Posts

Showing posts from December, 2016

โป๊ปฟรังซิสประทานพรแด่โรมและโลก พร้อมขอสันติสุขเกิดกับทุกภาคส่วนของโลก

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงอวยพรแด่โรมและโลก (Urbi et Orbi) พร้อมย้ำ อำนาจของพระเจ้าไม่ใช่อำนาจแบบใช้กำลังหรืออำนาจเงิน แต่อำนาจของพระเจ้าคือการใช้พลังความรักเพื่อสร้างทุกสิ่ง  ทรงวอนขอสันติภาพในทุกภาคส่วนของโลก ทั้งเมียนมา, ซีเรีย, แผ่นดินศักดิ์สิทธิ์, ยูเครน โคลอมเบีย และในแอฟริกา  ทรงอวยพร สันติสุขจงบังเกิดกับคนที่มีจิตใจดีที่ทำงานแบบเงียบๆ และอดทน เพื่อสร้างความยุติธรรมให้เกิดขึ้น  ทรงวอนขอสันติสุขจงเกิดกับคนที่ทนทุกข์จากความทะเยอทะยานของนักธุรกิจบางกลุ่มที่โลภและบูชาเงินเป็นพระเจ้า ช่วงเที่ยงวันอาทิตย์ที่ 25 ธันวาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในการอวยพรแด่โรมและโลก (Urbi et Orbi) ซึ่งในหนึ่งปีจะทำสองครั้งคือวันคริสต์มาสและวันปาสกา) โดยปีนี้ พระสันตะปาปาทรงกล่าวว่า - อำนาจของพระกุมาร พระบุตรของพระเจ้าและบุตรของแม่พระ ไม่ได้เป็นอำนาจของโลกนี้ซึ่งตั้งอยู่บนการใช้กำลังและความร่ำรวย แต่นี่คือพลังแห่งความรัก นี่คือพลังที่สร้างสวรรค์และโลก และให้ชีวิตแก่สิ่งสร้างทั้งปวง พลังแห่งความรักนี้นี่เองที่นำพระเยซูคริสต์ทรงถ่อมตนลงมาบังเกิดเป็นมนุ

ทำไมรูปในการ์ดคริสต์มาสจากพระสันตะปาปา มีพระกุมาร 2 องค์

Image
มีหลายท่านสงสัยเรื่องภาพในการ์ดอวยพรคริสต์มาส 2016 ของสมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ที่นำภาพวาดจากมหาวิหารนักบุญฟรานเชสโก้ อัสซีซี มาใส่ประกอบ ข้อสงสัยคือ "ทำไมภาพนี้มีเด็กทารก 2 คน อีกคนคือใคร" คำตอบคือนี่คือภาพวาดการบังเกิดของพระเยซูภาพเดียวในโลกที่มีพระกุมารเยซู 2 องค์ คนวาดภาพนี้คือ "จ็อตโต้ ดิ บอนโดเน่" จิตรกรชื่อดังในศตวรรษที่ 14 เขาให้เหตุผลภาพนี้ว่า พระกุมารภาพบนคือพระเยซูในธรรมชาติของพระเจ้า ส่วนภาพล่างคือธรรมชาติมนุษย์ ส่วนพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระองค์ทรงตีความภาพพระกุมารในธรรมชาติมนุษย์ ดังนี้ "ผู้หญิง 2 คนที่อุ้มพระกุมาร ไม่ใช่แม่พระ แต่เป็นผู้ช่วยทำคลอด การอุ้มกอดของผู้ช่วยทำคลอดคนแรก หมายความว่า พระเยซูไม่ใช่คนแปลกหน้า แต่พระองค์ทรงเป็นส่วนหนึ่งของมนุษยชาติที่เราเป็นส่วนหนึ่งด้วย "ส่วนผู้ช่วยทำคลอดอีกคนที่หยิบยื่นผ้าคาดแถบยาวมาให้ คือการย้ำเตือนถึงความจำเป็นที่จะเยียวยาความทุกข์ยากของคนอื่น  อาทิ ความทุกข์ของผู้หิวโหยผ่านทางการให้นม (ให้อาหาร) หรือจะช่วยเอาผ้าห่มให้เขาบรรเทาอากาศหนาว เพราะพระเยซููถูกขับไล่ออกจากบ้านเกิด การยื่นผ้าห

โป๊ปฟรังซิส - คริสต์มาสคือวันที่เราต้องสนใจเด็กที่ทนทุกข์จากสงครามและเด็กที่ถูกปฏิเสธจากสังคม

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงขอร้องคาทอลิกทั่วโลก วันคริสต์มาสคือวันที่เราต้องสนใจเด็กๆ ที่ทนทุกข์จากสงคราม เด็กที่พ่อแม่ไม่อยากให้เกิดมา และเด็กที่ถูกทอดทิ้งอยู่ตามข้างถนน  เพราะในความเป็นจริง คืนที่พระเยซูบังเกิด พระองค์ก็เผชิญเรื่องแบบนี้เช่นกัน เริ่มจากที่พักเต็มหมดจึงต้องบังเกิดอยู่ในรางหญ้าคอกเลี้ยงสัตว์  ทรงเตือน อย่าให้คริสต์มาสเป็นวันฉลองเพื่อตัวเอง และห่วงแต่ว่าจะให้ของขวัญอะไรกันดี จนเมินเฉยคนที่ถูกทอดทิ้ง เพราะแก่นแท้ของวันนี้คือเราฉลองเพื่อพระเยซู  ช่วงค่ำวันเสาร์ที่ 24 ธันวาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในมิสซาสมโภชพระคริสตสมภพ ภายในมหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน ท่ามกลางสัตบุรุษที่มาร่วมพิธีจำนวนมาก สำหรับบทเทศน์ประจำมิสซานี้ พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า - ถ้าเราต้องการจะฉลองวันคริสต์มาสอย่างถูกต้อง เราจำเป็นต้องไตร่ตรองเครื่องหมายเหล่านี้ นั่นคือ ความเรียบง่ายอันอ่อนแอของทารกตัวเล็กๆ ความสุภาพอ่อนโยนที่เด็กเหล่านี้มี ความรักอันนุ่มละมุนของผ้าที่ห่อหุ้มตัวพวกเขา พระเจ้าคือสิ่งเหล่านี้นี่แหละ - อาศัยเครื่องหมายเหล่านี

