Posts

Showing posts from March, 2015

โป๊ปฟรังซิส: "หนทางของพระเจ้าคือความต่ำต้อยสุภาพถ่อมตน"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอน หนทางของพระเจ้าคือความต่ำต้อยสุภาพถ่อมตน นี่เป็นหนทางเดียวที่เราจะติตตามพระเยซูได้ ทรงชี้ หนทางที่จิตตารมณ์ทางโลกมอบให้เรานั้น มีแต่ความหยิ่งผยอง ทะนงตน และหมกมุ่นกับความสำเร็จทางโลก พระเยซูทรงปฏิเสธหนทางนี้ให้เราเห็นแล้วตอนที่อยู่ในถิ่นทุรกันดารนาน 40 วัน ดังนั้น เราต้องกล้าปฏิเสธมันด้วย พร้อมกันนี้ ทรงเชิญภาวนาอุทิศแด่ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์เครื่องบินของสายการบินเยอรมันวิงส์ตกที่ฝรั่งเศสด้วย ช่วงสายวันอาทิตย์ที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในการเสกและแห่ใบลาน รวมทั้งถวายมิสซาวันอาทิตย์พระมหาทรมาน ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน พิธีนี้มีสัตบุรุษมาร่วมกว่า 100,000 คน สำหรับบทเทศน์ประจำมิสซานี้ พระสันตะปาปาทรงเทศน์สอนว่า "หัวใจของพิธีฉลองในวันนี้ ก็คือถ้อยคำที่เราได้ยินกันจากจดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวฟิลิปปี นั่นคือ 'ทรงถ่อมพระองค์ลง' (ฟิลิปปี 2:8) นี่คือการถูกสบประมาทของพระเยซู พระวาจาตอนนี้แสดงให้เราเห็นว่า หนทางของพระเจ้าและหนทางของคริสตชนคือความสุภาพถ่อมตน ความต่ำต้อย หนทางที่ยังคงสร้างความประหลาดใจ

โป๊ปฟรังซิส: "อย่ายึดติดหลักคำสอน แต่หัวใจไร้ความเชื่อในพระเจ้า"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอน อย่าเป็นพวกยึดติดหลักคำสอน แต่หัวใจไร้ความเชื่อ เพราะถ้าเป็นแบบนี้ เราจะใช้ศีลธรรมในทางที่ผิดเหมือนพวกธรรมาจารย์เหล่านั้น ทรงชี้ ศูนย์กลางของบทบัญญัติของพระเจ้าคือความรักต่อพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์ ไม่ใช่กฏเกณฑ์ที่เป็นแค่หลักคำสอนที่เย็นชา ทรงย้ำ ถ้าหัวใจเราไม่มีความชื่นชมยินดีในพระเจ้า เราก็ไม่ใช่ผู้มีความเชื่อแท้จริงในพระองค์ ช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา บทอ่านวันนี้จากหนังสือปฐมกาล พระเจ้าทรงเปลี่ยนชื่อของ "อับราม" เป็น "อับราฮัม" พร้อมทำให้เขาเป็นบิดาของชนชาติจำนวนมากและมีลูกหลานทวียิ่งขึ้น และพันธสัญญานี้จะดำรงอยู่ตลอดไป ส่วนพระวรสารวันนี้ ชาวยิวถามพระเยซูว่า "ท่านอายุยังไม่ถึง 50 ปี ได้เห็นอับราฮัมแล้วหรือ" พระเยซูตรัสตอบว่า "ก่อนอับราฮัมจะเกิด เราเป็น" (หมายถึงเรามีอยู่แล้ว) ชาวยิวจึงโกรธและพยายามเอาหินเขวี้ยงพระองค์ พระสันตะปาปา ทรงแบ่งปันให้ข้อคิดว่า "เรื่องของอับราฮัม เราเห็นได้ว่า ท่านและนางแซร่าห์ ภรรยา แม้จะชราภาพม

โป๊ปฟรังซิส: "เลิกนินทาและหันมาสวดให้การประชุมสมัชชาพระสังฆราชจะดีกว่า"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงขอร้องคริสตชน เลิกซุบซิบนินทา และหันมาสวดภาวนาเพื่อการประชุมสมัชชาพระสังฆราชคาทอลิก (ซีน็อต) หัวข้อครอบครัว ซึ่งจะจัดในเดือนตุลาคมนี้จะดีกว่า เพราะทุกคนไล่ตั้งแต่พระสันตะปาปาจนถึงฆราวาส ทุกคนถูกเรียกร้องให้สวดภาวนา ทรงสอน พระศาสนจักรอุทิศตนเพื่ออภิบาลครอบครัว สายใยระหว่างพระศาสนจักรและครอบครัวคือความศักดิ์สิทธิ์และไม่สามารถแยกจากกันได้ ช่วงสายวันพุธที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงออกมาพบปะและเทศน์สอนสัตบุรุษกว่า 40,000 คน ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก โดยก่อนที่พระสันตะปาปาจะออกมาพบปะสัตบุรุษ พระองค์ได้ไปพบกับผู้ป่วยและผู้พิการในหอประชุมเปาโล ที่ 6 นครรัฐวาติกันด้วย สำหรับบทสอนในวันนี้ซึ่งตรงกับวันสมโภชแม่พระรับจากเทวดากาเบรียล (ชื่อใหม่คือ "สมโภชการแจ้งสารเรื่องพระวจนาตถ์ทรงรับสภาพมนุษย์") พระสันตะปาปาทรงเชิญทุกคนหยุดสงบนิ่งสักครู่ เพื่อรำพึงถึงธรรมล้ำลึกที่ยิ่งใหญ่นี้ จากนั้น พระองค์ตรัสว่า "การแจ้งสารของอัครเทวดากาเบรียลเป็นจุดเริ่มต้นของธรรมล้ำลึกแห่งการรับสภาพมนุษย์ นี่คือการเร

