Posts

Showing posts from July, 2016

โป๊ปฟรังซิส: "พระเจ้าไม่สนใจเราใช้โทรศัพท์อะไร พระเจ้าไม่มีฮาร์ดดิสก์บันทึกความผิดของเรา พระองค์มีแต่หัวใจที่เมตตาเรา"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอน พระเจ้าไม่สนใจเราแต่งตัวแบบไหน ใช้โทรศัพท์อะไร พระองค์สนแต่ตัวตนของเราเท่านั้น การไม่ยอมรับตัวเองและทำตัวแย่ๆ จึงเป็นการไม่ตระหนักถึงการที่พระเจ้าสร้างเรามาให้เหมือนพระองค์ ทรงชี้ อย่าละอายที่จะสารภาพความผิดทุกอย่างกับพระเจ้า อย่าปล่อยให้จิตวิญญาณเราตายด้านเด็ดขาด ทรงย้ำ ความทรงจำของพระเจ้าไม่มี "ฮาร์ดดิสก์" ไว้บันทึกและเก็บข้อมูลของเรา หัวใจของพระองค์มีแต่ความเมตตากรุณาที่มอบให้เรา ทรงแนะ หลายคนอาจกีดกันเราไม่ให้รับพระเมตตาจากพระเจ้า หลายคนนินทาและหัวเราะเยาะเรา เพียงเพราะเราเป็นคนถ่อมตนและเชื่อว่าจะเปลี่ยนแปลงโลกได้ เราต้องอย่าท้อ แต่จงยิ้มรับสิ่งเหล่านี้ เพราะเรากำลังเป็นตัวแทนของสิ่งดีที่เขาหัวเราะเยาะอยู่ ตอนท้าย ทรงประกาศให้ "ปานามา" เป็นเจ้าภาพงานเยาวชนโลก 2019 ด้วย ช่วงสายวันอาทิตย์ที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาปิดงานเยาวชนโลก ครั้งที่ 31 ซึ่งจัดที่แคมปัส มิเซริคอร์ดิเอ เมืองคราครูฟ ประเทศโปแลนด์ ท่ามกลางเยาวชนที่มาร่วมพิธีกว่า 2 ล้านคน โดยเยาวชนทั้งหมดได้นอนพักค้างแรมอยู่ที่นี่ตั้งแต่เมื่อคื

โป๊ปฟรังซิส: "อย่าเอาชนะความเกลียดชังด้วยความเกลียดชังที่รุนแรงกว่า"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอนเยาวชน อย่าเอาชนะความเกลียดชังด้วยความเกลียดชังที่รุนแรงกว่า อย่าเอาชนะความรุนแรงด้วยความรุนแรงขั้นกว่า สิ่งเดียวที่เราจะสนองตอบสงครามคือการสร้างสะพานและความเป็นพี่น้องกันให้เกิดในสังคม ทรงชี้ บางคนคิดว่าสถานการณ์ในซีเรียห่างไกลจากชีวิตเรามาก เพราะเราเห็นผลของสงครามนี้จากหน้าจอโทรศัพท์มือถือหรือคอมพิวเตอร์ มันไม่ได้เกิดกับชีวิตเราจริงๆ เราจึงตายด้านไม่รู้สึกอะไร ทรงเตือน สิ่งร้ายแรงกว่าความเฉยชาคือการนั่งอยู่ในมุมสบายและไม่สนใจเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากคนอื่น สิ่งนี้เหมือนเราเล่นวิดีโอเกมส์และไม่สนใจคนมาเรียกให้ไปทำสิ่งต่างๆ เลย  ช่วงค่ำวันเสาร์ที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานการภาวนาคืนตื่นเฝ้าในงานเยาวชนโลก ณ แคมปัส มิเซริคอร์ดิเอ เมืองคราครูฟ ประเทศโปแลนด์ ท่ามกลางเยาวชนที่มาร่วมภาวนากว่า 2 ล้านคน พิธีนี้ เริ่มต้นด้วยพระสันตะปาปาทรงเดินจาริกผ่านประตูศักดิ์สิทธิ์ พร้อมกับเยาวชนผู้แทนจาก 5 ทวีป จากนั้น เป็นการเริ่มพิธีด้วยการรับฟังการแบ่งปันประสบการณ์ความเชื่อจากผู้แทนเยาวชน 3 คน หนึ่งในนั้นมีเยาวชนวัย 26 ปีจากซีเรียด้ว