โป๊ปฟรังซิสเสด็จไปอวยพรคริสต์มาสโป๊ปกิตติคุณเบเนดิกต์

Image
ช่วงเที่ยงวันศุกร์ที่ 23 ธันวาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส เสด็จไปยังอารามมารดาพระศาสนจักรในวาติกัน เพื่ออวยพรสมเด็จพระสันตะปาปากิตติคุณ เบเนดิกต์ ที่ 16 โอกาสวันคริสต์มาส ทั้งนี้ รายงานข่าวแจ้งว่า พระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงมาเคาะประตูอารามมารดาพระศาสนจักรด้วยพระองค์เอง จากนั้น พระสันตะปาปากิตติคุณ ได้เชิญพระสันตะปาปา ฟรังซิส ไปที่วัดน้อยของอาราม เพื่อสวดภาวนาร่วมกัน จากนั้น ทั้งสองพระองค์ได้มาสนทนากันต่อที่ห้องรับแขก ก่อนจะอวยพรแก่กันโอกาสวันคริสต์มาส

โป๊ปฟรังซิสย้ำพนักงานฆราวาสในวาติกัน อย่าให้มีการจ่ายเงินใต้โต๊ะหรือเล่นตุกติกเด็ดขาด

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงย้ำกับพนักงานฆราวาสในวาติกัน อย่าให้มีการจ่ายเงินใต้โต๊ะ อย่าเล่นเกมตุกติกหรือเจ้าเล่ห์ในการทำงานเด็ดขาด ทรงขอบคุณพนักงานฆราวาสที่ทุ่มเททำงานให้ออกมาดีที่สุด ทั้งที่บางครั้ง เขาอาจมีเรื่องกังวลใจที่บ้านหรือเจ็บป่วยในวันที่ต้องทำงานก็ตาม  ช่วงเที่ยงวันพฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงต้อนรับบรรดาพนักงานฆราวาสที่ปฏิบัติงานในโรมันคูเรียที่มาเข้าเฝ้าถวายพระพรโอกาสวันคริสต์มาส โดยช่วงก่อนหน้านี้ พระสันตะปาปาทรงพบกับบรรดาพระคาร์ดินัล พระสังฆราช และพระสงฆ์ที่ปฏิบัติงานในโรมันคูเรียไปก่อนแล้ว สำหรับช่วงนี้ พระสันตะปาปาตรัสให้โอวาทกับพนักงานทุกคนว่า - งานคือสิ่งสำคัญสำหรับมนุษย์และครอบครัวของเขา ขอให้เราขอบคุณพระเจ้าที่เรามีงานทำ เช่นเดียวกัน ขอให้เราภาวนาขอพระเจ้าเพื่อผู้ที่ไม่มีงานทำ ผู้ที่ทำงานที่อาจดูไม่มีความหมาย ผู้ที่ทำงานแล้วได้ค่าจ้างน้อย และผู้ที่ทำงานเสี่ยงภัยอันตรายต่างๆ - ในวาติกัน พวกเรามีอีกเหตุผลหนึ่งในการทำงาน นั่นคือ เรามีพระวรสารเป็นหลักและเราต้องเดินตามแนวทางคำสอนด้านสังคมของพระศาสนจักร ดังนั้น จง

โป๊ปฟรังซิส: การปฏิรูปโรมันคูเรียจะเกิดเมื่อผู้ปฏิบัติงานกลับใจ + เป็นธรรมดาหากปฏิรูปแล้วเจอต่อต้าน

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงชี้ การปฏิรูปโรมันคูเรียจะเกิดเมื่อผู้ปฏิบัติงานกลับใจและเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างแท้จริง  การปฏิรูปนี้ไม่ได้ทำเพื่อความสวยงามหรือลบริ้วรอยบนใบหน้า แต่เราทำเพื่อกำจัดจุดด่างดำต่างหาก  ทรงสอน เป็นเรื่องปกติเวลาทำการปฏิรูปแล้วเจอต่อต้าน  การต่อต้านมี 3 แบบคือ ต่อต้านด้วยความตั้งใจดี ต่อต้านแบบแอบๆ ด้วยหัวใจแข็งกระด้าง และต่อต้านโดยมีเจตนาร้ายซึ่งทำให้ตัวเองดูดีคนเดียว ส่วนคนอื่นผิดเสมอ  ทรงแนะแนวทางปฏิรูปโรมันคูเรีย 12 ประการ พร้อมหวังเห็นโรมันคูเรียให้ความสำคัญกับบทบาทของสตรีและฆราวาสในการเป็นผู้นำหน่วยงานต่างๆ ด้วย ช่วงสายวันพฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงต้อนรับพระคาร์ดินัล พระสังฆราช และพระสงฆ์ที่ปฏิบัติงานอยู่ในโรมัน คูเรีย (หน่วยงานบริหารพระศาสนจักรส่วนกลาง) ที่มาเข้าเฝ้าถวายพระพรโอกาสวันคริสต์มาส ทั้งนี้ ปี 2014 พระดำรัสที่พระสันตะปาปาตรัสกับพนักงานในโรมันคูเรีย พระองค์ตรัสถึง "โรคร้ายในโรมันคูเรีย" ส่วนปี 2015 พระองค์ตรัสถึง "คุณธรรมที่สมาชิกโรมันคูเรียต้องมี" ส่วนปีนี้ พระสั

