Posts

Showing posts from May, 2015

โป๊ปฟรังซิส: "ชุมชนคริสตชนต้องดำเนินชีวิตเป็นครอบครัวเดียวกันให้มากยิ่งขึ้น"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงย้ำ ชุมชนคริสตชนต้องดำเนินชีวิตเป็นครอบครัวเดียวกันให้มากยิ่งขึ้น เราต้องอย่าประกาศข่าวดีแต่ปาก แต่ต้องลงมือปฏิบัติเพื่อแสดงให้เห็นถึงความรักของพระเจ้าที่ดำรงอยู่ในเราด้วย ทรงชี้ คริสตชนไม่ได้รับกระแสเรียกให้ดำเนินชีวิตขัดแย้งกับคนอื่น แต่เรามีกระแสเรียกในการดำเนินชีวิตร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับผู้อื่น  ช่วงเที่ยงวันอาทิตย์ที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงออกมานำสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าว ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน ท่ามกลางสัตบุรุษที่มาร่วมภาวนากว่า 50,000 คน นอกจากนี้ วันนี้ยังเป็นวันสมโภชพระตรีเอกภาพอีกด้วย พระสันตะปาปา ตรัสแบ่งปันกับทุกคนว่า "การสมโภชพระตรีเอกภาพในวันนี้คือพื้นฐานสำคัญที่สุดของความเชื่อคริสตชน นี่คือธรรมล้ำลึกของสามพระบุคคล ได้แก่ พระบิดา พระบุตร และพระจิต ผู้ทรงเป็นพระเจ้าหนึ่งเดียวและไม่สามารถแบ่งแยกกันได้ การสมโภชนี้ยังเป็นการรื้อฟื้นพันธกิจของเราในการดำเนินชีวิตอยู่ในการเป็นหนึ่งเดียวกันกับพระเจ้าและในหมู่คริสตชน "พวกเราไม่ได้ถูกเรียกมาเพื่อดำเนินชีวิตโดยปราศจากคนอื่น ยิ่งไปกว่านั้น เราไม่ได้ถูกเรียกมาเ

โป๊ปฟรังซิส: "ปีศาจทำทุกทางเพื่อให้คริสตชนแตกแยกกัน"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงชี้ ปีศาจทำทุกทางเพื่อให้คริสตชนแตกแยกกัน ปีศาจไม่สนใจว่าใครคือคาทอลิก โปรเตสแตนท์ หรือออโธด็อกซ์ เพราะยังไงคนเหล่านี้ก็คือคริสตชน ทรงย้ำ คริสตชนไม่ควรรอให้นักเทวศาสตร์บรรลุข้อตกลงเรื่องเอกภาพคริสตชน เพราะถ้ารอไปเรื่อยๆ คริสตชนคงเป็นหนึ่งเดียวกันไม่ทันวันพิพากษาครั้งสุดท้าย สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงกล่าวผ่านวิดีโอคอนเฟอเร็นซ์ไปยังกลุ่ม "จอห์น บทที่ 17" ซึ่งจัดการประชุมที่เมืองฟีนิกซ์ รัฐแอริโซน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา กลุ่มดังกล่าวตั้งขึ้นตามพระวรสารของนักบุญจอห์น บทที่ 17 ซึ่งพระเยซูทรงภาวนาเพื่อให้ทุกคนเป็นหนึ่งเดียวกัน กลุ่มนี้มีสมาชิกทั้งคาทอลิกและโปรเตสแตนท์ พระสันตะปาปา ตรัสในวิดีโอนี้ว่า "ความแตกแยกคืองานของบิดาแห่งการโกหก บิดาแห่งความขัดแย้ง ปีศาจทำทุกทางเพื่อทำให้พวกเราคริสตชนแตกแยกกัน พ่อรู้สึกว่า สิ่งที่จะพูดต่อไปนี้อาจทำให้เกิดการโต้แย้ง หรือบางคนอาจหาว่าพ่อเป็นพวกนอกรีต แต่นี่คือสิ่งที่บางคนรู้ดี เพราะแม้ว่า เราจะมีความแตกต่างกัน แต่พวกเราก็เป็นหนึ่งเดียวกัน "ปีศาจรู้ดีว่าคริสตชนคือศิษย์ของพระคริสตเจ้า มันรู้ว่าเราเป็นหนึ

โป๊ปฟรังซิส: "พัฒนาการทางสังคมวัดจากความสามารถในการปกป้องชีวิต"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงชี้ พัฒนาการทางสังคมวัดจากความสามารถในการปกป้องชีวิต ไม่ใช่วัดจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ทรงย้ำ การทำแท้ง การปล่อยให้คนงานตายในที่ทำงาน การปล่อยให้ผู้อพยพลอยเคว้งกลางทะเล จัดเป็นการทำร้ายชีวิตมนุษย์ทั้งสิ้น ช่วงสายวันเสาร์ที่ 30 พฤษภาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงต้อนรับสมาคมวิทยาศาสตร์และชีวิตที่มาเข้าเฝ้าในวาติกัน โอกาสครบรอบ 10 ปีแห่งการก่อตั้งกลุ่ม โอกาสนี้ พระสันตะปาปาตรัสกับพวกเขาว่า "ก่อนอื่น พ่อต้องขอบคุณพวกท่านในการทำงานเพื่อส่งเสริมการปกป้องชีวิตมนุษย์ในสังคม ความรักของพระคริสตเจ้าเรียกร้องเราให้เป็นผู้รับใช้ของสิ่งที่เล็กที่สุด (หมายถึงเด็กที่ยังอยู่ในครรภ์มารดา) ไปจนถึงบรรดาผู้สูงอายุ สิทธิแรกเกิดของชีวิตต้องได้รับการตระหนักและปกป้อง "ขอให้พวกท่านตระหนักถึงความศักดิ์สิทธิ์ของชีวิตและตัวมนุษย์ เพื่อที่ว่า วิทยาศาสตร์จะได้กลายเป็นการรับใช้มนุษยชาติ ไม่ใช่มนุษย์ต้องมารับใช้วิทยาศาสตร์ "พัฒนาการทางสังคมจะถูกตรวจวัดจากความสามารถในการปกป้องชีวิต มากกว่าความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี หายนะจากการทำแท้งคือการทำร้ายชีวิตมนุษย์ การปล

