Posts

Showing posts from September, 2016

โป๊ปฟรังซิส: "ครูคำสอนอย่าเหนื่อยกับการปกปักรักษาสารสำคัญของความเชื่อ"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงให้กำลังใจครูคำสอน อย่าเหนื่อยกับการปกปักรักษาสารสำคัญของความเชื่อ นั่นคือ พระเจ้าทรงกลับคืนชีพ นี่เป็นสิ่งสำคัญสุดและครูคำสอนต้องประกาศสิ่งนี้ให้โลกได้รู้ พร้อมกันนี้ ทรงหวังเห็นครูคำสอนใส่ใจคนที่ถูกทอดทิ้งและถูกเมินเฉยจากโลก อย่าทำเป็นมองไม่เห็นพวกเขาเป็นอันขาด ช่วงสายวันอาทิตย์ที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาให้กับบรรดาครูคำสอนจากทั่วโลก ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน โอกาสปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรม พระวรสารวันนี้เป็นเหตุการณ์เรื่องเศรษฐีกับลาซารัส พระสันตะปาปทรงเทศน์ให้ข้อคิดว่า - พระวรสารตอนนี้ สอนเราว่าพระเจ้าทรงมองมาที่ผู้อ่อนแอและดูแลเขาอย่างไร คนอ่อนแอในที่นี้คือคนที่ถูกทอดทิ้งและถูกเมินเฉยจากโลก นี่จึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมพระเจ้าถึงมอบโอกาสนี้ให้กับพวกเราครูคำสอน พระองค์ทรงมอบพันธกิจและหน้าที่ในการนำข่าวดีไปมอบให้กับผู้ที่รอคอยสิ่งนี้ - โอกาสปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรมสำหรับครูคำสอนในวันนี้ พระเจ้ากำลังขอร้องเราว่า อย่าเหนื่อยกับการปกปักรักษาสารสำคัญของความเชื่อ นั่นคือ พระเจ้าทรงกลับคืนชีพ ไม่มีสิ่งใดสำคัญไปกว่

โป๊ปฟรังซิส: "ความหยิ่งยโสคือโรคกระดูกพรุนของจิตวิญญาณ"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเตือน ความหยิ่งยโสคือโรคกระดูกพรุนของจิตวิญญาณ โรคกระดูกพรุนคือภายนอกกระดูกดูดี แต่ข้างในเละเทะ จิตใจก็เช่นกัน ความหยิ่งยโสคือฟองสบู่ ทำให้เราพองตัวในช่วงแรก แต่ว่างเปล่าตอนตาย ทรงชี้ มีหลายคนที่ชอบทำตัวให้ดูศักดิ์สิทธิ์ดูเป็นคนดี แต่ข้างในจิตใจเละเทะ เพราะจิตใจเต็มไปด้วยการโกง ทรงย้ำ ความกระวนกระวายของจิต มี 2 แบบ กระวนกระวายแบบดีคือเราจะตื่นตัวทำความดีแบบไม่อ่อนล้า กระวนกระวายแบบไม่ดี เกิดจากความรู้สึกไม่สุจริตในจิตใจ ซึ่งมีบ่อเกิดจากความโลภ ความยโสโอหัง และความทะนงตน ช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ 22 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา พระวรสารวันนี้ กษัตริย์เฮร็อด (อันติปาส) รู้สึกสับสนกระวนกระวาย เพราะบางคนพูดว่า จอห์น แบ๊พติสต์ ได้กลับคืนชีพแล้ว แต่ในความเป็นจริง เรื่องที่ประชาชนพูดถึงเป็นเรื่องของพระเยซู ซึ่งเฮร็อดรู้สึกกลัวมากๆ พระสันตะปาปาทรงเทศน์ให้ข้อคิดว่า - เฮร็อด (ผู้ลูก) กระวนกระวายเหมือนกับพ่อของเขาเลย พ่อของเขากระวนกระวายตอนที่ปัญญาจารย์ทั้งสามมาเข้าเฝ้า ส่วนเฮร็อดผู้ลูก กระวนกระวายว่าความมั่

บทสรุปงานภาวนาเพื่อสันติภาพที่เมืองอัสซีซี

Image
วันที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส เสด็จร่วมงานภาวนาสากลเพื่อสันติภาพ ร่วมกับผู้แทนศาสนาต่างๆ ณ เมืองอัสซีซี ประเทศอิตาลี ทั้งนี้ บทสรุปของงานดังกล่าวมีดังนี้ - ช่วงเที่ยง พระสันตะปาปาทรงร่วมโต๊ะอาหารกับผู้แทนศาสนาต่างๆ พร้อมกับผู้ลี้ภัย 25 คนที่ได้รับเชิญมาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ชีวิตที่ต้องหนีสงคราม - ช่วงบ่าย พระสันตะปาปาทรงร่วมรำพึงไตร่ตรองกับผู้แทนศาสนาต่างๆ ในมหาวิหารนักบุญฟรานซิสแห่งอัสซีซี โดยช่วงนี้ พระสันตะปาปาได้แบ่งปันว่า "เราควรเลิกนิสัยแกล้งทำเป็นหูหนวก ทำเป็นไม่ได้ยินเสียงกรีดร้องขอความช่วยเหลือจากคนที่เดือดร้อนได้แล้ว เราควรเลิกนิสัยเห็นแก่ตัวและนิสัยเฉยชาได้แล้ว เพราะพระเยซูตรัสเสมอว่า เราได้ยินเสียงคนที่กำลังทนทุกข์กรีดร้องขอความช่วยเหลือ ดังนั้น เราที่เป็นศิษย์ติดตามพระองค์ ก็ควรจะได้ยินเสียงเหล่านี้และลงมือช่วยเหลือเหมือนพระเยซู" - ช่วงเย็น พระสันตะปาปาทรงร่วมภาวนาเพื่อสันติภาพ ณ ลานมหาวิหารนักบุญฟรานซิสแห่งอัสซีซี พระสันตะปาปาตรัสในการภาวนาว่า "สันติภาพคือของขวัญจากพระเจ้าที่เรามนุษย์ต้องช่วยกันสร้างในทุกๆ วัน นี่คือความรับผิดชอบของท