โป๊ปฟรังซิสทำเซอร์ไพรส์ออกไปซื้อรองเท้าสำหรับผู้มีปัญหากระดูกด้วยพระองค์เอง

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงทำเซอร์ไพรส์ด้วยการเสด็จออกจากวาติกัน เพื่อไปซื้อรองเท้าสำหรับผู้มีปัญหากระดูก และทรงชำระเงินซื้อของด้วยเงินของพระองค์เอง ภาพดังกล่าวเกิดเย็นวันอังคารที่ 20 ธันวาคม 2016 พระสันตะปาปาเสด็จมาด้วยรถยนต์ฟอร์ด โฟกัส สีน้ำเงิน มาที่ร้านฟิสิโออีต็อป (Fisioitop) ซึ่งอยู่ตรง "เวีย เดล เจลโซมิโน่" (Via del Gelsomino) ไม่ไกลจากวาติกันเท่าไหร่นัก เมื่อผู้คนที่อยู่แถวนั้น เห็นพระสันตะปาปาจึงเกิดอาการตกใจและดีใจ เพราะไม่คาดคิดว่า พระสันตะปาปาจะมาซื้อรองเท้าด้วยพระองค์เอง ทั้งนี้ เหตุการณ์แบบนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว เมื่อเดือนเมษายน 2015 พระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงทำเซอร์ไพรส์ออกนอกวาติกันแบบเงียบๆ เพื่อไปตัดแว่นสายตาที่ร้านแถววาติกัน และชำระเงินด้วยพระองค์เอง

โป๊ปฟรังซิส - ลูกหลานต้องพูดคุยกับปู่ย่าตายายและผู้อาวุโสในครอบครัว

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงหวังเห็นเด็กๆ พูดคุยกับปู่ย่าตายายและผู้อาวุโสในครอบครัว เพราะปู่ย่าตายายมีปรีชาญาณในการดำเนินชีวิตที่สามารถสอนและแนะนำเราได้  เช่นเดียวกัน ปู่ย่าตายายและผู้อาวุโสก็ต้องฟังลูกหลานบ้าง เพื่อจะได้เข้าใจแรงบันดาลใจและความหวังที่อยู่ในตัวของเด็กๆ  ช่วงสายวันจันทร์ที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงต้อนรับกลุ่มฆราวาสคาทอลิกอิตาเลี่ยน "อาซิโอเน่ คัตโตลิก้า อิตาเลียน่า" ซึ่งเป็นกลุ่มที่สมเด็จพระสันตะปาปา ปีโอ ที่ 10 ทรงตั้งขึ้นในค.ศ.1905 นี่เป็นกลุ่มที่ขึ้นตรงกับพระสังฆราชคาทอลิกและไม่ข้องเกี่ยวกับการเมือง วันนี้ กลุ่มดังกล่าวได้พาเด็กๆ มาเข้าเฝ้าพระสันตะปาปา เพื่อถวายพระพรโอกาสวันคริสต์มาสและวันคล้ายวันสมภพของพระองค์ โอกาสนี้ พระสันตะปาปาตรัสกับพวกเขาว่า - วันนี้ พ่ออยากเชิญชวนเด็กๆ ทุกคนให้เตรียมจิตใจอย่างดีก่อนที่เราจะสมโภชวันคริสต์มาสที่กำลังจะมาถึง เราจะได้พบกับความชื่นชมยินดีในเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า และได้เป็นประจักษ์พยานถึงพระองค์ให้กับคนในครอบครัว โรงเรียน เขตวัด และสถานที่ต่างๆ - นอกจากนี้ พ่อขอเช

โป๊ปฟรังซิส - เวลาเรากระวนกระวายใจหรือสับสนชีวิต เราต้องวางใจในพระเจ้าเหมือนนักบุญโยเซฟ

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอน ช่วงเวลาที่เรากระวนกระวายใจหรือสับสนชีวิต เราต้องวางใจในพระเจ้า ให้พระองค์นำทางเรา และนบนอบต่อพระประสงค์ของพระองค์ เหมือนอย่างที่นักบุญโยเซฟทำให้เห็นเป็นตัวอย่างเรื่องการไม่ถอนหมั้นแม่พระและรับบุตรที่จะบังเกิดมา ทั้งที่ตนเองหาคำอธิบายไม่ได้ว่า แม่พระตั้งครรภ์ได้อย่างไร  ทรงขอบคุณทุกคนที่ส่งความปรารถนาดีให้พระองค์โอกาสวันคล้ายวันสมภพ 80 ชันษา ช่วงเที่ยงวันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงออกมานำสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าว ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน พระวรสารวันอาทิตย์นี้ ทูตสวรรค์ของพระเจ้ามาเข้าฝันนักบุญโยเซฟซึ่งเป็นผู้ชอบธรรม พร้อมแจ้งว่า อย่ากลับที่จะรับมารีอาเป็นภรรยา และจงตั้งชื่อบุตรชายว่า "เยซู" บุตรนี้จะได้รับนามว่า "เอ็มมานูเอล" แปลว่า "พระเจ้าสถิตกับเรา" พระสันตะปาปาทรงเทศน์แบ่งปันว่า - พระวรสารวันนี้ นักบุญโยเซฟไม่สามารถหาคำอธิบายเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ของแม่พระ อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาที่ท่านกระวนกระวายใจและสับสนอยู่นั้น พระเจ้าเสด็จมาหาท่านผ่านทางทูตสวรรค์ ด้วยเหตุนี้

โป๊ปฟรังซิสเยือนฟาติมา 12-13 พ.ค. 2017 เพื่อฉลอง 100 ปีแม่พระประจักษ์ที่ฟาติมา

Image
วาติกันประกาศอย่างเป็นทางการ สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส จะเสด็จเยือนสักการะสถานแม่พระแห่งฟาติมา ประเทศโปรตุเกส ระหว่างวันที่ 12-13 พฤษภาคม 2017 เพื่อร่วมสมโภชการครบ 100 ปีที่แม่พระประจักษ์มาที่ฟาติมา สำหรับรายละเอียดว่า พระสันตะปาปาจะเสด็จเยือนเมืองอื่นๆ นอกจากฟาติมาหรือไม่ วาติกันยังไม่ได้แจ้งแต่อย่างใด ทั้งนี้ แม่พระประจักษ์มาหาเด็กเลี้ยงแกะ 3 คนที่ฟาติมา ได้แก่ ลูชีอา (10 ขวบ), ฟรานซิสโก (9 ขวบ) และยาชินทา (7 ขวบ) ในวันที่ 13 พฤษภาคม ค.ศ.1917 จากนั้น แม่พระประจักษ์อีก 6 เดือนติดต่อกัน ครั้งสุดท้ายคือวันที่ 13 ตุลาคม ค.ศ.1917

