Posts

Showing posts from June, 2013

โป๊ปฟรังซิสสดุดี "โป๊ปเบเนดิกต์" เป็นแบบอย่างของคนที่ฟังเสียงมโนธรรมตัวเอง

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงยกย่อง "สมเด็จพระสันตะปาปากิตติคุณ เบเนดิกต์ ที่ 16" เป็นแบบอย่างของคนที่ตัดสินใจทำตาม "มโนธรรม" ของตนเอง ผ่านทางการสวดภาวนาและตระหนักถึงพระประสงค์ของพระเจ้าที่ต้องการให้สละตำแหน่ง ทรงชี้ คริสตชนต้องทำตามมโนธรรม แต่อย่าให้ "อีโก้และความต้องการส่วนตน" มาบดบังมโนธรรมในจิตใจเป็นอันขาด สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในการนำสัตบุรุษกว่า 80,000 คน สวดทูตสวรรค์แจ้งข่าว ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน โดยวันนี้ พระศาสนจักรคาทอลิกหลายประเทศทั่วโลก ได้ทำการสมโภชนักบุญเปโตรและนักบุญเปาโล และยังเป็น "วันพระสันตะปาปา" ด้วย (Peter's Pence) สำหรับบทแบ่งปันในวันนี้ พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า: - เราต้องเรียนรู้ที่จะฟังมโนธรรมของเราให้มากๆ กระนั้นก็ดี เราต้องระวัง! เพราะการฟังเสียงมโนธรรมไม่ได้หมายความว่า เราต้องเดินตาม "อีโก้" และความต้องการของของตนเอง - ตอนที่มีคนมาหาพระเยซูแล้วบอกว่าต้องการติดตามพระองค์ พระเยซูตรัสตอบชัดเจนว่า ถ้าต้องการติดตามพระองค์ มีเงื่อนไขง่ายๆ ต้องเดินทางไปเรื่

Must See: การ์ตูนชีวประวัติสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส

PopeReport ขอแนะนำสุดยอดการ์ตูนชีวประวัติของ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส จัดทำโดย www.catholic-link.com ... ถ้าจะดูให้รู้เรื่อง Pope Report ได้แปล sub ให้แล้ว อ่านคู่กันไปด้วย จะสนุกมากๆ - พระเจ้าอวยพรเรามากๆด้วยการประทานพระสันตะปาปาองค์ใหม่ พระองค์เป็นใคร มาจากไหน พระองค์ชอบอะไร เรามาดูกัน พระสันตะปาปาองค์ใหม่มีพระนามเดิมว่า "ฮอร์เก้ มาริโอ แบร์โกโญ่" พระองค์ทรงสมภพที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนติน่า เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม ค.ศ.1936 - บิดาของพระองค์เป็นคนงานการรถไฟ ส่วนมารดาเป็นแม่บ้าน พระองค์ทรงมีพี่น้องทั้งหมด 5 คน (ชาย 3 หญิง 2) - พระองค์จบการศึกษาระดับปริญญาตรีในสาขาวิชาเคมี และวางแผนจะเรียนต่อปริญญาโท แต่แล้วชีวิตเปลี่ยนไป เมื่อตระหนักถึงกระแสเรียกตอนอายุ 21 ปี จึงตัดสินใจสมัครเข้าคณะเยสุอิตและได้รับการบวชเป็นพระสงฆ์ - ระหว่างที่เป็นพระสงฆ์ พระองค์ทรงทำงานอย่างหนักตามแบบพระเยซู ด้วยการรับใช้คนยากจน คนป่วย ทำงานอภิบาลในทุกวิถีทาง นอกจากทำงานอภิบาล พระองค์ยังเป็นอาจารย์สอนหนังสือในมหาวิทยาลัยด้วย - กีฬาสุดโปรดของพระองค์คือ "ฟุตบอล" ทีมโปรดคือ "ซาน ลอเร็นโซ่&

โป๊ปฟรังซิส: ความหลากหลายในพระศาสนจักรเป็นเหมือนภาพโมเสกล้ำค่า

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงชี้ ในพระศาสนจักร ความหลากหลายคือทรัพย์สมบัติล้ำค่า ซึ่งตั้งอยู่บนความเป็นหนึ่งเดียวกัน เหมือนกับภาพโมเสกอันงดงามที่ชิ้นส่วนเล็กๆได้ถูกนำมารวมกับส่วนอื่นๆ ประดุจแผนการที่ยิ่งใหญ่และงดงามของพระเจ้า พร้อมกันนี้ ทรงย้ำพระสังฆราช อย่าปล่อยให้ความคิดฝ่ายโลก อาทิ การแสวงหาอำนาจ เป็นอุปสรรคในการขัดขวางความเชื่อของการเป็นผู้อภิบาล สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในมิสซาสมโภชนักบุญเปโตรและนักบุญเปาโล พร้อมมอบ "ปัลลิอุม" ให้กับพระอัครสังฆราชใหม่ 34 องค์ที่ได้รับแต่งตั้งให้ปกครองอัครสังฆมณฑลต่างๆทั่วโลกในรอบปีที่ผ่านมา มิสซานี้จัดในมหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน โดยมีผู้แทนจากพระศาสนจักรออโธด็อกซ์แห่งคอนสแตนติโนเปิ้ล มาร่วมพิธีด้วย ในมิสซานี้ พระสันตะปาปาทรงเทศน์สอน 3 สิ่งสำคัญได้แก่: 1) การประกาศความเชื่อ - ตอนที่พระเยซูตรัสถึงพระมหาทรมาน การสิ้นพระชนม์ และการกลับคืนชีพ พระองค์ไม่ได้พูดถึงอำนาจฝ่ายโลกเลย จากนั้นนักบุญเปโตรแย้งพระเยซูว่า เรื่องแบบนี้จะไม่เกิดกับพระองค์ แต่พระเยซูทรงตอบกลับไปว่า "เจ้าซาตาน ไปให้พ้น" -