โป๊ปฟรังซิส: "ศาสนิกชนต้องก้าวข้ามความขัดแย้งทางศาสนา เพราะเราเป็นลูกของพระเจ้าเหมือนกัน"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงชี้ ศาสนิกชนต้องก้าวข้ามความขัดแย้งทางศาสนาให้ได้ เพราะเราเป็นลูกของพระเจ้าเหมือนกัน ทรงย้ำ พระเจ้าคือพระเจ้าแห่งสันติภาพ ไม่มีพระเจ้าแห่งสงคราม ใครก็ตามที่สร้างสงคราม มันคือปีศาจ เพราะปีศาจต้องการฆ่าทุกคน ทรงขอร้อง อย่าแกล้งทำเป็นหูหนวก เวลาเห็นคนกรีดร้องขอความช่วยเหลือจากการหนีตายจากสงคราม ช่วงเช้าวันอังคารที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา ความพิเศษของมิสซานี้คือจัดในวันภาวนาเพื่อสันติภาพที่เมืองอัสซีซี ประเทศอิตาลี ซึ่งหลังจากมิสซานี้จบลง พระสันตะปาปาจะเดินทางไปร่วมงานกับผู้แทนของศาสนาต่างๆ ที่รออยู่ ณ ที่นั่น สำหรับบทเทศน์ประจำมิสซานี้ พระสันตะปาปาทรงสอนว่า - วันนี้อย่างที่ทราบกันว่า จะมีงานภาวนาเพื่อสันติภาพที่เมืองอัสซีซี ผู้แทนของศาสนาต่างๆ จะไปที่นั่น ไม่ใช่ไปเพื่อหวังจะโชว์ตัว แต่ทุกคนไปเพื่อร่วมกันภาวนาเพื่อสันติภาพ พ่ออยากแบ่งปันกับทุกท่านว่า พ่อได้ส่งจดหมายไปยังสภาพระสังฆราชคาทอลิกทั่วโลก เพื่อขอให้พวกเขาจัดงานภาวนานี้ขึ้นในวันนี้ พ่ออยากเชิญชวนคาทอลิกหรือคริสตชนต่างนิกาย รวมถึงศา

โป๊ปฟรังซิส: "อย่าอิจฉาคนมีอำนาจหรือคนรวย เพราะตอนตาย หนอนกินศพทุกคนเหมือนกันหมด"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอน อย่าอิจฉาคนมีอำนาจหรือคนรวย เพราะตอนตาย หนอนที่กัดกินศพเรา ก็กินศพของคนรวยด้วยเช่นกัน ทรงเตือน คนที่ชอบสร้างเรื่องชั่วให้ร้ายคนอื่น คอยวางแผนและจ้องหาผลประโยชน์จากแผนร้าย พวกนี้คือมาเฟีย ทรงขอร้อง คริสตชนต้องเป็นบุตรความสว่าง อย่าซ่อนความสว่างที่เรามี เพราะถ้าเราซ่อนความสว่าง เราจะกลายเป็นคริสตชนที่เฉยชา  ช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา พระวรสารวันนี้ พระเยซูทรงสอนว่า "ไม่มีใครจุดตะเกียงแล้วเอาถังครอบไว้หรือวางไว้ใต้เตียง แต่เขาย่อมตั้งไว้บนเชิงตะเกียง เพื่อคนที่เข้ามาจะได้เห็นแสงสว่าง ไม่มีความลับใดจะไม่มีใครรู้และเปิดเผย ดังนั้น จงระวังว่าท่านฟังพระวาจาอย่างไร เพราะผู้ที่มีมาก เขาจะมีมากขึ้น ส่วนผู้ที่มีน้อย สิ่งเล็กน้อยที่เขามี จะถูกริบไปด้วย" พระสันตะปาปาทรงเทศน์แบ่งปันว่า - มันมีหลายวิธีที่จะซ่อนความสว่าง ไม่ว่าจะเป็นความอิจฉาหรือการสร้างเรื่องชั่วๆ ขึ้นมาต่อต้านเพื่อนพี่น้อง แสงสว่างแห่งความเชื่อคือของขวัญที่เราแต่ละคนได้รับจากพระเจ้าตั้งแต่วันที่เราได้ร

