวิตสองมาตรฐานคืออะไร มันคือการบอกว่า 'ผมเป็นคาทอลิก ผมไปร่วมมิสซาสม่ำเสมอ ผมเป็นสมาชิกของกลุ่มนั้น แต่ชีวิตของผมไม่ใช่คริสตชน

โป๊ปฟรังซิส - ขอพระเจ้าช่วยเรารู้สึกผิด เวลาทำงานให้พระศาสนจักรแล้วเรามักใหญ่ใฝ่สูง

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอน เราต้องสวดขอพระเจ้าช่วยเรารู้สึกผิด เวลาทำงานให้พระศาสนจักรแล้วเราเกิดความมักใหญ่ใฝ่สูงว่าเราต้องยิ่งใหญ่กว่าคนอื่น  ทรงยกตัวอย่าง  ความมักใหญ่ใฝ่สูงที่เห็นได้ชัดคือพวกที่สู้กันในชุมชนวัด เพื่อจะได้เป็น "ประธานกลุ่มต่างๆ" และใช้ตำแหน่งนั้นไต่เต้าพาตัวเองให้สูงขึ้นไปอีก  หรือจะเป็นในกลุ่มพระสงฆ์ที่พูดจาให้ร้ายกัน เพื่อตัวเองจะได้ไต่เต้าให้สูงขึ้น นอกจากนี้ บรรดาพระสังฆราชก็ต้องระวังการประจญทางความคิดที่ว่า เราสำคัญที่สุดในสังฆมณฑล ไม่มีใครยิ่งใหญ่ไปกว่าเรา  ช่วงเช้าวันอังคารที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา บทอ่านวันนี้จากหนังสือบุตรสิรา ใจความสำคัญคือ "ถ้าท่านปรารถนาจะรับใช้พระเจ้า จงเตรียมตัวรับการทดลองเถิด จงมีใจเที่ยงตรงและมั่นคง อย่าตกใจเมื่อทุกข์ยาก" ส่วนพระวรสารวันนี้ พระเยซูทรงกล่าวถึงการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ แต่บรรดาศิษย์ไม่เข้าใจและไม่กล้าถาม จากนั้น บรรดาศิษย์เถียงกันว่าใครยิ่งใหญ่กว่ากัน พระเยซูจึงตรัสสอนว่า "ถ้าผู้ใดอยากเป็นคน

โป๊ปฟรังซิส - ทุกคนมีศัตรูและคนนินทาลับหลัง อย่าแค้นแต่จงภาวนาให้คนเหล่านั้นมากๆ

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงย้ำ เราทุกคนมีศัตรูและเจอคนชอบนินทาลับหลัง แต่เราต้องเปลี่ยนมุมมองอย่าอาฆาตและเคียดแค้นเขา เพราะเขาก็เป็นลูกของพระบิดาเหมือนกัน  ตรงกันข้าม เราควรภาวนาให้คนที่ไม่ชอบเรา ภาวนาวันละครั้ง เพียงเท่านี้เราก็จะถอยออกจากความแค้น และออกเดินบนหนทางของความศักดิ์สิทธิ์  ทรงชี้ นิสัยอาฆาตและเคียดแค้น ไม่ใช่นิสัยคริสตชน เช่นเดียวกับคำพูดที่ว่า "แกทำแบบนี้กับข้า แกจะต้องชดใช้อย่างสาสม" นี่ก็ไม่ใช่ภาษาคริสตชนเช่นกัน ช่วงบ่ายวันอาทิตย์ที่ 19 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส เสด็จไปอภิบาลสัตบุรุษและถวายมิสซาที่วัดซานตา มารีอา โยเซฟา แห่งพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซู ซึ่งตั้งอยู่ที่ปอนเต ดิ โน่า ทางทิศตะวันออกของกรุงโรม มิสซานี้ พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า - พระวรสารวันนี้ พระเยซูสอนเราว่า 'อย่าตอบโต้ความชั่วด้วยความชั่ว' ดังนั้น พ่อขอร้องทุกคนอย่าเดินบนถนนของความอาฆาตหรือความเคียดแค้น นิสัยแบบนี้ไม่ใช่คริสตชน ตรงกันข้าม จงสวดภาวนาให้กับคนที่ต้องการทำชั่ว เพราะการทำแบบนี้จะยับยั้งสงครามและนำมาซึ่งสันติ นอกจากนี้ นี่ยังเป็นห

โป๊ปฟรังซิส - คนที่ได้รับเลือกเป็นโป๊ปไม่ใช่คนที่ฉลาดที่สุด แต่เป็นคนที่พระเจ้าต้องการมากสุดในช่วงนั้น