โป๊ปฟรังซิส: "พระเจ้าอดทนกับมนุษย์มาก ผิดกับมนุษย์ที่ไม่อดทนและพร้อมทิ้งพระเจ้าทันที"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงสอน พระเจ้าทรงมีความ "อดทน" ต่อมนุษย์และจะประทานความช่วยเหลือให้มนุษย์เมื่อถึงเวลาที่ดีเหมาะสมที่สุด ต่างจากมนุษย์ที่ "ไม่อดทน" กับพระเจ้า เมื่อสวดขอหรือเจอเรื่องร้ายๆแล้วผลลัพธ์ไม่ได้ดังใจหวัง ก็พร้อมทิ้งพระเจ้าไปทันที ทรงยืนยัน พระเจ้าอยู่กับเราเสมอ เพียงแต่พระองค์ไม่เผยแสดงตัวออกมาเท่านั้น ตัวอย่างชัดเจนสุดคือ "เหตุการณ์ที่เอ็มมาอุส" ตอนท้าย ทรงย้ำอีกรอบ พระเจ้าอดทนกับมนุษย์มาก ถ้าวันนั้น พระเยซูไม่อดทนและทำตามคำท้าทายที่บอกว่า "ถ้าเป็นพระเจ้าจริง จงลงจากกางเขนซิ" ประวัติศาสตร์ความรอดและสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับมนุษย์ก็คงไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน  ช่วงเช้าที่ผ่านมา (ศุกร์ที่ 28 มิ.ย.) สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา มิสซานี้ พระสันตะปาปาทรงเทศน์สอนว่า: - ในประวัติศาสตร์ เราจะเห็นการที่พระเจ้าเข้ามามีส่วนร่วมกับชีวิตมนุษย์หลายครั้ง ไล่ตั้งแต่ยุคอับราฮัมมาจนถึงปัจจุบัน - เมื่อใดที่พระเจ้าเข้ามามีบทบาทในชีวิตมนุษย์ พระองค์ไม่เคยมาในรูปแบบที่ซ้ำๆกัน พระเจ้าไ

โป๊ปฟรังซิส: "เป็นคริสตชน ต้องชื่นชมยินดี"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงแบ่งปัน คริสตชนต้องดำเนินชีวิตด้วยความชื่นชมยินดีและยึดมั่นในพระเยซู ผู้เป็นศิลาเอกของพระศาสนจักร ทรงชี้ ใครที่ปากบอกเป็นคริสตชน แต่ไม่ยึดมั่นในพระเยซูและดำเนินชีวิตเศร้าโศกก็ไม่ต่างจากคนที่ "ปลอมตัว" มาเป็นคริสตชน เพราะลักษณะสำคัญคริสตชนไม่ใช่แบบที่เขาแสดงออกมา ช่วงเช้าที่ผ่านมา (พฤหัสบดีที่ 27 มิ.ย.) สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา มิสซานี้ พระสันตะปาปาทรงเทศน์สอนว่า: - คริสตชนที่แท้จริงคือคนที่เปี่ยมด้วยความชื่นชมยินดีและมอบความเชื่อไว้บนศิลาเอกอย่างพระคริสตเจ้า - บางคน "คิด" ว่าตัวเองเป็นคริสตชนได้แบบไม่ต้องพึ่งพระคริสตเจ้า บางคนคิดว่า การเป็นคริสตชนหมายถึงการต้องไว้ทุกข์เศร้าโศกและทำตัวเคร่งครัดกับกฏระเบียบเสมอไป - ใครที่คิดแบบนี้ (ไม่ต้องยึดมั่นพระคริสตเจ้าและทำเป็นเคร่งครัดแต่ปาก) พวกเขาก็เป็นคนที่ "ปลอมตัว" มาเป็นคริสตชน พวกเขาเป็นคริสตชนแต่ปากเท่านั้น - การประจญล่อลวงยังพบเห็นได้ในปัจจุบัน คริสตชนตัวปลอมที่ปากบอกว่า "เชื่อ เราเชื่อพระเจ้า เราเชื่

โป๊ปตั้งคณะกรรมการตรวจสอบธนาคารวาติกันแล้ว

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบพันธกิจและกิจกรรมต่างของธนาคารวาติกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยคณะกรรมการ 5 คนนี้ ต้องรายงานตรงต่อพระสันตะปาปาแต่เพียงผู้เดียวด้วย ทั้งนี้ ตามรายงานข่าวจากนครรัฐวาติกัน เมื่อวันพุธที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา สันตะสำนักออกแถลงการณ์ว่า สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิ 5 คนที่จะมาเป็นคณะกรรมการตรวจสอบธนาคารวาติกันแล้ว หลังจากในสมณสมัยของพระสันตะปาปาก่อนหน้านี้หลายพระองค์ ยังไม่มีใครที่สามารถแก้ไขปัญหาความโปร่งใสของธนาคารวาติกันได้เลย ทั้งนี้ คณะกรรมการ 5 ท่านที่พระสันตะปาปาแต่งตั้ง ประกอบไปด้วย - พระคาร์ดินัล รัฟฟาเอเล่ ฟาริน่า (ประธานตรวจสอบ) - พระคาร์ดินัล ฌอง-หลุยส์ โตร็อง (สมาชิก) - พระสังฆราช ฆวน อิ๊กนาซิโอ อาร์เรียต้า โอชัว เด ชินเชตรู (ผู้ประสานงาน) - มองซินญอร์ ปีเตอร์ เวลล์ (เลขานุการ) - ศาสตาจารย์ แมรี่ แอน เกล็นดอน (สมาชิก) อนึ่ง คณะกรรมการตรวจสอบชุดนี้ จะทำงานขึ้นตรงกับสมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส แต่เพียงพระองค์เดียว โดยจะตรวจสอบพันธกิจและกิจกรรมทุกอย่างว่าโปร่งใสและถูกต้องหรือไม่ Read Mo

โป๊ปฟรังซิส: "ผู้ชายควรจะมีความสุขเมื่อรู้ว่าตัวเองจะมีลูก"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงสอนผู้ชายทุกคน ถ้าผู้ชายคนไหนไม่มีความสุขที่ได้เป็นพ่อคน เขาต้องมีความผิดปกติแน่ๆ เพราะมันเหมือนใช้ชีวิตไม่สุด แต่เป็นแบบครึ่งๆกลางๆ ส่วนบรรดาพระสงฆ์ ก็ต้องมีความสุขที่ได้เป็น "คุณพ่อฝ่ายจิตวิญญาณ" และดูแลเอาใจใส่สัตบุรุษให้เติบโตทางความเชื่ออย่างดี ช่วงเช้าที่ผ่านมา (พุธที่ 26 มิ.ย.) สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา มิสซานี้ พระคาร์ดินัล ซัลวาตอเร่ เด จอร์จี้ พระอัครสังฆราชกิตติคุณแห่งปาแลร์โม่ ที่ฉลองชีวิตสงฆ์ 60 ปี มาร่วมถวายด้วยในส่วนบทเทศน์ประจำมิสซานี้ พระสันตะปาปาทรงสอนว่า: - ในบทอ่านวันนี้ พระเจ้าทรงสัญญากับอับราฮัมผู้แก่เฒ่าเกี่ยวกับความชื่นชมยินดีที่จะมีบุตร ... เมื่อใดที่ชายคนหนึ่งไม่มีความรู้สึกนี้(ความยินดีที่จะมีบุตร) มันต้องมีบางสิ่งผิดปกติกับชายคนนั้นแน่ๆ ต้องมีบางสิ่งผิดแปลกออกไป เพราะเราต่างต้องการจะมีความรู้สึกยินดีที่จะมีบุตรและได้เป็นพ่อคน แม้แต่บางคนในกลุ่มพวกเราที่ครองตนเป็นโสด ก็ยังมีความยินดีเกิดขึ้น เมื่อทราบว่าคนที่เรารู้จักกำลังจะให้บังเกิดชีวิตใหม่ขึ้นม