โป๊ปฟรังซิสถวายมิสซาโอกาสวันคล้ายวันสมภพ 80 ชันษา

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงชี้ ความทรงจำไม่เหมือนการหวนคิดถึงเรื่องในอดีต แต่ความทรงจำเป็นสิ่งมีชีวิต  นี่จึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมพระวรสารวันนี้จึงบอกเล่าลำดับพระวงศ์ของพระเยซู ทรงยอมรับ พระวรสารตอนนี้อาจดูน่าเบื่อ แต่มันคือการเชิญชวนให้เรามองย้อนกลับไปดูและเข้าใจว่า พระเจ้าทรงช่วยเราและทรงเดินไปกับประชากรของพระองค์อย่างไร  ทรงแบ่งปัน โอกาสอายุ 80 ชันษา พระองค์เริ่มคิดถึงอาการแก่แล้วขี้หลงขี้ลืม แต่หวังว่า จะไม่เป็นโรคนี้ ตรงกันข้าม ทรงอยากให้อายุที่เพิ่มขึ้น จะหมายถึงปรีชาญาณที่เพิ่มขึ้น ช่วงเช้าวันเสาร์ที่ 17 ธันวาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาภายในวัดน้อยเปาลิน่า วาติกัน ร่วมกับบรรดาพระคาร์ดินัลที่อาศัยอยู่ในกรุงโรม โอกาสที่วันนี้เป็นวันคล้ายวันสมภพของพระสันตะปาปา ฟรังซิส ครบ 80 ชันษา (สมภพ 17 ธันวาคม ค.ศ.1936) พระวรสารวันนี้จากนักบุญแม็ทธิว เป็นเรื่องลำดับพระวงศ์ของพระเยซู พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า - ในเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า เราออกเดินทางบนเส้นทางนี้เส้นทางที่พระเจ้าทรงคาดหวังให้เราเฝ้าระวังเสมอ วันนี้ เราหยุดครู่หนึ่งและมองย้อนไป ม

โป๊ปฟรังซิสเชิญผู้เร่ร่อนร่วมโต๊ะอาหารวันคล้ายวันสมภพ 80 ชันษา

Image
เช้าวันนี้ (17 ธ.ค. วันคล้ายวันสมภพของพระสันตะปาปา) สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเชิญผู้เร่ร่อน 8 คนที่อาศัยอยู่รอบวาติกัน มาทานอาหารเช้ากับพระองค์ในห้องอาหารรวมประจำหอพักซางตา มาร์ธา หลังจากพระองค์ถวายมิสซาเช้าร่วมกับคณะพระคาร์ดินัลที่อยู่ในกรุงโรม นอกจากนี้ พระสันตะปาปาทรงมอบกระเป๋าใส่ของขวัญใบเล็กๆ ให้กับผู้เร่ร่อนทั่วกรุงโรมด้วย ภาพและข้อมูลโดย Elise Harris (เพื่อนนักข่าวสายวาติกัน)

โป๊ปฟรังซิส - พระสงฆ์ต้องพูดความจริง

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอน พระสงฆ์ต้องพูดความจริงและยอมรับในสิ่งที่สัตบุรุษมอบให้ได้ ส่วนที่เหลือ พระเจ้าจะจัดการเอง  ทรงยก "นักบุญจอห์น แบ๊พติสต์" เป็นผู้อภิบาลที่พูดแต่ความจริงอย่างทรงพลัง อาทิ ตำหนิฟาริสีว่า "เจ้างูพิษ" หรือตำหนิเฮร็อดว่า "คบชู้"  ทรงกล่าวติดตลก แต่ถ้าพระสงฆ์เทศน์แบบนี้ พระสังฆราชต้องเตรียมรับจดหมายร้องเรียนจากสัตบุรุษแน่ๆ กระนั้น พระสงฆ์ต้องศรัทธาต่อความจริง  ทรงชี้ พระสงฆ์ต้องเข้าใจสถานการณ์ความยากลำบากที่สัตบุรุษกำลังประสบ และต้องช่วยเขาให้เดินหน้าไปกับพระเจ้าให้ได้  ทรงย้ำ การสงสัยในพระเจ้าไม่ใช่เรื่องผิด เพราะ นักบุญจอห์น แบ๊พติสต์ ซึ่งเป็นถึงคนทำพิธีล้างให้พระเยซู ก็ยังเผชิญช่วงเวลาแบบนี้เช่นกัน ช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา พระวรสารวันนี้ พระเยซูทรงกล่าวถึงนักบุญจอห์น แบ๊พติสต์ ว่า "คนเก็บภาษีได้รับพิธีล้างจากจอห์นและยอมรับว่าพระเจ้าทรงเที่ยงธรรม ส่วนฟาริสีและนักกฎหมายไม่ยอมรับพิธีล้างจากจอห์น จึงต่อต้า

