Posts

Showing posts from January, 2014

โป๊ปฟรังซิส: "พ่อแม่ควรนำลูกๆไปรับศีลกำลังด้วย ไม่ใช่ให้รับศีลล้างบาปอย่างเดียว"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงขอร้องพ่อแม่ผู้ปกครอง จงนำลูกๆไปรับศีลกำลังด้วย ไม่ใช่ปล่อยให้รับศีลล้างบาปอย่างเดียว แล้วก็ปล่อยเขาไปแบบไม่สนใจอะไร ทรงย้ำศีลกำลังจะทำให้เราผูกพันอย่างสมบูรณ์กับพระศาสนจักร ช่วงสายวันพุธที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในการเข้าเฝ้าทั่วไป ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน ท่ามกลางสัตบุรุษที่มาร่วมกว่า 50,000 คน โดยวันนี้ พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า: - พี่น้องที่รัก วันนี้พ่อยังคงแบ่งปันเรื่องศีลศักดิ์สิทธิ์ทั้งเจ็ด โดยวันนี้พ่อขอเน้นที่เรื่อง "ศีลกำลัง" - นี่คือศีลที่ยืนยันเราว่าอยู่ในพระหรรษทานแห่งศีลล้างบาปที่เราได้รับ ศีลกำลังรวมเราให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นกับพระคริสตเจ้า ศีลกำลังช่วยให้เราได้ผูกพันอย่างสมบูรณ์กับพระศาสนจักร และช่วยเราให้มีพละกำลังพิเศษจากพระจิต เพื่อให้เรามีแรงประกาศพระวรสารและปกป้องความเชื่อของพระเจ้า - ผลงานของพระจิตในชีวิตของเราได้ถูกสะท้อนออกมาในพระคุณ 7 ประการของพระจิต นั่นคือ 1) ปรีชาญาณ, 2) สติปัญญา, 3) ความคิดอ่าน, 4) พละกำลัง, 5) ความรู้, 6) ความศรัทธา และ 7) ความยำเกรงพระ

โป๊ปฟรังซิส: "จงสวดภานาสรรเสริญพระเจ้าบ้างนะ"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงเปรียบ เวลาดูบอล ทีมโปรดยิงเข้าเราโห่ร้องดีใจ แต่ทำไมพระเจ้าทำให้เราพบสิ่งดีๆ เรากลับไม่โห่ร้องสรรเสริญพระองค์ ทรงย้ำ การสวดขอพระเจ้าและสวดขอบคุณพระเจ้า เป็นเรื่องเข้าใจง่ายมาก แต่การสวดสรรเสริญพระเจ้า เรากลับทำกันไม่เป็นซะงั้น ช่วงเช้าวันอังคารที่ 28 มกราคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา มิสซานี้ พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า: - พี่น้องที่รัก วันนี้พ่อยังขอแบ่งปันแบบต่อเนื่องจากหนังสือซามูเอล ในบทอ่านวันนี้ เราได้เห็นว่า "กษัตริย์เดวิดได้เต้นรำสุดความสามารถต่อหน้าพระเจ้า" และเราได้เห็นว่าประชากรอิสราเอลฉลองกันสุดๆ เพราะพวกหีบของพระเจ้าได้กลับมาสู่ชาวอิสราเอล นอกจากนี้ กษัตริย์เดวิดได้ภาวนาขอบคุณพระเจ้า โห่ร้องด้วยความยินดี และเป่าแตรสรรเสริญพระเจ้า - พระคัมภีร์ตอนนี้ชวนให้พ่อคิดถึงเหตุการณ์ที่นางซาร่าห์ ภรรยาของอับราฮัม ซึ่งให้กำเนิดบุตรชายอิสอัคตอนที่ตนอายุมากแล้ว เธอก็ลุกขึ้นเต้นรำสรรเสริญพระเจ้าเพราะพระองค์นำความชื่นชมยินดีมาให้กับเธอ - มันเป็นเรื่องง่ายมากที่จะทำความเข้าใจกั

โป๊ปฟรังซิส: "สังฆราชหรือสงฆ์ทำผิดคนเดียว ส่งเสียงดังกว่าการที่มีพระสงฆ์เพิ่มขึ้นจำนวนมาก"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงเปรียบ สังฆราชหรือสงฆ์ทำผิดคนเดียว ส่งเสียงดังกว่าการที่มีพระสงฆ์เพิ่มขึ้นจำนวนมาก ทรงย้ำ พระองค์ตามข่าวพระสังฆราชและพระสงฆ์ที่เป็นข่าวในหนังสือพิมพ์เสมอๆ และหนังสือพิมพ์ไม่รายงานข่าวพระสงฆ์ทำดีหรอก แต่จ้องรายงานข่าวเชิงลบเป็นหลัก ดังนั้น เราต้องสวดภาวนาให้พระสังฆราชและพระสงฆ์ให้สมกับเป็น "ผู้ได้รับการเจิม" และเลือกจากพระเจ้า ช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา มิสซานี้ พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า: - ในบทอ่านจากหนังสือซามูเอล (2 ซมอ 5:1-7,10) เราได้เห็นการกล่าวถึงการเจิมเดวิดขึ้นเป็นกษัตริย์ การเจิมเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะถ้าไม่มีการเจิม เดวิดจะเป็นกษัตริย์แค่ศีรษะ เขาจะเป็นกษัตริย์ของอาณาจักรอิสราเอล เขาจะเป็นแค่ผู้นำทางการเมือง แต่เมื่อเขาได้รับการเจิม พระจิตของพระเจ้าจะเจ้าเสด็จมาเหนือเดวิดและสถิตย์อยู่กับเขา พระคัมภีร์ก็ระบุชัดเจนว่า เดวิดจะมีอำนาจยิ่งขึ้นและพระเจ้าจะอยู่กับเขา นี่แหละคือความแตกต่างของการได้รับการเจิมขึ้นเป็นกษัตริย์และเป็นบุคคลที่ได

ได้เวลาออกไปตามท้องถนนตามที่โป๊ปฟรังซิสสอน

Image
หลายคนถามว่า ทำไม Pope Report ลุยทำข่าวพระสันตะปาปาในหลายช่องทาง ทั้ง Facebook, Twitter และ Instagram  คำตอบคือได้แรงกระตุ้นจาก สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ที่สอนว่า "จงเป็นชาวสะมาเรียผู้ใจดีบนโลกดิจิตอล" และ "จงออกไปประกาศพระวรสารตามท้องถนน" การประกาศพระวรสารตามท้องถนนในบทบาทของผมคือประกาศบนถนนสาย "โซเชี่ยล มีเดีย" นี่แหละ ถนนมีหลายสายทั้ง FB, Twitter and IG ดังนั้น ผมจะเดินให้ครบทุกสาย (ประกอบกับทำงานวงการดิจิตอลอยู่แล้ว ผมคิดว่า ผมได้นำความรู้ความสามารถที่ทำงานอยู่มาใช้ในการวาง "ยุทธศาสตร์" ให้กับ Pope Report ด้วย) การบาดเจ็บจากการประกาศพระวรสารบนถนนโซเชี่ยล มีเดีย หมายถึงอาจเพิ่มงานมากขึ้น (กลางวันทำงานออฟฟิศ กลางคืนทำงานข่าวพระสันตะปาปา) และอาจถูกคอมเมนต์จากพวกที่มีอคติ แต่พระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงอยากให้เป็นเช่นนั้น ดังนั้น ถนนสายโซเชี่ยล มีเดีย ที่ Pope Report เดินคือ FB: www.facebook.com/popereport Twitter: @PopeReport IG: @PopeReport ใครมีช่องทางไหน ก็สามารถติดตามได้จากช่องทางนั้นครับ