โป๊ปฟรังซิส: "สังฆราช สงฆ์ และนักบวช อย่าติดกับดักความสุขสบายและปิดตัวเองจากการรับใช้"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอนบรรดาพระสังฆราช พระสงฆ์ และนักบวชของโปแลนด์ เราอย่าติดกับดักความสุขสบายและปิดตัวเอง พระเยซูสอนเราให้เปิดตัวรับใช้คนอื่น นักบุญจอห์น ปอล ที่ 2 ก็สอนเราให้เปิดประตูให้กว้างเพื่อต้อนรับพระคริสตเจ้า ทรงย้ำ การเปิดตัวเองรับใช้ผู้อื่นคือการดำเนินชีวิตแบบไม่ถือครองสมบัติส่วนตัว ไม่ยึดตัวเองเป็นศูนย์กลางของทุกสิ่ง ไม่สร้างฐานอำนาจทางโลก และไม่เสียเวลาไปกับวางแผนความสุขของตน ทรงถามบรรดาศาสนบริกร ถ้าหนังสือเรื่องพระเมตตาของพระเจ้า มีหน้าหนึ่งที่เป็นเรื่องความเมตตาที่เราทำต่อเพื่อนมนุษย์ หน้านี้จะเป็น "หน้าว่างเปล่า" หรือเปล่าไม่  ช่วงเช้าวันเสาร์ที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส เสด็จไปยังสักการะสถานพระเมตตา เพื่อจาริกแสวงบุญผ่านประตูศักดิ์สิทธิ์ จากนั้น ทรงภาวนาหน้ารูปพระเมตตาและหลุมศพของนักบุญโฟสติน่า, โปรดศีลอภัยบาปให้เยาวชน และถวายมิสซาร่วมกับบรรดาพระสังฆราช พระสงฆ์และนักบวชคาทอลิกของโปแลนด์ สำหรับบทเทศน์ประจำมิสซานี้ พระสันตะปาปาทรงสอนบรรดาพระสงฆ์และนักบวช ใจความว่า - วันนี้ มี 3 สิ่งที่พ่ออยากแบ่งปันและเตือนใจพวกเราทุกคน สิ่งแรก ค

โป๊ปฟรังซิส: "พระเจ้าประทับในตัวผู้อดอยาก ผู้ลี้ภัย และผู้ป่วย แล้วเราปฏิบัติกับคนเหล่านี้ดีหรือเปล่า"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงแบ่งปัน หลายคนสงสัยว่า "มีคนอดอยาก คนที่ลี้ภัยจากสงคราม และคนที่ป่วยอย่างทรมาน แล้วพระเจ้าอยู่ที่ไหนกัน" คำตอบคือ "พระเจ้าอยู่ในคนเหล่านี้ พระองค์ทรงร่วมทุกข์ไปกับเขา" แต่สิ่งสำคัญคือเราดูแลและปฏิบัติต่อคนเหล่านี้อย่างดีหรือเปล่า เพราะวันสุดท้าย เราจะถูกตัดสินดังที่พระเจ้าสอนว่า "ทุกสิ่งที่ท่านทำต่อพี่น้องผู้ต้อยต่ำ ท่านก็ทำต่อตัวเราเอง" ทรงย้ำ เยาวชนต้องอย่าดำเนินชีวิตแบบครึ่งๆ กลางๆ ต้องกล้ารับใช้เพื่อนมนุษย์ที่ตกทุกข์ได้ยาก ช่วงเย็นวันศุกร์ที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงร่วมพิธีเดินรูป 14 ภาคกับเยาวชนประมาณ 1 ล้านคนในงานเยาวชนโลก ณ สวนสาธารณะโบลเนีย เมืองคราครูฟ ประเทศโปแลนด์ สำหรับบทแบ่งปันในพิธีนี้ พระสันตะปาปาตรัสสอนเยาวชนว่า - 'ถ้าปีศาจอยู่ในโลก แล้วพระเจ้าอยู่ไหน ถ้าคนอดอยาก ไร้ที่อยู่อาศัย ต้องลี้ภัย ต้องตายเพราะความรุนแรง ต้องป่วยอย่างทรมาน สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น แล้วพระเจ้าอยู่ไหน' นี่เป็นคำถามที่พูดกันตรงๆ เลยว่าไม่มีคำตอบ เราทำได้แค่เพียงมองไปยังพระเยซูแล้วทูลถามพระองค์ คำตอบของพระเยซู