โป๊ปฟรังซิส: "เด็กๆ ต้องอย่าหยุดฝัน เพราะนี่คือการเปิดประตูแห่งความสุข"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงขอร้องเด็กๆ ที่นั่งรถไฟมาเข้าเฝ้าพระองค์ อย่าหยุดฝัน เพราะการมีความฝันคือการเปิดประตูแห่งความสุขให้ตัวเอง ส่วนคนที่ไม่มีฝันคือคนที่หัวใจปิดตาย ช่วงสายวันเสาร์ที่ 30 พฤษภาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงต้อนรับเด็กๆ กว่า 200 คนที่มาเข้าเฝ้าด้วยการ "นั่งรถไฟ" มาลงที่สถานีในวาติกัน โดยเด็กๆ เหล่านี้ เป็นลูกของผู้ต้องขังที่ถูกจองจำในเรือนจำกรุงโรม การเข้าเฝ้าครั้งนี้จัดขึ้นโดยการสนับสนุนของการรถไฟแห่งประเทศอิตาลี สำหรับการเข้าเฝ้าครั้งนี้ พระสันตะปาปาทรงให้เด็กๆ เข้ามาพูดคุยกับพระองค์แบบกันเอง โดยเป็นทั้งแบบส่วนพระองค์และกล่าวให้โอวาทแบบรวม ในส่วนพระดำรัสแบบรวม พระสันตะปาปาทรงกล่าวกับเด็กๆ ทุกคนว่า "พ่อขอร้องลูกๆ ทุกคนว่า อย่าหยุดฝัน เพราะการฝันคือการเปิดประตูแห่งความสุข ส่วนหัวใจของคนที่ไม่มีความฝันคือหัวใจที่ปิดตาย พ่อหวังว่า พวกลูกจะไม่เป็นแบบนั้นนะ" ประมวลภาพ: พระสันตะปาปาต้อนรับเด็กๆ ที่นั่งรถไฟมาเข้าเฝ้าพระองค์ Read More: Vatican Radio

โป๊ปฟรังซิส: "ประกาศข่าวดี ต้องใช้ภาษาที่คนเข้าใจได้ง่ายที่สุด"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงย้ำ การประกาศข่าวดีของพระเจ้า สิ่งสำคัญมากๆ คือ "ภาษา" ที่ต้องได้รับการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้เกิดความเข้าใจได้ง่ายที่สุด ทรงชี้ สัตบุรุษต้องการพระศาสนจักรที่สามารถเดินไปกับพวกเขาและเป็นประจักษ์พยานถึงความเชื่อ ทรงแนะ ครูคำสอนต้องก้าวเดินให้ไกลกว่าการสอนความเชื่อในห้องเรียนเท่านั้น  ช่วงสายวันศุกร์ที่ 29 พฤษภาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงต้อนรับสมาชิกสมณสภาเพื่อการประกาศพระวรสารใหม่ที่มาเข้าเฝ้าในวาติกัน หลังจากเสร็จสิ้นการประชุมของสมณสภาฯ ภายใต้หัวข้อความสัมพันธ์ระหว่างการประกาศข่าวดีและการสอนคำสอน โอกาสนี้ พระสันตะปาปาตรัสกับพวกเขาว่า "พระศาสนจักรถูกเรียกมาเพื่อประกาศข่าวดีในเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ แต่การประกาศพระวรสารนั้น ภาษาที่ใช้จำเป็นต้องได้รับการปรับเปลี่ยน เพื่อที่ว่า มันจะได้เป็นที่เข้าใจต่อทุกคนที่ได้ยิน "ผู้คนต้องการพระศาสนจักรที่เดินไปกับพวกเขา ต้องการพระศาสนจักรที่เป็นประจักษ์พยานถึงความเชื่อ ต้องการพระศาสนจักรเพื่อผู้ที่กลายเป็นส่วนเกินของสังคมซึ่งถ่ายทอดความเป็นหนึ่งเดียวกันกับคนที่อยู่ชายขอบ"

โป๊ปฟรังซิส: "อย่าเป็นคริสตชนที่ทำตัวไร้ประโยชน์ต่อส่วนรวมและอย่าค้ากำไรโดยใช้พระนามของพระเจ้า"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอน อย่าเป็นคริสตชนที่ทำตัวไม่เป็นประโยชน์ต่อคนอื่น อย่าเป็นคริสตชนที่ค้ากำไรโดยใช้พระนามของพระเจ้ามาทำธุรกิจ แต่จงเป็นคริสตชนที่ดำเนินชีวิตด้วยความเชื่อ ทรงย้ำ ก่อนอธิษฐานขอสิ่งใดจากพระเจ้า ถ้าหากเรายังมีเรื่องบาดหมางกับใคร จงไปคืนดีกับเขาก่อน แล้วพระบิดาถึงจะอภัยบาปของท่าน ช่วงเช้าวันศุกร์ที่ 29 พฤษภาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา พระวรสารวันนี้ พระเยซูทรงสาปแช่งต้นมะเดื่อ และขับไล่พวกพ่อค้าออกจากพระวิหาร พร้อมตรัสว่า "อย่าทำให้บ้านของพระบิดาต้องกลายเป็นซ่องโจร" และสุดท้าย พระองค์ทรงสอนบรรดาศิษย์ว่า "ทุกสิ่งที่ท่านวอนขอในการอธิษฐาน จงเชื่อว่าท่านจะได้รับ แล้วท่านจะได้รับ ถ้าท่านมีเรื่องบาดหมางกับผู้ใด จงให้อภัย เพื่อที่พระบิดาผู้อยู่ในสวรรค์จะให้อภัยท่านด้วย" พระสันตะปาปาทรงเทศน์แบ่งปันว่า "พระวรสารวันนี้ พ่ออยากแบ่งปันวิธีการดำเนินชีวิต 3 เรื่อง โดยใช้ภาพลักษณ์ของต้นมะเดื่อที่ไม่ผลิดอกออกผล บรรดาพ่อค้าในพระวิหาร และการเป็นคนที่มีความเชื่อ "เรื่องแรก ต้นมะเดื่อเป็นเครื่องหม