โป๊ปฟรังซิส: "ในพระศาสนจักร ทุกคนมีความสำคัญเท่ากันหมด"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงย้ำ เราทุกคนมีความสำคัญเท่ากันหมดในพระศาสนจักร พระสันตะปาปาไม่ได้มีความสำคัญเหนือกว่าสัตบุรุษทั่วไป ฉะนั้น ถ้าใครมีบอกว่า "กลับบ้านไปซะ! แกไม่เป็นที่ต้องการของพระศาสนจักร" คนที่พูดแบบนั้นเป็นพวกโกหกไร้สาระสิ้นดี ช่วงสายวันพุธที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในการเข้าเฝ้าทั่วไป ท่ามกลางสัตบุรุษกว่า 90,000 คน ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน โดยวันนี้ พระสันตะบิดรผู้ศักดิ์สิทธิ์ ทรงกล่าวสอนสัตบุรุษในหัวข้อเกี่ยวกับพระศาสนจักร ใจความว่า: - พระเจ้าทรงสร้างบ้านของพระองค์ด้วยการเสด็จมาประทับอยู่ท่ามกลางเรา เราทุกคนเป็นประชากรของพระเจ้า - เราทุกคนต่างเป็นหินที่ใช้สร้างพระศาสนจักรซึ่งสร้างบนพระเยซู ผู้เป็นศิลาเอกของพระศาสนจักรแห่งนี้ - ในเมื่อเราเป็นหินที่ใช้สร้างพระศาสนจักร เราจึงมีส่วนสำคัญ ฉะนั้น ไม่มีใครไร้ค่าในพระศาสนจักร เราทุกคนมีความสำคัญเหมือนกันหมด ถ้ามีใครมาบอกท่านว่า 'กลับบ้านไปซะ! แกไม่เป็นที่ต้องการของที่นี่' มันจะเป็นเรื่องไร้สาระสิ้นดี - จำไว้นะว่า เราทุกคนมีความเท่าเทียมกั

ประธานชมรมศิษย์รัตซิงเกอร์ยืนยัน "พระสันตะปาปากิตติคุณทรงดูสดชื่นมาก"

Image
คุณพ่อสเตฟาน อ็อตโต้ ฮอร์น ประธานชมรมศิษย์รัตซิงเกอร์ (Ratzinger Schulerkreis) และยังเป็นเพื่อนสนิทของสมเด็จพระสันตะปาปากิตติคุณ เบเนดิกต์ ที่ 16 เผย ตนได้เข้าเยี่ยมพระสันตะปาปากิตติคุณ และขอยืนยันว่า พระองค์ทรงดูสดชื่นมากๆ ทั้งยังมีสภาพร่างกายและจิตใจที่ยอดเยี่ยมด้วย สัปดาห์ที่แล้ว ชมรมศิษย์รัตซิงเกอร์ ซึ่งเป็นกลุ่มศิษย์มหาวิทยาลัยระดับหัวกะทิของสมเด็จพระสันตะปาปากิตติคุณ เบเนดิกต์ ที่ 16 ได้มาประชุมประจำปีพร้อมหน้าที่วาติกัน จากนั้นได้เข้าเฝ้าพระสันตะปาปากิตติคุณ การเข้าเฝ้าดังกล่าวทำให้ศิษย์กลุ่มนี้ได้พบกับอาจารย์สุดที่รักของตนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ทรงประกาศสละตำแหน่งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทั้งนี้ คุณพ่อสเตฟาน อ็อตโต้ ฮอร์น ประธานชมรมศิษย์รัตซิงเกอร์ ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวถึงสุขภาพของพระสันตะปาปากิตติคุณว่า "พระสันตะปาปากิตติคุณ เบเนดิกต์ ที่ 16 ทรงอายุ 86 พรรษาแล้ว แน่นอนว่า ถ้าคนอายุขนาดนี้ คงไม่แข็งแรงแน่นอน แต่สำหรับพ่อแล้ว พระองค์ยังคงดูสดชื่น ความจำของพระองค์ยังคงแม่นยำและดวงตาของพระองค์ก็ยังเปี่ยมด้วยความยินดีมากๆ" นอกจากนี้ คุณพ่อฮอร์น ยังเผยด้วยว่า พระสันตะ

โป๊ปฟรังซิส: ไม่มีใครได้เป็นคริสตชนแบบบังเอิญแน่นอน

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงย้ำ ไม่มีใครที่เป็นคริสตชนแบบฟลุ๊คๆ แต่เราเป็นคริสตชนเพราะพระเจ้าทรงเลือกและเรียกเราทีละคนให้มาเป็นลูกของพระองค์ พร้อมกันนี้ ทรงยืนยัน พระเจ้าทรงเดินเคียงข้างเราเสมอ แม้ในยามเผชิญความยากลำบากสุดๆในชีวิตก็ตาม ช่วงเช้าที่ผ่านมา (อังคารที่ 25 มิ.ย.) สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา มิสซานี้ พระคาร์ดินัล โรเบิร์ต แซร่าห์ ประธานสมณสภากอร์ อูนัม และ พระคาร์ดินัล คามิลโล รูอินี่ อดีตอุปสังฆราชสังฆมณฑลโรม มาร่วมถวายด้วย ส่วนผู้ได้รับเชิญมาร่วมพิธีได้แก่เจ้าหน้าที่ประจำสมณสภากอร์ อูนัม และเจ้าหน้าที่สถานีอุตินิยมวิทยาของวาติกัน ในส่วนบทเทศน์ประจำมิสซานี้ พระสันตะปาปาทรงสอนว่า: - วันนี้ ในบทอ่านจากหนังสือปฐมกาล (ปฐก 13:2, 5-18) ได้เล่าถึงการโต้เถียงกันเพื่อแบ่งแยกดินแดนระหว่าง "อับราฮัม" กับ "ล็อต" (Lot แต่ภาษาไทยเรียก "โล็ท") เมื่อพ่อได้อ่านพระวาจาตอนนี้ พ่อคิดถึงสถานการณ์ในตะวันออกกลาง พ่อได้วอนขอพระเจ้าอย่างร้อนรนว่า ขอพระองค์ประทานปรีชาญาณแก่เราทุกคน ปรีชาญาณที่จะเอ่