โป๊ปฟรังซิส: "อยากเห็นคริสตชนใส่ใจและเยี่ยมผู้ป่วยเหมือนที่พระเยซูทรงทำ"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงหวังเห็นคริสตชนทุกคน เอาใจใส่และเยี่ยมผู้ป่วยเหมือนอย่างที่พระเยซูทรงทำเป็นแบบอย่าง ทรงแบ่งปัน สังคมของเราถูกฉาบด้วยวัฒนธรรมทิ้งขว้างซึ่งทอดทิ้งผู้อ่อนแอ อย่างไรก็ตาม คริสตชนต้องปฎิเสธวัฒนธรรมนี้แล้วดำเนินชีวิตด้วยวัฒนธรรมแห่งการยอมรับกัน ช่วงบ่ายวันศุกร์ที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส เสด็จไปยังโรงพยาบาลโปรโกชิม เมืองคราครูฟ ประเทศโปแลนด์ เพื่อเยี่ยมผู้ป่วยเด็กที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลนี้ ส่วนมาก จะเป็นผู้ป่วยเด็กที่ป่วยด้วยโรคมะเร็ง โอกาสนี้ พระสันตะปาปาตรัสกับพวกเขาว่า - สำหรับตัวพ่อเอง การไปที่ไหนแล้วได้ไปเยี่ยมผู้ป่วย สิ่งนี้คือความพิเศษมากๆ ในชีวิตของพระเยซู พระองค์ทรงให้ความสำคัญกับผู้ป่วยทุกคน พ่อจึงอยากดำเนินชีวิตให้เหมือนกับพระองค์ด้วยการใส่ใจต่อผู้ป่วย พระศาสนจักรก็ใส่ใจต่อผู้ป่วยเหมือนกับแม่ที่ดูแลลูกทุกคน - การมาเยี่ยมและใส่ใจผู้ป่วยคือสิ่งที่พ่ออยากให้คริสตชนทุกคนกระทำ นี่คือความต้องการของพ่อที่อยากให้คริสตชนทุกคนอยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยเหมือนที่พระเยซูทรงทำเป็นแบบอย่าง แต่น่าเศร้า สังคมของเราถูกทำให้เปรอะเปื้อนด้วยวัฒนธรร

โป๊ปฟรังซิสเสด็จไปภาวนาที่ "เอ้าชวิตช์" ค่ายกักกันชาวยิวระหว่างสงครามโลก ครั้งที่ 2

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส เสด็จไปภาวนาที่ "เอ้าชวิตช์" ค่ายกักกันชาวยิวระหว่างสงครามโลก ครั้งที่ 2 ซึ่งชาวยิวถูกนาซีฆ่าตายที่นี่ไปกว่า 5 ล้านคน โอกาสนี้ พระองค์ทรงเข้าไปภาวนาในห้องที่ "‎นักบุญแม็กซิมิเลี่ยน โกลเบ‬" สงฆ์คาทอลิกชาวโปแลนด์ เสียชีวิต หลังจากถูกจับเข้าไปขังและอดอาหารในนี้ (ท่านยอมตายแทน ฟรานซิสเซ็ค กายอฟนีเซ็ค) นอกจากนี้ ทรงพบกับผู้รอดชีวิตจากค่ายกักกันดังกล่าวด้วย สำหรับการมาเยือนเอ้าชวิตช์ พระสันตะปาปาไม่ได้ตรัสใดๆ ทั้งสิ้น พระองค์ทรงนิ่งเงียบและภาวนาให้กับผู้สูญเสียทุกคน