โป๊ปฟรังซิส: "เราเป็นคริสตชนที่ไล่คนไปไกลๆ จากพระเยซู หรือเป็นคริสตชนที่พาคนมาใกล้พระเยซู"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงตั้งคำถาม เราเป็นคริสตชนที่ขับไล่คนให้ไปไกลๆ พระเยซู หรือเราเป็นคริสตชนที่นำคนให้เข้ามาพระเยซู ทรงแบ่งปัน คริสตชนมี 3 ประเภท หนึ่งคือพวกที่ห่วงแต่ตัวเอง ไม่รู้สึกรู้สาไรเลยถ้าเห็นคนตกทุกข์ได้ยาก สนแต่ว่าพระเยซูจะอวยพรตัวเองอย่างไร สองคือคริสตชนที่ทำงานให้พระเจ้า ใกล้ชิดพระ แต่ขับไล่คนที่มาหาพระเจ้าให้ไปไกลๆ เพื่อที่จะใช้พระเจ้ามาสร้างผลประโยชน์ทางธุรกิจให้ตนเอง สามคือคริสตชนที่ทำทุกทางให้คนเข้ามาใกล้พระเยซู เพราะได้ยินเสียงร่ำไห้ขอความช่วยเหลือจากพวกเขา ช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา พระวรสารวันนี้ บาร์ทิเมอุส ชายตาบอดที่ตะโกนเรียกหาพระเยซูด้วยเสียงที่ดังขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่พวกอัครสาวกพยายามสั่งให้เขาเงียบ สุดท้าย พระเยซูสั่งให้พา บาร์ทิเมอุส มาหาพระองค์ และรักษาเขาจนกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง พระสันตะปาปาทรงเทศน์แบ่งปันว่า "พระวรสารวันนี้ ทำให้พ่อคิดถึงคริสตชน 3 ประเภท ประเภทที่หนึ่ง คริสตชนที่ห่วงแต่ความสัมพันธ์ของตัวเองกับพระเยซู ถือเป็นความสัมพันธ์แบบปิดตายและเห็นแก่ตัว

โป๊ปฟรังซิส: "การหมั้นต้องการจากความวางใจและการเชื่อใจกัน"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอน "การหมั้น" ต้องเกิดจากความวางใจและการเชื่อใจกัน เพราะพันธะของความรักระหว่างชายกับหญิงคือพันธะสำหรับชีวิต มันไม่ใช่สิ่งที่จะสร้างได้ภายในวันเดียว แต่ต้องเกิดจากการไตร่ตรองอย่างดีแล้ว ทรงหวังเห็นหนุ่มสาวที่เตรียมจะแต่งงาน วางแผนด้วยปรีชาญาณและความชื่นชมยินดีในพระเจ้า ไม่ใช่เตรียมตัวด้วยจิตตารมณ์โลก ช่วงสายวันพุธที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงออกมาพบและเทศน์สอนสัตบุรุษกว่า 50,000 คน ระหว่างการเข้าเฝ้าทั่วไป ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน หัวข้อการสอนคำสอนในวันนี้ ยังเป็นเรื่องครอบครัว พระสันตะปาปาทรงเลือกที่จะสอนเกี่ยวกับความสำคัญของ "การหมั้น" ซึ่งเป็นเครื่องหมายของการเตรียมตัวก่อนเข้าสู่การแต่งงาน พระสันตะปาปา ตรัสว่า "การหมั้นต้องเกิดขึ้นด้วยความวางใจและการเชื่อใจกัน มันเป็นเรื่องงดงามมากที่คนสองคนซึ่งหมั้นหมายกันได้แต่งงานด้วยกัน พวกเขาได้ให้คำมั่นสัญญาตลอดระยะเวลาของการเรียนรู้กัน แบ่งปันกัน และมีส่วนร่วมอย่างดีในการอุทิศตนให้กันและกัน "มันเป็นความรักที่ต้องการการไตร่ตรองเชิงลึกในตัวมันเอง แล

โป๊ปฟรังซิส: "จะดีแค่ไหนถ้าดำเนินชีวิตนักบวชโดยไม่มีความขัดแย้งและนินทากัน"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงย้ำกับสมาชิกคณะภราดาน้อยฟรานซิสกัน เราต้องสัมผัสถึงความต่ำต้อย ใครที่ไม่รู้สึกถึงสิ่งนี้ จะไม่ได้รับความเมตตาและความรอดจากพระเจ้า ทรงชี้ ความเป็นพี่้น้องกันในหมู่คณะจะแสดงให้เห็นถึงความรักของพระคริสตเจ้าว่าสามารถรักษาบาดแผลของเราได้ ทรงสอน จะดีแค่ไหนถ้าดำเนินชีวิตนักบวชโดยไม่มีความขัดแย้งและนินทากัน ช่วงสายวันอังคารที่ 26 พฤษภาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงต้อนรับบรรดาสมาชิกคณะภราดาน้อยฟรานซิสกันที่มาเข้าเฝ้าในวาติกัน โอกาสนี้ พระสันตะปาปาทรงแบ่งปันข้อคิดกับพวกเขา 2 เรื่องที่เป็นอัตลักษณ์ของฟรานซิสกัน นั่นคือ ความต่ำต้อยและความเป็นพี่น้องกัน พระสันตะปาปาตรัสว่า "จิตวิญญาณของความต่ำต้อยเรียกร้องเราให้เป็นและรู้สึกว่าเราเป็นผู้ต่ำต้อยต่อหน้าพระเจ้า นี่คือการมอบตัวเราเองทั้งครบให้กับพระเมตตาอันไม่สิ้นสุดของพระองค์ การตระหนักถึงความต่ำต้อยและบาปผิดของเราจะทำให้เราได้รับความรอดพ้นจากบาป ในทางกลับกัน คนที่ไม่รู้สึกถึงความจำเป็นนี้ ก็จะไม่ได้รับความเมตตาและความรอดที่พระเจ้าทรงมอบให้ "ความต่ำต้อยยังหมายถึงการก้าวออกจากตัวเอง ออกไปให้ไกลกว่าทั