โป๊ปฟรังซิส: "อย่าเป็นคริสตชนครึ่งๆ กลางๆ ที่มีเงื่อนไขต่อรองมากมายกับพระเจ้า"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงชี้ อย่าเป็นคริสตชนครึ่งๆ กลางๆ ที่บอกคนอื่นว่าตนเองเป็นคริสตชน แต่กลับมีเงื่อนไขต่อท้ายมากมาย ทรงสอน เราต้องรู้จักน้อมรับหนทางที่พระเจ้าเตรียมให้ การไม่ยอมรับสิ่งที่พระเจ้าจัดให้ถือเป็นบาป เหมือนเช่นชาวอิสราเอลที่บ่นต่อว่าพระเจ้าในทะเลทราย คนพวกนี้เริ่มต้นด้วยการเป็นคริสตชนที่กระตือรือร้น แต่ไปได้แค่ครึ่งทางก็หมดไฟจากความผิดหวังต่างๆ และมาบ่นต่อว่าพระเจ้า ช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา บทอ่านวันนี้จากหนังสือกันดารวิถี เป็นเหตุการณ์ที่ชาวอิสราเอลเริ่มหมดความอดทนและเริ่มด่าว่าพระเจ้ากับโมเสส พระเจ้าจึงส่งงูพิษมากัดพวกเขา แต่พระเจ้าก็บอกกับโมเสสให้ทำรูปงูโลหะติดไว้บนเสา ใครที่ถูกงูกัด แต่มองงูโลหะ จะรอดจากความตาย พระสันตะปาปา ทรงแบ่งปันบทอ่านนี้ว่า "บทอ่านตอนนี้สอนเราว่า พระเจ้าทรงมอบความรอดพ้นให้เราหลายร้อยวิธีที่ต่างกันไป แต่บ่อยครั้ง เราไม่มีความสามารถที่จะน้อมรับวิธีการที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า "ตามที่เราได้เห็นกันในบทอ่านวันนี้ พระเจ้าทรงส่งงูมากัดเพื่อเป็นการลงโทษ

โป๊ปฟรังซิส: "ที่ใดไม่มีความเมตตา ที่นั่นก็ไม่มีความยุติธรรม"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอน ที่ใดไม่มีความเมตตา ที่นั่นก็ไม่มีความยุติธรรม ทรงแบ่งปัน ชอบพระวรสารตอนที่พระเยซูถามฝูงชนที่จะเอาหินทุ่มหญิงคนนั้นว่า "ใครไม่เคยทำบาป ก็เอาหินทุ่มหญิงคนนี้เถิด" เพราะนี่คือการสะท้อนให้เห็นว่า หัวใจของฟาริสีและธรรมาจารย์ทำเป็นเคร่งครัด แต่ไม่เคยมีเมตตาและไม่ยืดหยุ่นเลย ทรงย้ำ ถ้าเราไม่ยืดหยุ่นและไม่มีเมตตา เราจะเป็นคริสตชนที่ดำเนินชีวิต 2 มาตรฐาน ช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา พระวรสารวันนี้ ฟาริสีและธรรมาจารย์นำหญิงที่ถูกจับขณะล่วงประเวณีมาให้พระเยซูตัดสิน แต่พระเยซูถามกลับไปว่า "ถ้าผู้ใดในท่านไม่เคยทำบาป จงนำหินทุ่มหญิงคนนี้เถิด" ที่สุดแล้ว ทุกคนเดินกลับไปกันหมด ไม่มีใครนำหินทุ่มหญิงคนนี้เพื่อลงโทษ พระเยซูจึงตรัสกับหญิงคนนี้ว่า "ไปเถิด เราก็ไม่ลงโทษท่านด้วย ตั้งแต่นี้ไป อย่าทำบาปอีก" พระสันตะปาปาทรงเทศน์แบ่งปันพระวรสารตอนนี้ว่า "หัวใจของฟาริสีและธรรมาจารย์ขี้โกงด้วยความไม่ยืดหยุ่น พวกเขาคิดว่าตัวเองใสสะอาดเพราะปฏิบัติตนตามธรรมบัญญัติ แต่

โป๊ปฟรังซิส: "เราพบพระเยซูได้โดยผ่านทางการรำพึง อ่านพระวาจา และการกระทำ"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงแบ่งปัน เราสามารถพบพระเยซูและฟังพระวาจาของพระองค์ โดยผ่านทางการรำพึงไม้กางเขน เครื่องหมายที่เด่นชัดถึงความรักของพระองค์ที่มีต่อมนุษย์ พร้อมกันนี้ เราต้องเป็นประจักษ์พยานถึงพระเจ้าด้วยการแสดงออกผ่านทางกิริยาแห่งความสุภาพเรียบง่าย ช่วงเที่ยงวันอาทิตย์ที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงนำสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าว ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน ท่ามกลางสัตบุรุษที่มาร่วมภาวนากว่า 50,000 คน พระวรสารประจำวันอาทิตย์ที่ 5 ในเทศกาลมหาพรต กลุ่มชาวกรีกไปที่กรุงเยรูซาเล็มและบอกกับ ฟิลิปว่า "ต้องการจะเห็นพระเยซู" (จอห์น 12:20-33) พระสันตะปาปาทรงแบ่งปันพระวรสารตอนนี้ว่า "มีคนจำนวนมากในกรุงเยรูซาเล็ม รวมถึงพวกมหาสมณะ ผู้นำทางการเมือง เช่นเดียวกับคนทั่วไปที่เป็นเหมือนชาวกรีก นั่นคือ พวกเขาอยากรู้จักพระเยซูและเรียนรู้ชีวิตของพระองค์ "คำว่า 'เราต้องการเห็นพระเยซู' มีหลายคนในกลุ่มพวกเราที่อยากจะเห็นพระองค์เหมือนกัน คนเหล่านี้คือการที่กำลังแสวงหาสาระการให้ของชีวิต สำหรับพวกเขาแล้ว มันมี 3 สิ่งที่เราสามารถมอบให้กับพวกเขาเหล่านี้ ได