Image
เมื่อครู่นี้ ผมนั่งดู สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส เสด็จเยี่ยมสัตบุรุษที่วัดซานตา มารีอา โจเซฟา แห่งพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซู กรุงโรม พิธีการแรก พระสันตะปาปาทรงพบกับเด็กๆ และตอบคำถามพวกเขาอย่างเป็นกันเอง คำถามน่าสนใจ มีว่า "พระองค์มาเป็นพระสันตะปาปาได้อย่างไรครับ" พระสันตะปาปาตอบว่า "พ่อจ่ายเงินเพื่อได้เป็นพระสันตะปาปาหรือ ไม่ใช่แบบนั้น! พระคาร์ดินัลมารวมตัวกันเพื่อลงคะแนนเลือกพระสันตะปาปา เราคุยกัน ปรึกษาหารือเรื่องประวัติที่ดีที่สุด พระคาร์ดินัลตัดสินใจด้วยเหตุผลประสามนุษย์ แต่พระเจ้าทรงส่งพระจิตลงมาเพื่อช่วยเหลือในการเลือกตั้งนี้ ทุกคนลงคะแนน และคนที่ได้รับคะแนนสองในสามก็ได้เป็นพระสันตะปาปา ในการเลือกตั้งครั้งนี้ มีพระคาร์ดินัลเข้าร่วมทั้งหมด 115 คน พ่ออยากถามพวกลูกว่า 'ใครคือคนที่ฉลาดที่สุด'" เด็กๆ: "ก็พระองค์ไง" พระสันตะปาปา: "ไม่เลย คนที่ได้รับเลือกให้เป็นพระสันตะปาปาไม่จำเป็นว่าต้องเป็นคนที่ฉลาดที่สุด ไม่จำเป็นว่าเขาต้องเท่ห์ที่สุด แต่เขาคือคนที่พระเจ้าทรงต้องการสำหรับพระศาสนจักรในช่วงเวลานั้น" เด็กๆ: "พระอง

โป๊ปฟรังซิส - หน้าที่คริสตชนคือร้องหาความยุติธรรม ไม่ใช่ตอบโต้ความชั่วด้วยความชั่ว

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงย้ำ การที่พระเยซูสอนเราว่า "อย่าตอบโต้ความชั่วด้วยความชั่ว" จะกลายเป็นว่าความยุติธรรมจะถูกเมินเฉย แต่เราต้องร้องหาความยุติธรรมเพราะนี่คือหน้าที่ของคริสตชน  ตรงกันข้าม เราต้องอย่าแก้แค้นหรือสนับสนุนการแก้แค้น รวมถึงพฤติกรรมต่างๆ ที่แสดงออกถึงความรุนแรงและความเกลียดชัง  ทรงชี้ การที่พระเยซูสอนเราให้รักศัตรู ไม่ได้หมายความว่าให้เราเห็นด้วยกับการทำชั่วของเขา แต่ศัตรูก็เป็นมนุษย์ซึ่งเป็นสิ่งสร้างของพระเจ้า เขาถูกสร้างมาตามแบบของพระเจ้า เพียงแต่พระฉายาลักษณ์ของพระเจ้าที่อยู่ในตัวเขา ถูกบดบังด้วยการกระทำของปีศาจ ช่วงเที่ยงวันอาทิตย์ที่ 19 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงออกมานำสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าว ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน พระวรสารวันนี้ พระเยซูทรงกล่าวกับบรรดาศิษย์ว่า "อย่าตอบโต้คนชั่ว ผู้ใดตบแก้มขวา จงยื่นแก้มซ้ายให้เขาตบด้วย ... จงรักศัตรู จงภาวนาให้ผู้ที่เบียดเบียนท่าน" พระสันตะปาปาทรงเทศน์แบ่งปันว่า - พระวรสารวันนี้ พระคริสตเจ้าแสดงออกถึงแนวทางแห่งความยุติธรรมที่แท้จริง ผ่านทางกฎของความ

โป๊ปฟรังซิส - ทุกวันนี้การพูดจาใส่ร้ายกลายเป็นเรื่องปกติ มันทำให้ความรุนแรงฝังอยู่ในคำพูดของเรา

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงชี้ ทุกวันนี้การพูดจาใส่ร้ายกลายเป็นเรื่องปกติทั้งที่บ้านและตามท้องถนน สิ่งนี้ทำให้ความรุนแรงฝังอยู่ในคำพูดของเรา  ทรงย้ำ เราต้องพูดให้น้อยลง ฟังให้มากและต้องฟังอย่างรอบคอบ จงคิดก่อนจะพูดออกไป  ทรงสอน ก่อนจะโต้เถียงอะไร จงพูดจาแลกเปลี่ยนมุมมองกันก่อน ที่ใดที่ไม่มีการเสวนาพูดจากัน ที่นั่นจะมีความรุนแรง สงครามเริ่มต้นในจิตใจของเรา อาทิ บนโต๊ะอาหารที่เรามัวแต่คุยโทรศัพท์หรือส่งข้อความ แต่ไม่พูดกันบนโต๊ะอาหาร ช่วงสายวันศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส เสด็จไปยังมหาวิทยาลัย โรม่า เตร ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐบาลที่ตั้งอยู่ในกรุงโรม โอกาสนี้ พระสันตะปาปาทรงพบปะบรรดานักศึกษาจากคณะต่างๆ พร้อมเปิดโอกาสให้พวกเขาถามแบบสดๆ และพระองค์ทรงตอบกลับแบบสดๆ จากใจด้วยเช่นกัน โดยหนึ่งในนักศึกษาที่ได้ถามคำถามพระสันตะปาปา ก็คือ โนอูร์ เอสซา (คนในภาพ) หญิงชาวซีเรียวัย 31 ปี เธอเป็นหนึ่งในผู้ลี้ภัยที่พระสันตะปาปาทรงพามาจากเกาะเลสบอส ประเทศกรีซ เมื่อปี 2016 เพื่อมาลี้ภัยที่กรุงโรม ปัจจุบัน เอสซา เข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ด้วย สำหรับ