โป๊ปฟรังซิส: "อย่าเป็นคริสตชนครึ่งๆ กลางๆ ที่ติดตามทั้งพระเยซูและจิตตารมณ์ทางโลก"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงย้ำ น่าเศร้าที่เห็นคริสตชนอยากติดตามพระเยซูและจิตตารมณ์ทางโลกไปพร้อมกัน เพราะนี่คือการเป็นคริสตชนครึ่งๆ กลางๆ ทรงสอน เราต้องรู้จัก "ศาสตร์แห่งการรับใช้และการถ่อมตน" เราสามารถรับใช้คนอื่นได้ด้วยการเปิดโอกาสให้คนอื่นได้มีโอกาสก่อนเรา รวมไปถึงการนำความร่ำรวยที่มีออกไปรับใช้ผู้อื่น ช่วงเช้าวันอังคารที่ 26 พฤษภาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา พระวรสารวันนี้ พระเยซูตรัสว่า "ไม่มีใครที่ละทิ้งทุกสิ่งเพื่อติดตามพระองค์ จะไม่ได้รับการตอบแทน ในโลกนี้เขาจะได้รับการเบียดเบียน แต่ในโลกหน้าเขาจะได้รับชีวิตนิรันดร คนกลุ่มแรกจะกลับเป็นกลุ่มสุดท้าย และกลุ่มสุดท้ายจะกลับเป็นกลุ่มแรก" พระสันตะปาปาทรงเทศน์แบ่งปันว่า "หลังจากเปโตรทูลพระเยซูว่าเขาได้สละทุกสิ่งเพื่อติดตามพระองค์ พระเยซูไม่ได้ตอบกลับเปโตรเกี่ยวกับความร่ำรวยเลย ในทางกลับกัน พระองค์ทรงสัญญาถึงพระอาณาจักรสวรรค์ แต่มันจะมาด้วยการเบียดเบียนและด้วยไม้กางเขน "เมื่อคริสตชนยึดติดกับสิ่งของทางโลก เขาได้สร้างความประทับใจแย่ๆ ของการเป็นคริสตชนที่

โป๊ปฟรังซิส: "การยึดติดกับความรวยอย่างเดียวคือจุดเริ่มต้นของการโกง"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอน ความร่ำรวยเป็นเรื่องดีสำหรับทุกคน แต่ถ้าใคร "ยึดติด" และถูกมันครอบงำ เขาคนนั้นกำลังเข้าสู่จุดเริ่มต้นของการโกงทุกรูปแบบ แต่สุดท้ายแล้ว เมื่อตายไป เขาจะนำความร่ำรวยนี้ติดตัวไปด้วยไม่ได้ ทรงชี้ เราต้องใช้ความร่ำรวยที่มีในการสร้างความดีให้กับทุกคน นี่คือการไม่ยึดติดกับความร่ำรวยและเป็นสิ่งที่พระเยซูทรงสอน  ช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา พระวรสารวันนี้ พระเยซูตรัสกับชายคนหนึ่งที่เข้ามาหาพระองค์และทูลถามถึงจะทำอย่างไรจะได้เข้าอาณาจักรสวรรค์ พระเยซูตรัสกับเขาไปว่า "จงไปขายทรัพย์สินทุกสิ่งที่ท่านมี และตามเรา" ชายคนนั้นทำหน้าเศร้าและเดินจากพระองค์ไป พระสันตะปาปาทรงเทศน์แบ่งปันว่า "การยึดติดกับความร่ำรวยคือจุดเริ่มต้นของการโกงทุกรูปแบบ โกงทุกแห่งหน อาทิ โกงในเรื่องส่วนตัว โกงในธุรกิจการค้า โกงแม้แต่การติดสินบนด้วยเรื่องเล็กๆ ไล่ไปจนถึงการโกงในแวดวงการเมืองและโกงในแวดวงการศึกษา ทำไมต้องโกง? ก็เพราะคนเหล่านี้ยึดติดกับอำนาจ ยึดติดกับความมั่งคั่งของตน พวกเขาเชื

โป๊ปฟรังซิส: "อย่าดำเนินชีวิตคริสตชนเพื่อสนองความต้องการของตัวเอง"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอน อย่าดำเนินชีวิตคริสตชนเพื่อสนองความต้องการของตัวเอง แต่จงดำเนินชีวิตคริสตชนโดยการให้พระจิตนำทาง ทรงชี้ มีหลายวิธีที่เราจะปิดตัวเองไม่ต้อนรับพระจิต อาทิ การยึดติดกับกฏเกณฑ์โดยไม่รู้จักผ่อนปรนเหมือนพวกธรรมาจารย์ คนเหล่านี้ถูกพระเยซูตำหนิว่าเป็น "คนเสแสร้ง" พร้อมกันนี้ ทรงแสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ผู้ลี้ภัยในทะเลอันดามันและอ่าวเบงกอลด้วย ช่วงสายวันอาทิตย์ที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาสมโภชพระจิต ภายในมหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน มิสซานี้ พระสันตะปาปาทรงเทศน์สอนว่า "พระวาจาของพระเจ้าวันนี้ บอกเราว่า พระจิตทรงทำงานในตัวเราแต่ละคนและในพระศาสนจักร พระเยซูทรงสัญญากับบรรดาศิษย์ว่า เมื่อพระองค์เสด็จกลับไปหาพระบิดา พระจิตจะเป็นผู้นำทางบรรดาศิษย์ไปสู่ความจริงต่างๆ ด้วยเหตุนี้ พระจิตจึงเป็นจิตแห่งความจริง "โลกทุกวันนี้ต้องการชายและหญิงที่ไม่ปิดตัวเอง แต่พวกเขาจะได้รับการเติมเต็มด้วยพระจิต การปิดตัวเองจากพระจิตไม่ได้หมายถึงการขาดเสรีภาพเท่านั้น แต่ยังเป็นบาปอีกด้วย มันมีวิธีการหลายอย่างที่สามารถปิดตัวเองจากพระจิต อ

