Posts

Showing posts from September, 2013

โป๊ปฟรังซิส: "พระเจ้าประทับในความชื่นชมยินดีและสันติ ไม่ใช่การบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงย้ำ เครื่องหมายแห่งการประทับอยู่ของพระเจ้า ไม่ได้อยู่ที่การบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างผลงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่เครื่องหมายแห่งการประทับอยู่ของพระเจ้าในพระศาสนจักรก็คือสันติและความชื่นชมยินดี ทรงแนะ การบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพและการวางแผนงานเป็นเรื่องสำคัญก็จริง แต่อย่าให้มันล่อลวงเราจนหมกมุ่นกับความสมบูรณ์แบบและหลงในอำนาจ ช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา มิสซานี้ พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า: - พระวรสารวันนี้ เราพบว่า บรรดาอัครสาวกมีความกระตือรือร้นที่จะสร้างแผนงานเพื่ออนาคต และหารือเกี่ยวกับวิธีการที่จะบริหารจัดการพระศาสนจักรที่เกิดขึ้นใหม่ พวกเขาหารือกันว่าใครจะเป็นคนที่ยอดเยี่ยมที่สุดในกลุ่มพวกเขา - กระนั้น อย่าลืมนะว่า พระเยซูทรงทำให้พวกเขาประหลาดใจมากๆด้วยการบอกให้พวกเขาเปลี่ยนมุมมองเสียใหม่ พระองค์บอกให้พวกเขาเปลี่ยนหัวข้อการหารือจาก "องค์กร" มาเป็น "เด็กๆ" พระเยซูย้ำใช่ไหมว่า "ใครในกลุ่มพวกท่านที่ต่ำต้อยที่ส

โป๊ปฟรังซิส: "ผู้นำทุกศาสนาต้องช่วยสร้่างสันติภาพให้กับโลก"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงขอร้องผู้นำทุกศาสนาช่วยกันทำงานสร้างสันติภาพให้กับโลก เพราะสันติภาพเป็นส่วนลึกของแนวทางปฏิบัติทุกศาสนา ทรงย้ำ ผู้นำศาสนาต้องอย่าทำตัวเป็น "คนกลาง" ในการเจรจาสันติภาพ แต่ต้องทำตัวเป็น "ผู้เริ่มดำเนินการเจรจาสันติภาพ" เพราะคนกลางก็เหมือนพวกแสวงหาผลประโยชน์เข้าตัว แต่คนเริ่มดำเนินการคือคนที่ต้องการให้งานบังเกิดผลจริงๆ ช่วงสายวันจันทร์ที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงต้อนรับผู้เข้าร่วมการประชุมเพื่อสันติภาพตามจิตวิญญาณแห่งอัสซีซี ซึ่งมาประชุมกันที่วาติกันภายใต้การจัดงานของกลุ่มนักบุญเอจิดิโอ การประชุมนี้จัดตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน - 1 ตุลาคม 2013 โดยมีผู้แทนศาสนาต่างๆมาร่วมงานอย่างคับคั่ง สำหรับพระดำรัสพระสันตะปาปาต่อผู้เข้าเฝ้า มีใจความสำคัญดังนี้: - หลายเดือนที่ผ่านมา เห็นได้ชัดเลยว่า โลกต้องการ "จิตวิญญาณ" ที่สามารถกระตุ้นให้โลกมีชีวิตชีวา เราต้องไม่ยืนนิ่งๆและไม่ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่กำลังทนทุกข์จากความรุนแรง เราต้องอย่ายอมให้การก่อการร้ายเข้ามา "จองจำ" ในหัวใจของคนกลุ่

ประกาศแล้ว! 27 เม.ย. 2014 สถาปนา "นักบุญจอห์น ที่ 23" และ "นักบุญจอห์น ปอล ที่ 2"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงประกาศให้วันอาทิตย์ที่ 27 เมษายน 2014 เป็นวันจัดมิสซาสถาปนา "บุญราศีจอห์น ที่ 23" และ "บุญราศีจอห์น ปอล ที่ 2" เป็นนักบุญ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยวันดังกล่าวตรงกับ "วันอาทิตย์ฉลองพระเมตตา" ขณะที่ คุณพ่อเฟเดริโก้ ลอมบาร์ดี้ ผู้อำนวยการศูนย์ข่าววาติกัน เผย มีความเป็นไปได้ที่ "สมเด็จพระสันตะปาปากิตติคุณ เบเนดิกต์ ที่ 16" จะมาร่วมมิสซาสถาปนานักบุญใหม่ด้วย ช่วงสายวันจันทร์ที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในการประชุมคณะพระคาร์ดินัล โดยหนึ่งในวาระพิเศษของการประชุมครั้งนี้อยู่ที่การประกาศวันจัดมิสซาสถาปนา "บุญราศีจอห์น ที่ 23" และ "บุญราศีจอห์น ปอล ที่ 2" เป็นนักบุญ พิธีนี้เริ่มด้วย พระคาร์ดินัล อันเจโล่ อมาโต้ ประธานสมณกระทรวงประกาศการเป็นนักบุญ อ่านรายงานและขอการอนุมัติจากสมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส เพื่อให้มีการแต่งตั้ง "บุญราศีจอห์น ที่ 23" และ "บุญราศีจอห์น ปอล ที่ 2" เป็นนักบุญ หลังจากการอ่านรายงานจบลง สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรัง

โป๊ปฟรังซิส: "อย่านำงานของพระเจ้ามาสร้างชื่อเสียงและหาเงินให้ตัวเอง"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงเตือนสติครูคำสอนให้ยึดแม่พระเป็นแบบอย่างในหน้าที่นี้ เพราะแม่พระไม่เคยคิดนำงานของพระเจ้ามาสร้างชื่อเสียงและหาเงินทองให้ตัวเอง ดังนั้น เราต้องทำหน้าที่นี้ด้วยหัวใจและอย่าให้เงินทองมาทำลายความเป็นมนุษย์ของตน ทรงขอร้องคริสตชน อย่าดำเนินชีวิตเหมือนเศรษฐีในพระวรสารและชาวซิโยนที่ไม่ใส่ใจความทุกข์ร้อนของเพื่อนมนุษย์  ช่วงสายวันอาทิตย์ที่ 29 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในมิสซาพิเศษให้กับครูคำสอนจากทั่วโลก โอกาสปีแห่งความเชื่อ พิธีนี้จัดที่ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน ท่ามกลางสัตบุรุษที่มาร่วมกว่า 100,000 คน นอกจากนี้ มิสซานี้ยังมี "พระคุณเจ้า ยูอันนา ที่ 10" พระอัยกาแห่งพระศาสนจักรออโธด็อกซ์แห่งอันติโอ๊ก มาร่วมพิธีด้วย สำหรับบทเทศน์ประจำมิสซานี้ พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า: - ในบทอ่านวันนี้จากหนังสือประกาศกอาโมส ระบุไว้ว่า "“วิบัติจงเกิดแก่ผู้ที่มีความสะดวกสบายอยู่ในศิโยน และบรรดาผู้ที่รู้สึกปลอดภัยบนภูเขาสะมาเรีย เขาทั้งหลายนอนบนเตียงงาช้าง เหยียดตัวอยู่บนเก้าอี้ยาว กินลูกแกะจากฝูงแพะแกะ กินลูกโคท