โป๊ปฟรังซิส: "น.จอห์น บัปติสต์คือดวงจันทร์ที่ส่องแสงเตรียมทางให้ดวงอาทิตย์ได้ส่องสว่างโลก"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงอธิบาย พระศาสนจักรสมโภชนักบุญจอห์น บัปติสต์ ในเดือนมิถุนายน เพราะนี่เป็นช่วงที่มี "แสงสว่าง" นานสุดในรอบปี ซึ่งนักบุญจอห์น บัปติสต์ เป็นเหมือน "ดวงจันทร์" ที่ส่องแสงเตรียมทางให้พระเยซู ซึ่งเป็น "ดวงอาทิตย์" ได้สาดส่องความสว่างให้กับโลก พร้อมกันนี้ ทรงหวังเห็นคริสตชน กล้าประกาศพระวาจาเหมือนนักบุญจอห์น บัปติสต์ และต้องเป็นการประกาศแบบไม่หวังผลตอบแทนด้วย  ช่วงเช้าที่ผ่านมา (จันทร์ที่ 24 มิ.ย.) สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา โอกาสสมโภชนักบุญจอห์น บัปติสต์ มิสซานี้ พระคาร์ดินัล จานฟรังโก้ ราเวซี่ ประธานสมณสภาเพื่อวัฒนธรรม มาร่วมถวายด้วย ส่วนผู้ได้รับเชิญมาร่วมพิธีได้แก่เจ้าหน้าที่ประจำสมณสภาเพื่่อวัฒนธรรม ในส่วนบทเทศน์ประจำมิสซานี้ พระสันตะปาปาทรงสอนว่า: - วันนี้ พระศาสนจักรทำการสมโภชนักบุญจอห์น บัปติสต์ ผู้ที่พระวรสารได้ระบุว่าเป็นผู้เตรียมทางให้กับพระเยซู ดังนั้น พ่อขอเริ่มบทเทศน์วันนี้ด้วยการส่งความปรารถนาดีไปยังทุกคนที่มีศาสนนาม "จอห์น บัปติสต์" - ชี

พระสันตะปาปายกย่องเยาวชนที่กล้าสวนกระแสโลกเพื่อมาทำงานรับใช้สังคม

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงชื่นชมเยาวชนหลายคนที่กล้าสวนกระแสโลกและยอมสละความต้องการส่วนตัว เพื่อมาเป็นอาสาสมัครรับใช้เด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาสในสังคม พร้อมกันนี้ ทรงชี้ มันงดงามมากที่เราได้ช่วยผู้อื่นโดยไม่หวังผลตอบแทน ตอนท้าย เชิญร่วมรำลึกถึง "นักบุญจอห์น บัปติสต์" โอกาสที่วันพรุ่งนี้ (จันทร์ที่ 24 มิ.ย.) เป็นวันสมโภชศาสนนามของท่าน  สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในการนำสัตบุรุษกว่า 90,000 คน สวดทูตสวรรค์แจ้งข่าว ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน โดยวันนี้ พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า: - ความรักความเมตตาและความเอาใจใส่ที่จับต้องได้ต่อผู้อื่น อาทิ ผู้ยากไร้ ผู้อ่อนแอที่สุด และผู้ที่ต้องการได้รับความช่วยเหลือมากที่สุด จัดเป็นเครื่องหมายเด่นชัดของคริสตชน - มันเป็นสิ่งสวยงามที่จะรับใช้ทุกคน โดยไม่หวังผลตอบแทนดังที่พระเยซูทรงสอน พระเยซูทรงรับใช้เราทุกคนและพระองค์ก็ไม่เคยหวังสิ่งตอบแทนเลย - การที่คนหนึ่งสละชีวิตเพื่อพระคริสตเจ้า สามารถเกิดขึ้นได้ 2 แบบ หนึ่งคือสละชีวิตแบบเด่นชัดด้วยการประกาศยืนยันความเชื่อ หรือสอง ด้วยการปกป้องความเชื่อ - ทุ

โป๊ปฟรังซิส: จงตอบพระเจ้าด้วยหัวใจ

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงขอร้องคริสตชน กล้าตอบสนองพระเจ้าด้วยหัวใจของเรา แม้บางครั้งเราอายที่จะตอบด้วยหัวใจ เพราะเราเป็นคนบาป แต่พระเจ้าไม่เคยลังเลที่จะให้สิ่งดีๆแก่เราเสมอ ช่วงเช้าที่่ผ่านมา (วันอาทิตย์ที่ 23 มิถุนายน) สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าส่วนพระองค์ ภายในวัดน้อยหอพักซางตา มาร์ธา มิสซานี้ บรรดาสมณทูตประมาณ 40 องค์มาร่วมถวายด้วย (พระอัครสังฆราช พอล ชาง อิน-นัม สมณทูตวาติกันประจำประเทศไทยร่วมถวายด้วย โดยชมคลิปได้ด้านล้าง) สำหรับบทเทศน์ พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า: - พระวรสารวันนี้ นักบุญลูกาเล่าถึงเหตุการณ์ที่พระเยซูทรงถามบรรดาศิษย์ว่า "พวกท่านคิดว่าเราเป็นใคร" และนักบุญเปโตร ตอบว่า "พระองค์คือพระคริสต์ของพระเจ้า" - คำถามที่พระเยซูถามนี้เกี่ยวเนื่องกับเรามากว่า 2,000 ปี และมันตรงกับใจของเรามากๆ เพราะอะไร? เพราะเราซึ่งเป็นทั้งศิษย์และผู้รับใช้ของพระเจ้าจำเป็นต้องตอบคำถามข้อนี้ คำถามที่พระเจ้าถามว่า "ท่านคิดว่าเราเป็นใคร" พระองค์ถามเราหลายครั้งมากๆ เราถูกพระเยซูเรียกหลายต่อหลายครั้งในยุคนี้ พระองค์เรียกเราให้สา