โป๊ปฟรังซิส: "ยาพิษร้ายแรงที่ทำร้ายคนชราคือการอยู่อย่างโดดเดี่ยวลำพัง"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงขอร้องลูกหลาน อย่าปล่อยพ่อแม่ที่ชราภาพให้อยู่อย่างโดดเดี่ยว แต่จงไปอยู่กับพวกเขา ทรงชี้ ยาพิษร้ายแรงที่ทำร้ายคนชราคือการอยู่อย่างโดดเดี่ยวลำพัง ทรงชี้ พระเจ้าจะพูดกับเราไม่ได้ ถ้าหัวใจของเราไม่สงบเงียบ ทรงย้ำ ชีวิตแต่งงานและชีวิตครอบครัวไม่เหมือนการเรียนภาษาที่เรียนแป๊ปเดียวก็พูดได้แล้ว ของแบบนี้ใช้เวลาและต้องมีการเตรียมตัวอย่างดีด้วย ช่วงเย็นวันเสาร์ที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส เสด็จไปที่ฟอนตาน่า เดล เซเบโต้ เมืองนาโปลี ประเทศอิตาลี เพื่อทรงพบปะและให้โอวาทแก่เยาวชนกว่า 140,000 คนในอัครสังฆมณฑลนาโปลี โดยการพบปะเยาวชนเป็นพันธกิจสุดท้ายของการเยือนนาโปลีของพระสันตะปาปาด้วย สำหรับพระดำรัสที่พระสันตะปาปาตรัสกับเยาวชนเมืองนาโปลี พระองค์ทรงเริ่มต้นด้วยการบอกให้ทุกคน "หยุด" กล่าวเชียร์พระองค์ด้วยการเรียกชื่อ แต่ขอให้ทุกคนเปลี่ยนไปตะโกนเชียร์ชื่อของพระเยซูจะเหมาะสมกว่า ทำเอาทุกคนที่ได้ยินปรบมือชอบใจเป็นการใหญ่ จากนั้น เป็นการถามคำถามพระสันตะปาปา และพระองค์จะตอบพวกเขาแบบสดๆ คำถามแรก ถามว่า "เราจะตระหนักถึงการประทับอยู่ของพระเจ้าใน

โป๊ปฟรังซิส: "สงฆ์และนักบวช อย่านำปัญหากับสังฆราชและเพื่อนสงฆ์นักบวช มาเป็นศูนย์กลางชีวิต"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเตือนสติพระสงฆ์และนักบวช จงให้พระเยซูเป็นศูนย์กลางชีวิต ไม่ใช่เอาปัญหาส่วนตัวกับพระสังฆราช พระสงฆ์ หรือเพื่อนนักบวชเป็นศูนย์กลาง ส่วนพวกเณร ถ้าพระเยซูไม่ใช่ศูนย์กลางชีวิต จงเลื่อนการสมัครบวชออกไปก่อน ทรงย้ำ ถ้าชีวิตพระสงฆ์และนักบวชไม่มีความสุข สัตบุรุษสามารถรับรู้ได้ทันที ทรงชี้ ถ้าพระสงฆ์และนักบวชยึดติดเงินทอง เขาจะรักคนรวยมากกว่าคนจน ทรงขอร้องให้ระวังการก่อการร้ายในหมู่คณะด้วยการนินทา ช่วงบ่ายวันเสาร์ที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส เสด็จไปยังอาสนวิหารซานตา มารีอา อัสซุนตา (อัสสัมชัญ) เพื่อพบและให้โอวาทแก่บรรดาพระสังฆราช พระสงฆ์ และนักบวชของอัครสังฆมณฑลนาโปลี นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงจุมพิตพระธาตุที่เป็นเลือดของ "นักบุญเจนนาโร่" องค์อุปถัมภ์ของเมืองนาโปลี โดยขณะที่กำลังจุมพิต พระธาตุกำลังแปรสภาพจากของแข็งมาเป็นของเหลวอยู่พอดี สำหรับพระดำรัสที่พระสันตะปาปาตรัสกับบรรดาพระสังฆราช พระสงฆ์ และนักบวช พระองค์ทรงแจ้งพวกเขาก่อนว่า "จริงๆ แล้ว พ่อเตรียมสิ่งที่จะกล่าวกับท่านไว้ในกระดาษแล้วนะ แต่อ่านตามกระดาษมันน่าเบื่อ! ดังนั้น พ่อขอพู

โป๊ปฟรังซิส: "สังคมต้องเรียนรู้ที่จะให้อภัยคนบาปกลับใจ"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงยอมรับ ความโหดร้ายอย่างหนึ่งของสังคมคือการไม่ยอมรับผู้ต้องขังที่พ้นการถูกจองจำแล้ว กระนั้น สังคมต้องเรียนรู้ที่จะให้อภัยคนบาปกลับใจ ตัวอย่างชัดเจนคือพระเยซูยังให้อภัยโจรกลับใจที่ถูกตรึงกางเขนข้างๆ พระองค์ โดยทรงกล่าวเรื่องนี้ ระหว่างการเสด็จเข้าไปในเรือนจำ เพื่อทานอาหารเที่ยงร่วมกับผู้ต้องขัง 120 คน ช่วงเที่ยงวันเสาร์ที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส เสด็จเข้าไปยังเรือนจำปอจโจ้เรอาเล่ เมืองนาโปลี เพื่อทานอาหารเที่ยงร่วมกับบรรดาผู้ต้องขัง 120 คน หลังจากนั้น พระสันตะปาปาทรงสนทนากับพวกเขาแบบทีละคนด้วย หนึ่งในคำถามที่ผู้ต้องขังถามพระสันตะปาปาก็คือ "ผมจะทำอย่างไรที่จะรักษาความเชื่อในพระเจ้าได้ ในเมื่อในเรือนจำที่ผมอยู่นั้น มันมีการประจญล่อลวงเยอะมากๆ" พระสันตะปาปาตรัสตอบว่า "ใช่ พ่อเห็นด้วยว่ามันไม่ง่าย! แต่ลูกต้องอย่ากลัว ถ้าลูกหลงไปกับการประจญเมื่อไหร่ ลูกต้องรีบกลับมายืนจุดเดิมและก้าวต่อไปข้างหน้าทันที อย่าเสียเวลาไปกับการประจญล่อลวงเด็ดขาด พวกเราทุกคนเคยทำผิดพลาด บางครั้ง มันมีบางอย่างในชีวิตที่ยากจะยอมรับและยากเกินจะอธิบายว่า

