Posts

Showing posts from February, 2015

โป๊ปฟรังซิส: "ความรับผิดชอบต่อสังคมต้องมาจากใจ ไม่ใช่ตามแผนการตลาด"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงชี้ แนวคิดความรับผิดชอบต่อสังคม (Social Responsibility) ต้องเกิดออกมาจากใจของเราจริงๆ ไม่ใช่มาจากแผนการตลาดเหมือนบริษัทบางแห่ง เจียดเงินน้อยๆ จากกำไรมหาศาลมาช่วยสังคม ทรงย้ำ เรื่องความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน (Work-life balance) เป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะช่วยให้เราตระหนักอย่างเต็มที่ถึงกระแสเรียกการสร้างครอบครัวและการให้กำเนิดบุตร  สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงต้อนรับสมาชิกสหพันธ์สหกรณ์อิตาเลี่ยน กว่า 8,000 คนที่มาเข้าเฝ้าในหอประชุมเปาโล ที่ 6 นครรัฐวาติกัน โดยวันนี้ พระสันตะปาปาทรงให้ข้อคิดพวกเขาเกี่ยวกับมุมมองด้านการทำงาน การหาเงินเลี้ยงครอบครัว และการหลีกหนีจากวัฒนธรรมทิ้งขว้างในสังคมสมัยใหม่ พระสันตะปาปา ทรงกล่าวสอนว่า "มีแนวคิด 5 ประการที่พ่ออยากแบ่งปันพวกท่านทุกคน เรื่องแรก สหกรณ์ต้องดำเนินงานเป็นเครื่องยนต์ที่ยกระดับและพัฒนาส่วนที่อ่อนแอที่สุดของชุมชนและสังคมของเรา นี่คือหน้าที่ที่สำคัญสุดในการจัดตั้งสหกรณ์ใหม่ๆ ขึ้นมา ขณะเดียวกัน การพัฒนาสหกรณ์ที่ดำเนินงานอยู่แล้วนั้น ก็ยังต้องสร้างโอกาสการจ้างงานใหม่ เฉพาะอย่างยิ่ง สร้างงานให้กับเยาวชนด้วย &q

โป๊ปฟรังซิส: "ขอให้อ่านพระวรสารทุกวัน แม้จะเป็นเวลาสั้นๆ แค่ 10 นาทีก็ยังดี"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงหวังเห็นคาทอลิกอ่านพระวรสารทุกวัน แม้จะเป็นเวลาสั้นๆ แค่ 10 นาทีก็ยังดี ทรงขอร้องให้ทุกคนนำพระวรสารเล่มเล็กๆ ติดกระเป๋าไว้ด้วย เพื่อจะได้หยิบมารำพึงไตร่ตรองเวลาว่างๆ พร้อมกันนี้ ทรงขอคำภาวนาเป็นพิเศษที่วันนี้ พระองค์จะนำพระคาร์ดินัลและพระสังฆราชในโรมันคูเรีย ไปเข้าเงียบมหาพรตเป็นเวลา 1 สัปดาห์ด้วย ช่วงเที่ยงวันอาทิตย์ที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงนำสัตบุรุษกว่า 50,000 คน สวดทูตสวรรค์แจ้งข่าว ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน วันนี้ พระสันตะปาปาทรงแจกหนังสือภาวนาเล่มเล็กๆ ให้กับสัตบุรุษทุกคนที่มาร่วมภาวนาด้วย โดยคนที่ทำหน้าที่แจกหนังสือที่กลางลานมหาวิหารนักบุญเปโตร บางส่วนเป็นผู้เร่ร่อนและไร้ที่อยู่อาศัยที่มานอนรอบๆ มหาวิหาร พระวรสารประจำอาทิตย์ที่ 1 เทศกาลมหาพรต เป็นเหตุการณ์ที่พระเยซูทรงเข้าไปในถิ่นทุรกันดารและจำศีลอดอาหารเป็นเวลา 40 วัน พระองค์ทรงถูกซาตานผจญล่อลวง แต่ก็ทรงเอาชนะมันได้ (มก 1:12-15) พระสันตะปาปาทรงแบ่งปันพระวรสารตอนนี้ว่า "ในถิ่นทุรกันดาร พวกเราสามารถฟังเสียงของพระเจ้าและเสียงของซาตานได้อย่างชัดเจน พวกเรา

โป๊ปฟรังซิส: "ถ้าโจรกลับใจด้วยใจจริง พระเจ้าและพระศาสนจักรก็พร้อมต้อนรับ"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงชี้ ถ้าอาชญากรที่เคยทำความชั่ว แต่สำนึกผิดกลับใจและตั้งใจจะทำแต่ความดี พระเจ้าและพระศาสนจักรก็พร้อมต้อนรับท่าน แต่มีข้อแม้ว่า ต้องกลับใจอย่างแท้จริง ทรงย้ำ คนที่ภายนอกทำเป็นเคร่งเรื่องศาสนา แต่ภายในไม่กลับใจ สิ่งนี้ก็ไม่เพียงพอที่จะทำให้เขาร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า  ช่วงสายวันเสาร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงต้อนรับพระสังฆราช พระสงฆ์ และสัตบุรุษจากสังฆมณฑลคาสซาโน่ อัลโยนิโอ แคว้นคาลาเบรีย ประเทศอิตาลี ที่มาเข้าเฝ้าในหอประชุมเปาโล ที่ 6 นครรัฐวาติกัน การมาเข้าเฝ้าในครั้งนี้ สังฆมณฑลคาสซาโน่ อัลโยนิโอ เรียกว่า เป็นการ "มาเข้าเฝ้าแบบเยี่ยมตอบแทนพระสันตะปาปา" หลังจากที่พระองค์เสด็จอภิบาลถึงสังฆมณฑลพวกเขาเมื่อเดือนมิถุนายน 2014 แคว้นคาลาเบรียค่อนข้างจะขึ้นชื่อเรื่องเศรษฐกิจตกต่ำ คนไร้งานทำเยอะมาก และมีปัญหาอาชญากรรม เฉพาะอย่างยิ่งมีกลุ่มมาเฟียชื่อว่า "เอ็นดราเก็ตต้า" คอยก่อกวนชาวเมือง พระสันตะปาปาจึงตรัสให้ข้อคิดกับสัตบุรุษทุกคนว่า "ใครก็ตามที่รักพระเยซู ได้ยินเสียงพระเยซู และรับพระวาจาของพระองค์ พร้อมดำเ