โป๊ปฟรังซิส: "ระบบเศรษฐกิจยุคนี้ให้เงินเป็นพระเจ้า มันทำให้เราไม่สนใจช่วยเหลือผู้ยากไร้"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงตำหนิระบบเศรษฐกิจยุคนี้ที่ให้เงินเป็นพระเจ้า หลายคนบูชาพระเจ้าแห่งเงินตรา สิ่งนี้ทำให้เรามองข้ามความเป็นมนุษย์ในตัวเพื่อนพี่น้อง มันทำให้เราเมินเฉยไม่ห่วงใยคนชรา เด็กและเยาวชน กระนั้น คาทอลิกต้องอย่าทำเช่นนั้นเด็ดขาด เราต้องนำคำสอนของพระศาสนจักรมาประยุกต์ใช้ด้วยการเอาใจใส่ต่อผู้ยากไร้ทุกคน ช่วงสายวันเสาร์ที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงต้อนรับสมาคมผู้ใช้แรงงานคาทอลิกแห่งอิตาลีที่มาเข้าเฝ้าในหอประชุมเปาโล ที่ 6 นครรัฐวาติกัน โอกาสครบรอบ 70 ปีแห่งการก่อตั้งสมาคม ในส่วนพระดำรัสตรัสกับพวกเขา พระสันตะปาปาทรงย้ำเตือนเกี่ยวกับการส่งเสริมวัฒนธรรมที่เคารพศักดิ์ศรีของผู้ใช้แรงงานทุกคน พระสันตะปาปา ตรัสว่า "มันต้องมีการป้องกันอย่างเร่งด่วนต่อระบบเศรษฐกิจในยุคนี้ที่ให้เงินเป็นศูนย์กลางของทุกสิ่ง การทำธุรกิจแบบนี้กลายเป็นว่าเราบูชาพระเจ้าแห่งเงินตรา และพระเจ้าแห่งเงินตรานี้เองที่ทำลายทุกสิ่ง และทำให้เกิดวัฒนธรรมทิ้งขว้าง มันทอดทิ้งเด็กทารกเพราะพวกเขาเป็นภาระ มันทอดทิ้งผู้สูงอายุ เพราะพวกเขาไม่จำเป็นต้องได้รับการเอาใจใส่ มันไม่สนใจเยาวชน ทำให้

โป๊ปฟรังซิส: "พระเจ้ามองเราและตรัสสิ่งใดกับเรา ระหว่างเรียกให้ติดตามหรือเรียกให้สำนึกผิดกลับใจ"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอน พระเจ้ามองเราทุกคนด้วยความรัก แต่การที่พระเจ้ามองมาที่เรา พระองค์จะบอกเราให้ติดตามพระองค์หรือบอกให้เราสำนึกผิดในบาปที่ทำ เหมือนอย่างที่พระเยซูมองไปที่นักบุญเปโตร เพื่อเรียกให้ติดตามพระองค์ มองไปเพื่อให้เขาสำนึกผิดตอนที่ปฏิเสธพระองค์ 3 ครั้ง และมองไปที่นักบุญเปโตร เพื่อบอกให้เขาดูแลฝูงแกะของพระองค์ ช่วงเช้าวันศุกร์ที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา พระวรสารวันนี้ พระเยซูทรงถามเปโตร 3 ครั้งว่า "ซีโมน บุตรของจอห์น ท่านรักเราไหม" พระสันตะปาปาทรงเทศน์แบ่งปันว่า "คืนสุดท้ายก่อนที่พระเยซูจะถูกตรึงบนไม้กางเขน เปโตรปฏิเสธพระเยซู 3 ครั้ง เมื่อพระองค์ถูกจับและมองมาที่เปโตร เขาจึงร้องไห้ออกมา พระวรสารของนักบุญลูกาก็กล่าวไว้ว่าเปโตรร้องไห้ออกมาเช่นกัน ความร้อนรนในช่วงแรกเริ่มที่ได้ติดตามพระเยซูแปรเปลี่ยนเป็นความทุกข์ระทม เพราะเปโตรได้ทำบาป เขาปฏิเสธพระเยซู "การที่พระเยซูมองมายังเปโตรนั้น นี่เป็นการมองเข้าไปที่หัวใจของเขา นี่เป็นการมองเข้าไปลึกถึงหัวใจมากกว่า 2 ครั้งที่ผ่านมา ครั้งแรก เป

โป๊ปฟรังซิส: "คริสตชนต้องเป็นหนึ่งเดียวกันแบบที่พระเยซูทรงต้องการ"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงย้ำ คริสตชนต้องเป็นหนึ่งเดียวกันเหมือนที่พระเยซูทรงอธิษฐานขอพระบิดา โปรดให้ผู้มีความเชื่อในพระองค์เป็นหนึ่งเดียวกัน ทรงชี้ จิตตารมณ์ทางโลกพยายามทำให้คริสตชนแตกแยกกัน การแตกแยกนี้เกิดทั้งในครอบครัว สังคมนักบวช และในพระศาสนจักร มันทำให้เรานินทากัน อิจฉาริษยา และใส่ร้ายป้ายสีกัน ทัศนคติพวกนี้เราต้องเลิกให้ได้  ช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ 21 พฤษภาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา พระวรสารวันนี้ พระเยซูทรงอธิษฐานภาวนาเพื่อทุกคนที่เชื่อในพระองค์ ไม่เฉพาะบรรดาอัครสาวกเท่านั้น พระองค์ทรงภาวนาให้ทุกคนเป็นหนึ่งเดียวกัน พระสันตะปาปาทรงเทศน์แบ่งปันว่า "มันเป็นความสุขใจที่ได้ยินพระเยซูตรัสอธิษฐานต่อพระบิดาว่า พระองค์ไม่ต้องการภาวนาเพื่อบรรดาอัครสาวกอย่างเดียว แต่ทรงต้องการภาวนาเพื่อทุกคนที่เชื่อในพระองค์ผ่านทางวาจาของพวกเขา ประโยคที่เราได้ยินนี้ อาจดูว่าฟังจนชินแล้ว แต่พ่อคิดว่ามันมีคุณค่าที่เราจะใส่ใจกันสักหน่อยนะ "บางที พวกเราไม่ได้ให้ความสนใจกับคำอธิษฐานของพระเยซูที่เราได้ฟังในวันนี้กันมากนัก พระเยซูกำลังภาวนาเพื