โป๊ปฟรังซิส: "อย่าหลงไปกับพลังดึงดูดของเงินที่ได้มาแบบไม่สะอาด"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอนชาวนาโปลี อย่าหลงไปกับพลังดึงดูดของเงินที่มาแบบไม่ใสซื่อ จงหนักแน่นในการปฏิเสธและต่อต้านการคดโกง รวมถึงการกดขี่ผู้ยากไร้ คนป่วย และเยาวชน ทรงย้ำ การมีความหวังคือการมองโลกผ่านทางดวงตาและหัวใจของพระเจ้าพระบิดา ผู้ทรงให้อภัยทุกสิ่งและให้อภัยเราเสมอ ช่วงสายวันเสาร์ที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซา ณ ปิอัซซ่า เดล เปลบิสชิโต้ เมืองนาโปลี ท่ามกลางสัตบุรุษที่มาร่วมกว่า 120,000 คน โดยนี่เป็นพันธกิจที่สามระหว่างการเสด็จอภิบาลคริสตชนเมืองปอมเปอีและนาโปลีของพระสันตะปาปา สำหรับบทเทศน์ประจำมิสซานี้ พระสันตะบิดรผู้ศักดิ์สิทธิ์ทรงเรียกร้องชาวเมืองนาโปลีอย่าเห็นผิดเป็นชอบไปกับ "คาโมร์ร่า" กลุ่มมาเฟียและอาชญากรรมที่แผ่อำนาจปกคลุมเมืองอยู่ในขณะนี้ พระสันตะปาปา ตรัสว่า "วันนี้ พ่อมาที่นาโปลีเพื่อประกาศไปพร้อมกับพวกท่านว่า 'พระเยซูทรงเป็นพระเจ้า' พ่อไม่ต้องการพูดคำนี้เพียงคนเดียว พ่อต้องการพวกท่านพูดด้วยเช่นกัน  เอาล่ะ พูดให้พ่อฟังหน่อยว่า พระเยซูคือพระเจ้า (สัตบุรุษทุกคนเปล่งเสียงพูดพร้อมกัน) พระเยซูแต่เพียงผู้เดียวที่สาม

โป๊ปฟรังซิส: "คริสตชนอย่าจ้างงานแบบใช้แรงงานทาส"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเตือนสติ คริสตชนอย่าจ้างงานแบบใช้แรงงานทาส อาทิ ใช้งานลูกจ้างวันละ 11 ชั่วโมง แต่จ่ายผลตอบแทนให้ลูกจ้างเพียงน้อยนิด ทรงย้ำ เราทุกคนมีโอกาสถูกล่อลวงให้โกงกันทั้งนั้น ไม่มีใครที่กล้าพูดแบบเต็มปากเต็มคำว่าไม่เคยโกงแม้แต่ครั้งเดียว ทรงสอน เราต้องห่วงใยผู้อพยพ เพราะคริสตชนก็เป็นผู้อพยพที่ต้องออกเดินทางไปตามหนทางของพระเจ้าเช่นกัน ช่วงเช้าวันเสาร์ที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส เสด็จไปอภิบาลคริสตชนเมืองปอมเปอีและนาโปลี โดยจุดหมายแรกที่เสด็จไปคือสักการะสถานแม่พระแห่งลูกประคำ เมืองปอมเปอี ทั้งนี้ รูปแม่พระแห่งปอมเปอีที่เราเห็นกันในเมืองไทย อยู่ที่วัดแม่พระแห่งลูกประคำ (กาลหว่าร์) นั่นเอง หลังจากพระสันตะปาปาภาวนาที่สักการะสถานแม่พระแห่งเมืองปอมเปอีแล้ว พระองค์ได้ประทับเฮลิคอปเตอร์ต่อไปที่เขตสกัมเปีย เมืองนาโปลี เขตสกัมเปียเป็นที่รู้กันว่ามีอัตราการเกิดอาชญากรรมสูงกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอัตราว่างงานของคนที่นี่และปัญหายาเสพติดก็สูงมาก พระสันตะปาปาจึงต้องการมาให้กำลังใจและให้ความหวังกับชาวเมืองทุกคนในการดำเนินชีวิต พิธีการของวันนี้ เริ่มต้นด้วยการแบ่

โป๊ปฟรังซิส: "สังคมที่มีเรื่องลูกหลานให้กังวลใจ ดีกว่าสังคมที่ไม่มีลูกหลานให้กังวล"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงแบ่งปัน เด็กและลูกหลานนำความชื่นชมยินดีและความหวังมาให้เรา แต่ในเวลาเดียวกัน พวกเขาก็นำปัญหาและความกังวลใจมาให้เราด้วย กระนั้น มันเป็นการดีที่สังคมจะมีปัญหาและความกังวลใจเกี่ยวกับเด็กๆ เพราะสังคมแบบนี้ดีกว่าสังคมที่ไม่มีเด็กเกิดมา จึงไม่ต้องมาคอยกังวลปัญหาต่างๆ ช่วงสายวันพุธที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงออกมาพบปะและเทศน์สอนสัตบุรุษในการเข้าเฝ้าทั่วไป ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน วันนี้ พระสันตะปาปายังคงเทศน์สอนเกี่ยวกับเรื่องครอบครัว โดยเป็นเรื่องของ "บทบาทของลูก" พระสันตะปาปา ตรัสว่า "ลูกคือของขวัญที่ยิ่งใหญ่เพื่อมนุษยชาติและเพื่อพระศาสนจักร พ่อนึกถึงภาพเด็กๆ หลายคนที่มีความสุขในระหว่างที่พ่อเดินทางเยือนเอเชีย พวกเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวาและความกระตือรือร้น ในทางกลับกัน พ่อยังคิดถึงเด็กๆ จำนวนมากทั่วโลกที่กำลังดำเนินชีวิตอยู่ในความยากจนและความต้องการความช่วยเหลืออีกมาก พ่ออยากย้ำว่า เราสามารถประเมินสังคมนั้นๆ ได้จากวิธีการที่สังคมดังกล่าวปฏิบัติต่อเด็กๆ ได้เช่นกัน "พวกเราเห็นพระเยซูอยู่ในตัวของเด็กๆ ดั