โป๊ปฟรังซิส: "จิตตารมณ์ทางโลกเต็มไปด้วยทัศนคติขี้โกง หลอกลวง และใช้อำนาจในทางที่ผิด"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงย้ำ จิตตารมณ์ทางโลกเต็มไปด้วยทัศนคติขี้โกง หลอกลวง และใช้อำนาจที่มีในทางที่ผิด คริสตชนต้องอย่าหลงไปกับจิตตารมณ์ทางโลกเป็นอันขาด ทรงชี้ สำหรับบางคน การโกงเป็นเหมือนยาเสพติด การโกงมันเลิกยากมาก เพราะมันฝังเข้าสู่นิสัยและใจของเรา พร้อมกันนี้ ทรงขอคำภาวนาโอกาสวันอังคารที่ 20 กันยายนนี้ พระองค์จะเสด็จไปร่วมงานวันภาวนาเพื่อสันติภาพที่เมืองอัสซีซี  ช่วงเที่ยงวันอาทิตย์ที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงออกมานำสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าว ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน พระวรสารประจำวันอาทิตย์นี้ พระเยซูสอนเรื่องผู้จัดการจอมโกง และตรัสว่า "ผู้ที่ซื่อสัตย์ในเรื่องเล็กน้อย ก็จะซื่อสัตย์ในเรื่องใหญ่ด้วย ผู้ที่ไม่ซื่อสัตย์ในเรื่องเล็กน้อย ก็จะไม่ซื่อสัตย์ในเรื่องใหญ่เช่นกัน เราจะรับใช้พระเจ้าและเงินไปพร้อมกันไม่ได้" พระสันตะปาปาตรัสแบ่งปันว่า - จิตตารมณ์ทางโลกไม่เหมือนกับจิตตารมณ์ของพระเยซู เราได้เห็นกันแล้วว่า จิตตารมณ์ทางโลกเต็มไปด้วยทัศนคติขี้โกง หลอกลวง และใช้อำนาจที่มีในทางที่ผิด จุดจบของจิตตารมณ์ทางโลกคือบาป ส่วนจิตตารมณ์แท้จริงของคริสต

โป๊ปฟรังซิส: "สังฆราชคาทอลิกต้องอภิบาลอย่างเมตตา ต้องให้สัตบุรุษเข้าถึงได้ ต้องพร้อมพบสัตบุรุษเสมอ"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงย้ำ พระสังฆราชคาทอลิกต้องอภิบาลด้วยความเมตตา ที่สำคัญ ต้องทำตัวให้สัตบุรุษเข้าถึงได้ และต้องพร้อมพบหน้าสัตบุรุษเสมอ ทรงชี้ โลกเหนื่อยพอแล้วกับพวกพระสังฆราชและพระสงฆ์ที่ทำตัวแฟชั่น ซึ่งชอบพูดโกหกเพื่อให้ทุกอย่างดูดี ทรงขอร้อง พระสังฆราชอย่าถูกล่อลวงด้วยจำนวนและปริมาณของกระแสเรียก แต่จงแสวงหาคุณภาพของสามเณราลัยจะดีกว่า ช่วงสายวันศุกร์ที่ 16 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงต้อนรับบรรดาพระสังฆราชใหม่ที่ได้รับการแต่งตั้งในรอบปีที่ผ่านมา ซึ่งมาเข้าเฝ้าที่วาติกัน หลังจากเสร็จสิ้นการอบรมจากสมณกระทรวงเพื่อพระสังฆราช โอกาสนี้ พระสันตะปาปาตรัสกับพวกเขาทุกคนว่า - พ่อขอร้องพระสังฆราชทุกคนเติมเต็มหน้าที่อภิบาลด้วยการมีเมตตากับฝูงแกะ แต่ทั้งนี้ ความเมตตาไม่ได้หมายความว่า มันคือการลดระดับมาตรฐานการอภิบาลลงแต่อย่างใด - คำแนะนำที่พ่ออยากกล่าวกับพวกท่านก็คือ จงอภิบาลด้วยความเมตตา, จงทำตัวให้คนเข้าหาได้ง่าย สัมผัสได้ และต้องพร้อมพบหน้าสัตบุรุษเสมอ - การทำตัวให้สัตบุรุษเข้าถึงได้ จัดเป็นสิ่งดี งดงาม และถือเป็นความรักที่เรามีให้พวกเขา อย่างไรก็ตาม พ่ออยากเตือนว่า