โป๊ปฟรังซิส: "ยุคนั้นพระเยซูตามหาศิษย์ที่ทะเลสาบกาลิลี ยุคนี้พระองค์ตามหาศิษย์ตามท้องถนน"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงย้ำ สมัยก่อนพระเยซูออกตามหาศิษย์กลุ่มแรกที่ทะเลสาบกาลิลี ส่วนสมัยนี้ พระองค์เดินตามหาศิษย์ติดตามพระองค์ตามท้องถนน ดังนั้น จงอย่าลังเลที่จะตอบรับและติดตามพระองค์ พร้อมกันนี้ ทรงขอร้องมาเฟียที่ฆ่า "ด.ช.โคโค่" วัย 3 ขวบที่ให้สำนึกผิดและกลับใจ หลังจับเด็กน้อยคนนี้เผาทั้งเป็น เนื่องจากคุณลุงของโคโค่ติดหนี้แก๊งค์ค้ายาเสพติด ช่วงเที่ยงวันอาทิตย์ที่ 26 มกราคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในการสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าว ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน ท่ามกลางสัตบุรุษที่มาร่วมกว่า 75,000 คน โดยวันนี้ พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า: - พระวรสารวันนี้ เป็นเหตุการณ์ที่ทะเลสาบกาลิลี พระเยซูทรงเริ่มต้นพันธกิจของพระองค์ ณ ดินแดนที่เป็นชายแดนและเป็นท่าสำหรับเดินทาง กาลิลีเป็นดินแดนที่มีคนหลายเผ่าพันธุ์ หลายวัฒนธรรม และหลายศาสนามาพบกัน กาลิลีในวันนั้นก็เหมือนกับโลกเราทุกวันนี้นี่แหละ โลกที่เปี่ยมด้วยวัฒนธรรมอันหลากหลายที่เราต้องเผชิญกับมัน - พระเยซูทรงเลือกศิษย์ให้มาติดตามพระองค์ด้วยการเรียกคนที่เรียบง่าย เรียกพวกชาวประมงจับปลาให้ม

โป๊ปฟรังซิส: "ความแตกแยกในกลุ่มคริสตชนทำลายความน่าเชื่อถือของเราเอง"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงชี้ ความแตกแยกในกลุ่มคริสตชนทำลายความน่าเชื่อถือของการเป็นประจักษ์พยานถึงพระวรสาร ทรงยกย่อง "บุญราศี จอห์น ที่ 23 และ บุญราศี จอห์น ปอล ที่ 2" เป็นผู้ทำงานหนักเพื่องานคริสตศาสนสัมพันธ์มาโดยตลอด จนงานนี้เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตพระศาสนจักรไปแล้ว ช่วงเย็นวันเสาร์ที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในการสวดทำวัตรเย็น โอกาสวันฉลองนักบุญเปาโลกลับใจและยังเป็นวันปิดสัปดาห์ภาวนาเพื่อเอกภาพคริสตชน พิธีนี้ จัดในมหาวิหารนักบุญเปาโล นอกกำแพงกรุงโรม พิธีนี้ มีผู้แทนจากพระศาสนจักรออโธด็อกซ์และแองกลิกันมาร่วมพิธีด้วย ในส่วนของบทเทศน์ประจำพิธี พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า: - ในจดหมายนักบุญเปาโลถึงชาวโครินธ์ ฉบับที่หนึ่ง ท่านถามคริสตชนที่นั่นว่า "มีการแตกแยกในองค์พระคริสตเจ้าหรือ" (1 โครินธ์ 1:13) เพราะพวกเขาต่างอ้างตัวว่าเป็นพวกของเปาโล พวกของเคฟาส หรือพวกของอพอลโล่ - ท่ามกลางความแตกแยกนี้ เปาโลขอร้องคริสตชนที่โครินธ์ผ่านทางพระนามของพระเยซูคริสต์พระเจ้าของเรา เพื่อที่ว่า ความแตกแยกจะไม่เกิดอีกในหมู่พวกเขา อย่างไรก็

โป๊ปโทรหาสตรีที่ลูกสาวถูกฆาตกรรมพร้อมเชิญมาพบที่วาติกัน

Image
"คอร์ริเอเร่ เดลล่า เซร่า" หนังสือพิมพ์ชื่อดังของอิตาลี รายงานว่า สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงโทรศัพท์ไปหา ฟิโลเมน่า คลัปส์ สตรีชาวอิตาเลี่ยนที่เขียนจดหมายมาหาพระสันตะปาปา เพื่อบอกเล่าความทุกข์ถึงเหตุที่ เอลิซ่า คลัปส์ ลูกสาวถูกฆาตกรรมและนำศพไปเก็บไว้ห้องใต้หลังคาของวัดคาทอลิกเมืองโปเตนซ่า จนทำให้เธอสิ้นหวังและละทิ้งความเชื่อ ทางด้าน พระสันตะปาปาทรงสัญญาว่า จะช่วยเหลือให้ความจริงปรากฏ ทั้งยังเชิญเธอมาพบที่วาติกันด้วย เอลิซ่า คลัปส์ หายตัวไปตั้งแต่ ค.ศ.1993 ขณะอายุ 16 ปี และเมื่อปี 2010 ศพของเธอก็ถูกพบที่ห้องใต้หลังคาวัดคาทอลิก คดีนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวชายหนุ่มผู้ทำผิดได้ตั้งแต่ปี 1993 และชายคนนั้นถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต กระนั้น ครอบครัวคลัปส์ ยังคาใจว่าทำไมศพของลูกสาวถึงถูกพบอยู่ที่หลังคาวัดคาทอลิก และสงสัยว่า เจ้าอาวาสในตอนนั้นมีส่วนรู้เห็นเป็นใจด้วย (เจ้าอาวาสเสียชีวิตแล้ว) ครอบครัวคลัปส์ได้ทำหนังสือถามไปยังพระสังฆราชประจำสังฆมณฑล แต่ก็ไม่ได้รับการตอบสนองที่น่าพอใจ ที่สุดแล้ว ฟิโลเมน่า ผู้เป็นมารดา จึงทูลเรื่องนี้กับพระสันตะปาปาผ่านทางโทรศัพท์ พระสันตะปาปาสัญญาว่า

โป๊ปฟรังซิส: "ความสุภาพถ่อมตนสำคัญสุดในการคืนดีกัน"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงย้ำ สิ่งสำคัญสุดในการเจรจาคืนดีกันคือความสุภาพถ่อมตน ไม่ใช่ความโอหังหยิ่งยะโสในสิ่งที่ตัวเองเป็น พร้อมชี้ ถ้ากำแพงของความขุ่นเคืองใจสูงขึ้นเรื่อยๆ การเสวนาคืนดีก็ทำได้ยากขึ้นเช่นกัน  ช่วงเช้าวันศุกร์ที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา มิสซานี้ พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า: - ในบทอ่านจากหนังซือซามูเอล (1 ซมอ 24:2-21) เราได้เห็นแล้วว่า เดวิดมีจังหวะที่สามารถลงมือฆ่ากษัตริย์ซาอูลได้ แต่เดวิดไม่ทำ เขาเลือกที่จะมาพูดคุยเสวนาลดความขัดแย้งของกันและกัน เราคริสตชนก็เช่นกัน เราต้องเดินตามแนวทางของการคืนดีให้อภัยกัน เพราะพระเยซูทรงสอนและแสดงให้เราเห็นถึงแนวทางของการให้อภัย - ในการเสวนาพูดจาคืนดีกัน สิ่งสำคัญสุดคือเราต้องสุภาพและนอบน้อม แม้เราจะเพิ่งผ่านการโต้แย้งกันมาก็ตาม มันสำคัญจริงๆที่เราต้องศิโรราบให้กับความยืนหยุ่น อย่ายึดมั่นแต่ความคิดตัวเองเพียงอย่างเดียว - อย่างไรก็ตาม มันไม่ง่ายนักที่จะสร้างการเสวนา เฉพาะอย่างยิ่งเรายังแตกแยกด้วยเหตุขุ่นเคืองใจกัน มันไม่มีเขียนในพระคัมภีร์ก็จริง แ

โป๊ปฟรังซิส: "คริสตชนแตกหักกันเพราะความอิจฉาและนินทากัน"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงชี้ กลุ่มคริสตชนมักแตกแยกเพราะความอิจฉาและซุบซิบนินทา ทรงย้ำ สังคมใดที่มีแต่ความอิจฉาริษยา สังคมนั้นจะพบกับคือความแตกแยกเสมอ เพราะนี่คือยาพิษร้ายที่เราพบได้ในพระคัมภีร์พันธสัญญาเดิมตั้งแต่สมัย "กาอิน" ฆ่า "อาเบล" ช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ 23 มกราคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา มิสซานี้ พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า: - ในบทอ่านประจำวันนี้จากหนังสือซามูเอล (1 ซมอ 18:6-9;19:1-7) เราได้เห็นชัยชนะของชาวอิสราเอลเหนือชาวฟิลิสเตีย ซึ่งทั้งหมดต้องขอบคุณความกล้าหาญของชายหนุ่มนามว่า "เดวิด" - อย่างไรก็ตาม ชัยชนะและความชื่นชมยินดีครั้งนี้ของกษัตริย์ซาอูล ถูกแปรเปลี่ยนเป็นความอิจฉาริษยา เพียงเพราะตัวเองได้ยินบรรดาผู้หญิงร้องเพลงสรรเสริญเดวิดที่ฆ่าโกไลแอ็ธ - ความรู้สึกของกษัตริย์ซาอูลเหมือนกับตอนที่ "กาอิน" ลงมือฆ่า "อาเบล" ทุกอย่างเกิดจากความอิจฉาริษยา กษัตริย์ซาอูลจึงต้องการฆ่าเดวิด นี่แหละคือความอิจฉาในจิตใจของเรา - ความอิจฉาริษยานำไปสู่การฆาตกรรม มันค