โป๊ปฟรังซิส: "ความร่ำรวยและการใส่ใจเรื่องราวทางโลก สกัดกั้นลมหายใจพระวาจาของพระเจ้า"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงสอน การสนใจแต่ความร่ำรวยและสนใจสิ่งของทางโลก จะทำให้พระวาจาของพระเจ้าไม่เติบโตในจิตใจเรา นอกจากนี้ ทรงแบ่งปัน ชีวิตคริสตชนตั้งอยู่บนเสาหลัก 3 อย่าง ได้แก่ อดีต ปัจจุบัน และอนาคต โดยอดีตคือวันที่พระเจ้าทรงเลือกสรรเรา ปัจจุบันคือการก้าวเดินไปบนถนนสายคริสตชน ส่วนอนาคตคือการก้าวไปสู่พระสัญญาที่พระบิดาจะประทานให้ ช่วงเช้าวันเสาร์ที่ 21 มิ.ย.ที่่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าส่วนพระองค์ ภายในวัดน้อยหอพักซางตา มาร์ธา มิสซานี้ พระสังฆราช อาร์ตูโร่ กอนซาเลซ ประมุขสังฆมณฑลซานตา คลารา ประเทศคิวบา มาร่วมถวายด้วย ส่วนผู้ได้รับเชิญมาร่วมพิธีได้แก่บรรดาเจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์วาติกัน สำหรับบทเทศน์ พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า: - วันนี้ พระเยซูตรัสในพระวรสารว่า "ไม่มีใครรับใช้นาย 2 คนได้" นี่คือแนวคิดที่ชัดเจนมาก ความร่ำรวยและการใส่ใจเรื่องราวทางโลกจัดเป็นการสกัดกั้นลมหายใจพระวาจาของพระเจ้า - ความมั่งคั่งในทรัพย์สินและการสนใจสิ่งของทางโลกทำให้พระวาจาของพระเจ้าไม่เติบโต ในกรณีที่เรารับใช้แต่ความร่ำรวยหรือรับใช้แต่สิ่งของฝ่ายโลก

โป๊ปฟรังซิส: "สมณทูตคือผู้อภิบาล อย่าทำตัวเป็นผู้ดีชั้นสูงในสังคม"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงเตือนสติสมณทูต "ท่านเป็นผู้อภิบาล ไม่ใช่ผู้ดีชั้นสูงในสังคม" ถ้าทำตัวเป็นผู้ดีชั้นสูงในสังคมทูตเมื่อไหร่ มันก็จะทำลายความศักดิ์สิทธิในการเป็นผู้แทนพระสันตะปาปาทันที พร้อมกันนี้ ทรงวางแนวคิดการคัดเลือก "พระสังฆราชใหม่" ให้สมณทูตไปคิด โดยผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นพระสังฆราชใหม่ ต้องมีคุณสมบัติ "ใกล้ชิดสัตบุรุษ, มีจิตวิญญาณยากจนและใช้ชีวิตสมถะ, คนนั้นต้องไม่แสวงหาที่จะเป็นสังฆราชอยู่แล้ว และต้องไม่ทำตัวเป็น "เจ้าชาย" ที่สูงส่งเป็นอันขาด  ช่วงสายวันศุกร์ที่ 21 มิถุนายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงต้อนรับบรรดาสมณทูต 108 องค์จากทั่วโลกที่มาเข้าเฝ้า หลังจากพวกท่านเดินทางมาเข้าเงียบที่วาติกันโอกาสปีแห่งความเชื่อ ( พระอัครสังฆราช พอล ชาง อิน-นัม สมณทูตวาติกันประจำประเทศไทย เข้าเฝ้าพระสันตะปาปาด้วย โดยชมได้ในคลิปนาทีที่ 1.42) สำหรับบทแบ่งปันที่พระสันตะปาปาตรัสกับบรรดาสมณทูต มีใจความว่า: - วันนี้ สิ่งที่พ่ออยากจะพูดกับพวกท่าน มันไม่ใช่คำพูดแบบ "ขอไปที" (Perfunctory) แต่ทุกสิ่งที่พ่อจะพูดก

โป๊ปฟรังซิส: "ความดีเท่านั้นที่ตายแล้วนำติดตัวไปได้"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงเตือนสติ ทรัพย์สมบัติเดียวที่ติดตัวไปได้เมื่อตายคือความดี อย่างอื่น เรานำไปไม่ได้เลย พร้อมกันนี้ ทรงชี้ พระเยซูสอนเสมอว่า จิตใจของเราต้องแสวงหาพระเจ้าแต่ผู้เดียว แต่ที่เราทำไม่ได้เพราะใจเราไม่สงบ เรามัวแต่ไปคิดถึงเรื่องอื่นๆ อาทิ เงินในบัญชีธนาคารจะเพิ่มขึ้นอย่างไรดี ช่วงเช้าวันศุกร์ที่ 20 มิ.ย.ที่่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าส่วนพระองค์ ภายในวัดน้อยหอพักซางตา มาร์ธา มิสซานี้ พระคาร์ดินัล ฟรานเชสโก้ ค็อกโคปัลเมริโอ มาร่วมถวายด้วย ส่วนผู้ได้รับเชิญมาร่วมพิธีได้แก่บรรดาเจ้าหน้าที่ฝ่ายเย็บปักถักร้อยของมหาวิหารนักบุญ จอห์น ลาเตรัน และเจ้าหน้าที่ของหอพักซางตา มาร์ธา สำหรับบทเทศน์ พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า: - พระเยซูทรงสอนบรรดาอัครสาวกว่า "จงแสวงหาแต่ทรัพย์สมบัติที่เราจะนำติดตัวไปยังชีวิตหน้าได้ เพราะทรัพย์สมบัติของท่านอยู่ที่ใด ใจของท่านก็อยู่ที่นั่นด้วย (มธ. 6:21)" - พระวาจาตอนนี้ เราต้องไตร่ตรองให้รอบคอบนะ อย่าไปสับสนเกี่ยวกับความหมายของความร่ำรวยเที่ยงแท้ เพราะมันมี "ทรัพย์สมบัติที่เป็นอันตราย"

ฟาติมาสาร: บทเทศน์โดนๆกับโป๊ปฟรังซิส (23 มิ.ย. 2013)