โป๊ปฟรังซิส: "เลิกนินทาให้ร้ายกันได้แล้ว"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงเตือนสติคนทำงานในวาติกัน "เลิกนินทาให้ร้ายกันได้แล้ว" เพราะนี่คือการทำลายเอกภาพความเป็นหนึ่งเดียวกันของคนในรั้วสันตะสำนัก พร้อมขอร้อง ถ้าเราเห็นคนนินทา ก็บอกคนนั้นให้เลิกนิสัยแย่ๆเดี๋ยวนี้  ช่วงเช้าวันเสาร์ที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาพิเศษโอกาสวันฉลองอัครเทวดากาเบรียล, ไมเคิ่ล และราฟาเอล ให้กับบรรดาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพระสันตะปาปา ซึ่งมีนักบุญไมเคิ่ลเป็นองค์อุปถัมภ์ มิสซานี้จัดที่ถ้ำแม่พระเมืองลูร์ดในสวนวาติกัน  สำหรับบทเทศน์นั้น พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า: - พ่อขอร้องพวกท่านเลยว่า อย่าทำหน้าที่เฝ้าระวังแค่ประตูหรือหน้าต่างของวาติกันเท่านั้น เพราะสิ่งสำคัญสุดก็คือ "จงเฝ้าระวังให้เหมือนนักบุญไมเคิ่ล ที่ทำหน้าที่ป้องกันประตูหัวใจของทุกคนที่ทำงานในวาติกัน จงเฝ้าระวังเสมอเพราะการประจญล่อลวงมันเข้ามาหาเราในทุกหนทุกแห่ง" - มันมีการประจญล่อลวงประเภทหนึ่งที่พ่ออยากพูดกับพวกท่านทุกคน การประจญล่อลวงที่ว่านี้ ปีศาจมันชอบแบบสุดๆก็ว่าได้ มันเป็นการประจญที่ทำลายความเป็นหนึ่งเดียวกันของคนในวา

โป๊ปฟรังซิส: "พ่ออยากให้พระศาสนจักรบาดเจ็บมากกว่าเจ็บป่วย"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงแนะครูคำสอนปรับตัวสอนคำสอนให้เข้ากับบริบทโลกที่เปลี่ยนไป ทรงเปรียบ ถ้าเราไม่ปรับตัวไม่ก้าวออกจากตัวเอง เราก็เหมือนอยู่ในห้องปิดตาย และจะทำให้เราเจ็บป่วยได้ ดังนั้น พระศาสนจักรต้องก้าวออกไปพบผู้คนตามท้องถนน แม้ถนนจะมีอุบัติเหตุ แต่พระศาสนจักรก็บาดเจ็บเพราะมีชีวิตชีวา ดีกว่าเจ็บป่วยแบบซังกะตาย ทรงเตือนสติครูคำสอน "การเป็นครูคำสอนคือการเป็นด้วยชีวิต เพราะนี่การนำพระวาจาพระเยซูไปสอนผู้อื่น" อย่าคิดว่าตัวเอง "ทำงานครูคำสอน" เพราะถ้าคิดแบบนั้น เราจะไม่ทำด้วยชีิวิต แต่เราจะทำเพราะมันคืองานกับเงิน ทรงยืนยัน พระศาสนจักรคาทอลิกไม่ได้เติบโตด้วยการเชิญชวนคนอื่นเปลี่ยนศาสนา แต่เติบโตเพราะการเป็นประจักษ์พยานถึงความเชื่อ ช่วงเย็นวันศุกร์ที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงออกมาต้อนรับและให้โอวาทบรรดาครูคำสอนจากทั่วโลกกว่า 1,600 คน ที่เดินทางมาเข้าเฝ้าในหอประชุมที่ 6 นครรัฐวาติกัน โอกาสร่วมประชุมครูคำสอนโลกภายใต้หัวข้อ "ครูคำสอน: ประจักษ์พยานแห่งความเชื่อ" โดยหนึ่งในนั้น มีพระสงฆ์คาทอลิกและครูคำสอนไทยร่

โป๊ปฟรังซิส: คริสตชนตัวจริงวัดกันที่ "อยากสบาย" หรือ "อยากติดตามพระเยซู"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงชี้ บทพิสูจน์ของการเป็นคริสตชนตัวจริง อยู่ที่ เราต้องเลือกระหว่างจะเป็น "คริสตชนรักสบาย" หรือ "คริสตชนที่ต้องการติดตามพระเยซู" พร้อมย้ำ ความต่ำต้อยของไม้กางเขนคือ "อุปสรรค" ทำให้คริสตชนรักสบายหลายคน ไม่กล้าติดตามพระเยซูด้วยใจ ช่วงเช้าวันศุกร์ที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา มิสซานี้ พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า: - พระวรสารวันนี้ พระเยซูทรงถามบรรดาศิษย์ว่าพวกเขาคิดว่าพระองค์เป็นใคร (ลูกา 9:18-22) พระองค์ทรงย้ำพวกเขาว่า "บุตรแห่งมนุษย์จะต้องรับทรมานและถูกบรรดาผู้อาวุโส มหาสมณะ และธรรมาจารย์ ปฏิเสธไม่ยอมรับและจะถูกตัดสินประหารชีวิต" นอกจากนี้ พระเยซูทรงเผยแสดงให้ศิษย์เห็นถึงพระมหาทรมาน การสิ้นพระชนม์ และการกลับคืนชีพของพระองค์ - หากเราอ่านพระวรสารตอนนี้ต่อไปอีก เราจะพบว่า พระเยซูทรงสั่งว่า "ถ้าผู้ใดอยากติดตามเรา ก็จงเลิกนึกถึงตนเอง จงแบกไม้กางเขนของตนทุกวันและตามเรามา ผู้ใดรักษาชีวิตของตน เขาจะสูญเสียชีวิตนั้น แต่ถ้าผู้ใดเสียชีวิตเพรา

โป๊ปฟรังซิส: "ถ้าอยากรู้จักพระเยซู จงออกไปตามถนนสัมผัสชีวิตเพื่อนมนุษย์"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงกระตุ้น ถ้าอยากรู้จักและสนิทกับพระเยซู จงก้าวออกไปตามท้องถนนและใช้ภาษาแห่งการกระทำเพื่อรู้จักพระองค์ ภาษาที่ว่าคือภาษาความคิด, ภาษาใจ และภาษาแห่งการกระทำต่อเพื่อนมนุษย์ ทรงชี้ให้คิด "เราไม่สามารถรู้จักพระเยซูได้จากที่นั่งหรือห้องรับรองแบบเฟิร์สคลาส" โดยเด็ดขาด ช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ 26 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา มิสซานี้ พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า: - พ่อขอถามพวกเราว่า "เราคิดว่าพระเยซูคือใคร พระองค์มาจากไหน" เราจะเห็นได้ว่า มีผู้คนมากมายในพระวรสารถามคำถามนี้ เพราะเขาอยากรู้อยากเห็น รวมถึงถามเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง อาทิ กษัตริย์เฮร็อด แน่นอน - พี่น้องที่รัก จงออกไปตามท้องถนนเพื่อทำความรู้จักกับพระเยซู ท่านจะไม่พบแค่คนเดียว แต่จะพบคนจำนวนมากที่พระเยซูประทับในพวกเขา - พวกท่านไม่สามารถทำความรู้จักหรือพบกับพระเยซูในที่นั่งหรือห้องรับรองชั้นเฟิร์สคลาส เช่นเดียวกัน พวกท่านจะไม่พบพระเยซูตามห้องสมุดหรอกนะ การจะพบและทำความรู้จักกับพระเยซู เราต้องก้าวออกไปสัมผัสกา