โป๊ปฟรังซิส: "ชีวิตแต่งงานต้องมีทะเลาะกันบ้าง แต่อย่าให้จบวันนี้ไปโดยไม่ปรับความเข้าใจกัน"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงแนะคู่สมรสทุกคู่ ชีวิตแต่งงานต้องมีทะเลาะกันบ้าง อย่ากลัวถ้ามันเกิดขึ้น สิ่งที่ควรทำคือจงปรับความเข้าใจกันก่อนผ่านวันนี้ไป เพราะถ้าเราไม่ปรับความเข้าใจ "สงครามเย็นในวันถัดไป" จะทวีความรุนแรงและน่ากลัวแบบสุดๆ ทรงสนับสนุนเยาวชนชายหญิง กล้าอุทิศตนให้กับชีวิตแต่งงาน การสร้างครอบครัวสมัยนี้ไม่ง่าย เนื่องจากหนุ่มสาวจำนวนมากกลัวความยากลำบากที่จะตามมา ทรงสอน ชีวิตคู่ต้องเรียนรู้ที่จะพูด "ขอโทษ ขอบคุณ และยกโทษให้กัน" ช่วงค่ำวันพฤหัสบดีที่ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงออกมาทักทายสัตบุรุษผ่านทางหน้าต่างของบ้านพักพระอัครสังฆราชแห่งคราครูฟ โดยวันนี้ พระองค์ทรงกล่าวเกี่ยวกับเยาวชนที่เตรียมตัวแต่งงาน รวมไปถึงคู่สมรสใหม่ที่เพิ่งแต่งงานทุกคน พระสันตะปาปาตรัสว่า - พ่อขอสนับสนุนเยาวชนชายหญิงให้มีความกล้าที่จะอุทิศตนให้กับชีวิตแต่งงาน เพราะยุคนี้ ไม่ง่ายเลยที่คนจะมีความกล้าในการสร้างครอบครัว - พ่อทราบดีถึงเหตุผลที่หนุ่มสาวจำนวนมากไม่กล้าแต่งงานสร้างครอบครัว เพราะกลัวความยากลำบากที่จะตามมา แต่พ่ออยากแนะนำ 3 คำ นั่นคือ เราต้องรู้จัก '

โป๊ปฟรังซิส: "เศร้าใจเวลาเห็นเยาวชนจ้องเกษียณตัวเอง ตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงยอมรับ เศร้าใจเวลาเห็นเยาวชนมองหาการเกษียณตัวเองจากการทำงานตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น เยาวชนพวกนี้ โยนผ้ายอมแพ้ ทั้งที่เกมการแข่งขันจริงๆ ยังไม่เริ่มเลยด้วยซ้ำ ทรงชี้ ความเมตตาคือสิ่งที่อยู่บนใบหน้าของเยาวชน หัวใจที่เมตตาจะทำให้เราก้าวออกจากตัวเองและไปช่วยเหลือคนอื่น ทรงสอน ชีวิตของเราจะเป็นเหมือนมาร์ธาและมารีอา เราจะยุ่งกับหน้าที่การงานและความรับผิดชอบ แต่ขณะเดียวกัน เราต้องมีเวลาให้พระเจ้าและให้พระองค์เข้ามาในชีวิตเราด้วย ช่วงเย็นวันพฤหัสบดีที่ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ประทับรถรางไฟฟ้าจากบ้านพักพระอัครสังฆมณฑลของคราครูฟ ไปยังสวนสาธารณะโบลเนีย เพื่อร่วมพิธีต้อนรับพระสันตะปาปาในงานเยาวชนโลก โดยผู้โดยสารที่ร่วมขบวนรถรางไปกับพระสันตะปาปา ก็คือ บรรดาผู้พิการที่ได้รับเกียรตินั่นเอง สำหรับบทสอนแบ่งปันเยาวชนในวันนี้ พระสันตะปาปาตรัสว่า - ในที่สุด พวกเราก็มาอยู่ร่วมกันจนได้! ต้องขอบคุณความคิดริเริ่มของสมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 ที่มีต่อการจัดงานชุมนุมเยาวชนและให้โอกาสแบบนี้เกิดขึ้น ตอนนี้ พระองค์ (พระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2) อยู่บนสวรรค

โป๊ปฟรังซิส: "พระเจ้าชอบทำสิ่งเรียบง่าย ต่างจากมนุษย์ที่ทำอะไร ต้องประกาศให้คนอื่นรู้ และต้องอวดตัว"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอน พระเจ้าทรงชอบความเรียบง่ายและทำสิ่งเล็กๆ ที่ไม่มีใครเห็น ต่างจากมนุษย์ที่เวลาทำอะไรต้องประกาศให้คนอื่นรู้ ต้องอวดตัวเด่นดัง และยึดติดกับอำนาจ สิ่งเหล่านี้คือการประจญล่อลวงที่ร้ายแรงซึ่งตามติดมนุษย์ไปทุกที่ ทรงหวังเห็นคริสตชนโปแลนด์เดินตามแบบแม่พระ ผู้ทรงเต็มใจทำสิ่งเล็กๆ ด้วยความรักและไม่บ่นเหมือนที่พระเจ้าทรงโปรดปราน ช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ 27 กรกฎาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส เสด็จไปยังสักการะสถานแม่พระแห่งเชสโตโฮวา ประเทศโปแลนด์ เพื่อภาวนาหน้ารูปแม่พระสีดำ (Black Madonna) จากนั้น ทรงถวายมิสซาโอกาสฉลอง 1,050 ปีของคริสตศาสนาในโปแลนด์ ท่ามกลางสัตบุรุษที่มาร่วมกว่า 350,000 คน สำหรับบทเทศน์ประจำมิสซานี้ พระสันตะปาปาทรงเทศน์สอนว่า - พระเจ้าเสด็จมาหามนุษย์ในรูปแบบอันเรียบง่าย พระองค์ทรงลงมาบังเกิดในครรภ์ของสตรีคนหนึ่ง นี่ไม่ใช่การเสด็จมาแบบประกาศศักดาอันยิ่งใหญ่ พระเจ้าไม่เผยแสดงพระองค์ดุจดวงอาทิตย์ร้อนแรง แต่เลือกมาหามนุษย์ในแบบง่ายๆ ในรูปแบบของเด็กทารกที่เกิดจากแม่ นี่คือวิถีของพระเจ้า กล่าวคือ มาแบบเล็กๆ และเรียบง่ายมากๆ - แม้ในการทำอัศจรรย์ครั