โป๊ปฟรังซิส: "จงเป็นชาวสะมาเรียผู้ใจดีบนโลกดิจิตอล"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงออกสารวันสื่อมวลชนสากล พร้อมกระตุ้นคริสตชนต้องเป็นเหมือนชาวสะมาเรียผู้ใจดีในโลกดิจิตอล ซึ่งออกไปช่วยผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือบนโลกออนไลน์ ทรงย้ำ โซเชี่ยล มีเดีย จะมีบทบาทสำคัญในการประกาศพระวรสาร ทรงยืนยัน อยากให้พระศาสนจักร "ถูกทำร้าย" จากการออกไปประกาศพระวรสาร มากกว่านั่งอยู่เฉยๆแต่ไม่ทำอะไร ช่วงสายวันพฤหัสบดีที่ 23 มกราคมที่ผ่านมา สันตะสำนักได้จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวสารวันสื่อมวลชนสากล ครั้งที่ 48 ซึ่งพระสันตะปาปาทรงเขียนขึ้นในหัวข้อ "การสื่อสารที่ว่าด้วยการรับใช้วัฒนธรรมที่แท้จริงของการพบหน้ากัน" โดยงานนี้ มี พระอัครสังฆราช เคลาดิโอ เชลลี่ ประธานสมณสภาสื่อสารสังคม, มองซินญอร์ พอล ไทก์ เลขาธิการสมณสภาสื่อสารสังคม และคุณพ่อเฟเดริโก้ ลอมบาร์ดี้ ผู้อำนวยการศูนย์ข่าววาติกัน เป็นผู้แถลง ในส่วนของใจความสำคัญของสารวันสื่อมวลชนสากล ครั้งที่ 48 มีใจความว่า: - อินเตอร์เน็ทและโซเชี่ยล มีเดีย คือของขวัญจากพระเจ้า โซเชี่ยล มีเดีย มีศักยภาพสูงมากที่จะช่วยผู้คนและนำผู้คนก้าวเดินไปด้วยกัน - การสื่อสารที่ดีช่วยเราให้ใกล้ชิดกันยิ่ง

โป๊ปฟรังซิส: "ความแตกแยกในกลุ่มคริสตชนคือความอัปยศจริงๆ"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงแบ่งปัน ความแตกแยกในกลุ่มคริสตชนคือความอัปยศและสะท้อนถึงความอ่อนแอในการเป็นพยานถึงพระวรสาร ทรงย้ำ พระพรของพระเจ้าช่วยเราให้เป็นคนสุภาพถ่อมตนและรู้จักแยกแยะความดีความชั่ว ช่วงสายวันพุธที่ 22 มกราคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในการเข้าเฝ้าทั่วไป ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน ท่ามกลางสัตบุรุษที่มาร่วมกว่า 70,000 คน วันนี้ พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า: - สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ภาวนาเพื่อเอกภาพคริสตชน ดังนั้น พ่อจึงอยากแบ่งปันเรื่องเอกภาพคริสตชนกับพวกเรา - ในจดหมายนักบุญเปาโลถึงชาวโครินธ์ ฉบับที่หนึ่ง ท่านนักบุญถามว่า "มีการแบ่งแยกในองค์พระคริสตเจ้าหรือ" (1 โครินธ์ 1:13) ไม่เลย เรารู้กันแล้วว่า พระคริสตเจ้าไม่มีการแบ่งแยกใดๆทั้งสิ้น ตอนนี้ เราต้องตระหนักอย่างจริงจังว่า สังคมของเรายังเดินหน้าพบกับความแตกแยก ซึ่งเป็นบ่อเกิดของความอัปยศและความอ่อนแอจากการเป็นประจักษ์พยานถึงพระวรสารของตัวเราเอง - ในจดหมายนักบุญเปาโลฉบับนี้อีกเช่นกัน นักบุญเปาโลเตือนใจเราถึงความชื่นชมยินดีในพระพรอันยิ่งใหญ่ที่เราได้รับ พระวาจาของพ

โป๊ปฟรังซิส: "พระเจ้าเลือกมนุษย์ที่จิตใจ แต่มนุษย์เลือกกันเองที่ภาพลักษณ์ภายนอก"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงเตือนสติ มนุษย์ชอบคัดเลือกคนด้วยการมองภาพลักษณ์ภายนอกเป็นหลัก โดยไม่ยอมดูให้ลึกลงไปในจิตใจว่าเป็นคนสุภาพถ่อมตนหรือไม่ แต่พระเจ้าทรงเลือกสรรคนโดยมองที่จิตใจเป็นหลัก ทรงชี้ เราต้องดูแบบอย่าง "กษัตริย์เดวิด" ที่แม้จะสูงส่งยังไง แต่เมื่อทำผิด ท่านก็สำนึกอย่างสุดซึ้งและขออภัยโทษจากพระเจ้า ช่วงเช้าวันอังคารที่ 21 มกราคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา มิสซานี้ พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า: - ในบทอ่านวันนี้จากหนังสือซามูเอล (1 ซมอ 16:1-13) เราได้เห็นวิธีที่พระเจ้าเลือกคนที่จะเป็นกษัตริย์ปกครองประชากรของพระองค์ วิธีการของพระเจ้าคือ "พระเจ้าไม่ทรงมองอย่างมนุษย์มอง มนุษย์มองแต่รูปร่างภายนอก แต่พระเจ้าทรงมองจิตใจ" และผู้ที่พระองค์เลือกก็คือ "เดวิด" - วิธีที่พระเจ้าเลือกสรรคนก็คือ พระเจ้าจะเลือกคนที่ต่ำต้อยที่สุดและมีอำนาจน้อยที่สุดกว่าทุกคน เราจะเห็นกันแล้วว่า มนุษย์เป็นพวกที่ยึดติดกับภาพลักษณ์ภายนอก แต่พระเจ้าทรงมีวิธีการที่แตกต่างออกไป พระองค์ทรงเลือกคนที่ต่ำต้อยและสุภ

โป๊ปฟรังซิส: "เสรีภาพคริสตชนพบได้ในการฟังและทำตามพระประสงค์ของพระเจ้า"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงสอน เสรีภาพตามแบบคริสตชนพบได้ในการกล้าที่จะฟังและนบนอบเชื่อฟังพระเจ้า ทรงชี้ พระวาจาของพระเจ้ามักจะเต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์ให้เราตื่นเต้นเสมอ  ช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา มิสซานี้ พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า: - จากบทอ่านที่หนึ่งในวันนี้ (หนังสือซามูเอล) เราจะเห็นว่า กษัตริย์ซาอูลไม่เชื่อฟังเสียงของพระเจ้าและพยายามที่จะทำตามความโลภของตัวเอง แต่ซามูเอลเตือนสติเขาให้ฟังเสียงของพระเจ้าจะดีกว่า - ชีวิตคริสตชนก็เช่นกัน มันเป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องมีความนบนอบและเชื่อฟังพระเจ้าจากหัวใจ เราต้องฟังเสียงของพระเจ้าและทำตามพระประสงค์ของพระองค์ เราต้องร่วมแบ่งปันชีวิตและความรักกับพระองค์ - เสียงของพระเจ้านำทางชีวิตเรา และยังทำให้เราได้ไตร่ตรองถึงความหมายแท้จริงของ "อิสรภาพตามแบบคริสตชน" รวมถึง "การนบนอบตามแบบคริสตชน" ทั้งสองอย่างนี้ เราพบได้ในพระวาจาของพระเจ้าและความกล้าที่จะเปิดใจรับฟังเสียงของพระองค์ - นอกจากนี้ พ่ออยากแบ่งปันอีกว่า พระวาจาของพระ