โป๊ปฟรังซิส: "ทำบุญให้พระศาสนจักรด้วยเงินที่เอาเปรียบคนอื่น ถือเป็นบาปร้ายแรง"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเตือน การทำบุญให้พระศาสนจักรด้วยเงินที่เอาเปรียบลูกจ้างของตน ทำบุญด้วยเงินที่ไม่โปร่งใส ถือเป็นบาปร้ายแรงมากๆ เพราะนี่คือการใช้พระเจ้ามาปกปิดความอยุติธรรมของตน ทรงสอน การจำศีลอดอาหารและเป็นทุกข์ถึงบาปต้องทำจากใจ ทำต่อหน้าพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์ ไม่ใช่ทำเพื่อสร้างภาพให้ตัวเองดูดี ทรงหวังเห็นคริสตชนไปเยี่ยมผู้ต้องขังในเรือนจำ ไม่ใช่แบ่งแยกพวกเขาและพูดว่า "เราไม่อยากข้องเกี่ยวกับคนที่ติดคุก" ช่วงเช้าวันศุกร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา บทอ่านประมิสซานี้จากหนังสือประกาศกอิสยาห์ พระเจ้าตรัสว่า "จงร้องให้เต็มกำลัง จงประกาศให้ประชากรของเราได้รู้ว่า เขาล่วงละเมิด ในวันจำศีลอดอาหาร บางคนยังแสวงหาผลประโยชน์ ยังทะเลาะวิวาท ยังโต้เถียง ชกต่อยกันอย่างอยุติธรรม การจำศีลอดอาหารแบบนี้ จะไม่มีเสียงดังไปถึงเบื้องบนเลย" พระสันตะปาปา ทรงเทศน์แบ่งปันบทอ่านนี้ว่า "สิ่งที่พระเยซูทรงต้องการจากเราในเรื่องจำศีลอดอาหาร ก็คือ การแก้โซ่ตรวนจากอธรรมและปลดปล่อยเราให้เป็นอิสระจากการถูกกดขี่ข่มเหง

โป๊ปฟรังซิส: "ไตร่ตรองสักนิด ชีวิตเราเลือกพระเจ้าหรือเลือกบูชาสิ่งอื่น"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอน ชีวิตเราหมุนเร็วมาก ดังนั้น เราต้องหยุดสักนิดเพื่อคิดไตร่ตรองชีวิตของเรา เราต้องไตร่ตรองว่าเราเลือกพระเจ้า เลือกความดีอยู่หรือเปล่า หรือว่าเราเลือกบูชาสิ่งอื่นๆ แทนพระองค์ ทรงชี้ คนที่ไขว่คว้าความสำเร็จส่วนตัว คนที่พอใจที่มีคนสร้างอนุสวารีย์เทิดทูน แต่ชีวิตไม่เลือกเดินตามพระเจ้า เขาจะพบความล้มเหลว เพราะเขาจะได้กำไรทางโลก แต่ไม่สามารถรักษาชีวิตของตนเองไว้ได้ ช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ 19 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา บทอ่านประมิสซานี้จากหนังสือเฉลยธรรมบัญญัติ เป็นเหตุการณ์ที่โมเสสถามประชาชนว่า จะเลือกชีวิตหรือความตาย เลือกความดีหรือความชั่ว ส่วนพระวรสารวันนี้ พระเยซูทรงสอนบรรดาศิษย์ว่า "ผู้ใดอยากติดตามเรา จงแบกกางเขนและตามเรามา ผู้ใดใคร่รักษาชีวิต เขาจะสูญเสียชีวิต แต่ผู้ใดเสียชีวิตเพราะเรา ผู้นั้นจะรักษาชีวิตได้" พระสันตะปาปาทรงเทศน์สอนแบ่งปันบทอ่านนี้ว่า "ทางเลือกที่โมเสสเสนอให้ประชาชนเลือกนั้น คือสิ่งที่คริสตชนต้องเผชิญในทุกวัน มันเป็นทางเลือกที่ยากมากนะ มันดูง่ายกว่านี้ที่จะปล่อ

โป๊ปฟรังซิส: "พระเจ้าไม่เคยลดความเมตตาที่มีต่อเรา พระองค์ดีใจเสมอถ้าเราขอคืนดีกับพระองค์"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงย้ำ เวลาให้ทาน ภาวนา และถือศีลอดอาหาร อย่าทำแบบโอ้อวด แต่จงทำเงียบๆ เพราะพระบิดาจะประทานรางวัลให้เราเอง ทรงชี้ พวกเสแสร้งหน้าซื้อใจคด ไม่รู้จักการร่ำไห้ไปกับคำภาวนาและความทุกข์ของคนอื่น ทรงสอน พระเจ้าไม่เคยลดความเมตตาที่มีต่อเรา พระองค์จะดีใจมากถ้าเรากลับไปขอโทษและคืนดีกับพระองค์ ช่วงเย็นวันพุธที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาวันพุธรับเถ้า ณ มหาวิหารซานตา ซาบิน่า กรุงโรม ประเทศอิตาลี พิธีนี้ เริ่มต้นด้วยการขบวนแห่ออกจากมหาวิหารซาน อันเซลโม่ มายังมหาวิหาร ซานตา ซาบิน่า สถานที่ถวายมิสซาวันพุธรับเถ้า ในส่วนของบทเทศน์ประจำมิสซานี้ พระสันตะปาปาทรงเทศน์สอนว่า "ในบทอ่านแรกจากหนังสือประกาศกโจเอล พระเจ้าตรัสว่า 'ท่านจงร่ำไห้คร่ำครวญ' ประกาศกโจเอลได้ครุ่นคิดอย่างหนักถึงคำภาวนาที่ต้องเปี่ยมด้วยการร่ำไห้  พวกเราทุกคนโดยเฉพาะพระสงฆ์ ควรจะวอนขอพระพรแห่งการร่ำไห้ ทั้งนี้ เพื่อทำให้คำภาวนาของเราและการจาริกเดินทางนี้ เป็นเรื่องแท้จริงและปราศจากการเสแสร้งแกล้งทำใดๆ ทั้งสิ้น "พวกเสแสร้งจะไม่รู้ถึงวิธีการที่จะร่ำไห้ พวกเขาหลง