โป๊ปฟรังซิสสานต่อประเพณีการทักทายสัตบุรุษจากหน้าต่างของพระสันตะปาปาที่เมืองคราครูฟ

Image
เมื่อคืนนี้ (27 กรกฎาคม 2016) สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงออกมาทักทายเยาวชนจากหน้าบ้านบ้านพักพระอัครสังฆราชประจำคราครูฟ ประเทศโปแลนด์  หน้าต่างบานนี้ พระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 จะออกมาทักทายสัตบุรุษทุกครั้งที่พระองค์มาเยือนอดีตอัครสังฆมณฑลที่เคยปกครองสมัยเป็นพระคาร์ดินัล จนหน้าต่างนี้ ได้รับชื่อว่า "หน้าต่างของพระสันตะปาปา" เพราะมันจะเปิดออกให้พระสันตะปาปาเท่านั้นที่จะได้ทักทายสัตบุรุษเมืองคราครูฟ ในอดีต พระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ก็เคยออกมาทักทายเช่นกัน และเมื่อวานนี้ ก็ถึงเวลาของพระสันตะปาปา ฟรังซิส ผู้สานต่อประเพณีดังกล่าว พระสันตะปาปา ฟรังซิส ตรัสกับทุกคนที่มาเฝ้ารอว่า "ขอให้เราเงียบสักครู่ ภาวนาให้กับอาสาสมัครงานเยาวชนโลกคนหนึ่ง ซึ่งเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคมที่ผ่านมา น่าเสียดายที่เขาไม่ได้อยู่ร่วมงานเยาวชนโลกครั้งนี้กับเรา" จากนั้น พระสันตะปาปาตรัสติดตลกกับทุกคนว่า "ธรรมชาติของเยาวชนวัยรุ่นคือต้องส่งเสียงดังยามค่ำคืน ดังนั้น คืนนี้ ขอให้เราทุกคนสนุกสนานร่าเริงให้ดังๆ กันเต็มที่ไปเลย เอาให้เหมือนเยาวชนเลยนะ แต่สำคัญสุด อย่าลืมสวดให้

โป๊ปฟรังซิสให้กำลังใจเยาวชนที่ถูกนินทาล้อเลียนจนเคยคิดฆ่าตัวตาย

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงให้กำลังใจเยาวชนที่ถูกนินทาล้อเลียนจนคิดฆ่าตัวตาย เราต้องเลือกที่จะเงียบและให้อภัย แม้มันไม่ง่าย แต่เราจะทำได้ถ้าเราขอพระเจ้าช่วยเรา ทรงชี้ การนินทาคือการก่อการร้าย นี่คือการทำร้ายจิตใจของคนอื่นและทำร้ายศักดิ์ศรีความเป็นคน ทรงสอน สันติภาพสร้างสะพาน ส่วนความเกลียดชังสร้างกำแพง ในชีวิตของเรา เราต้องเลือกว่าจะสร้างอะไรขึ้นมา ช่วงค่ำวันพุธที่ 27 กรกฎาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงตอบคำถามเยาวชนในงานเยาวชนโลก ผ่านวิดีโอคอนเฟอเร๊นซ์ โดยคำถามมีทั้งหมด 3 ข้อ ดังต่อไปนี้ คำถามแรก เยาวชนหญิงถามพระสันตะปาปาว่า เธอยังหวาดผวากับเหตุการณ์รถไฟชนกันซึ่งเกิดที่ประเทศของเธอช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา เธอจะทำอย่างไรให้เอาชนะความกลัวและกลับมาดำเนินชีวิตตามปกติได้ พระสันตะปาปาตรัสตอบว่า "ในกรณีของลูก มันไม่มีบาดแผลทางร่างกาย แต่มันคือบาดแผลทางจิตใจ ชีวิตจึงเต็มไปด้วยบาดแผลและความกลัว แต่เยาวชนต้องเรียนรู้ที่จะเอาชนะมันด้วยความฉลาด ความสำคัญของการเรียนรู้ที่จะดำเนินชีวิตอยู่ในความงดงามและความน่าเกลียดนั้น ต้องใช้ความกล้าและความเจ็บปวด การดำเนินชีวิตด้วยความชื่นชมยินด