โป๊ปฟรังซิส - ผู้ประกาศพระวาจาต้องตรงไปตรงมา ภาวนา และทำตัวเหมือนแกะในฝูงหมาป่า

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอน คุณสมบัติของผู้ประกาศพระวาจาของพระเจ้า มี 3 ข้อหลักๆ ได้แก่ ต้องตรงไปตรงมา ต้องสวดภาวนา และต้องทำตัวให้เหมือนแกะท่ามกลางฝูงสุนัขป่า  อันดับแรก พระวาจาของพระเจ้าต้องได้รับการนำเสนอด้วยความตรงไปตรงมา ถ้าปราศจากความตรงไปตรงมา คุณจะไม่ได้ประกาศพระวาจา แต่คุณจะพูดแค่สิ่งที่ดูดีมีศีลธรรม พูดให้ตัวเองดูดีและดูเหมือนรักเพื่อนมนุษย์เท่านั้น  อันดับสอง พระวาจาของพระเจ้าต้องได้รับการประกาศด้วยการภาวนา ถ้าไม่ภาวนา มันไม่ต่างจากคุณกำลังจัดการสัมมนาขึ้นมา  อันดับสาม อย่าทำตัวเหมือน "หมาป่าในฝูงหมาป่า" เพราะถ้าทำตัวแบบนี้ พระเจ้าจะไม่ปกป้องท่าน แต่เวลาประกาศพระวาจาของพระเจ้า จงทำตัวเป็น "แกะในฝูงหมาป่า" ช่วงเช้าวันอังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา วันนี้ พระศาสนจักรกำหนดให้ระลึกถึงนักบุญซีริลและนักบุญเมโทดิโอ องค์อุปถัมภ์ของทวีปยุโรป บทอ่านวันนี้จากหนังสือกิจการอัครสาวก เปาโลและบาร์นาบัสกล่าวกับชาวยิวว่า "จำเป็นที่เราต้องประกาศพระวาจาของพระเจ้าใ

โป๊ปฟรังซิสเขียนคำนำบนหนังสือของคนที่ถูกสงฆ์คาทอลิกล่วงละเมิดทางเพศ

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเขียนคำนำในหนังสือ "ผมให้อภัยคุณพ่อครับ" (La perdono, padre) ซึ่งเป็นหนังสือที่เขียนโดย ดาเนี่ยล ปีต์เตต์ ฆราวาสชาวฝรั่งเศสที่ถูกสงฆ์คาทอลิกล่วงละเมิดทางเพศ มานานกว่า 4 ปีในสมัยที่เขายังเป็นเด็ก โดยหนังสือเล่มนี้ วางขายในอิตาลี ราคาเล่มละ 15.50 ยูโร ใจความสำคัญของคำนำที่พระสันตะปาปาทรงเขียน มีว่า - พระสงฆ์ซึ่งรับใช้พระคริสตเจ้าและพระศาสนจักรของพระองค์ทำเรื่องชั่วร้ายแบบนี้ได้อย่างไร มันเป็นไปได้อย่างไรกับคนที่อุทิศชีวิตของตนเพื่อนำพาผู้ต่ำต้อยไปหาพระเจ้า ดันมากัดกินผู้ต่ำต้อยเสียเอง สิ่งนี้พ่อขอเรียกว่า "การบูชาปีศาจ" ซึ่งทำลายทั้งเหยื่อและชีวิตของพระศาสนจักร - พ่อขอเน้นย้ำถึงหน้าที่ของพระศาสนจักรที่จะดูแลและปกป้องผู้อ่อนแอที่สุดและคนที่ไม่มีทางป้องกันตัวเอง พระศาสนจักรต้องลงโทษอย่างรุนแรงต่อสงฆ์ที่ทรยศพันธกิจ และต่อพระคาร์ดินัลและพระสังฆราชที่ปกป้องสงฆ์ล่วงละเมิดทางเพศ ทั้งนี้ ตอนท้ายของคำนำ พระสันตะปาปาทรงระบุว่า ปีต์เตต์ ได้พบกับสงฆ์ที่กระทำชำเราเขา จากนั้นได้เข้าไปจับมือและกล่าวว่า "ผมให้อภัยคุณพ่อครับ" พระสั

โป๊ปฟรังซิส - ความเคียดแค้นและขุ่นเคืองคือจุดเริ่มของความเป็นศัตรูและทำลายความเป็นพี่น้อง