โป๊ปฟรังซิส: "น่าเศร้าเวลาเห็นคนอยากกลับใจ แล้วเจอคำตำหนิว่าเป็นคนบาปก็อยู่เฉยๆ เถอะ"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงแบ่งปัน รู้สึกเศร้ามาก เวลาเห็นคนที่สำนึกผิดและต้องการกลับใจมาร่วมมิสซา ต้องมาเจอคริสตชนบางคนเข้าไปตำหนิว่า "คุณเคยทำผิดมาแล้ว ดังนั้น เวลามาร่วมมิสซา ขอให้อยู่เฉยๆ เถอะ" ทรงชี้ การทำแบบนี้คือการปิดประตูบ้านของพระเยซูใส่ประชากรของพระองค์ พระเยซูไม่เคยทำแบบนี้ ตรงกันข้าม พระเยซูไม่ได้เปิดประตูต้อนรับเท่านั้น แต่ยังออกไปตามหาคนบาปด้วย ทรงย้ำ เวลาเราทำผิด พระเยซูไม่ตำหนิ แต่พระองค์จะเข้ามาพยุงให้เราลุกขึ้นและเดินบนหนทางของการกลับใจ ช่วงเช้าวันอังคารที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา บทอ่านประจำวันนี้จากหนังสือประกาศกเอเศเคียลที่กล่าวถึงน้ำทรงชีวิต สายน้ำนี้ไหลไปที่ใด ที่นั่นจะมีแต่สิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ ส่วนพระวรสารวันนี้ พระเยซูเสด็จไปที่สระเบเธสดา และทรงรักษาชายที่ป่วยมานาน 38 ปีให้หายจากโรคในวันสับบาโต ชายคนนี้ไม่มีใครเหลียวแลเขา แต่พระเยซูตรัสกับเขาว่า "ลุกขึ้น จงยกแคร่ที่นอนเดินไปเถิด" เขาก็หายจากโรค พระสันตะปาปา ตรัสแบ่งปันว่า "ในบทอ่านแรก เราได้ฟังเรื่องน้ำที่ไหลออกมาจากใ

โป๊ปฟรังซิส: "เราต้องมีพื้นที่ในใจให้กับความรักของพระเจ้า เพื่อพระองค์จะเปลี่ยนเราให้ดีขึ้น"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอน เราต้องมีพื้นที่ในหัวใจให้กับความรักของพระเจ้า เพื่อที่พระองค์จะสามารถเปลี่ยนตัวเราให้ดีขึ้น ทรงชี้ พระเจ้าทรงฝันจะชื่นชมยินดีกับเราเสมอ แล้วตัวเราล่ะ เคยคิดถึงพระเจ้ากันบ้างหรือเปล่า ช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา บทอ่านวันนี้จากหนังสือประกาศกอิสยาห์ พระเจ้าตรัสว่า "เราจะสร้างฟ้าใหม่และแผ่นดินใหม่" ส่วนพระวรสารวันนี้ พระเยซูทรงรักษาลูกของข้าราชการคนหนึ่งที่ป่วยหนักและกำลังจะสิ้นใจ พระสันตะปาปาทรงเทศน์แบ่งปันว่า "การสร้างครั้งที่สองช่างประเสริฐกว่าการสร้างครั้งแรก เพราะพระเจ้าทรงสร้างโลกที่ถูกทำลายด้วยบาปขึ้นอีกครั้ง การสร้างใหม่นี้ก็คือพระเยซูคริสต์นั่นเอง "เราได้เห็นว่า พระเจ้าทรงเปี่ยมด้วยความศรัทธาอย่างแรงกล้า พระองค์ตรัสด้วยความชื่นชมยินดีและตรัสว่า 'เราร่าเริงเพราะประชากรของเรา' พระเจ้าทรงคิดถึงสิ่งที่พระองค์จะกระทำและคิดถึงว่าพระองค์จะชื่นชมยินดีกับประชากรของพระองค์อย่างไร มันเหมือนกับพระเจ้าทรงฝันไป ใช่ พระเจ้าทรงมีความฝัน ความฝันของพระอง

โป๊ปฟรังซิสวอนขอสันติภาพในปากีสถานหลังเกิดเหตุโจมตีโบสถ์คริสต์ระหว่างมิสซา

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเรียกร้องสันติภาพในปากีสถาน ภายหลังเกิดเหตุโจมตีโบสถ์คาทอลิกและโบสถ์แองกลิกันระหว่างมิสซา ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 14 คน พร้อมกันนี้ ทรงแบ่งปันพระวรสาร สิ่งที่พระเยซูตรัสกับนิโคเดมัสว่า "พระเจ้าทรงรักโลกนี้มากถึงกับประทานพระบุตรแต่องค์เดียวมาเพื่อพวกเรา" ถือเป็นการสรุปพระวรสารทั้งหมดแล้ว นั่นคือ พระเจ้าทรงรักมนุษย์แบบไม่มีขอบเขต ช่วงเที่ยงวันอาทิตย์ที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงออกมานำสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าว ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน ท่ามกลางสัตบุรุษที่มาร่วมภาวนาพร้อมสายฝนที่โปรยปรายลงมา โดยวันนี้ พระสันตะปาปาทรงกล่าวเรียกร้องสันติภาพในปากีสถาน ภายหลังเกิดเหตุโจมตีโบสถ์คาทอลิกและโบสถ์แองกลิกัน ระหว่างมีพิธีมิสซาที่เมืองลาฮอร์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 14 คน พระสันตะปาปา ตรัสว่า "เป็นความเจ็บปวดอย่างมากที่วันนี้พ่อได้ทราบว่า กลุ่มก่อการร้ายโจมตีโบสถ์คริสต์ 2 แห่งในเมืองลาฮอร์ ประเทศปากีสถาน ซึ่งผลที่ตามมาคือมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก คริสตชนยังถูกกดขี่ข่มเหง พี่น้องคริสตชนเหล่านี้ต้องเสียเลือดเนื้อ