ความรู้ใหม่: ทำไมพระคาร์ดินัลมีชัย ถึงถูกจัดให้เป็น Protopresbitero

Image
เมื่อเช้า ผมรายงานเรื่องการที่ พระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู กลายเป็น Protopresbitero (พระคาร์ดินัลสงฆ์ที่จะทำหน้าที่ อ่านบทภาวนาในมิสซารับตำแหน่งของพระสันตะปาปาองค์ใหม่) รายงานข่าวดังกล่าว ผมบอกว่า Protopresbitero คือคนที่พระคาร์ดินัลสงฆ์ (Cardinal Priest) ที่อาวุโสสุดนับตั้งแต่วันได้รับการสถาปนา ซึ่งเรื่องนี้ถูกต้อง ไม่ผิดพลาด แต่ผมไปค้นข้อมูลเพิ่มเติมพบว่า พระคาร์ดินัลรุ่นปี 1983 หรือรุ่นปีที่ท่านมีชัยได้รับการสถาปนา ยังมีพระคาร์ดินัลอีก 4 คนที่ยังมีชีวิต (ทั้งหมดเป็นระดับพระคาร์ดินัลสงฆ์เหมือนกันด้วย) และเท่ากับว่า ทั้งหมดอาวุโสเท่ากันหมด นับตั้งแต่วันที่ได้รับการสถาปนา (อายุการเป็นพระคาร์ดินัลถึงปัจจุบันคือ 33 ปี) ผมจึงเกิดความสงสัยแวบใหญ่ว่า "เฮ้ย เรารายงานไรผิดไปหรือเปล่าเนี่ย" ผมจึงไปถามเพื่อนนักข่าวสายวาติกันที่ประจำอยู่ที่วาติกันว่า สันตะสำนักใช้หลักเกณฑ์อะไรในการเลือก Protopresbitero ในกรณีที่พระคาร์ดินัลรุ่นนั้น มีความอาวุโสนับตั้งแต่วันสถาปนา เท่ากันหมด คำตอบจากวาติกันคือ "ดูจากรายชื่อเวลาพระสันตะปาปาประกาศชื่อพระคาร์ดินัลใหม่" (ชื่อ

คาร์ดินัลอาร์นส์เสียชีวิต ทำให้คาร์ดินัลมีชัยเป็น Protopresbitero แทน

Image
พระคาร์ดินัล เปาโล เอวาริสโต้ อาร์นส์ ซึ่งเป็น "Protopresbitero หรือ พระคาร์ดินัลสงฆ์ที่อาวุโสสุดนับตั้งแต่วันได้รับการสถาปนา" ได้เสียชีวิตลงด้วยวัย 95 ปี เมื่อวันที่ 14 ธันวาคมที่ผ่านมา  การเสียชีวิตของท่าน ทำให้หน้าที่ "Protopresbitero" ของกลุ่มพระคาร์ดินัลสงฆ์ กลายเป็นหน้าที่ของ "พระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู" แห่งประเทศไทย หน้าที่ Protopresbitero ก็คือทำหน้าที่ อ่านบทภาวนาในมิสซารับตำแหน่งของพระสันตะปาปาองค์ใหม่ (ขั้นตอนตรงนี้คือ "Protodiacono หรือคนที่อาวุโสสุดในกลุ่มพระคาร์ดินัลสังฆานุกร" จะสวมปัลลิอุมให้พระสันตะปาปาองค์ใหม่ จากนั้น Protopresbitero หรือคนที่อาวุโสสุดในกลุ่มพระคาร์ดินัลสงฆ์ จะอ่านบทภาวนา และปิดท้ายด้วย หัวหน้าคณะพระคาร์ดินัล ซึ่งอยู่ในขั้นอาวุโสสุดของกลุ่มพระคาร์ดินัลพระสังฆราช จะมามอบแหวนชาวประมงให้กับพระสันตะปาปา) หากอยากรู้ว่า Protopresbitero ทำหน้าที่ช่วงไหน อยากให้ลองไปค้นหาคลิปเก่าๆ ในมิสซาเข้ารับตำแหน่งของสมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 มาชมกัน วันนั้น ตำแหน่ง Protopresbitero เป็นของพระคาร์ดินัล ส

โป๊ปฟรังซิส - คริสต์มาสคือความเซอร์ไพรส์ที่พระเจ้าละทิ้งความยิ่งใหญ่ เพื่อมาบังเกิดเป็นมนุษย์

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงแบ่งปัน คริสต์มาสคือเรื่องเซอร์ไพรส์ที่พระเจ้าทรงละทิ้งความยิ่งใหญ่ และมาบังเกิดเป็นมนุษย์เพื่อจะอยู่ใกล้ชิดกับเรา ดังนั้น เราต้องเปิดใจต้อนรับพระองค์  ทรงกล่าวติดตลกกับสัตบุรุษที่ถวายเค้กวันเกิดให้พระองค์ว่า ในอาร์เจนตินา เขาถือกันว่า หากใครถูกอวยพรวันเกิดล่วงหน้า เท่ากับคนนั้นถูกแช่งให้พบกับเรื่องร้ายๆ ก่อนวันเกิดจริงจะมาถึง ช่วงสายวันพุธที่ 14 ธันวาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงออกมาพบปะและเทศน์สอนสัตบุรุษในการเข้าเฝ้าทั่วไป ภายในหอประชุมเปาโล ที่ 6 นครรัฐวาติกัน วันนี้ พระสันตะปาปาทรงสอนคำสอนในหัวข้อความหวังตามแบบฉบับคริสตชน บทอ่านช่วงเริ่มพิธีวันนี้จากหนังสือประกาศกอิสยาห์ ใจความสำคัญว่า "เท้า​ของ​ผู้‍นำ​ข่าว​ซึ่ง​อยู่​บน​ภูเขา​นั้น​ช่าง​งด‍งาม​จริง คือ​ผู้‍นำ​ข่าว​ที่​ประ‌กาศ​สันติ‍ภาพและ​ผู้​ที่​นำ​ข่าว​อัน​น่า‍ยินดี" (อิสยาห์ 52:7,9-10) พระสันตะปาปา ตรัสว่า - พระวาจาของพระเจ้าในวันนี้ช่วยเราให้เตรียมตัวสำหรับการสมโภชคริสต์มาสที่กำลังจะมาถึง ผ่านทางการเปิดตัวเองเพื่อความหวังแห่งความรอดพ้นจากบาป ประกาศกอิสยาห์