โป๊ปฟรังซิส: "พี่น้องแนะนำ เรายังวางใจ พระเยซูแนะนำ เราก็ต้องวางใจด้วย"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงให้ข้อคิด เวลาพี่น้องให้คำแนะนำ เรายังวางใจในคำแนะนำดังกล่าว เช่นกัน ถ้าพระเยซูแนะนำเรา เราก็ต้องวางใจในพระองค์ด้วย ทรงชี้ เราต้องถ่อมตนลงรับใช้ผู้อื่นเหมือนพระเยซู เพราะพระองค์ไม่เคยสอนให้เรายกตนขึ้นกดขี่คนอื่น ช่วงเย็นวันอาทิตย์ที่ 19 มกราคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส เสด็จไปเยี่ยมสัตบุรุษและกลุ่มผู้อพยพของวัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซู (ดูแลโดยคณะซาเลเซียน) ซึ่งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟแตร์มินี่ พร้อมถวายมิสซาให้กับสัตบุรุษของวัดนี้ด้วย ในส่วนของบทเทศน์ประจำมิสซานี้ พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า: - พระวรสารวันนี้สอนเราว่า เราต้องฟังสิ่งที่นักบุญจอห์น บัปติสต์ พูดไว้ นั่นคือ เราต้องฟังและมอบความวางใจไว้กับพระเยซูผู้เป็นลูกแกะของพระเจ้า เพราะพระองค์ผู้ทรงไถ่บาปให้กับโลก - พระเยซูไม่เคยยกพระองค์ขึ้นข่มคนอื่น มีแต่ถ่อมพระองค์ลง เยียวยารักษาทุกคน พระเยซูทรงเลือกมาเป็นผู้ต่ำต้อยอ่อนแอสุดเหมือนกับลูกแกะ กระนั้น พระองค์ยังคงมีความเข้มแข็งที่จะแบกเราไว้บนบ่าของพระองค์และนำเรารอดพ้นจากบาป - ลองนึกภาพดูซิ พวกเรายังมอบความวางใจไว้กับคุณหมอ (แพ

โป๊ปฟรังซิส: "จงแทนที่ความอาฆาตแค้นด้วยความบริสุทธิ์ใจ แทนความรุนแรงด้วยความรัก"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงย้ำ คริสตชนต้องแทนที่ความอาฆาตมุ่งร้ายด้วยความบริสุทธิ์ใจ แทนที่ความรุนแรงด้วยความรัก แทนที่ความหยิ่งยะโสด้วยความสุภาพ และแทนที่อำนาจเกียรติยศด้วยการรับใช้ ทรงชี้ จงอย่าดำเนินชีวิตเหมือนป้อมปราการที่มีแต่ศัตรูโอบล้อม แต่จงเป็นเมืองบนภูเขาที่สูงเด่นและให้คนเข้าหาได้เสมอ ช่วงสายวันอาทิตย์ที่ 19 มกราคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในการสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าว ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน ท่ามกลางสัตบุรุษที่มาร่วมภาวนากว่า 50,000 คน โดยวันนี้ พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า: - พี่น้องที่รัก พระวรสารที่เราได้ฟังในวันนี้ คำว่า "พระเยซูเป็นลูกแกะของพระเจ้า ผู้ทรงลบล้างบาปของโลก" มีความหมายอย่างไรกับตัวเราและพระศาสนจักร คำๆนี้มีความหมายว่า เราต้องแทนที่ "ความอาฆาตมุ่งร้ายด้วยความบริสุทธิ์ใจ แทนที่ความรุนแรงด้วยความรัก แทนที่ความหยิ่งยะโสด้วยความสุภาพ แทนที่อำนาจเกียรติยศด้วยการรับใช้" - การเป็นศิษย์ติดตามลูกแกะของพระเจ้า หมายความว่า เราต้องไม่ดำเนินชีวิตราวกับว่าเราเป็นป้อมปราการที่ถูกศัตรูโอบล้อม แต่เราต้อ

โป๊ปเปิดให้คู่แต่งงานและคู่หมั้นต่างๆเข้าเฝ้าวันวาเลนไทน์

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม จะประทานโอกาสพิเศษให้กับคู่แต่งงานและคู่หมั้นต่างๆ ได้เข้าเฝ้าเป็นกรณีพิเศษเพื่ออวยพรพวกเขาในวันวาเลนไทน์ (14 กุมภาพันธ์ 2014) งานนี้ วาติกันเปิดให้ลงทะเบียนด้วยการส่งอีเมลไปที่ events@family.va ปิดรับลงทะเบียน 30 มกราคม 2014  ในภาพ พระสันตะปาปาทรงหยอกล้อกับคู่แต่งงานใหม่แบบกันเองมากๆ สุดยอด! ... Follow ทวิตเตอร์ #PopeReport ได้ที่ https://twitter.com/PopeReport

โป๊ปฟรังซิส: "อย่าขายตัวให้จิตตารมย์ทางโลก"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงย้ำ คริสตชนต้องอย่าขายตัวให้กับจิตตารมย์ทางโลก ซึ่งต้องการล่อลวงเราให้ออกจากความเป็นลูกของพระเจ้า ทรงชี้ การประจญที่ล่อลวงเราไม่ให้ฟังพระวาจาของพระเจ้า ร้ายแรงยิ่งกว่าการละทิ้งความเชื่อ และยังทำให้เราเป็นคนใจอำมหิตด้วย ช่วงเช้าวันศุกร์ที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา มิสซานี้ พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า: - บ่อยครั้งเราหลงลืมพระวาจาของพระเจ้า เราหลงลืมไปว่าพระเจ้าตรัสอะไรกับเรา และเราหันไปฟังถ้อยคำที่ดูแฟชั่นและดูลื่นหูแทนใช่ไหม - การประจญล่อลวงประเภทนี้นับว่าอันตรายยิ่งกว่าการละทิ้งความเชื่อและถอยห่างจากพระเจ้าอีกนะ! มันเป็นความจริงที่คริสตชนต้องเป็นคนธรรมดาทั่วไป แต่เราก็ต้องเป็นประจักษ์พยานถึงพระวาจาของพระเจ้า ซึ่งพระองค์ตรัสว่า "เจ้าคือประชากรของเรา เราได้เลือกเจ้า และเราจะอยู่เคียงข้างเจ้าเสมอ" - เราต้องขัดขืนต่อการประจญล่อลวงจากความรู้สึกภายในจิตใจ เพราะการประจญล่อลวงแบบนี้ทำให้จิตใจของเราอำมหิต และเมื่อใจของเราอำมหิต พระวาจาของพระเจ้าก็ไม่สามารถเข้าไปในจิตใจเร

โป๊ปฟรังซิส: "อายบ้างไหมที่เจอเรื่องโกงเงินในพระศาสนจักร"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงถาม เรารู้สึกอับอายต่อความอัปยศเรื่องการโกงเงินในพระศาสนจักรบ้างไหม เพราะนี่คือการทำให้พระศาสนจักรเสื่อมเสียสุดๆ ทรงเตือนสติบรรดาพระสังฆราชและพระสงฆ์ อย่าหลงคิดว่าตัวเองมีตำแหน่ง มีอำนาจ และความสุขสบาย แต่ในจิตใจไม่มีพระวาจาของพระเจ้า ช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ 16 มกราคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา มิสซานี้ พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า: - ในบทอ่านประจำวันนี้จากหนังสือเพลงสดุดี เป็นเรื่องราวความพ่ายแพ้ของชาวอิสราเอล ประชากรของพระเจ้าในเวลานั้นได้ละทิ้งพระเจ้า นอกจากนี้ สมณะผู้ชราภาพอย่าง "เอลี" ก็เป็นพวกเฉยชา และลูกทั้งสองของเขาก็เป็นพวกขี้โกง คอยขู่กรรโชกประชากรของพระเจ้าและทุบตีพวกเขาด้วยไม้ - ข้อความจากพระคัมภีร์ตอนนี้ ทำให้เราคิดเกี่ยวกับรูปแบบความสัมพันธ์ที่เรามีกับพระเจ้าและกับพระวาจาของพระเจ้า มันเป็นความสัมพันธ์แบบทางการหรือเปล่า? หรือว่าเป็นความสัมพันธ์แบบห่างไกล? พระวาจาของพระเจ้าเข้าไปยังจิตใจของเราและเปลี่ยนจิตใจของเราไหม พระวาจาของพระเจ้ามีพลังในจิตใจเราหรือเปล่า? หรื