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงย้ำ ถ้าเราเริ่มรู้สึกถึงความเคียดแค้นและขุ่นเคือง เราต้องหยุดความรู้สึกร้ายแบบนี้ทันที เพราะความรู้สึกเช่นนี้เป็นจุดเริ่มต้นของความเป็นศัตรู มันทำลายความเป็นพี่น้องกัน และทำลายทุกสิ่ง นิสัยแบบนี้ไม่ใช่คริสตชน  ทรงชี้ แม้แต่ในกลุ่มของพระสงฆ์ ก็มีรอยร้าวเล็กๆ และความแตกแยกที่นำไปสู่การทำลายความเป็นพี่น้องกัน  ทรงสอนอีกรอบ เราอาจพูดว่าเราไม่เคยฆ่าใคร แต่ถ้าเราสบประมาทพี่น้องของตนเอง เราก็ฆ่าหัวใจของพี่น้องเราไปแล้ว และพระเจ้าจะตรัสกับเราว่า "เลือดของพี่น้องของท่านจากพื้นดิน ส่งเสียงร้องไห้มาถึงเรา" ช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา ความพิเศษของมิสซานี้คือ "คุณพ่ออดอลโฟ่ นิโกลาส" อดีตอธิการเจ้าคณะเยสุอิตมาร่วมพิธีด้วย โดยนี่เป็นมิสซาอำลาคุณพ่อก่อนจะออกเดินทางไปทำพันธกิจแพร่ธรรมในทวีปเอเชีย ในส่วนบทอ่านประจำมิสซานี้ เป็นเหตุการณ์ที่ กาอิน ฆ่า อาเบล ซึ่งเป็นน้องชายแท้ๆ ของตนเอง พระสันตะปาปาทรงเทศน์แบ่งปันว่า - นี่เป็นครั้งแรกในพระคัมภีร

กลุ่มคาร์ดินัลที่ปรึกษาเพื่อปฏิรูปโรมันคูเรีย แถลงสนับสนุนและภักดีต่อโป๊ปฟรังซิส

Image
คณะพระคาร์ดินัลที่ปรึกษาพระสันตะปาปาในการปฏิรูปโรมันคูเรีย ออกแถลงการณ์ยืนยันผ่านทางศูนย์ข่าววาติกันว่า คณะที่ปรึกษาทุกคนให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่และภักดีต่อพระสันตะปาปา รวมทั้งคำสอนของพระองค์ ภายหลังสัปดาห์ที่ผ่านมา กลุ่มต่อต้านพระสันตะปาปาได้ทำการติดโปสเตอร์โจมตีและออกหนังสือพิมพ์วาติกันซึ่งเป็นของปลอม โดยภายในมีเนื้อหาบทสัมภาษณ์พระสันตะปาปาที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง แจกจ่ายไปทั่วกรุงโรม ทั้งนี้ เช้าวันนี้ (13 กุมภาพันธ์ 2017) สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส และคณะพระคาร์ดินัลที่ปรึกษาในการปฏิรูปโรมันคูเรีย ไดัร่วมประชุมกันภายในวาติกัน โดยเป็นการประชุมครั้งที่ 18 นับตั้งแต่พระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงจัดตั้งคณะที่ปรึกษาเพื่อการปฏิรูปโรมันคูเรีย

โป๊ปฟรังซิส - การสบประมาทหรือดูหมิ่นคนอื่นไม่ต่างจากการฆ่าคน

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอน การสบประมาทหรือดูหมิ่นคนอื่นไม่ต่างจากการฆ่าคน เพราะนี่คือการฆ่าหัวใจของเพื่อนมนุษย์และยังรุกรานศักดิ์ศรีความเป็นคนของเขาด้วย  ทรงย้ำ การมีชู้เปรียบเหมือนการขโมยและโกง พร้อมยืนยันคำสอนของพระเยซู "ผู้ใดมองหญิงด้วยความใคร่ ท่านก็ได้ล่วงประเวณีกับเธอในใจแล้ว" ช่วงเที่ยงวันอาทิตย์ที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงออกมานำสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าว ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน พระวรสารวันนี้ พระเยซูทรงกล่าวกับบรรดาศิษย์ว่า "เรามาเพื่อปรับปรุงให้คำสอนของประกาศกสมบูรณ์ ... ถ้ามีข้อบาดหมางกับใครก่อนถวายเครื่องบูชา จงไปคืนดีก่อนถวายเครื่องบูชา ... ผู้ใดมองหญิงด้วยความใคร่ ท่านก็ได้ล่วงประเวณีกับเธอในใจแล้ว ผู้ใดที่หย่ากับภรรยา ยกเว้นกรณีแต่งงานไม่ถูกต้อง ก็เท่ากับทำให้นางล่วงประเวณี และผู้ใดที่แต่งกับหญิงที่หย่าร้าง ก็ล่วงประเวณีด้วย ... อย่าสาบานเลย อย่าอ้างถึงสวรรค์ เพราะเป็นที่ประทับของพระเจ้า อย่าอ้างถึงแผ่นดิน เพราะเป็นที่รองพระบาทของพระองค์" พระสันตะปาปาทรงเทศน์แบ่งปันว่า - สิ่งที่กล่าวในพันธสั