โป๊ปฟรังซิส: "พระคาร์ดินัลต้องเห็นอกเห็นใจคนทุกข์ยาก จงถลกแขนเสื้อและออกไปช่วยพวกเขา"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงย้ำ พระคาร์ดินัลต้องเปี่ยมด้วยความเห็นอกเห็นใจและต้องฟื้นฟูสิทธิของคนที่ถูกมองข้ามความสำคัญให้กลับมาอีกครั้ง ทรงสอน จงกล้าถลกแขนเสื้อขึ้น ออกลุยช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยาก อย่ามัวแต่ยืนดูเฉยๆ ทรงชี้ ความเมตตาไม่สามารถวางตัวเป็นกลางได้ เราต้องไม่นิ่งเฉยเมื่อเห็นคนทุกข์ร้อน แต่ความเมตตาคือการกล้าออกไปเสี่ยงกับคนที่ตกทุกข์ได้ยาก ช่วยเหลือเขา ช่วยโดยไม่หวังผลตอบแทน ช่วงสายวันอาทิตย์ที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซา พร้อมกับบรรดาพระคาร์ดินัลใหม่ที่ได้รับแต่งตั้งเมื่อวานนี้ พิธีนี้ จัดในมหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน ท่ามกลางสัตบุรุษที่มาร่วมจำนวนมาก ในส่วนพระวรสารประจำวันนี้ เป้นเหตุการณ์ที่พระเยซูทรงรักษาคนป่วยโรคเรื้อน โดยไม่ลังเลใจเลย พระสันตะปาปาทรงเทศน์สอนจากพระวรสารว่า "พระเยซูทรงรู้สึกสงสารและยื่นพระหัตถ์ออกไปสัมผัสผู้ป่วยโรคเรื้อน พระองค์ตรัสว่า 'เราพอใจ จงหายเถิด' (มธ 1:40-41) นี่คือความเห็นอกเห็นใจและความสงสารของพระเยซู ความสงสารเห็นอกเห็นใจนี้ทำให้พระเยซูทรงใกล้ชิดกับทุกคนที่เจ็บปวด! พระเยซูไม่ถอยห่างจากพวกเขา

โป๊ปฟรังซิส: "พระคาร์ดินัลต้องมีเมตตา อดทนอดกลั้น อย่าเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางทุกสิ่ง"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงย้ำ พระคาร์ดินัลต้องเปี่ยมด้วยความเมตตา ต้องมีความอดทนอดกลั้น ต้องไม่อวดดี ไม่ทะนงตน อย่าเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางของทุกสิ่ง ทรงชี้ ความเมตตาไม่ใช่ความฉุนเฉียว ถ้าโกรธและอารมณ์จะปะทุ ก็ต้องให้อภัย พร้อมกันนี้ วาติกันประกาศรายชื่อวัดที่พระคาร์ดินัลเกรียงศักดิ์จะได้ปกครองในกรุงโรมแล้ว ได้แก่ วัดซานตา มารีอา อัดโดโลราต้า (วัดแม่พระมหาทุกข์) นั่นเอง ช่วงสายวันเสาร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงประกอบพิธีสถาปนาพระคาร์ดินัลใหม่ 20 องค์ ภายในมหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน หนึ่งในพระคาร์ดินัลใหม่นี้ ได้แก่ พระคาร์ดินัล ฟรังซิส เซเวียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช แห่งอัครสังฆมณฑลกรุงเทพ ประเทศไทย นอกจากนี้ พิธีนี้ สมเด็จพระสันตะปาปากิตติคุณ เบเนดิกต์ ที่ 16 ก็มาร่วมพิธีด้วย สำหรับบทเทศน์ประจำพิธีนี้ พระสันตะปาปาทรงกล่าวว่า "ตำแหน่งพระคาร์ดินัล แน่นอนมันคือเกียรติ แต่มันไม่ใช่เกียรติยศสูงศักดิ์ สิ่งนี้ เราเรียนรู้ได้จากชื่อของมันอยู่แล้ว คาร์ดินัลมาจากคำว่า 'cardo' (คาร์โด) แปลว่า บานพับ นี่ไม่ใช่เครื่องประดับ ไม่ใช่ของตกแต่งเหมือนกับช

โป๊ปฟรังซิส: "ลูกต้องเคารพและให้เกียรติพ่อแม่ของตนเอง"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอน ลูกต้องเคารพและให้เกียรติพ่อแม่ของตัวเอง ส่วนพ่อแม่ก็ต้องตระหนักถึงคุณค่าในตัวลูกของตน ทรงย้ำ การมีลูกมากไม่ใช่ข้ออ้างให้พ่อแม่มาพูดว่าไม่มีเวลาดูแลลูก ทรงแบ่งปัน คุณแม่ของพระองค์สอนเสมอว่า "ฉันมีลูก 5 คน ไม่มีใครเป็นคนโปรด แต่ทุกคนเป็นเหมือนนิ้วทั้ง 5 บนมือ นิ้วไหนถูกทำร้าย นิ้วอื่นๆ บนมือก็จะเจ็บไปด้วย"  ช่วงสายวันพุธที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงออกมาเทศน์สอนและพบปะสัตบุรุษในการเข้าเฝ้าทั่วไป ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน ความพิเศษของวันนี้คือยังตรงกับวันฉลองแม่พระเมืองลูร์ดด้วย ในส่วนหัวข้อการเทศน์สอนนั้น พระสันตะปาปาทรงเน้นเรื่องบทบาทของลูกในครอบครัว หลังจากสัปดาห์ก่อนๆ ทรงเน้นเรื่องความเป็นพ่อและความเป็นแม่ในครอบครัว พระสันตะปาปา ทรงเทศน์สอนว่า "เด็กเป็นคนที่ถูกรักเพราะความเป็นเด็ก ไม่ใช่เพราะพวกเขางดงาม ดูแข็งแรง หรือดูดี และก็ไม่ใช่เพราะว่าเด็กๆ คิดเหมือนเราหรือเด็กๆ มาเติมเต็มความฝันของเรา เด็กๆ คือความชื่นชมยินดีของครอบครัวและสังคม พวกเขาไม่ใช่ปัญหาจากชีววิทยาเรื่องการสืบพันธุ์ แต่เด็กๆ คือของข