โป๊ปฟรังซิส: "ศีลล้างบาปทำให้เราเป็นธรรมทูตประกาศพระวรสาร"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงชี้ ศีลล้างบาปทำให้เราได้เป็นศิษย์ติดตามพระเยซูและเป็นธรรมทูตประกาศพระนามของพระองค์ ทรงย้ำ คริสตชนทุกคนคือห่วงโซ่ทางความเชื่อที่ต้องถ่ายทอดความเชื่อนี้ต่อไปเรื่อยๆผ่านทางศีลล้างบาป  ช่วงสายวันพุธที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในการเข้าเฝ้าทั่วไป ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน ท่ามกลางสัตบุรุษที่มาร่วมกว่า 90,000 คน วันนี้ พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า: - พี่น้องที่รัก วันนี้พ่อยังแบ่งปันเรื่องศีลล้างบาป และอยากจะย้ำว่า เราแต่ละคนคือห่วงโซ่ของความเชื่อ เราส่งมอบความเชื่อนี้จากรุ่นหนึ่งไปอีกรุ่นหนึ่งผ่านทางศีลล้างบาป - อาศัยศีลล้างบาป เราจึงเป็นศิษย์พระเยซูและเป็นธรรมทูต เราได้เกิดใหม่ในพระหรรษทานและเป็นประจักษ์พยานถึงพระองค์ ศีลล้างบาปทำให้เราเป็นผู้ติดตามพระเยซูและเป็นหนึ่งเดียวกันในพระศาสนจักร - พี่น้องที่รัก ศีลล้างบาปจะช่วยเราให้ได้รับความรอดพ้นจากบาป ไม่มีใครได้รับความรอดเพียงคนเดียว แต่เราทั้งหมดที่เป็นชุมชนของพระเจ้า เราจะได้รับความรอดไปด้วยกัน - พ่ออยากแบ่งปันเรื่องประวัติศาสตร์พระศาสนจักรคาทอลิกใ

โป๊ปฟรังซิส: "อย่าดูถูกคนอื่นและทำตัวเป็นคริสตชนขี้โกง"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงเตือนสติ อย่าทำตัวเป็นคริสตชนที่ใจเฉยชาและชอบดูถูกคนอื่นเหมือนสมณะเอลี และอย่าทำตัวเป็นคริสตชนขี้โกงเหมือนลูกของเอลีที่โกงเงินทำบุญ แต่จงดำเนินชีวิตเหมือนพระเยซูที่ใช้อำนาจด้วยการให้อภัยคนบาปและรักษาคริสตชนที่บอบช้ำทางจิตใจ ช่วงเช้าวันอังคารที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา มิสซานี้ พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า: - ในบทอ่านแรกประจำวันนี้จากหนังสือซามูเอล (1 ซมอ 1:9-20) เราได้เห็นภาพลักษณ์ของสมณะเอลี ซึ่งดูถูกหญิงที่สุภาพถ่อมตนที่กำลังสวดภาวนาวอนขอพระเจ้าโปรดประทานลูกชายมาให้กับเธอ การกระทำของสมณะเอลีที่ดูถูกหญิงคนนี้ เปรียบได้กับ "เซลส์แมน (พนักงานขาย)" หรือ "ผู้จัดการ" ทางความเชื่อ นี่คือสมณะผู้จืดชืดที่หัวใจของเขาไม่ได้มีความเชื่อเลย - บ่อยครั้งใช่ไหมที่ประชากรของพระเจ้ารู้สึกว่า พวกเขาไม่ได้รับความรักจากคนที่ควรจะเป็นประจักษ์พยานถึงพระเจ้า ไม่ได้รับความรักจากคริสตชน, ฆราวาสที่มีศรัทธา, บรรดาพระสงฆ์และพระสังฆราช น่าเศร้านะที่พวกตัวตลกเหล่านี้ (คนที่ดูถูกคนอ

โป๊ปฟรังซิส: "การเป็นพระคาร์ดินัลไม่ใช่การเลื่อนตำแหน่ง"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงเตือนสติพระคาร์ดินัลใหม่ว่า การได้รับแต่งตั้งเป็นพระคาร์ดินัล ไม่ใช่ "การเลื่อนตำแหน่ง" แต่เป็นการเตือนสติถึงการรับใช้แบบสุภาพเรียบง่าย ที่สำคัญ จงอย่าตกเป็นเหยื่อจิตตารมย์ฝ่ายโลกที่จัดงานฉลองตำแหน่งพระคาร์ดินัลเด็ดขาด พระสันตะปาปา ระบุในจดหมายว่า "พี่น้องที่รัก ในวันที่ข่าวการประกาศพวกท่านเป็นพระคาร์ดินัลถูกเผยแพร่สู่สาธารณชน พ่อขอส่งความปรารถนาดีจากใจไปยังพวกท่านในคำภาวนาด้วยความรักฉันท์พี่น้องและในการรับใช้พระศาสนจักร "การได้รับแต่งตั้งเป็นพระคาร์ดินัล ไม่ได้หมายความถึงการได้เลื่อนตำแหน่ง ไม่ใช่เกียรติยศ และไม่ใช่การประดับยศ นี่คือการรับใช้อย่างสุภาพเรียบง่าย ซึ่งเรียกร้องเราให้กวาดตามองและเปิดใจให้กว้างขึ้น "พ่อจึงขอเรียกร้องให้บรรดาพระคาร์ดินัลใหม่น้อมรับหน้าที่ใหม่นี้ด้วยจิตใจที่สุภาพและถ่อมตน จงน้อมรับด้วยใจเปี่ยมสุขและชื่นชมยินดี ให้หลีกหนีจากจิตตารมย์ทางโลก จากการเฉลิมฉลองตำแหน่ง แต่จงน้อมรับด้วยจิตใจที่ถ่อมตนและคิดถึงผู้ยากไร้ "สุดท้ายนี้ พ่อขอร้องพวกท่านช่วยสวดภาวนาให้พ่อด้วย และพบกันในวันที่ 2

โป๊ปฟรังซิส: "จงสวดขอพระเจ้าให้เราเข้าใจความรักของพระองค์"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงแบ่งปัน เราต้องสวดขอพระเจ้าโปรดประทานสติปัญญาให้เราเข้าใจความรักของพระองค์ ทรงย้ำ พระเจ้ามีแผนการต่างๆให้กับเรา ถ้าเห็นสิ่งใดไม่ดีเกิดขึ้น พระองค์จะเข้ามาช่วยเสมอ ช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา มิสซานี้ พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า: - พระวรสารวันนี้ พระเยซูทรงเรียกเปโตร, แอนดรูว์, ยาค็อบ และจอห์น ให้เป็นศิษย์ติดตามพระองค์ (มก 1:14-20) อย่างไรก็ตาม จากหน้าประวัติศาสตร์ เราพบว่า พวกเขาไม่ได้มีความเชื่อเสมอ หลังจากได้รับเลือกให้เป็นศิษย์ติดตามพระองค์ พวกเขาก็มีทำผิดพลาดบ้าง พวกเขาทูลขอสิ่งที่ไม่ใช่แบบฉบับคริสตชนต่อพระเจ้า พวกเขาเคยปฏิเสธพระองค์ เปโตรนี่ชัดเจนมากๆ และคนอื่นก็เป็นพวกหนีกระเจิงเพราะความกลัว - หลังจากพระเยซูเสด็จกลับคืนชีพจนกระทั่งวันที่พระจิตเสด็จลงมา เปโตรก็ยังมีทำผิดพลาดบ้าง และเป็น เปาโล ที่เข้ามาช่วยแก้ไขสิ่งที่เปโตรทำไป นี่สิ่งที่พระเจ้าทรงเตรียมไว้ทั้งนั้น - พระเจ้าทรงเตรียมการหลายอย่างให้กับบรรดาผู้ติดตามและมีความเชื่อในพระองค์ กล่าวคือ เมื