โป๊ปฟรังซิส: "การซุบซิบนินทาคือการทำลายพระศาสนจักร"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงชี้ การซุบซิบนินทาคือการทำลายพระศาสนจักร ทำลายชุมชนเขตวัด และทำลายสังคม ดังนั้น จงเลิกนิสัยนี้ซะเดี๋ยวนี้ ทรงตั้งคำถาม เรารู้สึกเจ็บปวดบ้างไหมเมื่อได้ยินข่าวพี่น้องคริสตชนถูกเบียด ถ้าไม่ แสดงว่าเรายังไม่รู้สึกถึงการเป็นครอบครัวเดียวกันในพระเจ้า นอกจากนี้ บรรดาพี่น้องมุสลิมจากฝรั่งเศสได้มาร่วมเข้าเฝ้าพระสันตะปาปาด้วย ช่วงสายวันพุธที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในการเข้าเฝ้าทั่วไป ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน ท่ามกลางสัตบุรุษที่มาร่วมรับเสด็จกว่า 50,000 คน หนึ่งในนั้น มีบรรดาพี่น้องมุสลิมจากฝรั่งเศสได้มาร่วมเข้าเฝ้าพระสันตะปาปาด้วย โดยวันนี้ พระสันตะปาปาได้ตรัสสอนทุกคนใจความว่า: - เมื่อเราได้ยืนยันความเชื่อ เราก็ได้ยืนยันว่าพระศาสนจักรมีความเชื่อหนึ่งเดียว เชื่อในการเป็นผู้สานต่อบรรดาอัครสาวก และเชื่อในความหวังเดียวกัน นี่คือการประกาศยืนยันความเชื่อที่ชัดเจน แต่เรายังต้องถามตัวเองว่า เราได้ดำเนินชีวิตตามข้อความเชื่อเหล่านี้จริงหรือไม่ - เมื่อพ่อได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับพี่น้องชายหญิงที่มีความเชื่อ

โป๊ปฟรังซิส: "พิธีศีลศักดิ์สิทธิ์ต่างๆไม่ใช่พิธีคาถาเวทมนต์"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงย้ำ พิธีศีลศักดิ์สิทธิ์ต่างๆของพระศาสนจักรไม่ใช่พิธีคาถาอาคม แต่นี่คือการนำเราให้พบกับพระเยซูคริสต์ ผู้เดินร่วมทางไปกับเรา ทรงชี้ พระเจ้าไม่มีประวัติศาสตร์ เพราะพระองค์ทรงเป็นองค์แห่งความนิรันดร ทรงเป็นพระเจ้าตลอดกาล ช่วงเช้าวันอังคารที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา มิสซานี้ พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า: - พี่น้องที่รัก ในบทอ่านวันนี้จากหนังสือเพลงสดุดี เราได้ฟังข้อคิดหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือการเดินไปยังบ้านของพระเจ้าด้วยความชื่นชมยินดี ดังนั้น พ่ออยากแบ่งปันว่า เวลาที่เรามาร่วมมิสซา เราก็ต้องมาด้วยความชื่นชมยินดี มาให้เหมือนมางานเลี้ยงของพระเยซู ไม่ใช่มาเพราะความทุกข์ หรือมาเพราะถูกบังคับมา - พวกท่านคิดว่าพิธีมิสซาคืออะไร สำหรับพ่อ ขอแบ่งปันว่า มิสซาไม่ใช่ "พิธีกรรมที่มีคาถาเวทมนต์" แต่นี่คือการนำเราไปพบกับพระเยซู ผู้เป็นเพื่อนร่วมทางในชีวิตเรา - ตลอดประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาสำหรับประชากรของพระเจ้า มันมีช่วงเวลาอันงดงามที่นำความชื่นชมยินดีมาสู่เราอย่างล้นเหลือ แต่ในเว

โป๊ปฟรังซิสให้กำลังใจคนว่างงานอย่าท้อแท้

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงให้กำลังใจชาวเมืองกายารี่สู้กับวิกฤติเศรษฐกิจที่ทำให้คนเมืองนี้ต้องตกงานเป็นจำนวนมาก ทรงขอร้องนายจ้างอย่านำเงินและผลกำไรเป็นตัวตั้ง พอผลประการไม่ดีก็จ้องจะปลดคนงานอย่างเดียว ตอนท้าย ทรงเตือน โลกทุกวันนี้ให้เงินเป็นพระเจ้าและกำหนดชีวิต สิ่งนี้ไม่ต่างจากการทำการุญฆาตแบบลับๆแม้แต่น้อย ช่วงสายวันอาทิตย์ที่ 22 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในพิธีมิสซา ณ ลานหน้ามหาวิหารแม่พระแห่งโบนาเรีย ซึ่งอยู่ที่เมืองกายารี่ ทางตอนใต้ของอิตาลี โดยการเสด็จเยือนวันนี้เป็นแบบเช้าเย็นกลับ สาเหตุของการเสด็จเยือน เนื่องจากพระสันตะปาปาทรงต้องการถวายมิสซา ณ ลานกว้างแบบโปร่งๆ เช่นที่ลานมหาวิหารนี้ เพื่อจะได้เหมือนตอนพระองค์อยู่อาร์เจนตินา ซึ่งมักจะไปถวายมิสซาให้สัตบุรุษ ณ ลานกว้างๆอยู่ทุกสัปดาห์ สำหรับบทเทศน์ประจำมิสซานี้ พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า: - พ่อมาที่นี่เพื่อร่วมแบ่งปันความชื่นชมยินดี ความหวัง ความพยายาม และการให้คำมั่นสัญญากับพวกท่าน เหนือสิ่งอื่นใด พ่อมาเพื่อร่วมยืนยันความเชื่อในพระเจ้าร่วมกับพวกท่าน - ไม่ใช่แค่เมืองกายารี่เท่านั