วาติกันย้ำบทเทศน์ที่ดีต้องจับต้องได้และต้องไม่ใช่ให้โอวาทศีลธรรม

Image
ช่วงเที่ยงวันอังคารที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พระคาร์ดินัล โรเบิร์ต แซร่าห์ สมณมนตรีแห่งสมณกระทรวงพิธีกรรมและศีลศักดิ์สิทธิ์ และพระอัครสังฆราช อาเธอร์ ร็อช เลขาฯ สมณกระทรวงพิธีกรรมและศีลศักดิ์สิทธิ์ ได้ร่วมกันเป็นประธานในการแถลงข่าวเปิดตัวหนังสือสารบบการเตรียมเทศน์ (Homiletic Directory) ซึ่งภายในเป็นการชี้แนะแก่บรรดาพระสงฆ์และสังฆานุกรถึงการเตรียมเทศน์อย่างดี ผู้เทศน์ "ต้อง" เตรียมตัวมาอย่างดี บทเทศน์นั้นกระตุ้นให้สัตบุรุษอยากไตร่ตรองพระวรสาร ที่สำคัญ บทเทศน์ต้องไม่น่าเบื่อเกินไป บทสรุปของงานแถลงข่าวเปิดตัวหนังสือคู่มือนี้ มีดังนี้ - การเทศน์ไม่ใช่การให้โอวาทศีลธรรมบนหัวข้อที่จับต้องไม่ได้ - การเทศน์ไม่ใช่โอกาสให้พระสงฆ์หรือสังฆานุกร มาพูดสิ่งที่ไม่เกี่ยวกับพิธีบูชาขอบพระคุณ หรือใช้พระวาจามากล่าวโทษกัน ต้องไม่บิดเบือนคำสอนของพระศาสนจักร - การเทศน์ไม่ใช่แค่การตีความพระคัมภีร์แบบง่ายๆ การเทศน์ไม่ใช่โอกาสให้ผู้เทศน์มาเล่าถึงชีวิตตัวเอง และไม่ใช่การมาให้โอวาททางศีลธรรม - สัตบุรุษแสดงความกังวลต่อบทเทศน์มากๆ ดังนั้น พระศาสนจักรไม่สามารถเมินเฉยได้ - สัตบุรุษหลายคน "ตัดสิน"

โป๊ปฟรังซิส: "คริสตชนที่นั่งเฉยๆ หรือมัวแต่นั่งหน้าคอมฯ ไม่มีทางพบภาพลักษณ์ของพระเจ้า"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงย้ำ เราไม่มีวันพบภาพลักษณ์ของพระเจ้าและอัตลักษณ์การเป็นคริสตชน ถ้าเรายังมัวแต่นั่งเฉยๆ อย่างสุขสบาย รวมถึงมัวแต่นั่งเล่นคอมพิวเตอร์และอ่านอะไรไปเรื่อย เพราะการจะพบภาพลักษณ์ของพระเจ้า เราต้องก้าวออกไปตามท้องถนน ไปจาริกตามหนทางของพระองค์ ทรงชี้ อย่าเป็นคริสตชนนั่งๆ นอนๆ หรือเฉื่อยชาที่ชอบสร้างกฏขึ้นมาเอง แล้วมโนไปว่านี่คือพระเจ้า ดังเช่นพวกฟาริสีที่ต่อว่าพระเยซู เพราะศิษย์ของพระองค์ไม่ล้างมือก่อนกินอาหารตามพิธี ช่วงเช้าวันอังคารที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา บทอ่านวันนี้จากหนังสือปฐมกาล เป็นเหตุการณ์พระเจ้าทรงสร้างโลก เป็นตอนที่พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ตามภาพลักษณ์ของพระองค์ ส่วนพระวรสารวันนี้ เป็นเหตุการณ์ที่พวกฟาริสีและธรรมาจารย์ต่อว่าศิษย์พระเยซูที่กินอาหารโดยไม่ล้างมือตามพิธี พระสันตะปาปาทรงเทศน์แบ่งปันบทอ่านว่า "ถ้าคริสตชนต้องการที่จะรู้จักอัตลักษณ์ของตนเอง พวกเขาจะไม่มีวันพบอัตลักษณ์นี้ผ่านทางการนั่งบนโซาที่บ้านอย่างสุขสบาย และอ่านหนังสือแบบผ่านๆ เพราะหนังสือนี้ไม่ใช่แค็ตตาล็อกเกี่ยวกั