โป๊ปฟรังซิส: "คริสตชนไม่ใช่ลูกกำพร้า เรามีพระบิดา และมีแม่พระเป็นแม่"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอน คริสตชนไม่ใช่ลูกกำพร้า เพราะเรามีพระบิดาและมีแม่พระเป็นแม่ พระเยซูมอบแม่พระให้เป็นแม่ของเรา ณ เชิงกางเขน ทรงแบ่งปัน แม่พระไม่อายและไม่หนีตอนที่ทนเห็นลูกชายของตนถูกตรึงกางเขน สิ่งนี้ ทำให้พระองค์คิดถึงตอนอยู่อาร์เจนตินา เวลาไปเยี่ยมนักโทษ พระองค์จะเห็นบรรดาคุณแม่เข้าแถวรอพบลูกของตน ความรู้สึกนี้ทำให้พระองค์เข้าใจความรู้สึกของแม่พระทันที ช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา มิสซาวันนี้ตรงกับวันระลึกถึงแม่พระระทมทุกข์ ส่วนพระวรสารวันนี้ เป็นเหตุการณ์ที่แม่พระยืนอยู่แทบเชิงกางเขน พระเยซูตรัสกับแม่พระว่า "แม่นี่คือลูกของแม่" และตรัสกับนักบุญจอห์นว่า "นี่คือแม่ของท่าน" พระสันตะปาปาทรงแบ่งปันพระวรสารตอนนี้ว่า - เหตุการณ์ที่เชิงกางเขนในวันนั้น บรรดาศิษย์ทุกคนหนีกระจัดกระจายกันหมด เหลือแต่นักบุญจอห์นและบรรดาสตรี ทุกคนที่อยู่ตรงนั้น มองมาที่แม่พระและคงจะพูดว่า 'คนนี้คือแม่ของนักโทษประหารชีวิต' แม่พระได้ยินคำพูดเหล่านี้ ท่านรู้สึกทุกข์ระทมอย่างสุดๆ จากการถ

โป๊ปฟรังซิส: "น่าเศร้าที่เห็นผู้อภิบาลบางคนทำตัวเป็นเจ้าชาย"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงแบ่งปัน พระเยซูไม่ทำตัวเป็นเจ้าชาย แต่น่าเศร้าที่เห็นผู้อภิบาลบางคนทำตัวเป็นเจ้าชายและไม่ออกไปสัมผัสสัตบุรุษ พระเยซูสอนเราว่า "จงทำตามที่ผู้อภิบาลเหล่านี้สอน แต่อย่าทำตัวตามที่เขาทำ" เพราะคนแบบนี้มีจิตตารมณ์ไม่เหมือนกับพระเยซู  ช่วงสายวันพุธที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงออกมาพบปะและเทศน์สอนสัตบุรุษในการเข้าเฝ้าทั่วไป ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน พระวรสารช่วงเริ่มต้นวันนี้ เป็นเหตุการณ์ที่พระเยซูทรงกล่าวว่า "คนที่เหนื่อยและแบกภาระหนัก จงมาหาเราเถิด เราจะให้ท่านได้พักผ่อน" พระสันตะปาปาทรงแบ่งปันพระวรสารตอนนี้ว่า - เราได้ยินพระเจ้าทรงเรียกหาคนที่ท้อแท้ ยากไร้ และต่ำต้อย พระองค์บอกเขาให้มาหาและวางใจในพระองค์ พระเจ้าทรงเชิญเราทุกคนที่มีความเชื่อ เฉพาะอย่างยิ่งคนที่รู้สึกว่าตนไม่มีอำนาจใดๆ แต่เลือกจะวางใจในพระเจ้า พระองค์เรียกหาคนเหล่านี้ให้เปิดใจให้กับพระองค์ แม้พวกเขาจะรู้สึกว่าตนไร้ค่า แต่พระเจ้าจะเติมความชื่นชมยินดีของการให้อภัยลงไปในตัวพวกเขา - พระเยซูไม่ใช่อาจารย์ที่เข้มงวดซึ่งจ้องจะลงโทษคนที่ทำผิด แต่พระ

โป๊ปฟรังซิส: "น่าเศร้าที่สังคมยุคนี้ทำให้เราเคยชินไปกับวัฒนธรรมการไม่สนใจคนอื่น"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอน น่าเศร้าที่สังคมยุคนี้ทำให้เราเคยชินไปกับวัฒนธรรมการไม่สนใจคนอื่น ตัวอย่างชัดเจนคือเวลาอยู่บนโต๊ะอาหารกับครอบครัว เรานั่งอยู่ด้วยกันแต่ไม่พูดกัน ตรงกันข้าม เราเลือกสนใจโทรทัศน์หรือเล่นโทรศัพท์มือถือแทน ทรงเตือนสติ พระเยซูเจอหญิงม่ายที่ลูกชายเสียชีวิต พระองค์ทรงสงสารและเข้าไปช่วย แต่ถ้าเป็นคนสมัยนี้ เราคงคิดถึงแต่ตัวเอง เราเห็นคนมีความทุกข์และได้ยินร้องไห้ แต่เราไม่ช่วยเหลือและไม่ฟังเสียงกรีดร้องของเขา ช่วงเช้าวันอังคารที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา พระวรสารวันนี้ พระเยซูทรงสงสารหญิงม่ายที่กำลังร้องไห้ระหว่างที่คนกำลังหามศพบุตรของเธอ พระองค์ทรงเข้าไปปลอบโยนและช่วยปลุกลูกของเธอให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง พระสันตะปาปาทรงเทศน์แบ่งปันว่า - เหตุการณ์ในพระวรสารวันนี้ เราได้เห็นการพบหน้ากันระหว่างพระเยซูกับหญิงม่ายที่กำลังเป็นทุกข์ มันช่างต่างจากโลกทุกวันนี้จริงๆ เมื่อเราแต่ละคนพบหน้ากัน เราก็คิดถึงแต่ตัวเอง เรามองเห็นนะว่าอีกคนเป็นอย่างไร แต่เราไม่มองเข้าไปในจิตใจของเขาว่ารู้สึกอย่างไร เราอาจได้