โป๊ปฟรังซิส: "โลกทุกวันนี้อยู่ในภาวะสงคราม แต่ไม่ใช่สงครามศาสนา"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงย้ำ โลกทุกวันนี้อยู่ในภาวะสงคราม แต่ไม่ใช่สงครามศาสนา ทรงขอร้องนักข่าว อย่าตีความคำพูดของพระองค์ผิดไป สงครามที่หมายถึงนี้คือสงครามที่ต้องการครอบงำผู้คน ส่วนศาสนาที่แท้จริงต้องแสวงหาสันติภาพ  ช่วงบ่ายวันพุธที่ 27 กรกฎาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ประทับเครื่องบินพระที่นั่งออกจากสนามบินฟิวมิชิโน่ กรุงโรม ประเทศอิตาลี ถึงสนามบินนักบุญจอห์น ปอล ที่ 2 เมืองคราครูฟ ประเทศโปแลนด์ เพื่อร่วมงานเยาวชนโลกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยระหว่างอยู่บนเครื่องบิน พระสันตะปาปาทรงทักทายบรรดานักข่าวสายวาติกันอย่างเป็นกันเอง นอกจากนี้ พระองค์ทรงให้สัมภาษณ์สั้นถึงการเสียชีวิตของ คุณพ่อฌักส์ อาเมล สงฆ์ชาวฝรั่งเศสซึ่งถูกกลุ่มก่อการร้ายไอซิสฆ่าปาดคอระหว่างถวายมิสซาด้วย คุณพ่อเฟเดริโก้ ลอมบาร์ดี้ ผู้อำนวยการศูนย์ข่าววาติกัน ได้ทูลพระสันตะปาปาว่า "พระองค์มีอะไรจะกล่าวถึงหรือเปล่าเกี่ยวกับการฆาตกรรม คุณพ่อฌักส์ อาเมล" พระสันตะปาปาตรัสตอบว่า "โลกทุกวันนี้อยู่ในภาวะสงคราม แต่มันไม่ใช่สงครามศาสนา คำพูดที่อยู่บนริมฝีปากทุกคนก็คือความปลอดภัย แต่คำพูดที่แท้จริงคือสงคราม

โป๊ปฟรังซิส: "เคล็ดลับในการภาวนาของพระเยซูคือการเรียกหาพระบิดา"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงแบ่งปัน เคล็ดลับในการภาวนาของพระเยซูคือการเรียกหาพระบิดา ด้วยเหตุนี้ พระองค์ทรงแนะเคล็ดลับนี้ให้เราทุกคนด้วยการสอนให้สวดบทข้าแต่พระบิดา ทรงชี้ สิ่งสำคัญในการสวดบทข้าแต่พระบิดาซึ่งเราทุกคนลืมกันไปก็คือ "การวอนขอพระจิต" พร้อมกันนี้ ทรงเชิญทุกคนภาวนาเพื่อผู้สูญเสียจากเหตุก่อการร้ายที่นครมิวนิค ประเทศเยอรมนี และกรุงคาบูล ประเทศอัฟกานิสถาน ช่วงสายวันอาทิตย์ที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงออกมานำสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าว ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน พระวรสารประจำวันนี้ พระเยซูทรงสอนศิษย์ให้สวดบทข้าแต่พระบิดา พระสันตะปาปาทรงแบ่งปันพระวรสารตอนนี้ว่า - การเรียกหา 'พระบิดา' เป็นเหมือนเคล็ดลับในการภาวนาของพระเยซู นี่คือกุญแจที่พระเยซูทรงมอบให้เรา เพื่อที่เราจะสามารถเข้าไปสู่มิตรภาพของการเสวนาด้วยความมั่นใจกับพระบิดา - พระเยซูยังสอนเราให้วอนขอพระบิดาผ่านทางบทข้าแต่พระบิดา นั่นคือ 'พระนามพระองค์จงเป็นที่สักการะ' และ 'พระอาณาจักรจงมาถึง' สองสิ่งนี้เกี่ยวข้องกับพระนามของพระบิดา เพราะนี่คือการมอบที่ว่างให้กับพระเจ