Image
สัปดาห์ที่แล้ว เว้นว่างจากการสรุปบทเทศน์มิสซาเช้าของสมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส เพื่อไปติดตาม “เด็กถาม ... พระสันตะปาปาตอบ” วันนี้ เรากลับมาติดตามบทเทศน์พระสันตะปาปาอีกครั้ง ซึ่งขอรับประกันความมันส์ว่า สุดยอดเหมือนเดิม!! ...  จงเลิกเสแสร้งทำเป็นพูดดี แต่ใจคิดร้ายกับผู้อื่นได้แล้ว “การเสแสร้ง ทำทีพูดดี แต่เจตนาร้าย จัดเป็นการใช้ภาษาของคนขี้โกง พระเยซูทรงสอนสาวกเสมอว่า 'พูดให้ชัดๆไปเลย ได้ก็คือได้ ไม่ได้ก็คือไม่ได้ (YES IS YES, NO IS NO) ' การแสร้งทำเป็นพูดดี ไม่ใช่ภาษาแห่งความจริง เพราะความจริงจะไม่ถูกพูดออกไปเพียงอย่างเดียว ความจริงจะต้องถูกพูดออกไปพร้อมความรัก! จงระลึกเสมอว่า ความรักคือความจริงประการแรก ถ้าไม่มีความรัก ก็ไม่มีความจริง ... พระเยซูต้องการให้เรามีก็คือความนอบน้อม นี่คือความสุภาพเรียบง่ายเหมือนเด็กๆ เห็นไหมว่า เด็กๆไม่ใช่พวกแสร้งทำเป็นพูดดี พวกเขาพูดออกมาจากใจ” หุ้นตกเป็นทุกข์ แต่เวลาคนตายเพราะอดอยาก กลับไม่รู้สึกอะไร “มันเป็นเรื่องปกติไปแล้วที่เราเห็นคนไร้ที่อยู่อาศัยนอนตายเพราะความหิวโหย แต่ในทางกลับกัน ถ้าหากตลาดหุ้นตกแค่ 10 จุด มันกลับเป็นข่าวที่คนให้ความสนใจไป

โป๊ปฟรังซิส: "เวลาภาวนา จงเริ่มด้วยบทข้าแต่พระบิดาของข้าพเจ้าทั้งหลาย"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงสอน เวลาสวดภาวนา ต้องเริ่มด้วยบท "ข้าแต่พระบิดา" ก่อนเสมอเหมือนดังเช่นที่พระเยซูทรงสอน ทรงชี้ มันยากที่จะให้อภัยศัตรู เพราะใจเราอยากจะแก้แค้นให้สาสมมากกว่า แต่ถ้าเราคิดแบบนั้น พระบิดาจะไม่ยกโทษบาปให้เรา เพราะพระองค์ต้องการให้ทุกคนอภัยกันก่อนจะภาวนา ตอนท้าย ทรงย้ำ เวลาสวดข้าแต่พระบิดา พระเยซูสอนว่า "ข้าแต่พระบิดาของข้าพเจ้าทั้งหลาย" ไม่ใช่ "ข้าแต่พระบิดาของข้าพเจ้าเท่านั้น"  ช่วงเช้าที่ผ่านมา (พฤหัสบดีที่ 20 มิ.ย.) สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าส่วนพระองค์ ภายในวัดน้อยหอพักซางตา มาร์ธา มิสซานี้ พระสันตะปาปาทรงเทศน์สอนว่า: - การสวดภาวนาไม่ใช่เวทมนตร์ แต่มันคือการมอบความวางใจไว้กับอ้อมกอดของพระบิดา เวลาที่เราสวด จงอย่าสวดเป็นนกแก้วนกขุนทอง อย่าทำให้เสียงภาวนากลายเป็นสิ่งไร้ค่าไร้ความหมาย - พระเยซูทรงสอนเราว่าอย่างไร พระองค์สอนว่า เราไม่ควรไปทูลขอพระเจ้าพร้อมกับคำวอนขอเยอะๆ พระเยซูทรงสอนเราว่า เวลามาหาพระเจ้า คำพูดแรกที่ต้องพูดคือ "ข้าแต่พระบิดา" นี่คือกุญแจสำคัญของการสวดภาวนา อย่าลื

โป๊ปฟรังซิส: "เวลาทำดี อย่าโอ้อวด แต่จงทำแบบเงียบๆ"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงสอน เวลาทำดี อย่าโอ้อวด แต่จงทำแบบเงียบๆ อย่าได้เป็นแบบพวกฟาริสีที่ทำดีเพื่อ "เอาหน้า" เท่านั้น นอกจากนี้ ทรงเปรียบเปรย อย่าเป็นแบบฟาริสีที่ฉลาดหลักแหลม แต่กลับไม่ฉลาดในการแสวงหาพระเจ้าและถ่ายทอดความรักของพระองค์ได้อย่างถ่องแท้  ช่วงเช้าที่ผ่านมา (พุธที่ 19 มิ.ย.) สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าส่วนพระองค์ ภายในวัดน้อยหอพักซางตา มาร์ธา มิสซานี้ พระคาร์ดินัล มาร์ก อวยเล็ต ประธานสมณกระทรวงเพื่อพระสังฆราช มาร่วมถวายด้วย ในส่วนของบทเทศน์ พระสันตะปาปาทรงสอนว่า: - พวกฟาริสีชอบทำตัวเป็นคนศรัทธา พวกเขาอวดตัวว่าสวดภาวนา อดอาหาร และทำบุญแก่คนยากไร้ พวกเขาเป็นคนหลอกลวงและสร้างภาพให้ตัวเองดูดี พวกเขาทำเพื่อ "เอาหน้า" พวกฟาริสีเป็นคนพวกสติปัญญาสูงส่ง แต่สติปัญญานี้ไร้ซึ่งพระพรในการแสวงหาพระเจ้า สติปัญญาของพวกเขาไม่สามารถอธิบายพระเจ้าด้วยความเข้าใจอย่างถ่องแท้ได้ สิ่งนี้จึงปิดกั้นพวกเขาจากการเข้าสู่อาณาจักรของพระเจ้า - พระเยซูสอนเราอย่างไร พระเยซูสอนว่า ถ้าเราต้องทำแบบฟาริสี เราต้องทำแบบ "เงียบๆ" ทำดีอย่า