โป๊ปฟรังซิส: "อย่าทำลายพระศาสนจักรด้วยการสร้างความแตกแยกและเงิน"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงขอร้อง อย่าทำลายพระศาสนจักรด้วยการสร้างความแตกแยกและเงิน อย่าทำให้คริสตชนเกิดความอิจฉากัน โลภ และมักใหญ่ใฝ่สูงเด็ดขาด ทรงชี้ ความแตกแยกและเงินคืออาวุธที่ปีศาจใช้ทำลายกลุ่มคริสตชนตั้งแต่ยุคแรกเริ่ม สิ่งนี้เกิดจากเมล็ดพันธุ์ความอิจฉาและความมักใหญ่ใฝ่สูงที่ปีศาจหว่านไว้ เมื่อคริสตชนหลงมาเล่นเกมสกปรกนี้ เราจะแบ่งฝักแบ่งฝ่ายและนินทากัน  ช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 12 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา บทอ่านประจำมิสซานี้จากจดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวโครินธ์ ฉบับที่หนึ่ง ท่านตำหนิกลุ่มคริสตชนที่กำลังทะเลาะกันและเกิดความแตกแยกกัน พระสันตะปาปาทรงเทศน์แบ่งปันว่า - ปีศาจมีอาวุธทรงพลัง 2 ชนิดที่จะทำลายพระศาสนจักร นั่นคือ ความแตกแยกและเงิน เรื่องแบบนี้เราเห็นตั้งแต่พระศาสนจักรยุคแรกเริ่มแล้ว ไม่ว่าจะเป็นความแตกแยกทางเทวศาสตร์หรือความคิดต่างๆ ซึ่งทำให้พระศาสนจักรต้องขาดจากกัน - ปีศาจหว่านเมล็ดพันธุ์ของความอิจฉา ความมักใหญ่ใฝ่สูง มันหว่านสิ่งเหล่านี้เพื่อให้เราโลภและแตกแยกกัน เมื่อสิ่งเหล่านี้เกิด ผลที่ตามมาก็คือทุกสิ่งถู

โป๊ปฟรังซิส: "จุดอ่อนของพระเจ้าคือใจดีและเมตตา พระเจ้าไม่เคยจดจำความผิดในอดีตที่เราทำ"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอน จุดอ่อนของพระเจ้าคือความใจดีและมีเมตตา เมื่อพระเจ้าโอบกอดเรา พระองค์จะลืมความผิดที่เราเคยทำ เพราะพระองค์ไม่จดจำความผิดในอดีต พระเจ้ามีแต่ให้อภัยเรา เหมือนที่พระเยซูทรงทำให้เห็นเวลาเข้าไปบ้านของคนเก็บภาษี เมื่อพวกเขากลับใจ พระองค์ไม่จดจำความผิดของพวกเขา ทรงชวนไตร่ตรอง "เคยคิดบ้างไหมว่า เวลาเราไปแก้บาป มันมีความชื่นชมยินดีและการฉลองเกิดขึ้นบนสวรรค์ เพราะมนุษย์คนหนึ่งสำนึกผิดและกลับใจ" ช่วงเที่ยงวันอาทิตย์ที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงออกมานำสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าว ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน พระวรสารวันนี้ เป็นเหตุการณ์ที่พระเยซูทรงเล่าอุปมา 3 เรื่อง ได้แก่ลูกแกะที่หายไป, เงินเหรียญที่หายไป และลูกล้างผลาญ โดยทั้งสามเรื่องเป็นความชื่นชมยินดีของคนเลี้ยงแกะที่พบแกะที่หายไป, หญิงม่ายที่เจอเงินหนึ่งเหรียญที่หายไป และพ่อที่ได้ลูกคนเล็กกลับมา หลังจากหายตัวไป พระสันตะปาปาทรงแบ่งปันพระวรสารตอนนี้ว่า - เมื่อคนบาปกลับใจและยอมให้พระเจ้าตามหาเขา คนบาปคนนั้นจะไม่ถูกลงโทษ เพราะพระเจ้านำความรอดไปมอบให้เขา พระเจ้าทรงต้อนรับคนบาปกลั