โป๊ปไม่เห็นด้วยกับการรับสมัครเยาวชนจากประเทศยากไร้มาเป็นสมาชิกคณะนักบวช เพียงเพื่ออารามจะได้ไม่ปิดตัวลง

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงออกสังฆธรรมนูญ "Vultum Dei quaerere" (จงแสวงหาพระพักตร์ของพระเจ้า) ไปยังบรรดานักบวชหญิงที่บำเพ็ญภาวนาในอาราม ทรงย้ำ ไม่เห็นด้วยกับการที่อารามซิสเตอร์ทำการรับสมัครเยาวชนจากประเทศยากไร้ ให้เข้ามาเป็นสมาชิก เพียงเพื่อหวังให้มีสมาชิกเพิ่มและอารามของตนจะได้ไม่ปิดตัวลง เพราะวิธีนี้ไม่ก่อให้เกิดคุณภาพทั้งตัวคณะและตัวเยาวชนคนนั้น ทรงเตือนสติซิสเตอร์ที่บำเพ็ญภาวนา อย่าเสียเวลามากไปกับการเล่นสื่อดิจิทัล จนทำให้เราปลีกตัวจากความเป็นพี่น้องกันในหมู่คณะ  วันศุกร์ที่ 22 กรกฎาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงออกสังฆธรรมนูญ "Vultum Dei quaerere" (จงแสวงหาพระพักตร์ของพระเจ้า) สังฆธรรมนูญนี้ ออกมาเพื่อสื่อสารไปยังบรรดานักบวชหญิงที่บำเพ็ญภาวนาอยู่ในอาราม เนื้อหาหลักๆ มีดังนี้ - พระสันตะปาปาทรงเตือนเรื่องการประจญจาก 'วัฒนธรรมดิจิทัล' ที่มีอิทธิพลอย่างเด่นชัดต่อรูปแบบความคิดของเราและวิถีทางที่เราจะเกี่ยวข้องกับโลก เฉพาะอย่างยิ่ง ในการปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น พระสันตะปาปาย้ำว่า เราอย่าเสียเวลามากเกินไปกับการเล่นสื่อพวกนี้ จนทำให้เราปลีกตัวจากควา

โป๊ปฟรังซิส: "แก่นแท้การรับเสด็จพระเยซูคือการฟังพระองค์อย่างตั้งใจ มากกว่าการเตรียมรับเสด็จแบบอลังการ"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงแบ่งปัน พระเยซูไม่ได้เรียกร้องเราให้เตรียมรับเสด็จพระองค์อย่างอลังการ เพราะแก่นแท้ของการเตรียมรับเสด็จพระเยซูคือการตั้งใจฟังคำสอนของพระองค์ต่างหาก ทรงชี้ คนสมัยนี้ดำเนินชีวิตแบบเร่งรีบจนไม่มีเวลาฟังปัญหาคนอื่น แต่คริสตชนที่ดีต้องรู้จักสละเวลาฟังปัญหาของกันและกัน เพราะการฟังคือบ่อเกิดของสันติภาพในโลก นอกจากนี้ ทรงเชิญทุกคนภาวนาเพื่อผู้สูญเสียจากเหตุก่อการร้ายที่เมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 80 คนด้วย  ช่วงสายวันอาทิตย์ที่ 17 กรกฎาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงออกมานำสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าว ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน พระวรสารวันอาทิตย์นี้เป็นเหตุการณ์ที่พระเยซูเสด็จไปยังหมู่บ้านแห่งหนึ่ง มารีอา น้องสาว มาเฝ้ารับเสด็จพระเยซูที่แทบพระบาท ส่วน มาร์ธา พี่สาว ยุ่งอยู่กับการเตรียมปรนนิบัติรับใช้ มาร์ธาจึงทูลพระเยซูให้บอกน้องสาวของตนให้มาช่วยเธอบ้าง พระสันตะปาปาทรงแบ่งปันพระวรสารตอนนี้ว่า - ทั้งมาร์ธาและมารีอาต่างมอบน้ำใจดีในวิธีที่แตกต่างกันไป มาร์ธาเลือกจะยุ่งอยู่กับการเตรียมงาน ส่วนมารีอาเลือกจะมานั่งฟังพระเยซู เหตุการณ์นี้ พระ