โป๊ปฟรังซิส: เราทำผิด พระเจ้าให้อภัย แต่ถ้าเราผิดต่อธรรมชาติ ธรรมชาติลงโทษเราแน่

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงย้ำกับคณะทูต ถ้ามนุษย์ทำผิดต่อพระเจ้า พระองค์ให้อภัยเราเสมอ แต่ถ้ามนุษย์ทำผิดกับธรรมชาติและสิ่งสร้างของพระเจ้า ธรรมชาติลงโทษเราแน่ ทรงชี้ ภาษาแห่งสันติเริ่มเรียนรู้กันที่ครอบครัว พร้อมเตือนสติ ศีลธรรมต้องมาก่อนสงคราม ไม่ว่าจะในสถานการณ์ไหนก็ตาม ช่วงสายวันจันทร์ที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงต้อนรับบรรดาทูตานุทูตกว่า 180 ประเทศที่มาเข้าเฝ้าเพื่อถวายพระพรปีใหม่แด่พระองค์ โดยหนึ่งในนั้นมี "คุณเฉลิมพล ทันจิตต์" เอกอัครราชทูตแห่งราชอาณาจักรไทยประจำสมาพันธรัฐสวิสและสันตะสำนักด้วย โอกาสนี้ พระสันตะปาปาทรงกล่าวสุนทรพจน์กับพวกเขาว่า: - เป็นธรรมเนียมปฏิบัติอันสืบต่อมาอย่างยาวนานที่เมื่อเริ่มต้นของปีใหม่ พระสันตะปาปาจะต้องมาพบกับบรรดาทูตานุทูตที่มาประจำยังสันตะสำนัก เพื่อแลกเปลี่ยนคำทักทายและคำอวยพรแก่กัน การพบกันในวันนี้ถือเป็นบ่อเกิดของความชื่นชมยินดี และมันทำให้ข้าพเจ้าได้มีโอกาสส่งมอบความปรารถนาดีไปยังท่านและครอบครัว - โอกาสที่ท่านมารวมกันในวันนี้ ข้าพเจ้าขอกล่าวถึงสถานการณ์ครอบครัวในยุคปัจจุบัน เราจะพบว่า

โป๊ปฟรังซิส: "หน้าที่พ่อแม่คาทอลิกคือนำลูกมารับศีลล้างบาป"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงย้ำ หน้าที่ของพ่อแม่คาทอลิกคือนำลูกมารับศีลล้างบาป เพื่อถ่ายทอดความเชื่อในพระเจ้าให้กับลูกหลานของตน ทรงยืนยัน เสียงร้องของเด็กนั้น "ไพเราะมากๆ" แม้จะเป็นการร้องไห้เนื่องจากรู้สึกไม่สบายตัวก็ตาม ฉะนั้น เราต้องอย่ารำคาญ ช่วงสายวันอาทิตย์ที่ 12 มกราคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในมิสซาฉลองพระเยซูทรงรับพิธีล้าง พร้อมทั้งโปรดศีลล้างบาปให้ลูกๆของพนักงานวาติกัน จำนวน 32 คน พิธีนี้จัดในวัดน้อยซิสติน ในส่วนของบทเทศน์ประจำมิสซานี้ พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า: - พระเยซูไม่จำเป็นต้องได้รับพิธีล้าง แต่อาศัยความเป็นพระเจ้าและร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับพระวรกายของพระองค์ พระเยซูทรงอวยพรน้ำและให้น้ำสามารถใช้ในการโปรดศีลล้างบาป และก่อนที่จะเสด็จขึ้นสวรรค์ พระเยซูทรงสั่งให้บรรดาศิษย์ไปประกาศพระวรสารให้กับโลกและให้โปรดศีลล้างบาปผู้ที่เชื่อให้มาเป็นศิษย์ของพระองค์ นี่คือคำสั่งที่พระศาสนจักรได้เติมเต็มมาจนถึงทุกวันนี้ - เด็กๆที่จะได้รับศีลล้างบาปในวันนี้ก็คือห่วงของโซ่ที่ต่อไปเรื่อยๆ กล่าวคือ เมื่อเขามีลูกในอนาคต เขาก็จะนำลูกของตนมารั

พระสันตะปาปาประกาศรายชื่อพระคาร์ดินัลใหม่ 19 องค์แล้ว

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงประกาศรายชื่อพระคาร์ดินัลใหม่ 19 องค์ออกมาเรียบร้อยแล้ว โดยพระอัครสังฆราช ปิเอโตร ปาโรลิน เลขาธิการนครรัฐวาติกัน และ พระอัครสังฆราช แกร์ฮาร์ด ลุดวิก มุลเลอร์ ประธานสมณกระทรวงหลักความเชื่อ ได้รับสถาปนาตามคาด ส่วนทวีปเอเชีย มีพระคาร์ดินัลใหม่ 2 องค์จากอัครสังฆมณฑลโซล ประเทศเกาหลีใต้ และ อัครสังฆมณฑลโกตาบาโต ประเทศฟิลิปปินส์ นอกจากนี้ พระอัครสังฆราช อันเดรีย โปลี แห่งอัครสังฆณฑลบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนติน่า ผู้ทำหน้าที่ต่อจากพระสันตะปาปา ก็ได้รับการแต่งตั้งด้วย ช่วงเที่ยงวันอาทิตย์ที่ 12 มกราคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในการสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าว ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน โดยก่อนหน้านี้ พระสันตะปาปาทรงเป็นประธานในมิสซาฉลองพระเยซูทรงรับพิธีล้างและโปรดศีลล้างบาปให้กับลูกๆของพนักงานวาติกันด้วย ในส่วนใจความสำคัญของการแบ่งปันก่อนสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าว พระสันตะปาปาทรงประกาศรายชื่อพระคาร์ดินัลใหม่ จำนวน 19 องค์ ซึ่งพิธีสถาปนาพระคาร์ดินัลใหม่จะจัดขึ้นในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2014 โอกาสวันฉลองธรรมาสน์นักบุญเปโตร โ

โป๊ปฟรังซิส: "อย่าเป็นสงฆ์ที่ข้างนอกดูศักดิ์สิทธิ์ ข้างในเน่าเฟะ"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงเตือนสติแรงๆ อย่าทำตัวเป็นพระสงฆ์ที่ข้างนอกดูศักดิ์สิทธิ์ชวนศรัทธา แต่ลับหลังสัตบุรุษทำตัวตรงกันข้ามสิ้นเชิง ทรงตั้งคำถาม พระศาสนจักรจะถูกทำลายขนาดไหนถ้ามีพระสงฆ์ประเภทนี้ ทรงหวัง พระสงฆ์จะไม่ทำตัวเป็นนักเจรจาต่อรองธุรกิจและไม่เป็นพวกนักธุรกิจในสถานะพระสงฆ์ ช่วงเช้าวันเสาร์ที่ 11 มกราคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา มิสซานี้ พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า: - ในจดหมายของนักบุญจอห์นที่เราได้ฟังไปนั้น ท่านกล่าวว่า เราได้รับชีวิตนิรันดรเพราะเราเชื่อในพระนามของพระเยซู พ่อจึงอยากกล่าวเรื่องนี้กับ "ชีวิตสงฆ์" ของพวกเราสักหน่อย - พ่ออยากถามว่า "ในชีวิตสงฆ์ของเรานั้น พระเยซูอยู่ตรงไหนในชีวิตสงฆ์ของเรา" ใช่ความสัมพันธ์แบบมีชีวิตชีวาไหม ใช่ความสัมพันธ์แบบศิษย์กับอาจารย์หรือเปล่า ใช่ความสัมพันธ์แบบพี่กับน้องไหม ใช่ความสัมพันธ์ระหว่างชายผู้ยากไร้กับพระเจ้าหรือเปล่า หรือ เป็นความสัมพันธ์แบบผิวเผิน เป็นความสัมพันธ์แบบจอมปลอมที่ไม่ได้มาจากจิตใจของเรา - พวกเราพระสงฆ์ได้รับการเจิมจากพระจ