โป๊ปฟรังซิส: "คาทอลิกต้องสามัคคีในกลุ่มของเรา และต้องเป็นหนึ่งกับคริสตชนนิกายอื่นด้วย"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงย้ำ คาทอลิกต้องมีความเป็นหนึ่งเดียวกันในกลุ่มของเราเอง อย่าแตกแยกและเห็นแก่ตัวเองเด็ดขาด นอกจากจะสามัคคีในกลุ่มคาทอลิกแล้ว ยังต้องสร้างความเป็นหนึ่งเดียวกันในหมู่พี่น้องคริสตชนต่างนิกายด้วย พร้อมกันนี้ ทรงวอนขอนานาชาติร่วมกันดูแลผู้ลี้ภัยตามหลักมนุษยธรรม อย่าได้ทอดทิ้งพวกเขาเป็นอันขาด สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในการเข้าเฝ้าทั่วไป ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน ท่ามกลางสัตบุรุษกว่า 95,000 คน โดยระหว่างที่พระสันตะปาปาประทับบนรถโป๊ปโมบิลทักทายประชาชน มีเหตุการณ์น่ารักๆเกิดขึ้น เมื่อเยาวชนชายสวมเสื้อทีมชาติอาร์เจนติน่า ปักชื่อ "(ลิโอเนล) เมสซี่" เขาคนนี้มีความผิดปกติทางร่างกายและได้ขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้พระสันตะปาปาบนรถโป๊ปโมบิล พระสันตะปาปาทรงให้เขานั่ง แต่ความประทับใจของภาพนี้คือ "เขาไม่ยอมลุกและไม่ยอมลงจากรถ" พระสันตะปาปาทรงปล่อยให้เขานั่งจนพอใจและจึงเข้าไปสวมกอดพูดคุยกับเขา ก่อนที่เขาจะลงจากรถไป ในส่วนของบทแบ่งปันประจำวันนี้ พระสันตะปาปาตรัสสอนเกี่ยวกับ "ธรรมชาติของพระศาสนจักร" ใจความว

ด่วน! นักเทวศาสตร์อนุมัติอัศจรรย์ในกรณีของ "บุญราศี จอห์น ปอล ที่ 2" แล้ว

Image
"วาติกัน อินไซเดอร์" สุดยอดเว็บข่าววาติกันระดับโลก รายงานข่าวด่วนว่า “นักเทวศาสตร์ของสมณกระทรวงประกาศการเป็นนักบุญ อนุมัติอัศจรรย์ที่สองที่มีผู้สวดขอพระเจ้า ผ่านคำเสนอวิงวอนของบุญราศี จอห์น ปอล ที่ 2 แล้ว” โดยขั้นตอนต่อไปคือคณะพระคาร์ดินัลประจำสมณกระทรวงประกาศการเป็นนักบุญจะประชุมอนุมัติ ซึ่งถ้าคณะพระคาร์ดินัลอนุมัติ ก็จะส่งเรื่องให้ สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ลงพระนามแต่งตั้งให้บุญราศี จอห์น ปอล ที่ 2 เป็น “นักบุญอย่างเป็นทางการ” ... หากยังจำกันได้ Pope Report เคยรายงานไปว่า ทีมแพทย์วาติกันอนุมัติกรณีอัศจรรย์แล้ว ต่อไปจะเป็นหน้าที่ของทีมงานเทวศาสตร์ ซึ่งก็ “ไฟเขียว” ด้วยเช่นกัน ตอนนี้ หลายฝ่ายเริ่ม “คาด” กันว่า พิธีสถาปนานักบุญน่าจะมีขึ้นวันที่ 20 หรือไม่ก็ 22 ตุลาคม 2013 ซึ่งเป็นวันถวายมิสซาเริ่มต้นสมณสมัยของสมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 นั่นเอง Read More: Vatican Insider

โป๊ปฟรังซิส: "จงสวดให้ศัตรู ไม่ใช่ทิ้งหน้าที่นี้ให้ซิสเตอร์ชีลับรับผิดชอบ"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงเทศน์เตือนสติ เราต้องภาวนาให้ศัตรู เพื่อเปลี่ยนใจหินของเขาให้เป็นใจเนื้อ ไม่ใช่ปล่อยหน้าที่ภาวนานี้ให้เป็นของ "ซิสเตอร์ชีลับ" เพราะถ้าทำแบบนั้น เราจะไม่ใช่คริสตชน นอกจากนี้ ทรงชี้ การแก้แค้นไม่ใช่นิสัยของคริสตชน  ช่วงเช้าที่ผ่านมา (อังคารที่ 18 มิ.ย.) สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าส่วนพระองค์ ภายในวัดน้อยหอพักซางตา มาร์ธา มิสซานี้ พระสันตะปาปาทรงเทศน์สอนว่า: - เราจะรักศัตรูเราได้อย่างไร? เราจะรักที่คนที่ตัดสินใจทำลายและฆ่า(จิตใจและชีวิต)คนได้อย่างไร มันยากจริงๆนะที่จะรักศัตรูคู่อริของเรา มันยากจริงๆ แต่นี่คือสิ่งที่พระเจ้าทรงขอร้องเราให้ทำแบบนั้นจริงๆ - เราต้องภาวนาเพื่อคนที่เกลียดเราและทำผิดต่อเรา เพื่อที่ว่า "ใจหิน" ของเขาจะได้เปลี่ยนเป็น "ใจเนื้อ" และพวกเขาจะได้สัมผัสถึงความบรรเทาใจและความรัก - บ่อยครั้ง เรามักจะคิดว่า "พระเยซูทรงขอเรามากไปหรือเปล่าเนี่ย?" จากนั้น เราก็ผลักหน้าที่นี้ (รักศัตรูและภาวนาให้เขา) ไปให้กับบรรดาซิสเตอร์ในอารามชีลับซึ่งเป็นผู้เปี่ยมด้วยความศักดิ์สิทธิ

โป๊ปฟรังซิส: "จงกล้าออกจากตัวเอง อย่าปิดตัวเอง แต่จงออกไปประกาศพระวรสาร"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ผู้นำชาวคาทอลิกทั่วโลก ทรงกระตุ้นคริสตชนให้กล้าออกจากพื้นที่ของตัวเอง เพื่อก้าวไปประกาศพระวรสาร ทรงย้ำ แม้จะมีคนเดียวที่หลงผิด เราก็ต้องไปตามเขากลับมาหาพระเจ้า ตอนท้าย ทรงให้กำลังใจ การประกาศพระวรสารไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินไป สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในการเปิดการสัมมนาประจำปีของสังฆมณฑลโรม ภายในหอประชุมเปาโล ที่ 6 นครรัฐวาติกัน เมื่อเย็นวันจันทร์ที่ 17 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยวันนี้ พระสันตะปาปาทรงกล่าวแบ่งปันแบบไม่มีสคริป์ (พูดสดๆ) ใจความว่า: - การจะเป็นนักบุญ เราต้องน้อมรับพระหรรษทานที่พระเจ้าประทานให้เราผ่านทางพระเยซูคริสต์ พระหรรษทานของพระเจ้าจะช่วยแปรเปลี่ยนจิตใจของเรา - พระหรรษทานเป็นอย่างไร ราคาแพงไหม เราหาซื้อพระหรรษทานได้ที่ไหนบ้าง มีคุณพ่อองค์ไหนสามารถขายพระหรรษทานให้สัตบุรุษได้ไหม? ไม่มี ไม่มีนะพี่น้อง พระหรรษทานนั้น พระเยซูผู้เดียวที่สามารถประทานให้เรา - ไหน ในที่นี้มีใครเป็นคนบาปบ้าง ยกมือขึ้นหน่อย (ทุกคนยกพร้อมกันหมด และหัวเราะ) จำไว้นะว่า พระหรรษทานของพระเยซูจะช่วยเราให้รอดพ้นจากบาป - ทุกวันนี้ พ่อไม่เข้าใจจริงๆว่า ทำไมคริสต