โป๊ปฟรังซิส: "พระเจ้าประทับในตัวผู้ถูกทอดทิ้ง เมื่อวันพิพากษามาถึง พระองค์จะถามเราว่า จำพระองค์ได้หรือไม่"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงแบ่งปัน พระเจ้าจะถามเราแน่นอนว่า "จำเราได้หรือไม่ เราคือชายที่ถูกปล้น และมีแต่ชาวสะมาเรียที่มาช่วยเหลือ" นอกจากนี้ พระเจ้ายังประทับอยู่ในเด็กที่อดอยาก ผู้ลี้ภัย และคนแก่ที่ถูกทอดทิ้ง เมื่อถึงวันพิพากษา พระองค์จะถามเราแต่ละคนว่า พระองค์ประทับอยู่ในตัวคนเหล่านั้น เราจำพระองค์ได้หรือไม่ และเราช่วยเหลือพระองค์หรือเปล่า  ช่วงสายวันอาทิตย์ที่ 10 กรกฎาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงออกมานำสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าว ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน พระวรสารวันนี้ พระเยซูทรงแบ่งปันเรื่องชาวสะมาเรียผู้ใจดีที่เข้าช่วยชาวยิวที่ถูกโจรปล้นระหว่างทาง โดยที่พระสงฆ์และนักกฎหมาย เดินผ่านไปแบบไม่ช่วยเหลืออะไรเลย พระสันตะปาปาทรงแบ่งปันข้อคิดว่า - พระวรสารวันนี้สอนเราถึงรูปแบบชีวิตที่ให้จุดศูนย์กลางไม่ได้อยู่กับตัวเอง แต่มีชีวิตเพื่อคนอื่น มันก็เหมือนกับที่นักกฎหมายถามพระเยซูว่า 'ใครเป็นเพื่อนมนุษย์ของข้าพเจ้า' พวกเราก็เช่นกัน เราต้องถามตัวเองแบบนี้ว่า 'ใครเป็นเพื่อนมนุษย์ของเรา ใช่เพื่อนของเราหรือเปล่า ใช่พ่อแม่ ใช่เพื่อนร่วมชาติ หรือเพื่อนที่นั

โป๊ปฟรังซิส: "คนประกาศข่าวดีต้องรู้เสมอว่า สิ่งที่เป็นเท็จรอเราอยู่ด้วยความเป็นศัตรู"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงย้ำ ศิษย์พระเยซูที่ทำหน้าที่ประกาศข่าวดี ต้องรู้เสมอว่า สิ่งที่อยู่ตรงข้ามความจริงรอคอยเราอยู่ด้วยความเป็นศัตรู ความเป็นอริคือจุดเริ่มต้นของการเบียดเบียนคริสตชน เหมือนที่พระเยซูย้ำเสมอว่า "เราส่งท่านไปเหมือนแกะท่ามกลางหมาป่า" ทรงสอน ศิษย์พระเยซูต้องกล้าปฎิเสธการเย้ายวนจากการมีหน้าที่ตำแหน่งการงานสูงๆ และการกระหายอำนาจ พร้อมกันนี้ ทรงเชิญทุกคนภาวนาให้กับผู้สูญเสียจากการก่อการร้ายที่กรุงธากา ประเทศบังกลาเทศ อีกด้วย ช่วงเที่ยงวันอาทิตย์ที่ 3 กรกฎาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงออกมานำสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าว ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน ท่ามกลางสัตบุรุษที่มาร่วมภาวนาจำนวนมาก สำหรับบทเทศน์เทศน์สอนในวันนี้ พระสันตะปาปาตรัสสอนเกี่ยวกับการตอบสนองกระแสเรียกของพระเจ้า ใจความสำคัญมีว่า - จิตวิญญาณแบบไหนที่ศิษย์พระเยซูต้องมีเวลาทำพันธกิจของพระองค์ สิ่งแรกเลย คริสตชนทุกคนต้องรู้ถึงความยากลำบาก และบางครั้งสิ่งที่อยู่ตรงข้ามกับความจริงก็รอคอยเราอยู่ พระเยซูตรัสกับเราทุกคนว่า 'เราส่งท่านไปเหมือนแกะท่ามกลางหมาป่า' - ความเป็นอริอยู่ในจุดเริ