โป๊ปฟรังซิส: "พ่อแม่ต้องอย่ากลัวการตักเตือนลูกเวลาทำผิด"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอน พ่อแม่ต้องอย่ากลัวการตักเตือนลูกๆ เวลาที่ลูกทำผิด เราต้องสอนให้เขาปรับปรุงตัวเป็นคนดีให้ได้ อย่าผลักหน้าที่นี้ให้เป็นหน้าที่ของครู ทรงชี้ สังคมสมัยนี้แปลกมาก เวลาครูลงโทษเด็กที่ทำผิด พ่อแม่จะมาเอาเรื่องครูทันที ช่วงสายวันพุธที่ 20 พฤษภาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงออกมาพบปะและเทศน์สอนสัตบุรุษกว่า 40,000 คน ในการเข้าเฝ้าทั่วไป ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน วันนี้ พระสันตะปาปายังคงเทศน์สอนเกี่ยวกับครอบครัว โดยเป็นเรื่องของ "บทบาทของพ่อแม่ผู้ปกครองในการให้การศึกษาแก่ลูกหลาน" พระสันตะปาปา ตรัสว่า "พ่อทราบดีว่า มันมีปัญหามากมายที่บรรดาพ่อแม่ต้องเผชิญในทุกวันนี้ เฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่กำลังสถานการณ์ยากลำบาก อาทิ คู่สมรสที่หย่าร้าง ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม พ่อขอร้องเลยว่า ได้โปรดอย่านำลูกเป็นตัวประกันโดยเด็ดขาด! "บ่อยครั้ง พ่อแม่กลัวการตักเตือนลูกในการปรับปรุงตัวจากผิดให้เป็นถูก พ่อแม่ไม่ทำอะไร ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกครูอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญทั้งหลาย สิ่งนี้ไม่ถูกต้อง พ่ออยากแบ่งปันเรื่องของตัวพ่อเองสักเล็กน้อย ตอนพ่อเป็นเ

โป๊ปฟรังซิส: "เราควรเตรียมคิดถึงการลาจากครั้งสุดท้ายในชีวิต และมอบความวางใจไว้กับพระเจ้า"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอน ชีวิตเราต้องพบการลาจากหลายครั้ง ทั้งลาจากแบบสั้นๆ และลาจากแบบนิรันดร์ ดังนั้น เราต้องไตร่ตรองถึงการลาจากครั้งสุดท้ายในชีวิตว่า เราได้มอบความวางใจในสิ่งที่มีอยู่ไว้กับพระเจ้าหรือไม่ ทรงแบ่งปัน การลาจากที่เราเห็นได้ชัดในตอนนี้คือ "ชาวโรฮิงญา" และ "ชาวคริสต์ในอิรัก" ที่ถูกขับไล่ออกจากแผ่นดินของตน  ช่วงเช้าวันอังคารที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา พระวรสารวันนี้ พระเยซูทรงภาวนาต่อพระบิดาและกล่าวคำอำลากับบรรดาอัครสาวก ก่อนที่พระองค์จะต้องรับพระมหาทรมานและสิ้นพระชนม์ ส่วนบทอ่านวันนี้ นักบุญเปาโลก็กล่าวคำอำลากับกลุ่มคริสตชน ก่อนจะมุ่งหน้าสู่กรุงเยรูซาเล็มตามการนำทางจากพระจิต พระสันตะปาปาทรงแบ่งปันบทอ่านและพระวรสารวันนี้ว่า "ชีวิตของเราประกอบไปด้วยการร่ำลามากมาย ทั้งการลาจากแบบสั้นๆ และลาจากแบบนิรันดร์ การร่ำลาบางครั้งก็เกี่ยวข้องกับน้ำตาและความทุกข์ระทม "ขอให้เราคิดถึงเหตุการณ์ตอนนี้ นั่นคือ ชาวโรฮิงญาผู้น่าสงสารจากพม่า เมื่อพวกเขาต้องจากแผ่นดินของตนเพื่อลี้ภัยจากการถู

โป๊ปฟรังซิส: "สัตบุรุษต้องการพระสังฆราชผู้อภิบาล ไม่ใช่พระสังฆราชผู้สั่งการ"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงย้ำ สัตบุรุษไม่ต้องการพระสังฆราชหรือพระสงฆ์คาทอลิกที่ทำตัวเป็นผู้สั่งการให้ทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ แต่สัตบุรุษต้องการพระสังฆราชที่ทำตัวเป็นผู้อภิบาล ทรงสอน พระสังฆราชคาทอลิกต้องอย่าอายหรือทำนิ่งเฉยต่อการประณามการคดโกงในสังคม ทรงชี้ เวลาเตรียมเอกสารอภิบาล พระสังฆราชต้องมั่นใจว่า เอกสารนั้นต้องเข้าใจง่าย ทรงขอร้อง พระสังฆราชต้องเป็นหนึ่งเดียวกับพระสงฆ์ และต้องเป็นหนึ่งเดียวในกลุ่มสภาพระสังฆราชด้วย ช่วงเย็นวันจันทร์ที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในการประชุมทั่วไปของสภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งอิตาลี ที่จัดขึ้นในวาติกัน โดยการประชุมนี้ จัดภายใต้หัวข้อเกี่ยวกับการฟื้นฟูความรู้สึกอ่อนโยนของการอภิบาล โอกาสนี้ พระสันตะปาปาตรัสสอนทุกคนช่วงเปิดการประชุมว่า "นี่คือช่วงเวลาที่เราถูกห้อมล้อมไปด้วยข่าวน่าหดหู่ เราเห็นแต่ความเดือดร้อนและความยากลำบากทั้งในและต่างประเทศ ดังนั้น กระแสเรียกของสภาพระสังฆราชคาทอลิกคือเราต้องทัดทานสิ่งเหล่านี้ เราต้องเป็นประจักษ์พยานถึงความชื่นชมยินดีถึงพระคริสตเจ้าผู้ทรงกลับคืนชีพ เราต้องแปรเปลี่ยนความชื่นชมยินดีและ