โป๊ปฟรังซิส: "น่าเห็นใจครูอาจารย์ นี่เป็นอาชีพที่ยิ่งใหญ่ แต่รายได้ไม่เยอะ"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเห็นใจครูอาจารย์ นี่เป็นอาชีพที่ยิ่งใหญ่ แต่รายได้ไม่เยอะ สิ่งนี้ ทำให้ครูอาจารย์หลายคนต้องทำงานหลายอย่าง หรือหาอาชีพเสริมทำ เพื่อจะได้มีรายได้พอใช้ในชีวิตประจำวัน ทรงย้ำ ครูอาจารย์อย่าสอนแค่เนื้อหาในตำราเท่านั้น แต่ต้องสอนคุณค่าและขนบธรรมเนียมประเพณีของชีวิตให้นักเรียนด้วย เพราะคอมพิวเตอร์สามารถสอนเนื้อหาในตำราได้อยู่แล้ว ช่วงสายวันเสาร์ที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงต้อนรับบรรดาสมาคมครูและอาจารย์คาทอลิกแห่งอิตาลีที่มาเข้าเฝ้าในหอประชุมเปาโล ที่ 6 นครรัฐวาติกัน โอกาสครบรอบ 70 ปีแห่งการก่อตั้งสมาคม โดยวันนี้ พระสันตะปาปาทรงกล่าวกับพวกเขาว่า "วันนี้ พ่ออนุญาตกล่าวกับพวกท่านบรรดาครูอาจารย์ที่รัก ตัวพ่อเองก็เคยเป็นครูเหมือนพวกท่าน (ครูเณร) และพ่อก็มีความทรงจำที่ดีกับวันเก่าๆ กับเด็กๆ ในห้องเรียน "การสอนเรียนเป็นอาชีพที่งดงาม แต่มันเป็นเรื่องน่าสงสารที่ครูได้รับค่าตอบแทนไม่ดีเท่าไหร่ ที่พ่อบอกว่า ค่าตอบแทนไม่เยอะเท่าไหร่ เพราะเวลาที่ครูทุ่มเทให้กับลูกศิษย์นั้น มันไม่ได้อยู่แค่ที่โรงเรียน แต่มันยังรวมถึงการเตรียมการสอน และเวลาที่

สัมภาษณ์พิเศษโป๊ปฟรังซิส โอกาสครบ 2 ปีแห่งสมณสมัยของพระองค์

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเผย คิดเสมอว่าสมณสมัยของพระองค์ต้อง "สั้น" แน่ๆ พร้อมเล่าว่า ครั้งที่มาเลือกตั้งพระสันตะปาปาครั้งล่าสุด เตรียมเสื้อผ้ามาน้อยมาก เพราะคิดว่าคงใช้เวลาเลือกตั้งไม่นาน แล้วจะได้กลับอาร์เจนตินา ทรงเล่าเรื่องขำที่ได้ยินบริษัทรับพนันอย่างถูกกฏหมายในอังกฤษ ออกอัตราต่อรองการได้เป็นพระสันตะปาปาของพระองค์ ทรงแบ่งปัน สิ่งอยากทำที่สุดคือเดินออกไปนอกวาติกัน เพื่อซื้อพิซซ่ากิน ทรงชี้ พระสันตะปาปาต้องการคำภาวนาจากสัตบุรุษ และทรงยืนยัน สงฆ์ล่วงละเมิดทางเพศเพียง 1 คน ก็เปลี่ยนโครงสร้างการจัดการปัญหาของพระศาสนจักรได้เลย วันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา เป็นวันครบรอบ 2 ปีแห่งสมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส โอกาสพิเศษนี้ พระสันตะปาปาทรงประทานการสัมภาษณ์พิเศษแก่ "วาเลนติน่า อลาสรากี" ผู้สื่อข่าวอาวุโสของเตเลวีซ่า นิวส์ ประเทศเม็กซิโก และยังเป็นหัวหน้าสื่อมวลชนจากสำนักต่างๆ ที่ประจำสันตะสำนักด้วย (อลาสรากี คือคนได้รับเค้กวันเกิดและการอวยพรจากพระสันตะปาปา ระหว่างอยู่บนเครื่องบินกลับจากฟิลิปปินส์ไปอิตาลี) การสัมภาษณ์นี้มีทั้งเรื่อง "หนัก" และ "เบา" หลาย

โป๊ปฟรังซิสประกาศเปิด "ปียูบิลีแห่งเมตตาธรรม"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงประกาศเปิดปี "ปียูบิลีแห่งเมตตาธรรม" (A Jubilee Holy Year of Mercy) ซึ่งจะจัดระหว่างวันที่ 8 ธันวาคม 2015 - 20 พฤศจิกายน 2016 พร้อมกันนี้ ทรงสอน อย่ากลัวที่จะไปรับศีลอภัยบาป พระเยซูทรงเคียงข้างเราเสมอเวลาที่เราสำนึกผิดและขอการอภัยโทษจากพระเจ้า ช่วงเย็นวันศุกร์ที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในการโปรดศีลอภัยบาปในงาน "24 ชั่วโมงเพื่อพระเจ้า" ภายในมหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน พร้อมกันนี้ พระองค์ทรงประกาศให้วันที่ 8 ธันวาคม 2015 - 20 พฤศจิกายน 2016 เป็น "ปียูบิลีแห่งเมตตาธรรม" (A Jubilee Holy Year of Mercy) ด้วย โดยปีศักดิ์สิทธิ์แห่งพระเมตตาจะจัดภายใต้หัวข้อ "จงเป็นผู้เมตตากรุณาดังที่พระบิดาของท่านทรงพระเมตตากรุณาเถิด" (ลูกา 6:36) สำหรับบทเทศน์ประจำพิธีนี้ พระสันตะปาปาตรัสว่า "พระเจ้าทรงเปี่ยมด้วยความเมตตา พระเมตตาของพระเจ้ามีอย่างล้นเหลือให้กับทุกคนที่กลับมาหาพระองค์ด้วยใจจริง นักบุญเปาโลเตือนใจเราว่า พระเจ้าไม่เคยเลิกที่จะแสดงถึงความอุดอมแห่งพระเมตตาของพระองค์ที่มีต่อชนทุกยุคสมัย การแ