โป๊ปฟรังซิส: "เราต้องปกป้องสิ่งสร้างของพระเจ้า อย่าทำตัวเป็นเจ้านายสิ่งสร้างของพระเจ้า"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงย้ำ คริสตชนต้องปกป้องสิ่งสร้างของพระเจ้า พระเจ้าให้เราเป็นเจ้าของสิ่งสร้างเหล่านี้ แต่เราต้องอย่าเลยเถิดจนคิดว่าตัวเองเป็นเจ้านายสิ่งสร้างของพระองค์ ทรงชี้ นอกจากการสร้างโลกครั้งแรก การสร้างครั้งที่สองนั้นเกิดจากพระเยซู ผู้ทรงสร้างเราขึ้นใหม่ หลังจากบาปมาทำลายเรา พระองค์ทรงสร้างให้เรารู้จักการคืนดีกัน ช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา บทอ่านวันนี้จากหนังสือปฐมกาล เป็นเหตุการณ์พระเจ้าทรงสร้างโลก ส่วนพระวรสารวันนี้ เป็นเหตุการณ์ที่พระเยซูทรงนั่งเรือข้ามมายังฝั่งเยนเนซาเร็ธ และทรงรักษาคนป่วย (มก 6:53-56) พระสันตะปาปาทรงเทศน์แบ่งปันพระวรสารตอนนี้ว่า "พระเจ้าทรงสร้างโลก แต่การสร้างนี้ยังไม่สิ้นสุด พระเจ้ายังคงดำรงรักษาสิ่งที่พระองค์ทรงสร้างขึ้น ส่วนในพระวรสารวันนี้ เราได้เห็นการสร้างอีกประเภทหนึ่งที่พระเจ้าทรงทำ นั่นคือ พระเยซูเสด็จมาเพื่อสร้างสิ่งต่างๆ ขึ้นมาใหม่หลังจากถูกทำลายจากบาป "พระเจ้าทรงทำงานของพระองค์ และยังคงทำต่อไป พวกเราควรถามตัวเองว่า เราจะตอบสนองต่อการสร้างข

โป๊ปฟรังซิส: "เรายอมให้พระเยซูสอนหรือเปล่า หรือเราคิดว่าเรารู้หมดทุกเรื่องแล้ว"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถาม เรายอมให้พระเยซูสอนเราบ้างไหม หรือเราบอกพระองค์ว่า เรารู้ทุกเรื่องหมดแล้ว ไม่ต้องมาสอนอะไรอีก ทรงย้ำ อย่าให้ครอบครัวแตกสลายด้วยการทะเลาะกัน แต่จงสวดขอพระเยซูโปรดประทานพละกำลังที่จะให้อภัยกันในครอบครัวของเรา ช่วงเย็นวันอาทิตย์ที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส เสด็จไปเยี่ยมสัตบุรุษและถวายมิสซา ณ วัดซาน มิเคเล่ อาร์คันเจโล่ (วัดนักบุญไมเคิ่ล อัครเทวดา) กรุงโรม โดยก่อนจะมาถึง พระสันตะปาปาทรงทำเซอร์ไพรส์ด้วยการไปเยี่ยมชุมชนชาวยิปซี่ในกรุงโรม พร้อมแจกถุงนอน 100 ชุด ให้กับผู้เร่ร่อนชาวยิปซีด้วย ในส่วนบทเทศน์ประจำมิสซานี้ พระสันตะปาปาทรงเทศน์สอนแบบสดๆ จากใจไม่ได้อ่านจากสิ่งที่เตรียมมา พระองค์ตรัสว่า "พระเยซูตรัสสอนเราผ่านทางพระคัมภีร์ แต่พวกเราคาทอลิก ไม่ยอมหยิบพระคัมภีร์ขึ้นมาอ่านให้เป็นนิสัยกันใช่หรือไม่ ดังนั้น เราต้องเปลี่ยนนิสัยใหม่ เราต้องรู้จักหยิบพระวรสารขึ้นมาอ่านมารำพึง เพื่อจะได้ฟังเสียงของพระองค์ที่ตรัสกับเรา "ถามตัวเองดูซิว่า เรายอมให้พระเยซูเทศน์สอนเราหรือเปล่า หรือว่าเราปฏิเสธพระองค์ และพูดว่า เรารู้ทุุกอย่างอยู่แล้ว

โป๊ปฟรังซิส: "การดูแลรับใช้ผู้ป่วยเป็นพันธกิจที่พระศาสนจักรเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงชี้ การดูแลรับใช้ผู้ป่วยคือการดูแลรับใช้พระคริสตเจ้าเหมือนกัน ทรงย้ำ การดูแลผู้ป่วยเป็นพันธกิจที่พระศาสนจักรเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ ทรงกล่าวถึงวันภาวนาเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ และขอให้รัฐบาลทุกชาติร่วมกันกำจัดการค้ามนุษย์ให้หมดไป ช่วงเที่ยงวันอาทิตย์ที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงออกมานำสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าว ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน ท่ามกลางสัตบุรุษที่มาร่วมภาวนาเป็นจำนวนมาก โดยวันนี้ พระสันตะปาปาทรงแบ่งปันพระวรสาร เหตุการณ์ที่พระเยซูทรงรักษาแม่ยายของนักบุญเปโตร (มก 1:29-39) พระสันตะปาปาตรัสแบ่งปันพระวรสารตอนนี้ว่า "วันนี้ พ่ออยากกล่าวถึงความหมายของการเจ็บป่วยและวันผู้ป่วยสากล ซึ่งเราจะจัดกันในวันพุธที่ 11 กุมภาพันธ์นี้ โอกาสฉลองแม่พระเมืองลูร์ด "พ่อขอเน้นย้ำว่า การดูแลผู้ป่วยเป็นสิ่งที่พระศาสนจักรให้ความเอาใจใส่อยู่เสมอและนี่เป็นส่วนหนึ่งของพันธกิจในพระศาสนจักรด้วย การดูแลผู้ป่วยคือการต้อนรับพวกเขา รับใช้พวกเขา และนี่คือการรับใช้พระคริสตเจ้าเช่นเดียวกัน ดังนั้น พวกเราทุกคนถูกเรียกมาเพื่อนำความสว่างแห่