โป๊ปฟรังซิส - แค่เริ่มคุยกับปีศาจ เราก็แพ้มันแล้ว

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอน เวลาเจอการประจญ อย่าคุยกับปีศาจ แต่จงภาวนาขอพระเจ้า เพราะถ้าเราเริ่มคุยกับปีศาจ เราก็แพ้แล้ว ตัวอย่างชัดเจนคือเอวา  ทรงชี้ การโกงเริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ อาทิ พวกขายของแล้วโกงตราชั่ง  ช่วงเช้าวันศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา บทอ่านวันนี้จากหนังสือปฐมกาล เป็นเหตุการณ์ที่งูล่อลวงอาดัมและเอวา พระสันตะปาปาทรงเทศน์สอนว่า - ปีศาจปรากฏมาในรูปของงู มันมีเสน่ห์และน่าดึงดูดมาก อาศัยความเจ้าเล่ห์ของมัน ปีศาจจ้องจะหลอกลวงมนุษย์ เรื่องแบบนี้ปีศาจคือผู้เชี่ยวชาญ มันคือบิดาของการโกหก นี่คือสิ่งที่ปีศาจทำกับเอวา มันทำให้เอวารู้สึกดี จากนั้น มันเริ่มพูดคุยกับเอวา คุยทีละนิด คุยไปเรื่อยๆ ที่สุดแล้วซาตานหลอกเอวาไปตามที่มันต้องการ - แต่กับพระเยซูแล้ว มันแตกต่างกันสิ้นเชิง ทุกอย่างจบลงกับปีศาจแบบแย่มาก มันพยายามจะพูดคุยกับพระเยซู แต่พระองค์ไม่ยอมคุยกับมัน พระเยซูตอบคำถามปีศาจ แต่ไม่ได้ตอบตามประสามนุษย์ พระองค์ตอบมันด้วยพระวาจาของพระเจ้า พระองค์สอนเราว่า 'ท่านไม่สามารถเสวนากับป

ฝ่ายต่อต้านพระสันตะปาปาแจกนสพ.วาติกันของปลอม โจมตีพระสันตะปาปา

Image
ที่กรุงโรมเช้าวันนี้ มีการแจก "ลอสแซร์วาตอเร่ โรมาโน่" หนังสือพิมพ์วาติกันหลายจุดทั่วกรุงโรม (ฉบับในภาพ) อย่างไรก็ตาม นี่เป็น "หนังสือพิมพ์ของปลอมที่วาติกันไม่ได้พิมพ์" แต่มันมาจากกลุ่มต่อต้านพระสันตะปาปา เนื้อหาภายใน เป็นการสร้างเรื่องว่าพระสันตะปาปาทรงตอบข้อสงสัยจากพระคาร์ดินัลสายอนุรักษ์นิยม 4 คนที่เห็นต่างกับพระสันตะปาปา แต่คำตอบนั้นเป็นแบบผิดๆ และทำให้พระสันตะปาปากลายเป็นตัวตลก เห็นแบบนี้แล้ว รู้สึกว่าฝ่ายต่อต้านพระสันตะปาปาเริ่มทำงานหนักและเล่นเกมทั้ง "บนดิน" และ "ใต้ดิน" แรงขึ้นเรื่อยๆ "บนดิน" คือพวกนักข่าววาติกันสายอนุรักษ์นิยมซึ่งคอยเขียนบทความโจมตีพระสันตะปาปา "ใต้ดิน" คือพวกโปสเตอร์โจมตีและหนังสือพิมพ์ปลอมแบบนี้ เห็นแล้วก็เศร้าใจจริงๆ ที่พวกอนุรักษ์นิยมเล่นรุนแรงจริงๆ

บรรดาอธิการเจ้าคณะถาม พระสันตะปาปาตอบ

Image
ช่วงนี้ ผมยัง "ดอง" บทสัมภาษณ์พระสันตะปาปาไว้อีก 2 เรื่อง เรื่องแรกคือที่กำลังทยอยลงเป็นหัวข้อที่พระองค์สัมภาษณ์กับ "เอล ปาอิส" หนังสือพิมพ์สเปน และอันที่สองที่ผมยังไม่ได้ปล่อยออกมาคือ พระสันตะปาปาให้สัมภาษณ์กับ ESNE TV and Radio (สถานีวิทยุและโทรทัศน์จากลอส แองเจลลีส อเมริกา)  ในบทสัมภาษณ์ที่ตรัสกับ ESNE ประโยคเด็ดๆ ที่พระสันตะปาปาตรัสถึงฆราวาสคาทอลิกก็คือ "ฆราวาสต้องก้าวออกไปประกาศพระวรสาร ไม่งั้น เขาก็ควรซื้อลูกเหม็นติดบ้านไว้! บางครั้ง พ่อคิดเองว่า ธุรกิจที่ดีที่สุดที่เราจะทำกับคริสตชนก็คือขาย 'ลูกเหม็น' ให้พวกเขา เพื่อที่เขาจะได้เอาไปใส่ในตู้เสื้อผ้าและชีวิตประจำวัน เพื่อที่ชีวิตและเสื้อผ้าของเขาจะไม่ถูกแมลงกัดกิน เพราะไม่ยอมก้าวออกจากตัวเอง" ส่วนล่าสุด เช้าวันนี้ คุณพ่ออันโตนิโอ สปาดาโร่ สงฆ์เยสุอิตและบรรณาธิการนิตยสารของคณะเยสุอิต "ลา ชิวิลตา คัตโตลิกา" ได้ส่งบทสัมภาษณ์ "เรื่องที่ 3" ที่ได้รับการเผยแพร่มาให้ผม เป็นเหตุการณ์ที่พระสันตะปาปาตรัสกับมหาอธิการเจ้าคณะนักบวชชายกว่า 140 คณะจากทั่วโลก เมื่อเดือนพฤศจิกายน