โป๊ปฟรังซิส: "เราสวดบทข้าพเจ้าเชื่อแบบนกแก้วนกขุนทองใช่ไหม"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงถาม ทุกวันนี้เราสวดบทข้าพเจ้าเชื่อแบบนกแก้วนกขุนทองหรือเปล่า ท่องได้แต่ทำได้ไม่่เต็มร้อย เพราะเรายังไม่วางใจในพระเจ้าแบบเต็มเปี่ยมใช่ไหม ทรงตั้งข้อสังเกต พระศาสนจักรมีคริสตชนที่พ่ายแพ้ต่อโลกเยอะมาก เพราะคนพวกนี้ไม่เชื่อพระเจ้าสนิทใจ จิตตารมย์ฝ่ายโลกจึงชนะและครอบงำเขาไปแล้ว ช่วงเช้าวันศุกร์ที่ 10 มกราคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา มิสซานี้ พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า: - พี่น้องที่รัก ในบทอ่านจากนักบุญจอห์นประจำมิสซานี้ ท่านนักบุญเน้นว่า "ใครเล่าจะชนะโลกได้ ถ้าเขาไม่ได้เชื่อในพระเยซูพระบุตรของพระเจ้า" เพราะพลังของความเชื่องต่างหากที่เอาชนะโลก ความเชื่อสามารถทำได้ทุกสิ่ง นี่คือชัยชนะที่แท้จริง - มันจะสวยงามกว่านี้อีก ถ้าเราให้ความเชื่อนี้เกิดกับตัวเอง เพราะอะไร? ก็เพราะบ่อยครั้ง เราเป็นคริสตชนที่พ่ายแพ้ไง พระศาสนจักรเต็มไปด้วยคริสตชนผู้พ่ายแพ้ เพราะเราไม่(มีความ)เชื่อในชัยชนะที่ความเชื่อสามารถบันดาลให้ทุกสิ่งเป็นจริง ถ้าเราไม่ดำเนินชีวิตอยู่บนความเชื่อ เราก็แพ้แล้ว โลกจะชนะเรา

โป๊ปฟรังซิส: "ความรักของพระเจ้าคือถลกแขนเสื้อและออกไปช่วยคนยากจน"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงย้ำ ความรักของพระเจ้าเป็นความรักที่กล้าถลกแขนเสื้อขึ้น เดินหน้าลุย และออกไปช่วยคนยากจน นอกจากนี้ ความรักของพระเยซูไม่ใช่เรื่องน้ำเน่า แต่เป็นความรักที่ "ทำมากกว่าพูด" ถ้ารักแต่ปาก คำพูดมันก็จะลอยไปกับสายลม ช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา มิสซานี้ พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า: - บทอ่านจากจดหมายนักบุญจอห์นที่เราได้ฟังกันนั้น เราได้ฟังกันแล้วว่า "ถ้าเรารักผู้อื่น พระเจ้าก็สถิตย์อยู่กับเรา ความรักของพระเจ้าทรงนำความสมบูรณ์แบบมาให้เรา" - ความรักของพระเจ้าไม่ใช่ความรักที่เห็นแก่ตัว แต่เป็นความรักที่กล้าถลกแขนเสื้อขึ้น เดินหน้าลุย และออกไปช่วยผู้ยากไร้ - พวกเราดำรงอยู่ในพระเจ้าและพระเจ้าก็สถิตย์อยู่ในเรา การดำรงอยู่นี้คือชีวิตคริสตชน พวกเราต้องไม่ดำรงอยู่กับจิตตารมย์ทางโลก ไม่ได้ดำรงอยู่ในความหยิ่งยะโส ไม่! ไม่! ความรักของพวกเราต้องไม่อยู่กับสิ่งแบบนั้น แต่เราต้องดำรงอยู่ในพระเจ้า - พี่น้องที่รัก ความรักของพระเจ้าไม่ใช่เรื่องน้ำเน่า! แต่ความรักข

โป๊ปฟรังซิสตามการบ้าน "ไปค้นวันรับศีลล้างบาปมาหรือยัง"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงตามการบ้านที่เคยสั่งไว้กับสัตบุรุษ ด้วยการขอคำตอบเรื่องวันรับศีลล้างบาปของแต่ละคนว่าไปค้นมาหรือยัง พร้อมย้ำ คนที่ได้รับศีลล้างบาปคือคนที่มีหน้าที่ต้องประกาศพระวรสาร ช่วงสายวันพุธที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในการเข้าเฝ้าทั่วไป ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน ท่ามกลางสัตบุรุษที่มาร่วมกว่า 90,000 คน วันนี้ หนึ่งในผู้มาเข้าเฝ้าพระสันตะปาปามีนักฟุตบอลจากสโมสรซามพ์โดเรีย ในกัลโช่ เซเรีย อา ของอิตาลีด้วย โดยวันนี้ พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า: - สวัสดีพี่น้องที่รัก พ่อยินดีที่ได้พบพวกท่านอีกครั้งหลังจากวันปีใหม่ วันนี้ พ่ออยากจะแบ่งปันเรื่อง "ศีลศักดิ์สิทธิ์" กับพวกท่าน โดยศีลศักดิ์สิทธิ์ที่วันนี้พ่ออยากแบ่งปันเป็นเรื่องคือ "ศีลล้างบาป" ซึ่งเป็นศีลศักดิ์สิทธิ์แรกใน 7 ศีลของพระศาสนจักร - ศีลล้างบาปทำให่้เราได้เกิดใหม่ในพระคริสตเจ้า ทำให้เราได้แบ่งปันธรรมล้ำลึกแห่งการสิ้นพระชนม์และกลับคืนชีพของพระองค์ ศีลล้างบาปยังทำให้เราได้รับการอภัยจากบาป และนำเราไปสู่เสรีภาพแห่งการเป็นลูกของพระเจ้าและเป็

โป๊ปฟรังซิส: "จงทดสอบจิตใจตัวเองว่าแยกแยะถูกผิดเป็นไหม"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงให้ข้อคิด คริสตชนต้องรู้จักทดสอบจิตใจของตัวเองว่า เราแยกแยะถูกหรือผิดเป็นไหม ไม่ใช่เจออะไร ก็เห็นดีเห็นงามไปหมด ทรงชี้ เราต้องทดสอบจิตใจตัวเอง เนื่องจากยุคนี้มีประกาศกตัวปลอมเยอะมาก ฉะนั้น จงทบทวนตัวเองว่า เสียงนั้นมาจากพระเจ้าหรือเปล่า ช่วงเช้าวันอังคารที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา มิสซานี้ เป็นมิสซาแรกหลังจากหยุดไปตั้งแต่วันคริสต์มาสถึงเทศกาลปีใหม่ โดยวันนี้ พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า: - ในบทอ่านที่หนึ่งจากจดหมายนักบุญจอห์น (1 จอห์น 4:7-10) พ่ออยากแบ่งปันคำว่า "อยู่ในพระเจ้า" เพราะนี่คือคำแนะนำสำหรับชีวิตของเราทุกคน นักบุญจอห์นต้องการจะเน้นกับเราว่า หนึ่งในทัศนคติที่คริสตชนทุกคนต้องมีในตัว ก็คือ จงดำรงอยู่ในพระเจ้าด้วยการเข้าใจสิ่งที่กำลังเกิดอยู่ในจิตใจของเรา - ด้วยเหตุนี้เอง เราต้องพึงระลึกไว้ว่า จงอย่าวางใจในจิตใจของตัวเอง แต่จงหมั่นทดสอบจิตใจของเรา สิ่งนี้สำคัญมากที่จะต้องเรียนรู้ถึงความสามารถในการแยกแยะของจิตใจของเรา เพราะมันจะช่วยเราให้รู้ว่า เราดำรงอยู่ใ

โป๊ปฟรังซิส: "จงให้ความจริงและความถูกต้องนำทางชีวิต"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงเตือนสติ ชีวิตคริสตชนต้องถูกนำทางด้วยแสงสว่างแห่งความจริงและความถูกต้อง เหมือนอย่างที่ปัญญาจารย์ทั้งสามแสดงให้เห็น ที่สำคัญ อย่าทำตัวแบบเฮรอดที่ชีวิตเต็มไปด้วยความมืดและความอิจฉาริษยา ทรงชี้ชัด พระเจ้าเฝ้ารอทุกคนด้วยความรักและอดทน ต่อให้คนๆนั้น ไม่เชื่อและสงสัยในตัวพระองค์ก็ตาม ช่วงสายวันจันทร์ที่ 6 มกราคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในมิสซาสมโภชพระคริสตเจ้าแสดงองค์ ซึ่งจัดในมหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน โดยมิสซานี้ พระสันตะปาปาทรงเทศน์สอนว่า: - วันสมโภชพระคริสตเจ้าแสดงองค์คือวันที่บอกเราถึงประสบการณ์ของบรรดาปัญญาจารย์ทั้งสาม นั่นคือ การเดินตามแสงสว่างของดวงดาว เพื่อแสวงหาองค์ความสว่างที่แท้จริง บรรดาปัญญาจารย์ได้เดินตามแสงสว่างด้วยความศรัทธา ซึ่งเติมเต็มหัวใจของพวกเขา จนนำไปสู่การได้พบกับพระเจ้า - พี่น้องที่รัก ชีวิตเราคือการเดินทางเหมือนปัญญาจารย์ทั้งสามที่มาหาพระเยซู ชีวิตเราคือการเดินทางด้วยการให้แสงสว่างนำทางของเรา เพื่อไปแสวงหาความจริง ความรัก และความสว่างซึ่งเราคริสตชนตระหนักดีว่านั่นคือพระเยซูคริสต์ ผู้เป็นแ