โป๊ปฟรังซิส: "ต้องส่งเสริมสตรีให้มีบทบาทเต็มที่ในพระศาสนจักร"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงย้ำ สตรีต้องได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนในการทำงานให้พระศาสนจักร สิ่งนี้คือเรื่องเร่งด่วนและต้องไม่ถูกผลัดวันไปเรื่อยๆ ทรงชี้ บทบาทสำคัญสุดของสตรีในครอบครัวต้องไม่ถูกมองข้าม ส่วนเรื่องงานทางโลก สตรีก็ต้องได้รับการส่งเสริมด้วยเช่นกัน ช่วงสายวันเสาร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงต้อนรับสมาชิกของสมณสภาเพื่อวัฒนธรรมที่มาเข้าเฝ้าในวาติกัน โดยทั้งหมดได้มาประชุมกันที่กรุงโรม ภายใต้หัวข้อ "วัฒนธรรมของสตรี: ความเท่าเทียมกันและความแตกต่าง" โอกาสนี้ พระสันตะปาปา ตรัสกับบรรดาสตรีเหล่านี้ว่า "การมีส่วนร่วมอย่างแพร่หลายและหลักแหลมของบรรดาสตรีในพระศาสนจักร จัดเป็นเรื่องน่ายินดีเป็นอย่างมาก ตามที่เราได้เห็นสตรีจำนวนมากมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบงานอภิบาล ในการเป็นส่วนเต็มเติมของทั้งตัวบุคคล ครอบครัว และกลุ่มองค์กรต่างๆ เช่นเดียวกับในการแบ่งปันเทวศาสตร์ "พ่อเชื่อว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนมากๆ ที่ต้องมีการจัดเตรียมที่ว่างเพื่อสตรีในชีวิตของพระศาสนจักร พ่อคำนึงถึงวัฒนธรรมที่เฉพาะเจาะจงและเปลี่ยนแปลงไป รวมถึงความอ่อนไหวทางสังคม ... มันจึง

โป๊ปฟรังซิส: "พ่อจะทำทุกทางเพื่อกำจัดปัญหาล่วงละเมิดทางเพศผู้เยาว์ในพระศาสนจักร"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงย้ำ พระองค์จะทำทุกทางเพื่อให้การล่วงละเมิดทางเพศต่อผู้เยาว์หมดไปจากพระศาสนจักร ทรงเตือนสงฆ์ที่ก่อคดี พระศาสนจักรไม่มีที่ว่างให้กับสงฆ์ที่ล่วงละเมิดทางเพศต่อผู้เยาว์แน่นอน ทรงชี้ เป็นความรับผิดชอบของพระสังฆราชรวมถึงอธิการเจ้าคณะนักบวชที่ต้องสืบสวนหาความจริง และต้องออกไปพบผู้ที่ถูกล่วงละเมิด เพื่อรับฟังความทุกข์ และต้องไปขอโทษพวกเขาด้วย สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงส่งจดหมายถึงสภาพระสังฆราชคาทอลิกทั่วโลก รวมไปถึงอธิการเจ้าคณะนักบวชทุกคณะ เพื่อแจ้งถึงการจัดตั้ง "คณะกรรมการเพื่อปกป้องผู้เยาว์" (Pontifical Commission for the Protection of Minors) โดยวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาแนวทางและหาทางปกป้องเด็กรวมไปถึงผู้ใหญ่จากการถูกล่วงละเมิดในพระศาสนจักร พระสันตะปาปาทรงกล่าวว่า เดือนกรกฏาคม 2014 พระองค์ได้พบกับผู้บริสุทธิ์ที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศจากบรรดาสงฆ์ พระองค์ยืนยันว่า จะทำทุกทางเท่าที่จะทำได้เพื่อกำจัดการล่วงละเมิดทางเพศต่อผู้เยาว์ให้หมดไปจากพระศาสนจักรให้ได้ และยังเพื่อเป็นการปูทางสู่การคืนดีและเยียวยารักษาผู้ที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศด้วย พระสันตะปาปายังทรงหวั

โป๊ปฟรังซิส: "ขอให้เราระลึกถึงมรณสักขีในยุคนี้ ค.ศ.2015"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเชิญชวนทุกคนคิดถึงบรรดามรณสักขีในยุคนี้ ค.ศ.2015 คิดถึงคริสตชนที่ถูกฆ่าตายเพราะความเกลียดชังทางความเชื่อในพระเจ้า ถูกเบียดเบียนข่มเหง ถูกทรมาน และถูกขับไล่ออกจากบ้านเกิดของตน  ช่วงเช้าวันศุกร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา พระวรสารวันนี้ เป็นเหตุการณ์ที่นักบุญจอห์น บัปติสต์ ถูกประหารชีวิตด้วยการตัดศีรษะ (มก 6:14-29) นี่คือการฆ่าเพราะความเกลียดชังทางความเชื่อในพระเจ้า พระสันตะปาปาทรงเทศน์แบ่งปันว่า "จอห์น บัปติสต์ ไม่เคยทรยศต่อกระแสเรียกของตนเอง ท่านตระหนักเสมอถึงหน้าที่ของตัวเองว่า มีเพียงแค่การประกาศพระเมสสิยาห์เสด็จมาใกล้แล้ว จอห์น บัปติสต์ รู้ว่าท่านเป็นเพียงแค่เสียง(ในถิ่นทุรกันดาร) เพราะพระวาจาของพระเจ้าคือผู้ที่แตกต่างจากคนอื่น จอห์น บัปติสต์ ก็จบชีวิตลงเหมือนพระเยซูด้วยการเป็นมรณสักขี "เมื่อจอห์นต้องถูกจองจำในคุกด้วยน้ำมือของกษัตริย์เฮร็อด สิ่งแรกเลย จอห์นทนทุกข์ด้วยค่ำคืนอันมืดมิดของจิตวิญญาณของตนเอง ท่านเกิดความสงสัยว่าพระเยซูคือผู้ที่ตัวเองได้มาเตรียมทางไว้ให้ใช่ไหม แล้วท