โป๊ปฟรังซิส - ผู้หญิงนำความกลมเกลียวและอ่อนโยนมาให้โลก

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอน ผู้หญิงนำความกลมเกลียวและอ่อนโยนมาให้โลก ดังนั้น การสั่งผู้หญิงทำงานทุกอย่างไม่ใช่เรื่องถูกต้อง  ทรงชี้ พระเจ้าทรงสร้างผู้หญิงเพื่อที่เราจะได้มีแม่  ทรงย้ำ การฉกฉวยประโยชน์จากมนุษย์คืออาชญากรรม แต่การแสวงหาผลประโยชน์จากผู้หญิงเป็นสิ่งที่เลวร้ายกว่านั้นอีก ช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา บทอ่านวันนี้จากหนังสือปฐมกาล เป็นเหตุการณ์ที่พระเจ้าทรงสร้างผู้หญิง พระสันตะปาปาทรงเทศน์แบ่งปันว่า - บ่อยครั้งเมื่อเราพูดถึงผู้หญิง เราจะคิดถึงพวกเธอในรูปแบบการเป็นผู้ทำตามหน้าที่ที่ได้รับ ในความเป็นจริงแล้ว เราควรมองผู้หญิงเป็นผู้นำความอุดมสมบูรณ์มาให้ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ชายทำไม่ได้ นั่นคือ ผู้หญิงนำความกลมเกลียวมาให้กับสิ่งสร้างของพระเจ้า - เมื่อผู้หญิงไม่อยู่ ความกลมเกลียวมันหายไป เราอาจจะพูดว่า 'นี่คือสังคมที่เปี่ยมด้วยทัศนคติแบบชายชาตรี' แล้วผู้หญิงล่ะไปไหน โน่นไง ผู้หญิงก็ล้างจานและทำสิ่งอื่นๆ ไม่นะ แบบนี้มันไม่เท่าเทียมกัน มันไม่มีใครเหนือกว่าใค

โป๊ปฟรังซิสขอคำภาวนาเพื่อชาวโรฮิงญาที่ถูกเบียดเบียนและไม่มีใครต้อนรับ

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงขอคำภาวนาเพื่อ "ชาวโรฮิงญา" ที่กำลังถูกเบียดเบียนอย่างหนักและไม่มีใครต้อนรับพวกเขา  ทรงย้ำ คริสตชนถูกเรียกมาเพื่อสร้างสะพานไม่ใช่สร้างกำแพง เราต้องไม่กลับไปหาความชั่วด้วยการทำชั่วซ้ำอีก แต่เราต้องเอาชนะความชั่วด้วยความดี การให้อภัย และความรัก  ทรงสอน คริสตชนต้องไม่พูดว่า "แกต้องชดใช้" เพราะนี่ไม่ใช่นิสัยของคริสตชน  ช่วงสายวันพุธที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงออกมาพบปะและเทศน์สอนสัตบุรุษในการเข้าเฝ้าทั่วไป ภายในหอประชุมเปาโล ที่ 6 นครรัฐวาติกัน บทอ่านช่วงเริ่มพิธีจากจดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวเธสโลนิกา ท่านย้ำกับกลุ่มคริสตชนที่นั่นว่า เราต้องให้กำลังใจกันและกันในคำภาวนาและผ่านทางการแสดงออกถึงความห่วงใยต่อผู้ตกทุกข์ได้ยาก พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า - เราต้องช่วยเหลือกันและกันเวลาที่อีกฝ่ายต้องการความช่วยเหลือ นอกจากนี้ เรายังต้องช่วยเหลือกันเมื่ออีกฝ่ายต้องการความหวัง ในความเป็นจริงแล้ว พ่ออยากย้ำว่า ความหวังตามแบบฉบับคริสตชนไม่ได้เป็นเรื่องของตัวบุคคลอย่างเดียว แต่มันยังเกี่ยวกับหมู่คณะของเราด้ว

โป๊ปฟรังซิสทรงนิ่งๆ ไม่ตระหนกกับโปสเตอร์โจมตีที่ติดทั่วกรุงโรม

Image
ผมได้ข้อมูลจากเพื่อนนักข่าวสายวาติกันเกี่ยวกับ "ปฏิกิริยาของพระสันตะปาปา" หลังทรงทราบเรื่องโปสเตอร์โจมตีพระองค์ถูกเผยแพร่กว่า 200 จุดทั่วกรุงโรม (ใครตกข่าว ตามได้ที่นี่ http://bit.ly/2kiyUTG) สิ่งที่พระสันตะปาปาทรงทำหลังทราบเรื่องคือ "นิ่งๆ ไม่ตื่นตระหนก" เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า ฝ่ายที่คัดค้านพระสันตะปาปา ฟรังซิส คือ "กลุ่มอนุรักษ์นิยมในพระศาสนจักรคาทอลิก" ปัญหาที่ความขัดแย้ง เกิดจาก "สมณสาสน์ความรักในครอบครัว" (Amoris Laetitia) ซึ่งค่อนข้างคลุมเครือ อ่านแล้วต้องตีความเกี่ยวกับการอนุญาตให้คาทอลิกหย่าร้างรับศีลมหาสนิทได้หรือไม่ "แกนนำของกลุ่มอนุรักษ์นิยม" ที่ไม่เห็นด้วย และตั้งข้อสงสัยในสมณสาส์นี้ มี 4 คน นำโดย พระคาร์ดินัล เรย์มอนด์ เบิร์ก, พระคาร์ดินัล คาร์โล คัฟฟาร่า, พระคาร์ดินัล วอลเตอร์ แบรนด์มุลเลอร์ และ พระคาร์ดินัล โยอาคิม ไมส์เนอร์ พระคาร์ดินัล 4 คนนี้คือคนที่ส่งจดหมายขอร้องให้พระสันตะปาปาชี้แจงเนื้อหาในสมณสาส์น แต่พระสันตะปาปาไม่ตอบ เมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเขาจึงนำจดหมายดังกล่าวมาเปิดเผยกับสาธารณชน เพื่อกดดันพระสันตะปา