โป๊ปฟรังซิส - คนถ่อมตนและคนยากไร้คือเหยื่อของสงฆ์ที่แสวงหาความก้าวหน้าในหน้าที่

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงย้ำ คนถ่อมตนและคนยากไร้คือเหยื่อของสงฆ์ที่แสวงหาความก้าวหน้าในหน้าที่  สงฆ์พวกนี้ทำตัวเป็น "ผู้รอบรู้ทางศาสนา" ซึ่งหลงตัวเองว่า การเป็นสงฆ์มันทำให้ตัวเองดูเหนือกว่าคนอื่น แต่เหนือจนอยู่ห่างไกลจากการเผยแสดงของพระเจ้าและสัตบุรุษ ทรงสอน คนบาปและโสเภณีจะเข้าอาณาจักรสวรรค์ก่อนบรรดาสงฆ์ที่ตกเป็นเหยื่อการล่อลวงให้แสวงหาความก้าวหน้าในหน้าที่  ช่วงเช้าวันอังคารที่ 13 ธันวาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา พระวรสารวันนี้ พระเยซูทรงเล่าเรื่องอุปมาให้พวกมหาปุโรหิตและผู้นำอาวุโสฟัง เป็นเรื่องพ่อจะส่งลูก 2 คนไปทำงานในสวนองุ่น คนแรกบอก "ไม่ไป" แต่สุดท้ายเปลี่ยนใจไป ส่วนคนที่สองบอก "ไป" แต่สุดท้ายไม่ยอมไป ก่อนจะสรุปกับพวกเขาว่า "คนเก็บภาษีและหญิงโสเภณีจะเข้าอาณาจักรสวรรค์ก่อนท่าน เพราะจอห์น แบ๊พติสต์ มาพบท่านและชี้ทางแห่งความชอบธรรม แต่ท่านไม่เชื่อ ส่วนคนเก็บภาษีและหญิงโสเภณีเชื่อ ท่านทั้งหลายได้เห็นแล้ว แต่คงไม่เปลี่ยนใจมาเชื่อจอห์น" พระสันตะปาปาทรงเทศน์ให้ข้

โป๊ปฟรังซิสเชิญภาวนาเพื่อผู้เสียชีวิตจากเหตุก่อการร้ายหลายแห่งทั่วโลก

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเชิญทุกคนภาวนาเพื่อผู้เสียชีวิตจากเหตุก่อการร้ายหลายแห่งทั่วโลก ซึ่งเกิดช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา อาทิ การวางระเบิดนอกมหาวิหารนักบุญมาร์โก (นิกายคริสต์ค็อปติก) ประเทศอียิปต์, การวางระเบิดนอกสนามฟุตบอลของสโมสรเบชิคตัส ในเมืองอิสตันบลู ประเทศตุรกี ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก   ทรงเชิญคริสตชนแบ่งปันความชื่นชมยินดีให้ผู้ยากไร้ ผู้ป่วย ผู้ที่อยู่อย่างโดดเดี่ยว และผู้ที่ไม่มีความสุข โอกาสเตรียมจิตใจต้อนรับวันคริสต์มาสที่ใกล้เข้ามาแล้ว ช่วงสายวันอาทิตย์ที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงออกมานำสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าว ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน วันนี้เป็นอาทิตย์ที่สามในเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า พระวรสารวันนี้เป็นเหตุการณ์ที่ จอห์น แบ๊พติสต์ ถูกจองจำ แต่ได้ส่งศิษย์มาหาพระเยซูและถามว่า "พระองค์ใช่คนที่จอห์น กำลังเทศนาถึงหรือเปล่า" พระเยซูตรัสตอบไปว่า "จงไปบอก จอห์น ในสิ่งที่ท่านได้ยินและเห็น คนตาบอดได้เห็น คนง่อยกลับเดินได้ คนตายกลับคืนชีพ ผู้ที่ไม่แคลงใจในเราย่อมเป็นสุข" พระสันตะปาปาทรงแบ่งปันว่า

โป๊ปฟรังซิส - สงฆ์คาทอลิกต้องทำตัวเป็นสื่อกลางความรักของพระเจ้า ไม่ใช่ทำตัวเป็นคนกลางคอยต่อรอง

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอน สงฆ์คาทอลิกต้องทำตัวเป็น "สื่อกลางความรักของพระเจ้า" ไม่ใช่ทำตัวเป็น "คนกลางคอยต่อรอง" ที่มีความสุขกับการอวดอำนาจที่มี  ทรงเปรียบ สงฆ์ที่ไม่ยืดหยุ่นเป็นคนที่ลืมไปแล้วว่า พ่อแม่ของตนเหนื่อยยากจากการทำงานขนาดไหน ถึงยังได้เอาภาระหนักไปวางไว้บนบ่าของสัตบุรุษอีก  ทรงชี้ สงฆ์ที่ถูกความไม่ยืดหยุ่นและจิตตารมณ์ทางโลกเข้าครอบงำ เขาจะเป็นสงฆ์ที่ทำตามคำสั่งเท่านั้น ไม่ทำตัวเป็นผู้อภิบาล  ทรงเล่าเรื่องมงซินญอร์อาวุโสที่เห็นสงฆ์หนุ่มลองเสื้อผ้าในร้านเสื้อพระสงฆ์ยูโรเกลโร่ แบบถอยห่างจากกระจกไม่ได้ นี่คือตัวอย่างสงฆ์ที่ถูกจิตตารมณ์ทางโลกเข้าครอบงำว่าต้องดูดีเสมอ  ทรงหวังเห็นสงฆ์คาทอลิกไตร่ตรอง อยากตายจากโลกนี้ไปด้วยการเป็นสงฆ์ที่ทำตัวตามคำสั่งเหมือนพนักงาน หรืออยากตายจากโลกนี้ด้วยการเป็นสงฆ์ที่เป็นสื่อกลางความรักของพระเจ้า  ทรงแบ่งปัน มีคนแนะว่า วิธีดูว่าสงฆ์คนนั้นมีทัศนคติอย่างไร ให้ดูเวลาเขาเล่นกับ "เด็กเล็กๆ" ถ้าเล่นกับเด็กยิ้มกับเด็ก สงฆ์คนนั้นจะรู้จักการถ่อมตัวลงใกล้ชิดกับสิ่งเล็กๆ แต่สงฆ์ที่ทำตัวเป็นคนกลางน