โป๊ปฟรังซิสใช้ กูเกิ้ล แฮงเอ้าท์ คุยและสอนเด็กๆ

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงใช้ กูเกิ้ล แฮงค์เอ้าท์ คุยกับเด็กๆ พร้อมสอนพวกเขาว่า เราทุกคนมีของดีอยู่ในตัว ของดีนี้จะมีค่าก็ต่อเมื่อเรารู้จักแบ่งปันให้ผู้อื่น ไม่ใช่เก็บไว้กับตัวเพียงคนเดียว ทรงสอน เวลาเจอปัญหายากๆ จงทำใจนิ่งๆ คิดแก้ปัญหาทีละก้าว จำไว้ เรามีความสามารถที่จะเอาชนะปัญหาแน่นอน ทรงยอมรับ พระองค์เป็นไดโนเสาร์มากๆกับการใช้คอมพิวเตอร์  ช่วงเย็นวันพฤหัสบดีที่ 5 กุมภาพันธ์ที่่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงร่วมสนทนาผ่าน "กูเกิ้ล แฮงค์เอ้าท์" กับเด็กๆ ผู้พิการ 7 คน ในโครงการ "สกอลัส อ็อกกูเรนเตส" หน่วยงานการกุศลที่นำเยาวชนทุกคนมาศึกษาหาความรู้ผ่านทางกีฬา, ศิลปะ และเทคโนโลยี โดยหนึ่งในสปอนเซอร์หลักของการสนทนาในวันนี้คือ "เอฟซี บาร์เซโลน่า" ยอดทีมจากลา ลีกา ของสเปน ส่วนเด็กๆ ที่มาสนทนากับพระสันตะปาปานั้น มาจากสเปน, บราซิล, อาร์เจนตินา, อินเดีย และสหรัฐอเมริกา เด็กคนแรกที่คุยกับพระสันตะปาปา ได้แก่ "อิซาเบล" เยาวชนหญิงที่พิการทางสายตา วัย 13 ปี จากกรุงมาดริด ประเทศสเปน อิซาเบลได้แบ่งปันให้พระสันตะปาปาทราบเกี่ยวกับประสบการณ์การใช้คอมพิวเ

โป๊ปฟรังซิส: "เวลาประกาศพระวรสาร อย่าลืมความยากจน ไม่งั้น เราจะกลายเป็นเอ็นจีโอ"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเตือน เวลาประกาศพระวรสาร อย่าลืมจิตตารมย์แห่งความยากจน เพราะนี่คือตราประทับของการเป็นศิษย์พระเยซู ทรงชี้ พวกที่ประกาศพระวรสารแล้วไปตั้งความหวังกับวิธีต่างๆ ตามประสามนุษย์ คนพวกนี้จะทำให้พระศาสนจักรค่อยๆ กลายเป็น "เอ็นจีโอ" เป็นองค์กรสวยๆ ทรงอำนาจ แต่ไร้จิตตารมย์ประกาศพระวรสาร ทรงยืนยัน ต้องการให้พระศาสนจักรเป็น "โรงพยาบาลสนาม" เป็นที่รักษาคนเจ็บป่วยที่รอการรักษาจากพระคริสตเจ้า ช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา พระวรสารวันนี้ เป็นเหตุการณ์ที่พระเยซูทรงส่งเรียกอัครสาวก 12 คนมาพบ แบ่งเขาออกเป็นคู่ๆ ทรงกำชับไม่ให้นำสิ่งของติดตัวไป จากนั้น ทรงส่งพวกเขาออกไปตามบ้านต่างๆ ถ้าเข้าบ้านใด จงพักบ้านนั้นจนกว่าจะออกเดินทาง ถ้าบ้านไหนไม่ต้อนรับ จงออกมาและสลัดฝุ่นจากเท้าไว้เป็นพยาน บรรดาอัครสาวกได้ไปเทศน์สอนคนจำนวนมากให้กลับใจ พร้อมรักษาโรคร้าย และขับไล่ปีศาจจำนวนมากด้วย พระสันตะปาปา ทรงเทศน์แบ่งปันพระวรสารตอนนี้ว่า "มีผู้บาดเจ็บจำนวนมากที่เฝ้ารอตามทางเดินของพระศาสนจ

โป๊ปฟรังซิส: "พ่อต้องสอนและลงโทษลูกเมื่อทำผิด แต่ต้องไม่ตบหน้าลูกของตัวเอง"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอน พ่อที่ดีจะสอนและลงโทษลูกเมื่อทำผิด เพื่อให้ลูกสำนึกและปรับปรุงตัว อย่างไรก็ตาม พ่อที่ดีจะไม่ลงโทษลูกด้วยการ "ตบหน้า" เพราะนี่คือการไม่เคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่มีอยู่ในตัวลูก   ช่วงสายวันพุธที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงออกมาพบปะและเทศน์สอนสัตบุรุษในการเข้าเฝ้าทั่วไป ภายในหอประชุมเปาโล ที่ 6 นครรัฐวาติกัน วันนี้ พระสันตะปาปายังสอนเรื่องครอบครัว โดยเน้นย้ำเป็นพิเศษเกี่ยวกับ "บทบาทของพ่อที่ดี" พระสันตะปาปา ตรัสว่า "ในหนังสือสุภาษิต ได้กล่าวถึงความชื่นชมยินดีและความภูมิใจที่คนเป็นพ่อรู้สึก เมื่อได้เห็นลูกๆ ของตนเจริญเติบโตในปรีชาญาณและความถูกต้องยุติธรรม พ่อจึงอยากสรุปถึงบทบาทที่ไม่สามารถแยกออกได้จากความเป็นพ่อในครอบครัวและในสังคม "พ่อที่ดีต้องฝึกจิตใจของตนเอง เพื่อจะได้ติดตามดูลูกๆ ของตนอย่างอดทนในด้านการเจริญเติบโตทางด้านความเป็นผู้ใหญ่ คนเป็นพ่อต้องสอนลูกๆ ด้วยการเป็นแบบอย่างแห่งความรักและความซื่อตรง สังคมทุกวันนี้ บทบาทความเป็นพ่อได้ขาดหายไป  มันสำคัญมากๆ สำหรับคนเป็นพ่อที่จะต้องอยู่กับครอบค