โป๊ปฟรังซิส: "อย่ากลัวที่จะประกาศพระวรสารบนโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงกระตุ้นคาทอลิก อย่ากลัวที่จะมีตัวตนในโลกโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค จงกล้าประกาศอัตลักษณ์คริสตชนออกไปเพราะตอนนี้เราเป็นพลเมืองของโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คไปแล้ว พร้อมกันนี้ ทรงชี้ ความท้าทายสำหรับคาทอลิกที่เล่นโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คคือ "เรามีความสามารถพอที่จะประกาศพระคริสตเจ้าบนโลกโซเชี่ยลหรือเปล่า"  ช่วงสายวันเสาร์ที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงต้อนรับสมาชิกสมณสภาสื่อสารสังคม หน่วยงานในสันตะสำนักที่มาเข้าเฝ้า ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมประจำปีภายใต้หัวข้อเกี่ยวกับการประกาศพระวรสารด้วยโซเชี่ยล มีเดีย โดยผู้เข้าเฝ้าครั้งนี้ มีผู้แทนจากประเทศไทยด้วย ได้แก่ พระอัครสังฆราช ฟรังซิส เซเวียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวานิช และ อ.ชัยณรงค์ มณเฑียรวิเชียรฉาย ในส่วนของพระดำรัสแบ่งปันจากพระสันตะปาปา พระองค์ตรัสว่า: - วันนี้ เราต้องถามตัวเองเกี่ยวกับบทบาทใดบ้างที่พระศาสนจักรมี ในแง่ของแนวทางปฏิบัติของการสื่อสาร - ในทุกสถานการณ์ที่ไกลเกินกว่าเรื่องเทคโนโลยี พ่อเชื่อว่า เป้าหมายอยู่ที่การทำความเข้าใจว่า เราจะเข้าถึงการเสวนากับชายและหญิงของยุคนี้

โป๊ปฟรังซิส: "พระเจ้าทรงมองมนุษย์ด้วยความเมตตาและให้โอกาสกลับใจเสมอ"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงชี้ พระเจ้าทรงมองมายังเราแต่ละคนด้วยพระเมตตาและเปิดโอกาสให้กลับใจเสมอ เหมือนอย่างที่พระเยซูทรงมองมาที่ "นักบุญแม็ทธิว" คนบาปคนเก็บภาษีที่ถูกทุกคนรังเกียจ แต่พระเจ้าก็ให้โอกาสได้กลับใจและทำให้ท่านได้พบ "คุณค่าที่ดีที่แท้จริงในตัวเอง" ให้กับโลก นั่นคือการนิพนธ์พระวรสาร ช่วงเช้าวันเสาร์ที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้า โอกาสวันฉลองนักบุญแม็ทธิว อัครสาวกและผู้นิพนธ์พระวรสาร ภายในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา มิสซานี้ พระสันตะปาปาทรงเทศน์สอนว่า: - วันนี้ เราฉลองนักบุญแม็ทธิว แน่นอนว่า บทเทศน์ในวันนี้ จะพูดถึงใครไม่ได้เลยถ้าไม่ใช่ท่านนักบุญแม็ทธิว - นักบุญแม็ทธิวเป็นคนเก็บภาษี เป็นคนบาปที่โจ่งแจ้งเด่นชัด ตลอดชีวิตของท่านนั้นพูดได้ว่า เงินคือทุกอย่างของชีวิต เงินคือทุกสิ่งในสายตาของท่าน แต่เมื่อพระเยซูทรงเรียกแม็ทธิว ภายในจิตใจของแม็ทธิวก็รู้สึกถึงสายตาของพระเจ้าที่ทรงมองมายังตัวเขาด้วยความเมตตา - สายพระเนตรที่พระเยซูมองมายังแม็ทธิวได้เปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาอย่างชัดเจน เราพูดได้เต็มปากเต็ม

โป๊ปเน้นแพทย์และพยาบาลคาทอลิกต้องปกป้องชีวิตมนุษย์

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงให้ข้อคิดบรรดาแพทย์และพยาบาลคาทอลิก "จงเป็นประจักษ์พยานและเป็นผู้ส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งชีวิต" เพราะพระเจ้าทรงมอบความวางใจในแพทย์และพยาบาลในการเป็นผู้ประกาศพระวรสารแห่งชีวิต ดังนั้น เราต้องปกป้องสิ่งสร้างที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า  ช่วงสายวันศุกร์ที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงต้อนรับสมาชิกสหพันธ์สมาคมการแพทย์คาทอลิกนานาชาติที่มาเข้าเฝ้าในวาติกัน โอกาสมาร่วมการประชุมครบ 10 ปีสหพันธ์ดังกล่าว โอกาสนี้ พระสันตะปาปาทรงกล่าวแบ่งปันกับทุกคนว่า: - พี่น้องแพทย์และพยาบาลที่รัก วันนี้ พ่อขอแบ่งปันเรื่องราว 3 ประเด็นกับพวกท่าน ดังต่อไปนี้ - หนึ่ง พ่อขอกล่าวถึง "สถานการณ์ที่มันขัดแย้งในตัวเองเกี่ยวกับวงการแพทย์" พูดง่ายๆคือตอนนี้ วิวัฒนาการทางการแพทย์ก้าวหน้าไปมาก มีการค้นคว้าวิจัยหาวิธีรักษาใหม่ๆตลอด แต่ในทางกลับกัน มันก็มีอันตรายบางประการที่ทำให้แพทย์อาจจะสูญเสียอัตลักษณ์แห่งการเป็นผู้รับใช้ของชีวิต พึงระลึกเสมอว่า หน้าที่สำคัญสุดของแพทย์คือ "การปกป้องและส่งเสริมชีวิต" - เรื่องที่สอง พ่อขอเน้นถึง

โป๊ปฟรังซิส: คาทอลิกต้องอย่าให้เงินเข้ามาแทนที่พระเจ้า

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงเตือนสติคาทอลิก เราไม่สามารถรับใช้พระเจ้าและเงินตราได้พร้อมๆกัน เมื่อใดที่บูชาเงินเป็นพระเจ้า เราจะตกหลุมพรางของการคดโกงและความขัดแย้ง ทั้งยังทำให้ความเชื่อในพระเจ้าอ่อนแอด้วย ทรงอธิบาย ถ้าเราบูชาเงินสำคัญสุดในชีวิต เราก็ทำผิดพระบัญญัติประการที่ 1 ด้วยการนมัสการเงินแทนพระเจ้าแล้วนั่นเอง ช่วงเช้าวันศุกร์ที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าภายในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา มิสซานี้ พระสันตะปาปาทรงเทศน์สอนว่า: - บทอ่านประจำวันนี้ นักบุญเปาโลเขียนสอนทิโมธีว่า "ความรักและบูชาเงินตราคือบ่อเกิดของความชั่วทั้งมวล" ดังนั้น วันนี้ พ่อก็อยากแบ่งปันข้อคิดที่ได้จากบทอ่านตอนนี้สักเล็กน้อย - พี่น้องที่รัก พ่ออยากย้ำว่า "เราไม่สามารถรับใช้พระเจ้าและเงินตราได้ในเวลาเดียวกัน" เพราะการบูชาเงินตราจะนำไปสู่การคดโกงคอร์รัปชั่นและทำให้ความเชื่อในพระเจ้าอ่อนแอ - เงินทำให้ความคิดและจิตของเราป่วย เงินคือยาพิษต่อความคิดของเรา และแน่นอน การบูชาเงินตราคือยาพิษต่อความเชื่อของเราด้วย มันนำเราเข้าสู่หนทางของการอิจฉ