โป๊ปฟรังซิส: "เคล็ดลับของนักบุญคือการดำรงอยู่ในความรักของพระคริสตเจ้า"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอน เคล็ดลับของผู้ได้รับแต่งตั้งเป็นนักบุญคือการดำรงอยู่ในความรักของพระคริสตเจ้า ใครที่ดำรงอยู่ในพระคริสตเจ้ามากเท่าไหร่ ก็บังเกิดผลดีมากเท่านั้น ดังเช่นนักบุญหญิงทั้ง 4 องค์ที่ได้รับการสถาปนาในวันนี้ ทรงย้ำ ความเชื่อคริสตชนตั้งอยู่บนการเป็นประจักษ์พยาน นี่คือสายใยที่ไม่มีใครทำลายลงได้  สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาสถาปนานักบุญใหม่ 4 องค์ ได้แก่ นักบุญ จัน เอมิลี เดอ วีลเนิฟ (ฝรั่งเศส), นักบุญ มารีอา คริสตีน่า บรันโด้ (อิตาลี), นักบุญ มารีอา อัลฟอนซีน่า เดนิล กัตตาส (ปาเลสไตน์) และ นักบุญ มารีอา ดิ เยซู บาอัวร์ดี้ (ปาเลสไตน์) พิธีนี้จัดที่ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน มิสซานี้ พระสันตะปาปาทรงเทศน์สอนว่า "เราต้องขอบคุณการเป็นประจักษ์พยานที่พิสูจน์ได้ของบรรดาอัครสาวกและคริสตชนยุคแรกเริ่ม เพราะสิ่งนี้ทำให้คนมากมายกลับใจและมาเชื่อในพระเยซูผู้เสด็จกลับคืนชีพจากความตาย กลุ่มคริสตชนถึงได้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในวันนี้ พวกเราก็เช่นกัน ความเชื่อของเราก็ตั้งมั่นอยู่บนการเป็นประจักษ์พยาน นี่คือสายใยที่ไม่สามารถทำลายลงได้ ไม่ใช่สายใยจากผู้สานงานต่

โป๊ปฟรังซิส: "ซิสเตอร์ต้องยิ้มแย้มและมีหัวใจของความเป็นแม่ - พระศาสนจักรอย่าทำตัวเป็นแม่เลี้ยง"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอน ซิสเตอร์ต้องยิ้มแย้มและมีหัวใจของความเป็นแม่ อย่าเชิดหน้ามองฟ้าอย่างเดียว แต่เท้าไม่ยืนติดดิน ทรงย้ำ ซิสเตอร์ชีลับต้องอย่าปิดตัวจากโลก เพราะการเป็นชีลับไม่ใช่การลี้ภัยจากโลก ทรงเตือนสติพระสังฆราช หนึ่งในสิ่งยากสุดคือการสร้างความสามัคคีในสังฆมณฑล จงอย่าเที่ยววิจารณ์คนอื่น เพราะถ้าทำแบบนั้น มันคือการผลักไสไล่ส่งลูกๆ ของตน และเราจะกลายเป็น "แม่เลี้ยง" ไม่ใช่ "แม่ที่แท้จริง" ของสัตบุรุษ ช่วงบ่ายวันเสาร์ที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงต้อนรับบรรดานักบวชชายและหญิงของสังฆมณฑลโรม ที่มาเข้าเฝ้าในหอประชุมเปาโล ที่ 6 นครรัฐวาติกัน โอกาสปีแห่งนักบวช โอกาสนี้ พระสันตะปาปาตรัสสอนพวกเขาว่า "พวกท่านต้องเป็นประจักษ์พยานถึงความเมตตา พ่ออยากขอร้องพวกท่านทุกคน เฉพาะอย่างยิ่งบรรดาซิสเตอร์ที่อยู่ที่นี่ ขอให้ซิสเตอร์เปี่ยมด้วยรอยยิ้มเสมอและมีหัวใจของความเป็นแม่ จงทำให้เกิดความสมดุลกันระหว่างจิตใจและการลงมือปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม จงอย่าเชิดหน้ามองฟ้าอย่างเดียว แต่จงให้ตัวเองติดดินอยู่เสมอ ทั้งนี้ เพื่อจะได้ฟังเสียงของโลกและเสียงย้

โป๊ปฟรังซิส: "คริสตชนที่กลัวไปทุกเรื่องเวลาต้องทำสิ่งใดคือคริสตชนที่เจ็บป่วย"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงชี้ กลุ่มคริสตชนที่จะลงมือทำสิ่งใด ก็กลัวไปหมดจน คือกลุ่มคริสตชนที่เจ็บป่วย คนพวกนี้เลือกแต่จะอยู่ในมุมปลอดภัย ขอแค่ไม่ถูกต่อว่าก็พอ ทรงสอน เราต้องแยก "ความกลัว" กับ "ความยำเกรงพระเจ้า" ออกจากกัน เพราะความกลัวฉุดเราให้อยู่กับที่ แต่ความยำเกรงพระเจ้าคือการก้าวไปข้างหน้า ไปลงมือทำสิ่งต่างๆ ตามพันธกิจที่พระเจ้ามอบให้ ทรงย้ำ กลุ่มคริสตชนที่ไม่มีความชื่นชมยินดีในพระเจ้า แต่สนุกไปกับจิตตารมณ์ทางโลก ก็เป็นกลุ่มคริสตชนที่ป่วยเช่นกัน ช่วงเช้าวันศุกร์ที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา บทอ่านวันนี้จากหนังสือกิจการอัครสาวก พระเจ้าตรัสกับเปาโลในนิมิตว่า "อย่ากลัว จงพูดต่อไป อย่าเงียบ เพราะเราอยู่กับท่าน ไม่มีใครกล้าทำร้ายท่าน เพราะหลายคนในเมืองนี้เป็นประชากรของเราไปแล้ว" ส่วนพระวรสาร พระเยซูตรัสว่า "ความเศร้าโศกของท่านจะเปลี่ยนเป็นความชื่นชมยินดี หญิงที่คลอดบุตรจะมีความทุกข์ แต่เมื่อคลอดแล้ว เธอจะเปี่ยมด้วยความยินดี เพราะมีมนุษย์คนหนึ่งเกิดมาในโลกนี้" พระสันตะปาปาทรงเทศน