โป๊ปฟรังซิส: "ไม่มีบาปใดที่พระเจ้าให้อภัยไม่ได้"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงย้ำ ไม่มีบาปใดที่พระเจ้าให้อภัยไม่ได้ ทรงเตือนสติพระสงฆ์ผู้โปรดศีลอภัยบาป อย่าหย่อนยานทางศีลธรรม และอย่าเคร่งครัดจนสุดขั้ว แต่จงช่วยพยุงพี่น้องที่เป็นทุกข์ถึงบาปได้ลุกขึ้นและเดินต่อไปได้บนหนทางแห่งการกลับใจ ช่วงสายวันพฤหัสบดีที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงต้อนรับบรรดาพระสังฆราชและพระสงฆ์ที่มารับการอบรมของสำนักงานวินิจฉัยคดีแห่งสันตะสำนัก (The Apostolic Penitentiary) ที่มาเข้าเฝ้าภายในหอประชุมเปาโล ที่ 6 นครรัฐวาติกัน โอกาสนี้ พระสันตะปาปาตรัสให้ข้อคิดกับพวกเขาว่า "ในบรรดาศีลศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ศีลศักดิ์สิทธิ์แห่งการคืนดีคือการนำเสนออย่างชัดเจนถึงพระพักตร์ที่ทรงเมตตาของพระเจ้า ดังนั้น ขอให้เราอย่าลืมเรื่องนี้เด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นผู้เป็นทุกข์ถึงบาปหรือผู้โปรดบาป อย่าลืมว่า ไม่มีบาปใดที่พระเจ้าไม่สามารถให้อภัยได้ ไม่มีเลยจริงๆ "พ่ออยากเตือนใจบรรดาพระสงฆ์ผู้โปรดศีลอภัยบาปเกี่ยวกับความโน้มเอียงที่จะกลายเป็นพวกศีลธรรมหย่อนยานกับอีกด้านหนึ่งคือกลายเป็นคนเคร่งครัดกฏจนเกินไป พระสงฆ์ผู้โปรดศีลอภัยบาปทั้งสองประเภทนี้จะมีไม่มีทางช่วยพยุงพี

โป๊ปฟรังซิส: "คนทำงานให้พระด้วยใจจริงแต่ถูกใส่ร้าย ขอให้น.โจนออฟอาร์คและบ.โรสมีนี่เป็นแบบอย่าง"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงให้กำลังใจคนทำงานด้วยใจจริงให้พระศาสนจักร พระเยซูขับไล่ปีศาจ ยังโดนกล่าวหาว่าได้อำนาจมาจากเจ้าแห่งปีศาจ นักบุญโจนออฟอาร์คยังเคยถูกเผาทั้งเป็นเพราะถูกตัดสินเป็นพวกนอกรีต หรือจะเป็นบุญราศีอันโตนิโอ โรสมีนี่ ที่งานเขียนของท่านเคยถูกมองเป็นของต้องห้าม แล้วตอนนี้เป็นอย่างไร ท่านที่เคยถูกกล่าวหาเหล่านี้ เป็นนักบุญและบุญราศีไปแล้ว ทรงย้ำ เรื่องกล่าวหาแบบนี้มีจริงในพระศาสนจักร ดังนั้น เราต้องเลือกข้างว่าจะเดินตามพระประสงค์ของพระเจ้า หรือจะเลือกเดินตามใจที่แข็งกระด้างของตัวเอง การเลือกทางเดินนี้ ต้องไม่ทำแบบโอนอ่อนผ่อนตามเด็ดขาด ช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา บทอ่านประจำมิสซานี้จากหนังสือประกาศเจเรมีห์ ชาวอิสราเอลไม่ฟังเสียงของพระเจ้า ไม่เดินตามทางที่พระเจ้าสั่งไว้ แต่กลับดำเนินชีวิตตามความดื้อกระด้างของตน ส่วนพระวรสารนั้น พระเยซูทรงสอนว่า "ผู้ใดไม่อยู่กับเราก็เป็นปฏิปักษ์กับเรา ใครไม่รวบรวมสิ่งต่างๆ ไว้กับเรา ย่อมทำให้สิ่งเหล่านั้นกระจัดกระจายไป" พระสันตะปาปาทรงเทศน์สอนว่า

โป๊ปฟรังซิส: "แม้สังคมจะไม่สนใจผู้สูงอายุ แต่พระเจ้าไม่ทอดทิ้งพวกท่าน"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงให้กำลังใจผู้สูงอายุ ด้วยการย้ำว่า ช่วงเวลาที่เราแก่ตัว ไม่ใช่เวลาที่เราจะมายอมแพ้หรือกลายเป็นส่วนเกินของสังคม ทรงชี้ แม้สังคมจะไม่สนใจผู้สูงอายุ แต่พระเจ้าไม่เคยทอดทิ้งผู้สูงอายุ ทรงยกย่องสมเด็จพระสันตะปาปากิตติคุณ เบเนดิกต์ ที่ 16 เป็นแบบอย่างของผู้สูงอายุที่เลือกอุทิศบั้นปลายของชีวิตให้กับการสวดภาวนาและฟังเสียงของพระเจ้า ช่วงเที่ยงวันพุธที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงออกมาพบปะและเทศน์สอนสัตบุรุษในการเข้าเฝ้าทั่วไป ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน วันนี้ พระสันตะปาปายังคงเทศน์สอนเกี่ยวกับครอบครัว ภายใต้หัวข้อ "ปู่ย่าตายายและผู้อาวุโส" โดยทรงขอร้องสังคมให้เลิกวัฒนธรรมดูแลผู้สูงอายุแบบทิ้งๆ ขว้างๆ ได้แล้ว พระสันตะปาปา ตรัสว่า "ตัวพ่อเองก็เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มคนสูงอายุ พ่อพูดถึงเรื่องนี้ด้วยการแหย่ขาข้างหนึ่งเข้าไปในกลุ่มนี้ มันเป็นเรื่องสำคัญมากๆ ที่ต้องพูดและเน้นย้ำว่า แม้สังคมจะไม่สนใจพวกเราผู้สูงอายุ แต่พระเจ้าไม่เคยทอดทิ้งพวกเรา ในความเป็นจริงแล้ว พระเจ้าทรงเรียกเราให้ก้าวเดินตามพระองค์ในทุกช่วงเวลาของชีวิต รวมไ