โป๊ปฟรังซิสเตือนสติบรรดาพระสังฆราชคาทอลิก "อย่าประพฤติตนเป็นพระสังฆราชประจำสนามบิน"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงเตือนสติบรรดาพระสังฆราชคาทอลิก อย่าประพฤติตนเป็น "พระสังฆราชประจำสนามบิน" (Airport Bishops) ที่เดินทางไปทั่ว แต่แทบไม่อยู่สังฆมณฑล ทรงย้ำพระสังฆราชอย่าทำตัวเหมือน "เจ้าชาย" ชี้ ถ้าพระสังฆราชพระสงฆ์ฝันอยากให้สังฆมณฑลของตนมีขนาดใหญ่ขึ้น ก็ไม่ต่างกับ "การมีชู้ทางจิตวิญญาณ" (Spiritual Adultery) เพราะพระสังฆราชและพระสงฆ์แต่งงานกับพระศาสนจักรแล้ว ดังนั้น อย่ามักใหญ่ใฝ่สูง ทรงกระตุ้น พระสังฆราชต้องออกไปอยู่กับสัตบุรุษให้มากๆ ทรงย้ำ ถ้าพระสงฆ์โทรมาหา พระสังฆราชต้องรับโทรศัพท์ ไม่ใช่ปล่อยให้ดังไปเรื่อยและไม่โทรกลับ ถ้าจะโทรกลับ ต้องโทรในวันนั้นหรือไม่ก็วันถัดไป  ช่วงสายวันพฤหัสบดีที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงต้อนรับบรรดาพระสังฆราชที่เพิ่งได้รับแต่งตั้งใหม่จากทุกมุมโลกที่มาเข้าเฝ้าในวาติกัน โอกาสที่พระสังฆราชเหล่านี้มาร่วมประชุมวาระพิเศษที่จัดให้กับพระสังฆราชใหม่โดยเฉพาะ สำหรับสิ่งที่พระสันตะปาปาตรัสสอนบรรดาพระสังฆราชใหม่ มีใจความว่า: - พ่อขอแบ่งปันจดหมายของนักบุญเปโตร ฉบับที่ 1 กับพวกท่าน

โป๊ปฟรังซิส: พระศาสนจักรต้องเป็นแม่ที่กล้าหาญที่จะปกป้องลูกของตน

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงย้ำ พระศาสนจักรต้องมีความเป็นแม่และมีความกล้าหาญที่จะปกป้องลูกของตน ทรงเปรียบ พระศาสนจักรก็เหมือนหญิงม่าย ที่สามีได้เดินล่วงหน้าไป แต่หญิงม่ายก็พยายามปกป้องและนำลูกของตนให้ได้ไปพบสามีของเธอซึ่งก็คือพระเยซูคริสต์ พร้อมกันนี้ ทรงกระตุ้น พระศาสนจักรต้องกล้าร่วมทุกข์และกรีดร้อง เมื่อเห็นลูกของตนได้รับอันตราย ช่วงเช้าวันอังคารที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา มิสซานี้ พระสันตะปาปาทรงเทศน์สอนว่า: - พระวรสารวันนี้ พระเยซูทรงปลุกบุตรของหญิงม่ายที่เมืองนาอินให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง พระเยซูทรงช่วยหญิงม่ายเพราะพระองค์ทรงรู้สึกสงสารเธอมากๆ พระองค์ทรงทราบดีถึงความรู้สึกของหญิงม่ายที่ต้องสูญเสียบุตรไป การที่พระเยซูช่วยหญิงม่ายแสดงให้เห็นถึงความรักอันสุดพิเศษของพระเจ้าที่มีต่อหญิงม่ายและมีต่อมนุษย์ - จะว่าไป พระศาสนจักรก็เป็นเหมือน "หญิงม่าย" เพราะเจ้าบ่าวได้ล่วงหน้าไปและหญิงม่ายนี้ก็ยังคงเดินต่อไปบนหน้าประวัติศาสตร์ หญิงม่ายนี้ยังหวังที่จะได้พบกับเจ้าบ่าวของตนอีกครั้ง และแน่

โป๊ปฟรังซิสสอนพระสังฆราชและพระสงฆ์​ "อย่าหลงไปตามจิตฝ่ายโลกและจิตแห่งการคดโกง"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงเตือนสติพระสังฆราชและพระสงฆ์คาทอลิก "อย่าหลงไปตามจิตฝ่ายโลกและจิตแห่งการคดโกง" เพราะมันเป็นอันตรายต่อการเป็นนายชุมพาบาลดูแลฝูงแกะของพระเจ้า ทรงย้ำพระสังฆราช ต้องดูแลพระสงฆ์เวลาเผชิญความยากลำบาก ทรงสอนพระสงฆ์ จงกล้าออกไปตามคนทิ้งวัดให้กลับมาหาพระเจ้า ไม่ใช่เอาแต่นั่งทำงานง่ายๆไปวันๆ  ช่วงสายวันจันทร์ที่ 16 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ได้เสด็จไปยังมหาวิหาร จอห์น ลาเตรัน ซึ่งเป็นอาสนวิหารของสังฆมณฑลโรม เพื่อพบปะและให้โอวาทแก่บรรดาพระสงฆ์คาทอลิกสังกัดสังฆมณฑลโรม ซึ่งเป็นสงฆ์ในความดูแลของพระองค์โดยตรง งานดังกล่าวใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง โดยพระสันตะปาปาทรงเปิดโอกาสให้พระสงฆ์สังฆมณฑลโรม ได้ลุกขึ้นถามคำถามพระองค์แบบเป็นกันเอง ซึ่งใจความสำคัญของการถามตอบ มีดังนี้: - พระสันตะปาปาทรงย้ำกับบรรดาพระสงฆ์ว่า "พระศาสนจักรต้องการนายชุมพาบาลให้กับสัตบุรุษ พระศาสนจักรไม่ได้ต้องการสงฆ์ที่เป็นไปตามอัตภาพ" - วันที่ 1-3 ตุลาคม 2013 พ่อจะประชุมกับคณะพระคาร์ดินัลที่ปรึกษาเพื่อปฏิรูปโรมันคูเรีย การประชุม

โป๊ปฟรังซิส: "คาทอลิกที่ดีต้องสวดให้ผู้ปกครองบ้านเมือง"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงสอน คาทอลิกที่ดีต้องสวดภาวนาให้ผู้ปกครองบ้านเมือง เพื่อพวกเขาจะได้ทำหน้าที่บริหารประเทศอย่างดี ทรงชี้ ถ้าผู้ปกครองบ้านเมืองไม่เป็นแบบอย่างที่ดี เราก็ต้องสวดให้เขากลับใจ ทรงย้ำ ผู้ปกครองบ้านเมืองต้องรักประชาชนและสุภาพถ่อมตน เพราะถ้าขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เขาจะไม่ใช่ผู้ปกครอง แต่จะเป็นผู้คุมกฏเท่านั้น  ช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 16 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา มิสซานี้ พระสันตะปาปาทรงเทศน์สอนว่า: - พระวรสารวันนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับ "นายร้อย" ผู้เปี่ยมด้วยความสุภาพถ่อมตนและเชื่อในพระเจ้าที่มาขอให้พระเยซูรักษาผู้รับใช้ของตน (ลูกา 7:1-10) นอกจากนี้ ในจดหมายของนักบุญเปาโลถึงทิโมธี ท่านนักบุญก็เชิญทุกคนภาวนาเพื่อผู้ที่เป็นเจ้านายเป็นผู้ปกครองและผู้มีอำนาจบ้านเมือง - ผู้ใดที่ต้องปกครองคนหรือบ้านเมือง เขาต้องรักผู้ใต้ปกครองของเขา เพราะผู้นำที่ไม่รักผู้ใต้ปกครอง เขาก็จะไม่สามารถปกครองใครได้ อย่างดีที่สุด เขาก็จะเป็นแค่ผู้ออกกฏคุมกฏเท่านั้น - ตัวอย่างของผู้ปกครองที่ดีก็คือ "กษัต