โป๊ปฟรังซิส: การเสนอข่าวปลอมคือการบิดเบือนข้อมูล - สงฆ์อย่าอายถ้ามีใจอ่อนโยน

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงให้สัมภาษณ์กับ "แตร์กซิโอ" หนังสือพิมพ์คาทอลิกของเบลเยียม  ทรงชี้ การเสนอข่าวปลอมหรือเสนอความจริงครึ่งเดียวคือการบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร นี่คือการประจญล่อลวงที่สื่อมวลชนต้องเผชิญ  ทรงขอร้องสื่อมวลชน ต้องโปร่งใสและอย่าสนใจแต่เรื่องนำเสนอข่าวเสื่อมเสียอย่างเดียว เพราะมันไม่ต่างจากการพอใจที่ได้เห็นสิ่งปฏิกูล  ทรงแนะพระสงฆ์ อย่าละอายใจถ้าเป็นคนอ่อนโยน เพราะโลกทุกวันนี้ป่วยด้วยโรค "หัวใจตายด้าน" ดังนั้น โลกต้องการความอ่อนโยน พระสันตะปาปา ตรัสว่า "งานสื่อมวลชนมีความรับผิดชอบสูงมาก ทุกวันนี้ พวกเขามีความสามารถในการสร้างความคิดเห็นทั้งดีและไม่ดีอยู่ในมือ วิธีการสื่อสารนี่แหละที่เป็นตัวสร้างสังคม สื่อคือตัวสร้าง ตัวประสาน สร้างความเป็นพี่น้อง และให้การศึกษากับสังคม อย่างไรก็ตาม งานสื่อมวลชนมีการประจญล่อลวงด้วยเช่นกัน พวกเขาสามารถถูกประจญด้วยการใส่ร้ายป้ายสี มันสามารถทำลายบุคคลคนนั้นได้เลย การใส่ร้ายคือการที่เราพูดโกหกใส่คนๆ นั้น นี่ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง มันเป็นบาปและเจตนาร้ายด้วย "สิ่งที่ทำให้เกิดความเสียหายอย่าง

โป๊ปฟรังซิส - การมองโลกแง่ดีอาจทำให้เราผิดหวัง แต่การมีความหวังไม่ทำให้เราผิดหวังแน่นอน

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงแบ่งปัน การมองโลกแง่ดีสามารถทำให้เราพบความผิดหวัง แต่การมีความหวังจะไม่ทำให้เราพบกับความผิดหวังอย่างแน่นอน  ทรงยกตัวอย่าง เวลาเราพบหน้าลูกตัวเอง เรายิ้มออกทันที แม้วันนั้นจะเลวร้ายสุดๆ เพียงไหน แต่ลูกคือความหวัง เมื่อเราพบพวกเขา เรายิ้มออกเสมอ  ทรงชี้ โลกทุกวันนี้อยู่ในวิกฤติความเชื่อต่อพระเจ้า ศาสนากลายเป็นแค่คำพูดแค่ว่า "ฉันเชื่อในพระเจ้า" แต่การปฏิบัติตนไม่นำไปสู่การพบกับพระเจ้าแม้แต่น้อย ช่วงสายวันพุธที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงออกมาพบปะและเทศน์สอนสัตบุรุษในการเข้าเฝ้าทั่วไป ภายในหอประชุมเปาโล ที่ 6 นครรัฐวาติกัน วันนี้ พระสันตะปาปาทรงเริ่มต้นการสอนคำสอนต่อเนื่องในหัวข้อใหม่ นั่นคือ "ความหวังตามแบบคริสตชน" พระสันตะปาปาทรงเทศน์สอนว่า - ตอนที่ชาวอิสราเอลถูกเนรเทศ พวกเขาสูญสิ้นทุกสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นบ้าน อิสรภาพ ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และแม้แต่ความวางใจในพระเจ้า พวกเขารู้สึกว่าถูกทอดทิ้งและสิ้นหวัง เสียงเรียกของประกาศกอิสยาห์จึงเป็นเหมือนการเปิดใจพวกเขาสู่ความเชื่อ - เมื่อเราตกอยู่ในความ

โป๊ปฟรังซิส - คนที่ปฏิเสธความห่วงใยที่พระเจ้ามอบให้ ก็เป็นแกะที่หายไป

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงชี้ คนที่ปฏิเสธความห่วงใยที่พระเจ้ามอบให้ ก็เป็นแกะที่หายไป  ตัวอย่างชัดเจนของ แกะที่หายไป คือ "ยูดาส" รวมถึงพระสังฆราชหรือพระสงฆ์บางคนที่ดำเนินชีวิตสองมาตรฐาน ช่วงเช้าวันอังคารที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา พระวรสารวันนี้ พระเยซูทรงเทศน์สอนเรื่องลูกแกะหนึ่งตัวที่หายไปจากฝูง พระองค์ย้ำว่า การเจอลูกแกะที่หายไปตัวนี้ น่าชื่นชมยินดียิ่งกว่าแกะ 99 ตัวที่ไม่ได้พลัดหลงไป เช่นเดียวกัน พระบิดาไม่ทรงปรารถนาให้คนธรรมดาแม้เพียงหนึ่งคนต้องพินาศไป พระสันตะปาปาทรงเทศน์แบ่งปันว่า - พระเจ้าทรงเป็นเหมือนผู้พิพากษา แต่เป็นผู้พิพากษาที่ห่วงใยและเต็มไปด้วยความอ่อนโยน พระองค์แต่ไม่ประณาม แต่ทรงช่วยเรา พระเจ้าทรงมองมาที่เราและรักเราแต่ละคน พระเจ้าไม่ได้รักเราแบบเหมารวม แต่ทรงเรารักแบบที่เราเป็น รักเราตามชื่อแต่ละคน - แกะที่หายไป มันไม่ได้หายเพราะมันไม่มีเข็มทิศติดตัว แกะรู้หนทางที่จะไป แต่มันหลงทางเพราะหัวใจไม่รักดีต่างหาก หัวใจมืดบอดด้วยการแยกตัวภายในจิตใจ มันจึงวิ่งหนีเพื่อที่จะถอย