ความรักสมัยวัยรุ่นของพระสันตะปาปากิตติคุณ เบเนดิกต์ ที่ 16

Image
หากใครที่ติดตามข่าวต่างประเทศเป็นประจำ ช่วงนี้ น่าจะเห็นข่าว "ความรักสมัยวัยรุ่นของพระสันตะปาปากิตติคุณ เบเนดิกต์ ที่ 16" ผ่านตากันบ้าง เรื่องนี้ ได้รับการเปิดเผยผ่านทาง ปีเตอร์ ซีวัลด์ นักข่าวชาวเยอรมันผู้ซึ่งมีความสนิทมากๆ กับสมเด็จพระสันตะปาปากิตติคุณ เบเนดิกต์ ที่ 16 และยังเคยสัมภาษณ์พระองค์หลายครั้ง ครั้งนี้ ซีวัลด์ ได้ให้สัมภาษณ์กับ Die Zeit หนังสือพิมพ์ในเยอรมนี เกี่ยวกับ "ความรักสมัยเป็นวัยรุ่น" ของพระสันตะปาปากิตติคุณ (เรื่องนี้ได้รับการอนุญาตจากพระสันตะปาปากิตติคุณ เพราะซีวัลด์ มาให้สัมภาษณ์เพื่อโปรโมทหนังสือเล่มใหม่ที่เขาไปสัมภาษณ์พระสันตะปาปากิตติคุณ หนังสือนี้ชื่อว่า "Last Testament In His Own Words" ซีวัลด์ กล่าวว่า "ในความเป็นจริงแล้ว ประมาณ 20 ปีก่อน พระคาร์ดินัล โยเซฟ รัตซิงเกอร์ (พระสันตะปาปากิตติคุณ) เคยถูกสัมภาษณ์เรื่องความรักสมัยเป็นวัยรุ่น แต่บทสัมภาษณ์ดังกล่าว ถูกตัดออก เพราะเหตุผลง่ายๆ คือเนื้อหาเยอะเกินที่ตกลงไว้กับสำนักพิมพ์ พระคาร์ดินัลรัตซิงเกอร์ จึงตัดสินใจตัดส่วนนี้ออกไป" ความรักสมัยเป็นวัยรุ่นของพระสันตะปาปากิตติคุณ

โป๊ปฟรังซิสเตือนสติสังฆราชคาทอลิก "อย่าตกเป็นเหยื่อของการนินทาและเงิน"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเตือนสติบรรดาสังฆราชคาทอลิก อย่าตกเป็นเหยื่อของการนินทาและเงิน เพราะปีศาจใช้สองสิ่งนี้ทำลายพระศาสนจักร ทรงย้ำ ความแตกแยกในหมู่สงฆ์ ส่วนมากเกิดจากการนินทา นี่คือการก่อการร้ายและนำไปสู่ความแตกแยกในกลุ่มสงฆ์  ช่วงสายวันศุกร์ที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงต้อนรับบรรดาพระสังฆราชคาทอลิกใหม่ที่มาเข้าเฝ้าในวาติกัน โดยทั้งหมดเพิ่งเสร็จสิ้นการอบรมจากสมณกระทรวงเพื่อการประกาศพระวรสารสู่ปวงชน โอกาสนี้ พระสันตะปาปาตรัสสอนพวกเขาว่า - พ่ออยากเตือนสติพระสังฆราชทุกคนว่า หนึ่งในหน้าที่สำคัญสุดของพระสังฆราชก็คือจงสนองตอบการขอความช่วยเหลือจากบรรดาพระสงฆ์ - นอกจากนี้ พันธกิจสำคัญอันดับต้นๆ ของพระสังฆราชก็คือการออกไปตามหาลูกแกะที่หายไปให้กลับมาหาพระเจ้า รวมไปถึงการไปหาคนที่ไม่เชื่อในพระเยซูและต่อต้านพระองค์ จงไปสัมผัสพวกเขาและเชิญให้มารู้จักพระองค์ - กระแสเรียกอีกอย่างของพระสังฆราชก็คือจงดำเนินชีวิตเป็นประจักษ์พยานถึงพระเยซู จงรักเพื่อนพี่น้องผ่านทางการทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดี - สิ่งที่อันตรายมากๆ และปีศาจใช้สิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องมือในการทำลายพระศาสนจักร นั่

โป๊ปฟรังซิส: "สิ่งแรกที่ต้องทำในการประกาศข่าวดีคือทำตัวเป็นประจักษ์พยาน สิ่งสุดท้ายที่ควรทำคือการพูดมาก"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงชี้ สิ่งแรกที่ต้องทำในการประกาศข่าวดีคือการดำเนินชีวิตเป็นประจักษ์พยานถึงพระเจ้า ส่วนสิ่งสุดท้ายที่ควรทำคือการพูด เพราะการกระทำสำคัญกว่าคำพูด ทรงสอน การประกาศข่าวดีไม่ได้หมายความให้เราไปเคาะประตูบ้านคนอื่นแล้วบอกว่า "พระเยซูกลับคืนชีพแล้ว" แต่มันหมายถึงเราต้องดำเนินชีวิตบนความเชื่อและสะท้อนถึงความรักที่พระเจ้ามีต่อเรา ทรงเตือน พระสงฆ์และฆราวาสอย่าอวดตัวและโอหังเวลาประกาศพระวรสาร สำคัญสุด การประกาศข่าวดีไม่ใช่การบังคับคนอื่นเปลี่ยนศาสนา เราอย่าลดคุณค่าพระวรสารให้กลายเป็นงานท่องจำที่เราไปบังคับคนอื่น ช่วงเช้าวันศุกร์ที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา บทอ่านประจำมิสซาจากจดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวโครินธ์ ฉบับที่ 1 ท่านกล่าวว่า "รางวัลสำหรับข้าพเจ้าในการประกาศข่าวดี ก็คือ ความภูมิใจจากการประกาศข่าวดีโดยไม่ต้องใช้สิทธิ์ต่างๆ จากการประกาศข่าวดีนั้น" พระสันตะปาปาทรงแบ่งปันให้ข้อคิดว่า - น่าเศร้าที่คริสตชนบางคนในยุคนี้ อาทิ พระสงฆ์หรือฆราวาสบางคนดำเนินชีวิตแห่งการรับใช้ราวกับตนเป็นแค