โป๊ปฟรังซิส: "อย่าตัดสินคนบาปว่าเดี๋ยวมันต้องถูกพระเจ้าลงโทษ"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงเตือนสติคริสตชน "อย่าไปตัดสินคนบาปว่า เขาต้องถูกพระเจ้าลงโทษ" ตรงกันข้าม เราควรให้อภัยคนบาปและมีเมตตาต่อพวกเขาเหมือนที่พระเจ้าทรงสอนเราผ่านเรื่องลูกล้างผลาญ ทรงสอนชัดๆ ถ้าเราดำเนินชีวิตด้วยคติ "ตาต่อตา ฟันต่อฟัน" เราจะไม่สามารถเอาชนะ "จิตชั่วในใจเรา" ได้เลย พร้อมกันนี้ ทรงย้ำ พระเจ้าคือองค์แห่งความสุขความชื่นชมยินดี และความสุขความยินดีของพระเจ้าคือการได้ให้อภัยมนุษย์ตลอดเวลา  ช่วงเที่ยงวันอาทิตย์ที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในการสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าว ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน ท่ามกลางสายฝนที่ตกมาอย่างหนัก แต่สัตบุรุษก็ไม่ท้อถอยที่จะมาสวดกับพระสันตะปาปา สำหรับบทแบ่งปันประจำวันนี้ พระสันตะปาปาตรัสว่า: - พระวรสารประจำวันอาทิตย์นี้พระเยซูทรงเล่าเรื่องอุปมา 3 อย่างทั้งเรื่องพระเมตตาของพระเจ้า, เรื่องลูกแกะที่หลงไป และเรื่องลูกล้างผลาญ - สิ่งที่หนึ่งที่เราเห็นชัดจากพระวรสารตอนนี้คือความชื่นชมยินดีของพระเจ้า ซึ่งได้แก่ความชื่นชมยินดีแห่งการให้อภัย - พระเมตตาของพระเจ้า

โป๊ปฟรังซิส: "เราต้องภาวนาและเป็นทุกข์ถึงบาป ถึงจะเข้าใจธรรมล้ำลึกแห่งไม้กางเขน"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงแบ่งปัน การจะเข้าใจธรรมล้ำลึกแห่งไม้กางเขน เราต้องสวดภาวนาอย่างร้อนรนและเป็นทุกข์ถึงบาปที่ตนได้กระทำ ทรงให้กำลังใจ การจะเข้าใจธรรมล้ำลึกอาจจะยากซักหน่อย แต่ถ้าเราภาวนาอย่างจริงจัง เราก็จะเข้าใจธรรมล้ำลึกได้ ช่วงเช้าวันเสาร์ที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้า โอกาสวันฉลองเทิดทูนไม้กางเขน ภายในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา มิสซานี้ พระสันตะปาปาทรงเทศน์สอนว่า: - วันนี้ เราฉลองเทิดทูนไม้กางเขน ธรรมล้ำลึกแห่งไม้กางเขนนั้น เราสามารถพบได้ในเรื่องราวของมนุษยชาติและเรื่องราวของพระเจ้า ซึ่งถูกรวบรวมและถ่ายทอดโดยบรรดาผู้นำพระศาสนจักรยุคแรกเริ่ม พวกท่านเหล่านั้นได้ทำการเทศน์สอนเชิงเปรียบเทียบระหว่างความดีกับความชั่ว - บนไม้กางเขนคือเรื่องราวของพระเจ้า พระองค์ทรงเลือกเส้นทางเดินไปพร้อมมนุษย์ ทรงเลือกลงมาบังเกิดเป็นมนุษย์ รับทรมาน รับสภาพของการเป็นทาส แต่ทรงยอมรับทุกสิ่งและเชื่อฟังพระบิดาจนกระทั่งสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน - พระเจ้าทรงรักเราอย่างหาที่สุดมิได้ ความรักนี้ไม่สามารถหาคำใดมาอธิบายได้ วันนี้ เรามองไปบนไม้กางเข

โป๊ปฟรังซิส: "อย่าอ้างว่าเรานินทาโดยสุจริตเด็ดขาด"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงประกาศชัด โลกนี้ไม่มีคำว่า "นินทาโดยสุจริต" เพราะการนินทาคืออาชญากรรมการฆ่าคน ทรงชี้ ถ้าเรานินทาคนอื่น เราก็กลายเป็น "คนเลวจอมเสแสร้ง" ที่ไม่ยอมดูตัวเองก่อนไปด่าว่าคนอื่น ทรงแนะ จงเปลี่ยนการนินทาด่าคน ไปเป็นการสวดและพลีกรรมให้ศัตรู เพราะเราเห็นตัวอย่างแล้วผ่านทางพระเยซู ช่วงเช้าวันศุกร์ที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา มิสซานี้ พระสันตะปาปาทรงเทศน์สอนว่า: - พระวรสารวันนี้ พระเยซูทรงสอนว่า "ทำไมพวกท่านจึงมองดูเศษฟางในดวงตาของพี่น้อง แต่ไม่สังเกตเห็นท่อนซุงในดวงตาของท่าน" พระวรสารตอนนี้สอนเราว่าอะไร นี่คือการสอนเราถึงความสุภาพถ่อมตน พระเยซูทรงสอนเราถึงทัศนคติแห่งความเกลียดชังที่เรามีต่อเพื่อนมนุษย์ ซึ่งต่อมามันกลายเป็นการตัดสินเพื่อนมนุษย์ แต่เราไม่ยอมดูตัวเราเองก่อนเลย - พระวรสารวันนี้ พระเยซูใช้คำได้ชัดๆตรงๆว่า "พวกคนเลวจอมเสแสร้ง" (คนเลวย่อมนำสิ่งที่เลวออกมาจากขุมทรัพย์ที่เลวของตน เพราะปากย่อมกล่าวสิ่งที่อัดอั้นอยู่ในใจออกมา - ลูก

Opinion: พระสันตะปาปาจะมาเยือนไทย??