โป๊ปฟรังซิสจะเสด็จเยือนแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ 24-26 พฤษภาคม 2014

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงประกาศอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการเสด็จเยือนแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ ระหว่างวันที่ 24-26 พฤษภาคม 2014 โดยประเทศที่พระองค์จะเสด็จเยือน ได้แก่ จอร์แดนและอิสราเอล ทรงเผย ไปเยือนครั้งนี้เพื่อรำลึก 50 ปีที่สมเด็จพระสันตะปาปา เปาโล ที่ 6 เสด็จไปเยือนอิสราเอล  ช่วงเที่ยงวันอาทิตย์ที่ 5 มกราคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในการสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าว ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน ท่ามกลางสัตบุรุษที่มาร่วมกว่า 80,000 คน โดยวันนี้ พระสันตะปาปาตรัสแบ่งปันว่า: - วันนี้ ในหลายภาคส่วนของโลกได้ทำการสมโภชพระคริสตเจ้าแสดงองค์ วันสำคัญวันนี้ เป็นการเผยแสดงความรักของพระเจ้าแก่มนุษยชาติ - อาศัยการบังเกิดของพระเยซู ไม่ได้ทำให้โลกได้เกิดใหม่เท่านั้น แต่ยังทำให้โลกได้รับการฟื้นฟูขึ้นใหม่ด้วย พระเจ้ายังคงประทับอยู่กับเราเพื่อเลี้ยงดูมนุษย์ชายและหญิงเสมอ พระเยซูไม่เคยยอมแพ้ในการไถ่บาปเราและไม่เคยย่อท้อที่จะมอบพระองค์เพื่อเรา ดังนั้น ขอให้เราเปิดใจตอบรับความรักของพระองค์ตลอดเทศกาลคริสต์มาสและตลอดไป - พ่อขอขอบคุณพี่น้องทุกคนที่ส่งคำอวยพรต่างๆน

บทสนทนาของ "โป๊ปฟรังซิสกับอธิการเจ้าคณะนักบวชชาย"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงย้ำ ความสัมพันธ์ระหว่างพระสังฆราชกับคณะนักบวชต้องได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น เพราะถ้ามีปัญหาเกิดขึ้น คณะนักบวชถอนตัวจากงานที่ทำ พระสังฆราชจะรับงานเผือกร้อนนี้ไปทำไม่ไหวแน่ ทรงสอน พระสังฆราชต้องอย่ามองคณะนักบวชเป็นพนักงานในสังฆมณฑลเด็ดขาด ทรงชื่นชมพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ที่กล้าลุยสะสางปัญหาสงฆ์ล่วงละเมิดทางเพศ ทรงแนะ จะอภิบาลเยาวชน ต้องเรียนรู้ที่จะปรับตัวหาพวกเขา อย่าใช้กฏเข้าคุม เพราะมันล้าสมัยไปแล้ว  "ลาชิวิลต้า คัตโตลิก้า" นิตยสารคาทอลิกชื่อดังของอิตาลีซึ่งอยู่ภายใต้การบริหารงานของคณะเยสุอิต ตีพิมพ์บทความชื่อ "ตื่นเถิดโลก!" (Wake up the world!) อันเป็นบทสนทนาระหว่าง สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส กับบรรดาอธิการเจ้าคณะนักบวชชาย 120 คนที่มาประชุมกับพระองค์ที่วาติกันเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2013 การสนทนานี้ไม่อนุญาตให้นักข่าวเข้าไปทำข่าว แต่ คุณพ่ออันโตนิโอ สปาดาโร่ บรรณาธิการนิตยสาร ลาชิวิลต้า คัตโตลิก้า ได้ขออนุญาตพระสันตะปาปาตีพิมพ์บทสนทนาเพื่อเผยแพร่แก่สาธารณะชน ซึ่งพระองค์ก็อนุญาต โดยบทสนทนานี้ หนา 15 หน้า "

โป๊ปฟรังซิส: "เยสุอิตต้องทำทุกอย่างเหมือนพระเยซูและแสวงหาพระเจ้าตลอดเวลา"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงย้ำ การเป็น "เยสุอิต" หมายถึงการคิด รู้สึก รัก และออกเดินเหมือนพระเยซู ทำทุกอย่างเหมือนพระเยซูด้วยรักแท้จากใจ ทรงชี้ สมาชิกเยสุอิตต้องดำเนินชีวิตเหมือนนักบุญอิกญาซีโอแห่งโลโยลา นั่นคือ ต้องมีจิตใจแสวงหาพระเจ้าตลอดเวลา อย่าห่อเหี่ยวสิ้นหวังเด็ดขาด ช่วงสายวันศุกร์ที่ 3 มกราคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส เสด็จไปถวายมิสซา ณ วัดพระเยซู (Chiesa Del Gesù) วัดศูนย์กลางของคณะเยสุอิต โดยมิสซานี้ พระสันตะปาปาถวายเนื่องในโอกาสโมทนาคุณพระเจ้าที่ "บุญราศี เปียร์ เลอแฟ๊บวร์" สงฆ์เยสุอิต ได้รับอนุมัติให้เป็นนักบุญ ในส่วนของบทเทศน์ประจำมิสซานี้ พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า: - พี่น้องที่รัก พวกท่านยังรำลึกอยู่เสมอใช่ไหมว่า เยสุอิตตั้งชื่อคณะแบบนี้ เพราะต้องการถวายเกียรติแด่พระเยซู นี่คือสิ่งที่ชาวเยสุอิตทุกคนต้องพึงระลึกเสมอนะ - การตั้งชื่อคณะว่าเยสุอิต ยังหมายถึงความรักที่เรามีต่อพระเยซู รักที่จะดำเนินชีวิตเหมือนพระองค์ การเป็นเยสุอิต หมายถึงการคิด รู้สึก รัก และออกเดินเหมือนพระเยซู ทำทุกอย่างเหมือนพระเยซูด้วยรักแท้จากใจ - วันนี้

โป๊ปฟรังซิส: คำว่า "พระมารดาของพระเจ้า" เป็นชื่อแรกสุดและสำคัญสุดในการเรียกแม่พระ

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงชี้ คำว่า "พระมารดาของพระเจ้า" เป็นคำเรียกแรกสุดและสำคัญสุดที่ใช้เรียกแม่พระ ทรงย้ำ สันติภาพโลกจะเกิดได้ถ้าเราตระหนักถึงความเป็นพี่น้องกัน เคารพความแตกต่าง และยอมรับซึ่งกันและกัน ทรงเตือนสติ อย่าตกเป็นเหยื่อของการแก้แค้น หยิ่งยโสโอหัง และการคดโกงเป็นอันขาด ช่วงสายวันพุธที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในมิสซาสมโภชแม่พระ พระชนนีย์ของพระเจ้า รวมทั้งเป็นวันสันติภาพสากลและวันปีใหม่ โดยพิธีนี้จัดขึ้นในมหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน ในส่วนของบทเทศน์ประจำมิสซานี้ พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า: - ในบทอ่านที่หนึ่งจากหนังสือกันดารวิถี พระเจ้าตรัสกับโมเสสว่า "ขอพระเจ้าอวยพรแก่ท่าน และปกปักรักษาท่าน ขอพระเจ้าทรงกระทำให้พระพักตร์ของพระองค์ส่องสว่างแก่ท่าน และทรงพระกรุณาต่อท่าน ขอพระองค์ทอดพระเนตรเหนือท่าน และประทานสันติสุขแก่ท่าน" - ข้อความตอนนี้ บอกเราว่า ในช่วงวันขึ้นปีใหม่ ไม่มีเวลาใดที่มีความหมายมากกว่าตอนนี้ที่เรามาร่วมรับฟังคำอวยพรจากพระเจ้า พระเจ้าอวยพรเราและปกปักรักษาเรา พระเจ้ายังทรงประทานสันติสุขให้