โป๊ปฟรังซิส: "ถ้าเราจัดประชุมสันติภาพอย่างยิ่งใหญ่ แต่หัวใจไม่มีสันติและคิดแก้แค้น สันติคงไม่เกิดกับโลก"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเริ่มต้นถวายมิสซาเช้าอีกครั้งหลังหยุดพักช่วงฤดูร้อน พร้อมสอน ถ้าเราจัดประชุมสันติภาพอย่างยิ่งใหญ่ แต่หัวใจเราไม่มีสันติและจ้องแก้แค้น สันติภาพก็คงไม่เกิดกับโลก เช่นเดียวกัน ถามตัวเองซิว่า ครอบครัวของเรามีสันติหรือเปล่า ถ้าเรายังไม่สามารถนำสันติมาสู่ครอบครัวหรือหมู่คณะนักบวชที่เราสังกัด คำว่าสันติภาพเพื่อโลกคงไกลเกินไปสำหรับเรา ช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ 8 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา โดยนี่เป็นมิสซาแรกนับตั้งแต่หยุดพักฤดูร้อนของชาวอิตาเลี่ยน ความพิเศษของมิสซานี้คือเป็นวันฉลองแม่พระบังเกิด พระวรสารประจำมิสซานี้ ทูตสวรรค์มาเข้าฝันนักบุญโยเซฟ พร้อมกล่าวว่า "อย่ากลัวที่จะรับมารีอาเป็นภรรยา เพราะเด็กที่จะเกิดมานั้นเป็นผลจากฤทธานุภาพของพระจิต บุตรชายคนนี้จะได้รับชื่อว่า 'เอ็มมานูเอล' แปลว่า 'พระเจ้าสถิตกับเรา'" พระสันตะปาปาทรงเทศน์แบ่งปันว่า - วันนี้ ช่วงเริ่มพิธี พ่อกล่าวกับพวกท่านว่า 'พระเจ้าสถิตกับท่าน' คำพูดนี้หมายความว่าพระเจ้าสถิตกับเรา เพื่อเราจะได้เติบโตเป็นหนึ่ง

โป๊ปฟรังซิส: "พันธกิจของพระเจ้าคือการเชิญให้คนบาปกลับใจด้วยความเมตตา ไม่ใช่การลงโทษคนบาปทำลายคนชั่ว"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอน พันธกิจของพระเจ้าคือการเชิญให้คนบาปกลับใจด้วยความเมตตา ไม่ใช่การลงโทษคนบาปและทำลายคนชั่ว ดังนั้น เราอย่าสร้างภาพลักษณ์ผิดๆ ให้กับพระเจ้า เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ให้ตนเองรวมทั้งสร้างความขัดแย้ง ทรงชี้ บางคนแสวงหาพระเจ้าแค่เฉพาะเวลาตัวเองพบความยากลำบาก การทำแบบนี้เป็นสิ่งไม่ถูกต้อง  ช่วงสายวันพุธที่ 7 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงออกมาพบปะเทศน์สอนสัตบุรุษระหว่างการเข้าเฝ้าทั่วไป ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน โดยวันนี้ พระสันตะปาปาทรงเทศน์สอนเกี่ยวกับพระเมตตาที่ไม่มีสิ้นสุดของพระเจ้า พระสันตะปาปาตรัสว่า - พระวรสารที่เราได้ฟังกันเมื่อครู่นี้ เรารับรู้ถึงความผิดหวังของนักบุญจอห์น แบ๊ปติสต์ เพราะท่านคาดหวังว่า พันธกิจของพระเยซูจะเป็นการมาลงโทษคนบาปและทำลายคนชั่ว แต่เปล่าเลย พระเจ้าไม่เป็นแบบนั้น พระองค์ไม่ได้ส่งพระบุตรมาเพื่อลงโทษ แต่พระองค์ทรงส่งพระบุตรมาเชิญให้คนบาปเหล่านั้นกลับใจ - พระเยซูคือเครื่องมือที่สัมผัสได้ถึงความเมตตาของพระบิดา พระองค์นำการปลอบโยนและความรอดพ้นจากบาปมาให้เราทุกคน ดังนั้น พ่อขอร้องเราทุกคนอย่าสร้างภาพลักษณ์ที่ผ