โป๊ปฟรังซิส - พระเจ้าให้อัตลักษณ์ความเป็นลูกของพระให้เรา ดังนั้นเราต้องมอบสิ่งนี้ให้ลูกของเราด้วย

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอน พระเจ้าทรงให้อัตลักษณ์ความเป็น "ลูกของพระ" ให้กับเรา ดังนั้น เราต้องมอบอัตลักษณ์ความเป็นลูกของพระให้กับลูกๆ ของเราด้วย  ทรงกล่าวติดตลก พระเจ้าทรงสร้างโลกและให้ทุกสิ่งกับมนุษย์ ไม่ว่าการเป็นเจ้านายปกครองแผ่นดินหรือสัตว์ แต่ทำไมพระเจ้าไม่ให้เงินกับมนุษย์ตอนสร้างโลก! ช่วงเช้าวันอังคารที่ 7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา บทอ่านวันนี้จากหนังสือปฐมกาล พระเจ้าทรงสร้างชายและหญิง ส่วนบทเพลงสดุดีวันนี้ (8:3-9) มีใจความว่า "มนุษย์เป็นผู้ใดเล่าที่พระเจ้าจะระลึกถึงเขา พระองค์ทรงทำให้เขาต่ำกว่าพระองค์ แต่เพียงนิดเดียว และทรงสวมความมีศักดิ์ศรีกับอำนาจให้เขา" พระสันตะปาปาทรงเทศน์สอนว่า - การที่พระเจ้าสร้างมนุษย์ชายและหญิง พระองค์ทรงมอบของขวัญให้เราสามอย่าง สิ่งแรกเลยที่พระเจ้าทรงมอบให้มนุษย์ก็คือดีเอ็นเอของพระองค์ พระองค์ทรงสร้างเราตามพระฉายาลักษณ์ของพระองค์ เราจึงเป็นเหมือนกับพระเจ้า มันก็เหมือนเวลาที่เรามีลูกชาย ลูกก็ได้รับอัตลักษณ์ตัวตนของเราไปด้วย ถ้าลูกชายเป็นคนด

โป๊ปฟรังซิส - อย่าใช้ความเคร่งครัดในพระบัญญัติมาเป็นที่หลบภัยให้ตนเอง

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอน คริสตชนต้องอย่าปิดตัวเอง อย่าใช้ความเคร่งครัดในพระบัญญัติมาเป็นที่หลบภัยให้ตัวเองจนก้าวไปข้างหน้าไม่ได้  ทรงชี้ เวลาทำพันธกิจ เราต้องทำด้วยการเป็นทาสของความรัก ไม่ใช่เป็นทาสของหน้าที่  ถ้าเราเป็นทาสของหน้าที่การงาน เราจะไม่เป็นอิสระจากสิ่งใด แต่ถ้าทำงานด้วยการเป็นทาสของความรัก เราจะเป็นอิสระจากทุกสิ่ง ช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา บทอ่านวันนี้จากหนังสือปฐมกาล เป็นเรื่องของการสร้างโลก ส่วนพระวรสาร ประชาชนพาคนป่วยมาหาพระเยซูเพื่อให้พระองค์รักษา พระองค์ทรงสัมผัสใคร คนนั้นก็หายจากโรค พระสันตะปาปาทรงเทศน์แบ่งปันว่า - ทำไมพระเจ้าทรงสร้างโลก คำตอบง่ายๆ พระองค์ต้องการแบ่งปันความครบครันให้กับเรา ส่วนการสร้างครั้งที่สอง พระเจ้าทรงส่งพระบุตรมาทำทุกอย่างให้มันถูกต้อง ทำสิ่งที่น่าเกลียดให้ดูดี ทำเรื่องผิดให้มันถูก แต่พวกธรรมาจารย์รู้สึกว่าตัวเองถูกดูหมิ่นด้วยเรื่องแบบนี้ พวกเขาจึงหาทางฆ่าพระองค์ ทำไมเขาต้องทำแบบนั้น ก็เพราะพวกเขาไม่สามารถรับพระพรของพระเจ้า