Image
วันสองวันนี้ ผมเห็นหลายคนแชร์ข่าวที่มีการรายงานว่า สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงตอบรับคำเชิญของนายกรัฐมนตรีในการเสด็จเยือนประเทศไทย เรื่องนี้ ผมได้ลองสอบถามไปยัง มองซินญอร์ วิษณุ ธัญญอนันต์ ซึ่งเคยปฏิบัติงานในวาติกัน (อดีตปลัดสมณสภาเสวนาระหว่างศาสนา) จึงได้คำตอบว่า การตอบรับของพระสันตะปาปา “เป็นการตอบรับทางการทูต” ซึ่งไม่แน่เสมอไปว่า พระองค์จะต้องมาเยือนแบบที่เสนอข่าวไป (เราเห็นกันทุกวันว่า พระสันตะปาปาทรงต้อนรับผู้นำทุกประเทศที่มาเยือน และทุกประเทศก็ทูลเชิญพระสันตะปาปาเหมือนกันหมด แต่พระองค์ก็ไม่ได้ไปเยือนทุกประเทศที่มาเชิญ) การที่พระสันตะปาปาจะเสด็จเยือนประเทศใดก็ตาม จะต้องมีการทูลเชิญจาก 2 ฝั่งคือ จากสภาพระสังฆราชคาทอลิกในประเทศนั้นๆ ที่จะเชิญมาร่วม “เหตุการณ์สำคัญ” เกี่ยวกับพระศาสนจักรคาทอลิกในประเทศดังกล่าว และเมื่อพระสันตะปาปาตอบรับคำเชิญ ก็จะเป็นการทูลเชิญจาก “คณะรัฐบาล” ในฐานะผู้ดูแลฝ่ายบ้านเมือง (คณะรัฐบาลเป็นเหมือน “เจ้าบ้าน” ที่จะทูลเชิญ ในกรณีที่พระสันตะปาปาตอบรับคำเชิญของสภาพระสังฆราชคาทอลิกประเทศนั้นๆ แต่รัฐบาลไม่ต้อนรับพระสันตะปาปา พระองค์ก็จะไม่มาเยือน เพราะเจ้าบ้านไม่

โป๊ปฟรังซิส: "คริสตชนต้องรู้จักให้อภัยศัตรูและเลิกนินทาคน"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงเตือนสติคาทอลิกทุกคน เราต้องรู้จักให้อภัยศัตรู แม้สิ่งนี้จะเป็นเรื่องยากมากๆ แต่คาทอลิกของแท้ต้องทำให้ได้ ถ้าทำไม่เป็น ให้ดูแม่พระเป็นตัวอย่าง พร้อมกันนี้ ทรงแนะ การเป็นประจักษ์พยานถึงพระเยซู ทำได้หลายแบบ หนึ่งในวิธีง่ายที่สุดคือ "เลิกซุบซิบนินทาคนอื่นซะ" ช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ 12 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา มิสซานี้ พระสันตะปาปาทรงเทศน์สอนว่า: - พระวรสารวันนี้ พระเยซูทรงเรียกร้อง "สิ่งที่หนักแน่น" จากคริสตชน นั่นคือ ความสามารถในการให้อภัย, ความใจกว้าง และความรักที่พร้อมมอบให้ศัตรู … มีหนทางเดียวที่จะสามารถนำไปสู่การปฏิบัติได้ ก็คือ เราต้องรำพึงภาวนาถึงพระมหาทรมานของพระเยซู, ความเมตตาของพระเยซู และการเลียนแบบอย่างนิสัยของแม่พระ - วันนี้ 12 กันยายน พระศาสนจักรทำการฉลอง "พระนามอันศักดิ์สิทธิ์ของแม่พระ" (Holy Name of Mary) วันนี้ เราระลึกถึงการฉลองความอ่อนหวานของพระนามมารีอา แม้ต่อมา เราจะมีการเปลี่ยนแปลงการฉลองบ้าง แต่ในบทภาวนา เราก็มีการเรียกข

โป๊ปฟรังซิสย้ำ "ยิ่งลักษณ์" ถึงความสำคัญของงานศาสนสัมพันธ์

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงเน้นย้ำความสำคัญของงานเสวนาศาสนสัมพันธ์และงานส่งเสริมสิทธิมนุษยชน ระหว่างการสนทนากับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทย พร้อมหารือเรื่องความร่วมมือที่พระศาสนจักรคาทอลิกให้ความช่วยเหลือประเทศไทยทั้งทางด้านการศึกษาและงานสังคม ช่วงสายวันพฤหัสบดีที่  12 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงต้อนรับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทย ที่ส่งหนังสือมาขออนุญาตเข้าเฝ้าในนครรัฐวาติกัน โดย ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นับเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 2 ของราชอาณาจักรไทย ที่เดินทางมาเข้าเฝ้าพระสันตะปาปา โดยนายกรัฐมนตรีของไทยคนแรกที่ได้เข้าเฝ้าพระสันตะปาปาคือ จอมพล ป.​พิบูลย์สงคราม ที่ได้เข้าเฝ้า สมเด็จพระสันตะปาปา ปีโอ ที่ 12 ในปีค.ศ.1955 ในส่วนการสนทนาครั้งนี้ สันตะสำนักออกแถลงการณ์ว่า "สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสนทนากับนายกรัฐมนตรีของไทยอย่างมิตรภาพ โดยเป็นการรำลึกความสัมพันธ์อันดีระหว่างสันตะสำนักกับประเทศไทย รวมไปถึงความร่วมมือกันระหว่างพระศาสนจักรคาทอลิกกับรัฐบาลไทย เฉพาะอย่างยิ่งในด้านการศึกษาและงานสังคม "นอกจากนี้ สมเด็จพระสั

โป๊ปฟรังซิส: "จงฉลองวันที่เราได้รับศีลล้างบาปเป็นประจำทุกปี"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงสั่งการบ้านคาทอลิกทุกคน "จงไปค้นดูว่าตนเองได้รับศีลล้างบาปวันไหน เมื่อรู้แล้ว ก็จงฉลองวันนั้นเป็นประจำทุกปี เพราะนี่คือวันที่เราได้ถือกำเนิดในพระศาสนจักร" ทรงย้ำ พระศาสนจักรไม่ใช่ "พรรคหรือสังกัด" แต่เป็นมารดาของคาทอลิกทุกคน ทรงชี้ แม่ทุกคนย่อมเคยทำผิดพลาด พระศาสนจักรก็เช่นกัน แต่กระนั้น แม้แม่จะเคยทำผิด แต่ลูกก็ยังรักแม่ไม่เปลี่ยนแปลง ช่วงสายวันพุธที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในการเข้าเฝ้าทั่วไป ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน โดยวันนี้ พระสันตะปาปาทรงกล่าวแบ่งปันกับทุกคนว่า: - พี่น้องที่รัก วันนี้ พ่ออยากแบ่งปันภาพลักษณ์ของพระศาสนจักรตามแนวทางคำสอนแห่งสังคายนาวาติกัน ที่ 2 ซึ่งเน้นว่า พระศาสนจักรเป็นมารดาของเราทุกคน - สำหรับคริสตชน พระศาสนจักรคาทอลิกไม่ใช่ "พรรค" หรือ "สังกัดองค์กร" ใดๆทั้งสิ้น เพราะพระศาสนจักรคือมารดาของคาทอลิกทุกคน - ไหน มีใครบ้างจำวันที่ตัวเองรับศีลล้างบาปได้บ้าง? ... โอ! พ่อเห็นมีคนยกมือไม่กี่คนเองนะ ดังนั้น การบ้านประจำวันนี้คือไปค้

โป๊ปฟรังซิส: "ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน" เป็นศัพท์สำคัญของชีวิตคริสตชน