โป๊ปฟรังซิส - พระเจ้าเปลี่ยนแปลงเราคนบาปให้เป็นคนใหม่คนชอบธรรมได้ ถ้าเราตอบรับพระองค์

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงชี้ ทุกครั้งก่อนที่พระเยซูจะรักษาคนป่วย พระองค์จะยกโทษบาปที่เขาทำทุกครั้ง นี่คือการบอกว่าพระเจ้าทรงเปลี่ยนคนบาปให้กลายเป็นคนใหม่ แต่ทั้งนี้ ขึ้นกับว่า คนบาปคนนั้นจะยอมรับการเปลี่ยนแปลงภายในจิตใจที่พระเยซูมอบให้หรือเปล่า  ทรงยกตัวอย่างคนบาปที่ยอมให้พระเจ้าเปลี่ยนแปลงจิตใจ ได้แก่ นักบุญมารีอา มักดาเลนา ส่วนคนบาปที่ไม่ยอมรับเปลี่ยนแปลงที่พระเจ้ามอบให้คือพวกธรรมาจารย์และฟาริสี ช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา บทอ่านประจำมิสซานี้จากหนังสือประกาศกอิสยาห์ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องที่ถิ่นทุรกันดารจะอุดมสมบูรณ์ คนตาบอดจะมองเห็น และคนหูหนวกจะได้ยิน ทุกสิ่งจะได้รับการเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้นโดยพระเจ้า ส่วนพระวรสารวันนี้ พระเยซูทรงรักษาคนป่วยที่เดินไม่ได้ให้กลับมาเดินได้อีกครั้ง พระสันตะปาปาทรงเทศน์แบ่งปันว่า - พระเยซูรักษาประชาชนและช่วยเขาให้เห็นหนทางของการเปลี่ยนแปลง นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมประชาชนจึงติดตามพระองค์ พวกเขาไม่ได้ติดตามพระเยซูเพราะพระองค์คือสิ่งแปลกใหม่ แต่พวกเขาต

โป๊ปฟรังซิส - สิ่งสำคัญสุดของคริสต์มาสคือเราต้องเตรียมจิตใจต้อนรับพระเยซู

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงแบ่งปัน สิ่งสำคัญประการแรกและสำคัญสุดของคริสต์มาสก็คือเราต้องเตรียมจิตใจต้อนรับพระเยซู  ทรงสอน เราไม่ต้องรออาณาจักรสวรรค์หลังจากเราตาย เพราะเราสัมผัสอาณาจักรสวรรค์ได้ในชีวิตนี้ถ้าเราตอบรับพระเจ้าด้วยความเชื่อและสุภาพถ่อมตน  ทรงย้ำ เงื่อนไขของการเข้าอาณาจักรของพระเจ้าคือเราต้องกลับใจ ช่วงสายวันอาทิตย์ที่ 4 ธันวาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงออกมานำสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าว ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน วันนี้เป็นอาทิตย์ที่สองในเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า พระวรสารวันนี้เป็นเหตุการณ์ที่ นักบุญจอห์น แบ๊พติสต์ เทศนาในถิ่นทุรกันดารและกล่าวว่า "จงกลับใจเถิด อาณาจักรสวรรค์อยู่ใกล้แล้ว" (มธ 3:1-12) พระสันตะปาปาทรงเทศน์แบ่งปันว่า - นักบุญแม็ทธิวพรรณาว่า จอห์น แบ๊พติสต์ เป็นคนเตรียมทางให้กับพระคริสตเจ้าผู้กำลังจะเสด็จมา นอกจากนี้ อีกคำพูดหนึ่งก็คือ 'อาณาจักรสวรรค์ใกล้เข้ามาแล้ว' ในความเป็นจริงก็คืออาณาจักรสวรรค์อยู่ท่ามกลางเรา สิ่งนี้แหละคือแก่นสำคัญของพันธกิจคริสตชน - ว่าแต่ 'สิ่งใดคืออาณาจักรสวรรค์&#

โป๊ปฟรังซิส - คริสตชนที่ดีจะไม่แก้ตัวไปเรื่อย ไม่พูดจาให้ร้ายคนอื่นโดยไม่ดูตัวเองแบบฟาริสี

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงชี้ อุปสรรคที่กีดกันเราจากการรับพระหรรษทานของพระเจ้า มีหลายแบบ  อาทิ การหาเหตุผลมากมายเพื่อแก้ตัวไปเรื่อย คริสตชนที่ดีจะไม่แก้ตัว เพราะการกระทำของเขาคือการทำตามคำสอนของพระเจ้าอยู่แล้ว  นอกจากนี้ ยังมีอุปสรรคเรื่องกล่าวพูดจาให้ร้ายคนอื่น แต่ไม่หัดดูตัวเองว่าก็เป็นแบบนั้น นี่คือนิสัยฟาริสี  เช่นเดียวกัน ยังมีอุปสรรคเรื่องการพูดโกหก รับปากไปงั้นๆ แต่ไม่ทำตามที่พูด  ทรงสอน ถ้าเรารู้ตัวว่า อุปสรรคเหล่านี้เกิดกับเรา แสดงว่า พระเจ้าทรงทำงานอยู่ในเรา ดังนั้น เราต้องเอาชนะอุปสรรคเหล่านี้ เพื่อจะได้กลับใจ ช่วงสายวันพฤหัสบดีที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา บทภาวนาช่วงเริ่มพิธีประจำมิสซานี้ มีว่า "ขอพระหรรษทานของพระเจ้าช่วยเราให้เอาชนะอุปสรรคต่างๆ ที่เกิดจากบาปของเรา" พระสันตะปาปาทรงเทศน์ให้ข้อคิดว่า - มันมีอุปสรรคทางความเชื่อหลายแบบที่เราต้องพบเจอ หนึ่งในนั้น พ่อขอเรียกมันว่า อุปสรรคแบบเปิดเผยซึ่งเกิดจากความเชื่อที่เข้มแข็ง ตัวอย่างชัดๆ คือ 'เซาโล' (นักบ