โป๊ปฟรังซิส: "สละเวลา 15 นาทีเพื่อสวดภาวนา ตาจะได้ไม่จ้องแต่ละคร และหูจะได้เว้นจากการฟังคำนินทา"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงแนะ เวลาอยู่บ้าน คริสตชนควรสละเวลา 15 นาทีเพื่อหยิบพระวรสารขึ้นมาอ่าน แล้วรำพึงแบบเพ่งพินิจไปที่พระเยซู จินตนาการว่าถ้าเราอยู่ในเหตุการณ์พระวรสารที่อ่านอยู่ พระเยซูจะพูดอะไรกับเรา ทรงชี้ เราควรสละเวลาเพื่อภาวนาแบบนี้ เพื่อที่สายตาของเราจะได้มองที่พระเยซูบ้าง ไม่ใช่ดูแต่ละครโทรทัศน์ และหูของเราจะได้ฟังเสียงพระเจ้าบ้าง ไม่ใช่ฟังแต่เสียงนินทาชาวบ้าน ช่วงเช้าวันอังคารที่ 3 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา บทอ่านวันนี้จากจดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวฮีบรู (ฮบ 12:1-4) นักบุญเปาโลทรงขอให้ทุกคนเพ่งมองไปที่พระเยซู ขอให้คิดถึงพระองค์ที่อดทนต่อการคัดค้านของคนบาป เพื่อที่พวกเราจะได้ไม่หมดกำลังใจในการต่อสู้กับบาป เพราะการสู้กับบาปนั้น เราไม่ต้องหลั่งเลือดแต่อย่างใด พระสันตะปาปา ตรัสว่า "ขอให้เรามองไปที่พระเยซูผู้ทรงเป็นความหวังของเรา ถ้าเราไม่ฟังเสียงของพระเจ้า พวกเราอาจจะเป็นคนมองโลกแง่ดี แต่เราจะไม่มีความหวังที่เราได้เรียนรู้จากการเพ่งมองไปที่พระคริสตเจ้า มันเป็นการดีที่เราสวดสายประคำทุกวัน เป็นการดีที่เราพู

โป๊ปฟรังซิส: "ความก้าวหน้าของสงฆ์และนักบวชคือการถ่อมตัวลงรับใช้ผู้อื่น"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงย้ำ ความก้าวหน้าของพระสงฆ์และนักบวชคือการถ่อมตัวลงเพื่อรับใช้ผู้อื่นเหมือนที่พระเยซูทำให้เห็น ทรงชี้ พระเยซูไม่เคยคิดว่าการเป็นพระเจ้าต้องได้รับสิทธิพิเศษ ดังนั้น พระสงฆ์นักบวชก็อย่าคิดทำเช่นกัน ทรงเตือน การดำเนินชีวิตสงฆ์แบบเลื่อนลอย จัดเป็นการดูถูกเย้ยหยันชีวิตนักบวช เพราะชีวิตสงฆ์และนักบวชแบบเลื่อนลอยคือชีวิตที่ไม่เสียสละ ทั้งยังทำตัวนบนอบแบบปราศจากความวางใจกันด้วย ช่วงเย็นวันจันทร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาในมหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน โอกาสวันฉลองการถวายพระกุมารในพระวิหาร พร้อมเสกเทียน และยังเป็นมิสซาฉลองวันนักบวชด้วย มิสซานี้ พระสันตะปาปาทรงเทศน์สอนบรรดานักบวชว่า "การประยุกต์กฏเกณฑ์ต่างๆ ให้เป็นไปตามกาลเวลาจัดเป็นงานของปรีชาญาณ อย่างไรก็ตาม พระวรสารเป็นหลักเกณฑ์ที่ไม่สามารถมีอะไรมาแทนที่ได้ สมณะที่ดีต้องสุภาพถ่อมตนต่อพระประสงค์ของพระเจ้า พระเยซูไม่ได้เสด็จมาในโลกนี้เพื่อทำตามพระประสงค์ของพระองค์ แต่มาเพื่อทำตามพระประสงค์ของพระบิดา ดังนั้น ใครก็ตามที่ติดตามพระเยซู ก็เลือกทางเดินแห่งความนบนอบ ถ่อมตนลง และทำตา

โป๊ปฟรังซิส: "พ่อจะเยือนกรุงซาราเยโว ประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวีน่า วันที่ 6 มิ.ย."

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงประกาศ พระองค์จะเสด็จเยือนกรุงซาราเยโว ประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวีน่า แบบไปเช้า-เย็นกลับ ในวันเสาร์ที่ 6 มิถุนายน 2015 นอกจากนี้ ทรงแบ่งปันพระวรสาร คำสอนของพระเยซูไม่ได้กดขี่ประชาชน ตรงกันข้าม ปลดปล่อยพวกเขาใหเป็นอิสระจากบาปและจิตตารมย์ทางโลก ช่วงเที่ยงวันอาทิตย์ที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงนำสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าว ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน ท่ามกลางสัตบุรุษที่มาร่วมภาวนากว่า 40,000 คน โดยวันนี้ พระสันตะปาปาทรงแจ้งให้ทุกคนทราบว่า พระองค์จะเสด็จเยือนกรุงซาราเยโว ประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวีน่า พระสันตะปาปา ตรัสว่า "เป็นพระประสงค์ของพระเจ้า พ่อจึงอยากแจ้งให้ทุกคนทราบว่า วันเสาร์ที่ 6 มิถุนายน พ่อจะเดินทางไปกรุงซาราเยโว เมืองหลวงของประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวีน่า พ่อจึงอยากขอคำภาวนาจากพวกท่านสำหรับการเดินทางไปเยือนแบบไปเช้าเย็นกลับนี้ด้วย เช่นเดียวกัน ขอคำภาวนาเพื่อการพัฒนาประเทศและความเป็นหนึ่งเดียวกันของพี่น้องในบอสเนียและเฮอร์เซโกวีน่าด้วย" ทั้งนี้ ประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวีน่า เคยเป็นส่วนหนึ่งของประเทศยูโกสลาเวี