โป๊ปฟรังซิส - คริสตชนต้องปฏิเสธการโกง การเห็นแก่ตัว การอิจฉา และการนินทา

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอน การที่คริสตชนจะเป็นแสงสว่างส่องโลกและเป็นเกลือดองแผ่นดิน เราต้องเป็นอิสระจากการโกง  การหลีกหนีจากการโกง ต้องทำต่อเนื่องทุกวัน เพราะการโกงไม่มีวันจบสิ้น  นอกจากนี้ เรายังต้องปฏิเสธเมล็ดพันธุ์สกปรกที่เกิดจากความเห็นแก่ตัว ความอิจฉา และการนินทาเพราะสิ่งนี้ทำลายสังคมของเรา  ตอนท้าย สัตบุรุษร่วมเปล่งเสียง "วีว่า ปาปา" เพื่อให้กำลังใจพระสันตะปาปา หลังมีผู้ไม่ประสงค์ดีติดโปสเตอร์โจมตีพระองค์หลายแห่งทั่วกรุงโรม ช่วงเที่ยงวันอาทิตย์ที่ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงออกมานำสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าว ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน พระวรสารวันนี้ พระเยซูทรงกล่าวกับบรรดาศิษย์ว่า "ท่านทั้งหลายเป็นเกลือดองแผ่นดินและเป็นแสงสว่างส่องโลก" พระสันตะปาปาตรัสแบ่งปันว่า - คริสตชนได้รับกระแสเรียกให้มอบรสชาติที่ดีให้กับชีวิตของตน และในเวลาเดียวกัน เรายังต้องหลีกหนีจากเมล็ดพันธุ์สกปรกอันเนื่องมาจากความเห็นแก่ตัว ความอิจฉา และการนินทา เมล็ดพันธุ์สกปรกเหล่านี้ทำลายโครงสร้างสังคมของเรา ทั้งที่สังคมนี้คว

โป๊ปฟรังซิส - นักธุรกิจต้องต้อนรับระบบเศรษฐกิจที่ไม่ทอดทิ้งคนยากจน

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงหวังเห็นนักธุรกิจสร้างระบบเศรษฐกิจที่ไม่ทอดทิ้งคนยากจนและสร้างความเป็นหนึ่งเดียวของคนในสังคม  ทรงชี้ เงินมีความสำคัญก็จริง แต่ถ้าเราทำให้เงินเป็นเทพเจ้าและเป็นเป้าหมายชีวิต เงินจะกลายเป็นสิ่งอันตรายทันที  ช่วงสายวันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงต้อนรับผู้ที่มาร่วมการประชุมโอกาสครบรอบ 25 ปีแห่งการก่อตั้งหน่วยงาน "เศรษฐกิจและความเป็นหนึ่งเดียวกัน" (Economy of Communion) โดยกลุ่มดังกล่าวอยู่ภายใต้ความดูแลของกลุ่ม "โฟโคลาเร" โอกาสนี้ พระสันตะปาปาตรัสกับพวกเขาว่า - ชื่อของพวกท่าน 'เศรษฐกิจและความเป็นหนึ่งเดียวกัน' สองคำนี้ บ่อยครั้ง มันดูขัดแย้งกันและไปคนละทางก็ว่าได้ เงินมีความสำคัญ เฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่เราไม่มีอะไรเลย แน่นอนว่า สถานการณ์แบบนี้ อาหาร โรงเรียน และอนาคตของเด็กๆ ขึ้นอยู่กับเงินที่จะมาช่วยเหลือ แต่สิ่งที่อันตรายกว่านั้นก็คือ เงินจะกลายเป็นเทพเจ้าเมื่อมันกลายเป็นเป้าหมายที่เราอยากจะไขว่คว้า - แม้ว่าจะมีหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเข้ามาทำงานต่อสู้กับความยากจน แต่ว่า ลัทธิทุนนิย

โป๊ปฟรังซิส - นักบวชอย่าตกเป็นเหยื่อการประจญที่คิดแต่ว่าทำอย่างไรให้คณะอยู่รอด

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงย้ำ นักบวชอย่าตกเป็นเหยื่อการประจญที่คิดแต่ว่า "ทำอย่างไรให้คณะอยู่รอด"  ถ้าติดกับดักนี้ เราจะกลายเป็น "คนที่มีอาชีพนักบวชและนักรณรงค์ทางความเชื่อ" เราจะไม่ใช่นักบวชที่นำพระเยซูไปประทับท่ามกลางประชากรของพระองค์  ทรงชี้ ทัศนคติแสวงหาแต่การอยู่รอด จะทำให้นักบวชเฉื่อยชา เก็บตัวเงียบอยู่แต่ในบ้านคณะ และไม่ยอมจุดไฟสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ตามความฝันของผู้ก่อตั้งคณะ  ช่วงเย็นวันพฤหัสบดีที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในมิสซาฉลองการถวายพระกุมารในพระวิหาร พิธีกรรมในวันนี้มีการเสกและแห่เทียนช่วงเริ่มต้นพิธี นอกจากนี้ ยังเป็นวันเพื่อนักบวชอีกด้วย (วันเพื่อนักบวชจัดขึ้นเป็นครั้งแรกตามพระประสงค์ของสมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 เมื่อค.ศ.1997) มิสซานี้ พระสันตะปาปาทรงเทศน์สอนว่า - ท่านซิเมออนและอันนาได้แสดงให้เห็นแล้วว่า ชีวิตคือการดำเนินชีวิตที่มีค่าอยู่ในความหวัง เพราะพระเจ้าทรงรักษาสัญญาเสมอ สิ่งที่ท่านซิเมออนทูลพระเจ้านั้นคือ 'บทภาวนาแห่งความหวัง' นี่คือบทภาวนาแห่งความหวังที่บรรพบุ