โป๊ปฟรังซิส: "ถ้าเราพูดขอโทษไม่เป็น เราก็ให้อภัยคนอื่นไม่เป็น"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงย้ำ ชีวิตครอบครัวต้องรู้จักพูด "ขอร้อง ขอบคุณ และขอโทษ" คำเหล่านี้ดูเรียบง่าย แต่มันยากพอสมควรที่จะนำไปปฏิบัติ ทรงชี้ สังคมยุคใหม่มองความเมตตาและความสุภาพเป็นเครื่องหมายของความอ่อนแอ แต่มุมมองนี้ต้องไม่เกิดในครอบครัวเด็ดขาด ทรงเตือน คริสตชนที่ไม่รู้จักขอบคุณคือคนที่หลงลืมภาษาของพระเจ้า ทรงสอน ถ้าเราพูดขอโทษไม่เป็น เราก็ให้อภัยคนอื่นไม่เป็นด้วย ช่วงสายวันพุธที่ 13 พฤษภาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงออกมาพบปะและเทศน์สอนสัตบุรุษกว่า 45,000 คน ระหว่างการเข้าเฝ้าทั่วไป ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน วันนี้ พระสันตะปาปายังคงเทศน์สอนเรื่องชีวิตครอบครัว เหมือนสัปดาห์ที่ผ่านๆ มา พระสันตะปาปา ตรัสว่า "การสอนคำสอนในวันนี้ เป็นเหมือนประตูที่เปิดสู่การไตร่ตรองอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับชีวิตครอบครัวซึ่งเป็นชีวิตที่แท้จริงในช่วงเวลาแห่งความยากลำบากและเหตุการณ์ต่างๆ บนประตูทางเข้านี้ถูกเขียนขึ้นด้วยคำพูด 3 คำ ซึ่งพ่อเคยพูดไปแล้วหลายครั้ง นั่นคือ 'ขอร้อง ขอบคุณ และขอโทษ' นี่คือคำพูด 3 คำที่จะเปิดประตูสู่ชีวิตครอบครัวที่มีความสุข นี่เป็

โป๊ปฟรังซิส: "คาริตัสเจ็บป่วยจากการช่วยคน ดีกว่าเจ็บป่วยแบบไม่ลงมือทำอะไรเลย"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงย้ำอีกครั้ง อยากให้สมาชิกพระศาสนจักรเจ็บตัวจากการออกไปตามท้องถนนและช่วยเหลือผู้คน เพราะการเจ็บป่วยแบบนี้ดีกว่าการนั่งปิดปากอยู่เฉยๆ นั่งเก็บตัวเงียบๆ แต่ไม่ลงมือทำอะไรเลย ทรงให้กำลังใจสมาชิกกลุ่มคาริตัส เป็นเหมือน "มือของพระเยซู" บนโลกนี้ที่คอยช่วยเหลือผู้ทุกข์ยากทุกคน ช่วงเย็นวันอังคารที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาให้กับกลุ่มคาริตัสสากล ภายในมหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน โอกาสที่กลุ่มคาริตัสมาประชุมประจำปีพร้อมกันที่กรุงโรม สำหรับบทเทศน์ประจำมิสซานี้ พระสันตะปาปาทรงเทศน์สอนว่า "งานสังคมสงเคราะห์ของพระศาสนจักรคาทอลิกในโลกใบนี้ บางครั้งต้องประสบกับปัญหา แต่การลงมือทำดีกว่าเราปิดปากเงียบอยู่ในพระศาสนจักร แล้วไม่ลงมือทำอะไรเลย พ่อพูดไปหลายครั้งแล้วว่า อยากให้พระศาสนจักรออกไปตามท้องถนน การไปอยู่บนถนนอาจทำให้เราประสบอุบัติเหตุ แต่มันก็ดีกว่าเก็บตัวอยู่ในห้อง แล้วเจ็บป่วยอยู่ในนั้น "พ่ออยากให้พระศาสนจักรบาดเจ็บ ถูกทำร้าย และเนื้อตัวเปรอะเปื้อน เพราะมันหมายความว่า เราออกไปทำงานตามท้องถนน แต่ถ้าเรามันแต่ห่วงความปล

โป๊ปฟรังซิส: "เราเปลี่ยนสังคมให้ดีขึ้นได้ แค่หยุดนิสัยแย่ๆ และมาทำดี"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอนเด็กๆ จากกลุ่ม "โรงงานสันติภาพ" ว่า เราทุกคนเปลี่ยนสังคมให้ดีขึ้นได้ แค่เราหยุดนิสัยแย่ๆ และมาทำดี เมื่อใดที่เราทำดีไปพร้อมกัน ทุกคนก็จะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้นได้อย่างแน่นอน ช่วงสายวันจันทร์ที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงต้อนรับเด็กๆ จากกลุ่ม "โรงงานสันติภาพ" (Fabbrica della pace) กว่า 7,000 คนที่มาเข้าเฝ้าในหอประชุมเปาโล ที่ 6 นครรัฐวาติกัน การเข้าเฝ้าครั้งนี้จัดขึ้นเพื่ออบรมให้ความรู้กับเด็กๆ ในเรื่องเกี่ยวกับการสร้างสันติภาพ การอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข ไม่ว่าเราจะมีความแตกต่างทางเชื้อชาติ ศาสนา และวัฒนธรรมเพียงใดก็ตาม แต่เราก็อยู่ร่วมกันอย่างสันติ โดยผ่านทางการเรียนรู้ในโรงเรียน ในส่วนพระดำรัสที่พระสันตะปาปาตรัสกับเด็กๆ วันนี้ เป็นการพูดคุยแบบกันเอง พระสันตะปาปาให้เด็กๆ มาเล่นกับพระองค์และถามคำถามแบบส่วนตัว จากนั้น พระองค์ก็ตอบพวกเขากลับไปโดยตรัสแบบออกไมโครโฟน สำหรับคำถามที่เด็กๆ ถามพระสันตะปาปา ได้แก่ เมื่อโตขึ้น พวกเขาจะอยู่อย่างสันติกับญาติพี่น้องที่โตขึ้นมาพร้อมกันได้อย่างไร, ทำไมคนมีอำนาจในบ้านเมืองถึง