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงชี้ คำว่า "เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน" เป็นศัพท์สำคัญของชีวิตคริสตชน เพราะเราต้องรู้จักรับใช้ผู้ยากไร้และผู้ตกทุกข์ได้ยากเหมือนที่พระเยซูสอน ทรงย้ำ บ้านเณรต้องอบรมหลักสูตรอภิบาลผู้ยากไร้ให้เข้มข้น เพื่อที่พระสงฆ์ในอนาคตจะมีประสิทธิภาพทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ทรงแนะ ถ้าอารามกลายเป็นอารามร้าง จงเปิดให้ผู้ยากไร้และผู้ลี้ภัยเข้ามาพัก ตอนท้าย ทรงให้ข้อคิดพระสงฆ์และนักบวช "ช่วยคนยากไร้และผู้ตกทุกข์ได้ยาก ไม่ใช่เรื่องยาก แค่อย่ากลัวว่า เสื้อผ้าและมือจะเปรอะเปื้อนสิ่งสกปรกเวลาช่วยพวกเขา เท่านี้ ท่านก็ได้ช่วยเหลือพวกเขาแล้ว" ช่วงเย็นวันอังคารที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ได้เสด็จไปเยี่ยมผู้ลี้ภัยที่ศูนย์อัสตัลลี่ ซึ่งอยู่ในความดูแลของคณะเยสุอิต โดยศูนย์แห่งนี้จะดูแลให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ลี้ภัยสงครามจากประเทศต่างๆ  ทั้งนี้ พระสันตะปาปาเสด็จมาศูนย์แห่งนี้ ด้วยรถยนต์คันโปรดและเร่ียบง่ายอย่าง "ฟอร์ด โฟกัส" รถเก่าตั้งแต่ปี 2008 โดยไม่มีรถนำขบวนและไม่มีเลขาฯนั่งติดตามมาด้วย ทันทีที่มาถึง พระสันตะปาปาได้เ

โป๊ปฟรังซิส: "ไม่มีใครเหนือกว่าใครในพระศาสนจักร"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงแบ่งปัน ไม่มีใครเหนือกว่าใครในพระศาสนจักร เพราะคนที่คิดแบบนี้คือคนที่มีปมด้อยและขาดความเชื่อในพระเยซูผู้กลับคืนชีพ ทรงย้ำ คนที่เหนือกว่าคนอื่นและเป็นผู้ชนะทุกสิ่งคือพระเยซูเท่านั้น ช่วงเช้าวันอังคารที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา มิสซานี้ พระสันตะปาปาทรงเทศน์สอนว่า : - พระเยซูคือผู้ชนะที่สามารถพิชิตบาปและความตาย เหมือนที่นักบุญเปาโลเขียนในจดหมายถึงชาวโคโลสี นักบุญเปาโลกล่าวชัดเจนว่า เมื่อเราเดินไปกับพระเยซู เราได้ร่วมเดินไปกับชัยชนะเหนือความตายที่พระองค์แสดงให้เห็นและยืนยันหนักแน่นผ่านทางความเชื่อในพระเจ้า - กุญแจสำคัญสำหรับความเชื่อคริสตชนคือการมีความเชื่อในพระเยซูคริสต์ผู้ทรงกลับคืนชีพจากความตาย กระนั้น การจะเข้าใจว่าคนๆหนึ่งกลับเป็นขึ้นมาจากความตาย เป็นเรื่องยากจะทำให้เราเข้าใจได้อย่างถ่องแท้ว่าเป็นไปได้อย่างไร - ตอนที่บรรดาอัครสาวกหลบอยู่บนห้องชั้นบนเพราะกลัวชาวยิว พวกเขาก็ไม่เชื่อว่าพระเยซูเสด็จกลับคืนชีพ คิดดูซิ แม้แต่ มารีอา มักดาเลนา ก็ยังร้องไห้เพราะคิดว่ามีคน

โป๊ปฟรังซิส: "การมีความหวังในพระเยซูต่างกับการมองโลกในแง่ดี"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงย้ำชัด คริสตชนต้องอย่าสับสนระหว่าง "การมีความหวังในพระเยซู" กับ "การมองโลกในแง่ดี" เพราะสองสิ่งนี้มีความหมายต่างกันมากๆ ทรงเผย รู้สึกเศร้าใจที่เห็นพระสงฆ์คาทอลิกบางองค์ดำเนินชีวิตแบบไม่มีความหวังและไม่สามารถเป็นผู้นำให้สัตบุรุษมีความหวังไปด้วย  ช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา มิสซานี้ พระสันตะปาปาทรงเทศน์สอนว่า: - ความหวังคือของขวัญจากพระเยซูที่มอบให้กับเรา แต่เราต้องอย่าสับสนกับความหวังที่เราพบเห็นได้ในคนทั่วไปที่มักจะมองอะไรเป็นน้ำครึ่งแก้วนะ คนแบบนี้มักจะมองว่าเดี๋ยวมันก็มีสิทธิ์พลิกผันได้ ถ้าเราคิดว่าการมองแบบนี้เรียกความหวังล่ะก็ มันไม่ใช่เลย คนที่มองแบบนี้เรียกว่า "มองโลกในแง่ดี" การมองโลกแง่ดีจัดเป็นทัศนคติของมนุษย์ซึ่งขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง - พระวรสารวันนี้สอนเราถึงเรื่องการมีความหวังได้เป็นอย่างดี พระเยซูทรงรักษาชายมือลีบ แต่ถูกพวกธรรมาจารย์และฟาริสีจ้องจับผิด อัศจรรย์ที่พระเยซูทรงกระทำให้ชายคนนี้หายจากโรคแสดงใ

โป๊ปฟรังซิส: "การติดตามพระเยซูคือการแบ่งปันพระเมตตาให้กับโลก"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงแบ่งปัน การติดตามพระเยซูคือการแบ่งปันพระเมตตาของพระองค์ให้กับโลก เช่นเดียวกับต้องแบกกางเขนและติดตามพระองค์ไปตลอด พร้อมกันนี้ ทรงขอบคุณทุกคนที่มาร่วมงานภาวนาและอดอาหารเพื่อสันติภาพในซีเรีย ทั้งยังวอนขอสันติภาพให้เกิดกับทุกประเทศทั่วโลกด้วย ช่วงเที่ยงวันอาทิตย์ที่ 8 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในการสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าว ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน ความพิเศษของวันนี้คือเป็นวันฉลองแม่พระบังเกิดและยังอยู่ในช่วงวันภาวนาเพื่อสันติภาพในซีเรียด้วย สำหรับบทแบ่งปันประจำวันนี้ พระสันตะปาปาตรัสว่า: - พระวรสารวันนี้ พระเยซูทรงอธิบายถึงเงื่อนไขการเป็นศิษย์ติดตามพระองค์ นั่นคือต้องรักพระองค์มากกว่าใคร และต้องแบกกางเขนติดตามพระองค์ด้วย การติดตามพระเยซูไม่ได้หมายถึงการร่วมขบวนพาเหรดแห่ฉลองชัย!! แต่มันหมายถึงการแบ่งปันความรักความเมตตา และเป็นส่วนหนึ่งของพันธกิจอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ พันธกิจของพระเยซูคือพันธกิจแห่งความเมตตา ให้อภัย และความรัก พระเยซูคือองค์แห่งความเมตตา - พระเยซูไม่ต้องการให้เราทำพันธกิจของพระองค์เพียง