โป๊ปฟรังซิส: "นักบุญเทเรซาแห่งกัลกัตต้าคือผู้แจกจ่ายความเมตตาและทำตัวพร้อมเสมอที่จะรับใช้ทุกคน"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสถาปนานักบุญใหม่ "นักบุญเทเรซาแห่งกัลกัตต้า" พร้อมยกย่องท่านเป็นผู้แจกจ่ายความเมตตาและทำตัวพร้อมเสมอที่จะรับใช้ทุกคน เฉพาะอย่างยิ่งทารกที่ถูกทอดทิ้งและผู้ยากไร้ ทรงแบ่งปัน ซิสเตอร์เทเรซาชอบพูดเสมอว่า "ฉันไม่ได้พูดภาษาเดียวกับพวกเขา แต่ฉันสามารถยิ้มได้" ดังนั้น เราต้องนำรอยยิ้มของคุณแม่เทเรซามาไว้ในหัวใจของเรา และมอบรอยยิ้มนี้ให้กับคนที่เราพบระหว่างการเดินทางในชีวิต ทรงชี้ สำหรับนักบุญเทเรซาแห่งกัลกัตต้า ความเมตตาคือเกลือที่ทำให้งานของท่านมีรสชาติและยังเป็นแสงสว่างในความมืด พร้อมกันนี้ หลังมิสซา ทรงเลี้ยง "พิซซ่า" แก่ผู้ยากไร้ 1,500 คน โอกาสที่ซิสเตอร์เทเรซาแห่งกัลกัตต้า ผู้ดูแลผู้ยากไร้ได้รับการสถาปนาเป็นนักบุญ ช่วงสายวันอาทิตย์ที่ 4 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาสถาปนานักบุญเทเรซาแห่งกัลกัตต้า ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน ท่ามกลางผู้ร่วมพิธีกว่า 150,000 คน ช่วงเริ่มพิธี พระคาร์ดินัล อันเจโล่ อมาโต้ สมณมนตรีแห่งสมณกระทรวงเพื่อประกาศการเป็นนักบุญ อ่านคำร้องขอให้พระสันตะปาปาสถาปนาบุญราศีเทเรซาแห

สรุปประวัติ 8 ข้อเกี่ยวกับนักบุญเทเรซาแห่งกัลกัตต้า

Image
สรุปประวัตินักบุญเทเรซาแห่งกัลกัตต้า ให้สั้นที่สุด แต่ความรู้ไม่สั้นตาม ให้ทุกท่านได้ทราบดังนี้ 1) ชื่อจริงคือ "อันเยเซ่ กอนช่า โบยาจู" (Anjezë Gonxhe Bojaxhiu) เกิดวันที่ 26 สิงหาคม ค.ศ.1910 ที่เมืองสค็อปเย่ ซึ่งตอนที่เกิด เมืองนี้เป็นส่วนหนึ่งของอัลเบเนีย แต่ปัจจุบัน เป็นเมืองหลวงของประเทศมาเซโดเนีย 2) ตอนอายุ 18 ปี อันเยเซ่ สมัครเข้าอารามคณะ "ซิสเตอร์แห่งโลเรโต้" ประเทศไอร์แลนด์ (ท่านเรียนภาษาอังกฤษในไอร์แลนด์จนพูดได้คล่อง) 3) เลือกใช้ชื่อ "เทเรซา" ในวันที่ 24 พฤษภาคม ค.ศ.1931 ในการปฏิญานตนครั้งแรก สาเหตุที่เลือกชื่อนี้เพราะต้องชื่นชอบ "นักบุญเทเรซาแห่งลีซีเออร์" องค์อุปถัมภ์ของธรรมทูต อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่ชื่อภาษาอังกฤษของ "ซิสเตอร์เทเรซา" สะกดว่า "Teresa" แทนที่จะเป็น "Thérèse" เหมือนกับนักบุญเทเรซาทุกองค์ เป็นเพราะตอนนั้น ในคณะซิสเตอร์แห่งโลเรโต้ มีคนเลือกชื่อ "Thérèse" ไปแล้ว ท่านจึงใช้การสะกดแบบง่ายๆ จึงกลายมาเป็น Teresa นั่นเอง 4) วันที่ 10 กันยายน ค.ศ.1946 ซิสเตอร์เทเรซาไปเข้าเงียบ และรู้สึกถึงเส

โป๊ปฟรังซิส: "คริสตชนต้องไม่นิ่งเฉยหรือทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เวลาเจอสิ่งไม่ถูกต้อง"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอน คริสตชนไม่สามารถนิ่งเงียบหรือทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เวลาเจอสิ่งไม่ถูกต้อง หนึ่งในตัวอย่างชัดๆ พระศาสนจักรต้องอย่าเมินเฉยต่อการช่วยเหลือผู้ยากไร้ที่ร้องเรียกขอความเมตตา เพราะการมอบความเมตตาให้คนอื่น คือการแสดงให้เห็นถึงพันธกิจของพระเจ้าในชีวิตเรา ทรงย้ำ ความเมตตาต้องถูกแสดงออกอย่างเป็นรูปธรรมจับต้องได้ ช่วงสายวันอาทิตย์ที่ 3 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงออกมาพบปะเทศน์สอนสัตบุรุษ ระหว่างการเข้าเฝ้าทั่วไปโอกาสปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรม ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน วันนี้ พระสันตะปาปาทรงสอนเกี่ยวกับกิจการงานเมตตาที่คริสตชนควรกระทำ พระสันตะปาปา ตรัสสอนว่า - ความรักของพระเจ้าจะไม่มีวันลดน้อยลงในชีวิตของเราหรือในประวัติศาสตร์ ความรักของพระเจ้าเป็นสิ่งสดใส ร้อนรน และเป็นพลังขับเคลื่อนไปข้างหน้า ความรักของพระเจ้ามีเสน่ห์ดึงดูดมากกว่าจะพรรณาออกมาได้หมดจริงๆ - การแสดงออกถึงความรักของพระเจ้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอยู่ในตัวของพระเยซู พระองค์ทรงแสดงให้เราเห็นถึงความรักของพระบิดาด้วยการยอมตายเพื่อไถ่บาปเราบนไม้กางเขน - ดังนั้น ในการเผชิญหน้ากับความจริ