โป๊ปฟรังซิส: "ถ้าเรายกโทษให้คนอื่นไม่เป็น เราก็ไม่ควรขอให้คนอื่นยกโทษให้เรา"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอน ถ้าเรายกโทษให้คนอื่นไม่เป็น เราก็ไม่ควรขอให้คนอื่นยกโทษให้เรา ทรงย้ำ การขอโทษต้องออกมาจากใจจริง ต้องสำนึกในความผิดและทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่ใช่ขอโทษแบบขอไปทีให้จบๆ ไป ช่วงเช้าวันอังคารที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา พระวรสารวันนี้ พระเยซูทรงสอนบรรดาศิษย์เรื่องการให้อภัย โดยทรงย้ำว่า ไม่ใช่ให้อภัยเจ็ดครั้ง แต่ต้องให้อภัย "เจ็ดคูณเจ็ดสิบครั้ง" นอกจากนี้ พระเยซูยังเล่าเรื่องอุปมาที่ผู้รับใช้ได้รับการยกหนี้ให้จากกษัตริย์ แต่เมื่อเขาออกมาจากห้องที่กษัตริย์อยู่ เขาก็ไปทวงหนี้คนที่ติดเงินเขาอย่างรุนแรง เรื่องนี้ทำให้กษัตริย์โกรธมาก จนถึงกับตรัสว่า "เจ้าคนสารเลว เรายกหนี้สินให้เจ้า เจ้าก็ต้องยกหนี้สินให้คนอื่นด้วยเช่นกัน" พระเยซูทรงสอนว่า ถ้าเราทำตัวแบบผู้รับใช้คนนี้ พระเจ้าก็จะทำกับเราแบบนี้เช่นกัน เพราะเราไม่ยอมยกโทษให้คนอื่นก่อนนั่นเอง ส่วนบทอ่านแรกจากหนังสือประกาศกดาเนียล เป็นเรื่องราวที่อาซาริยาห์ยืนอธิษฐานเสียงดังอยู่กลางไฟ เพื่อขอพระเจ้าอย่าละทิ้งชนชาติอิสราเอล อาซาริยาห

โป๊ปฟรังซิส: "แนวทางของพระเจ้าเป็นแบบเรียบง่าย ไม่ใช่หวังอะไรต้องได้ทันที"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงย้ำ แนวทางของพระเจ้าคือความเรียบง่าย ไม่ใช่หวังอะไรแล้วต้องเสกให้ได้ทันที แต่พระเจ้าทรงสร้างทุกอย่างแบบค่อยเป็นค่อยไปเหมือนเช่นการสร้างโลก สิ่งนี้ ผิดกับมนุษย์ที่คาดหวังว่าได้อะไรแล้วต้องได้ทันที คาดหวังว่าเราต้องได้รับสิ่งที่ยิ่งใหญ่สมเกียรติ ช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา พระวรสารวันนี้ พระเยซูทรงกล่าวกับชาวเมืองนาซาเร็ธ บ้านเกิดของพระองค์ว่า "ไม่มีประกาศกคนใดที่จะได้รับการต้อนรับอย่างดีในบ้านเมืองของตน" พร้อมบอกเล่าความจริงหลายเรื่องกับพวกเขา สิ่งนี้ทำให้ประชาชนโกรธ พากันขับไล่พระองค์ และพยายามจะนำพระองค์ไปที่หน้าผาเพื่อผลักพระองค์ลงไป พระสันตะปาปา ทรงเทศน์แบ่งปันพระวรสารตอนนี้ว่า "พระเยซูทรงต่อว่าชาวเมืองนาซาเร็ธที่ขาดความเชื่อ ตอนแรก พวกเขาฟังพระเยซูด้วยความเชื่อ แต่สุดท้าย จบลงที่พวกเขาโกรธเคืองและเกรี้ยวกราดใส่พระองค์ "ในช่วงเวลาดังกล่าว คนเหล่านี้ฟังสิ่งที่พระเยซูสอนด้วยความพึงพอใจ แต่พวกเขาไม่ชอบสิ่งที่พระองค์ต่อว่าหนึ่ง สอง หรือสามคนในหมู่พวกเขา บาง

โป๊ปฟรังซิส: "อย่าหลอกพระเยซูด้วยการเป็นคนหน้าซื่อใจคดที่ชอบตี 2 หน้า"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเตือน คริสตชนอย่าหลอกพระเยซูด้วยการทำตัวเป็นพวกหน้าซื่อใจคด ซึ่งชอบตีสองหน้าว่าด้านหนึ่งเป็นนักบุญ แต่อีกด้านทำตัวไม่เชื่อพระเจ้า ทรงชี้ ถ้าเราสำนึกอย่างจริงใจว่าเราเป็นคนบาป เราก็ไม่ต้องกลัวแต่อย่างใด ช่วงเย็นวันอาทิตย์ที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส เสด็จไปอภิบาลและถวายมิสซาที่วัดซานตา มารีอา มาเดร เดล เรเด็นตอเร่ (วัดมารดาพระผู้ไถ่) กรุงโรม ท่ามกลางสัตบุรุษที่มาร่วมเฝ้ารับเสด็จอย่างคับคั่ง สำหรับบทเทศน์ประจำมิสซานี้ พระสันตะปาปาทรงกล่าวสอนว่า "พวกเราไม่สามารถหลอกพระเยซู ด้วยการทำตัวเหมือนเป็นนักบุญในเวลาที่เราอยู่รอบๆ วัด แต่ในความเป็นจริง กลับดำเนินชีวิตประจำวันเหมือนพวกไม่เชื่อในพระเจ้า พระเยซูทรงรู้ดีถึงจิตใจของเรา พวกเราทุกคนรู้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอว่า พระเยซูทรงเรียกชื่อคนที่ตีสองหน้าแบบนี้ว่าพวกหน้าซื่อใจคด! พระเจ้าทรงรู้ว่าเราเป็นคนบาป แต่ถ้าเรายอมรับว่าเราเป็นคนบาป พวกเราก็ไม่ต้องกลัวแต่อย่างใด "พระวรสารวันนี้ที่พระเยซูทรงชำระพระวิหารให้สะอาดจากการค้าขาย เมื่อเรามองมายังจิตใจของเรา เราจะพบว่ามันมีบาปมากมายในใจของเรา บาปแห