พระสันตะปาปาขอร้องพ่อแม่อย่าลงโทษลูกด้วยการตบหน้า

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงขอร้องพ่อแม่ผู้ปกครอง "อย่าตบหน้าลูก เพราะใบหน้าสะท้อนศักดิ์ศรีของมนุษย์" ทรงชี้ คำสอนเรื่องถ้าโดนตบแก้มซ้าย จงยื่นแก้มขวาให้คนอื่นตบด้วย อาจดูเป็นเรื่องขบขันสำหรับคนที่ไม่ใช่คริสตชน แต่นี่เป็นสิ่งสะท้อนความสุภาพนอบน้อมของคริสตชน อันเป็นเครื่องหมายของการเป็นศิษย์ติดตามพระเยซู ตอนท้าย ทรงตำหนิพวกคริสตชนที่นิสัยใจแคบ ให้เลิกทำนิสัยเห็นแก่ตัวได้แล้ว  ช่วงเช้าที่ผ่านมา (จันทร์ที่ 17 มิ.ย.)  สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าส่วนพระองค์ ภายในวัดน้อยหอพักซางตา มาร์ธา มิสซานี้ พระคาร์ดินัล อัตติลิโอ นิโคล่า มาร่วมถวายด้วย ส่วนผู้ได้รับเชิญมาร่วมได้แก่เจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์วาติกันและผู้ตรวจสอบการเงินวาติกัน ในส่วนบทเทศน์ พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า: - พระวาจาที่พระเยซูตรัสว่า "ถ้าผู้ใดตบแก้มซ้ายของท่าน จงยื่นแก้มขวาให้เขาตบด้วย" พระดำรัสของพระเยซูตอนนี้จัดเป็นคำสอนที่เป็นที่กล่าวขานไปทั่ว คำสอนเรื่องการตบหน้ากลายเป็นการกระทำที่คลาสสิคซึ่งคนบางกลุ่มหัวเราะเยาะพวกเราคริสตชน - ในชีวิตประจำวัน แนวคิดที่สอนเราให้ต่อสู้เพื

โป๊ปฟรังซิส: "Say Yes กับการปกป้องชีวิต Say No กับการส่งเสริมความตาย"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงขอร้องคาทอลิกช่วยกันปกป้องชีวิตมนุษย์สุดความสามารถ อาทิ ต่อต้านการทำแท้งและการุณยฆาต ทรงเตือนสติ การปฏิเสธพระเจ้าไม่ใช่หนทางนำไปสู่อิสรภาพ ช่วงสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าว ทรงทักทายกลุ่มผู้ขับ "ฮาร์ลี่ย์ เดวิดสัน" ที่มาขี่มอเตอร์ไซค์ระดับตำนานมาร่วมมิสซาอย่างคึกคักด้วย สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในมิสซาโอกาสงานวัน "ข่าวดีเรื่องชีวิตมนุษย์" (Evangelium Vitae - สมณสาสน์ที่สมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 ออกไว้เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 1995 เพื่อแสดงจุดยืนของพระศาสนจักรคาทอลิกที่มีต่อการปกป้องชีวิตมนุษย์จากความรุนแรง อาทิ การทำแท้ง) มิสซานี้ มีสัตบุรุษมาร่วมกว่า 200,000 คน และยังมีกลุ่มผู้ขับ "ฮาร์ลี่ย์ เดวิดสัน" มอเตอร์ไซค์ชื่อดังจากสหรัฐอเมริกา มาร่วมมิสซาด้วย โอกาสที่ฉลองครบ 110 ปี วันก่อตั้งฮาร์ลี่ย์ เดวิดสัน ในส่วนบทเทศน์ประจำมิสซา พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า: - พระวรสารวันนี้บอกเราว่า พระเจ้าทรงเป็นพระเจ้าทรงชีวิต พระเจ้าผู้พลีชีวิตเพื่อเราและแสดงให้เราเห็นถึงความครบครันของชีวิต - บ่อยครั้ง มนุษย์ไม่

โป๊ปฟรังซิส: "ชีวิตคริสตชนไม่ได้ให้ความรู้สึกสบายตัวเหมือนไปทำสปา"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงแบ่งปัน ชีวิตคริสตชนไม่ได้ให้ความรู้สึกสบายเนื้อสบายตัวเหมือนการทำสปา แต่ชีวิตคริสตชนเรียกร้องให้เราก้าวออกจากตัวเอง เพื่อประกาศการให้อภัยและคืนดีกัน พร้อมกันนี้ ทรงให้ข้อคิด พวกสถิติคริสตชนเพิ่มขึ้นในแต่ละปีเป็นเรื่องดี แต่มันไม่ใช่สิ่งที่พระเจ้าต้องการ เพราะพระเจ้าต้องการให้มนุษย์ให้อภัยและคืนดีกัน ช่วงเช้าวันเสาร์ที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าส่วนพระองค์ ภายในวัดน้อยหอพักซางตา มาร์ธา มิสซานี้ พระคาร์ดินัล โยเซฟ เซน พระอัครสังฆราชกิตติคุณแห่งฮ่องกงมาร่วมถวายด้วย สำหรับบทเทศน์ประจำมิสซา พระสันตะปาปาทรงสอนว่า: - ชีวิตคริสตชนไม่ใช่การทำสปา (Spa Therapy) ที่ต้องได้รับความสบายจนถึงวันจากโลกไปสู่สวรรค์ แต่ชีวิตคริสตชนเรียกร้องเราให้ก้าวออกจากตัวเอง เพื่อออกไปประกาศให้โลกรู้ว่าพระเยซูทรงลงมาบังเกิดเป็นมนุษย์ เพื่อทำให้พระบิดากับมนุษย์คืนดีกัน - ในจดหมายนักบุญเปาโลถึงชาวโครินธ์ ท่านใช้คำว่า "คืนดีกัน" ถึง 5 ครั้ง การคืนดีกันคืออะไร ความหมายแท้จริงของการคืนดีกันคือพระคริสตเจ้าทรงยอมรับบาปแทน

โป๊ปฟรังซิส: "อย่าเสแสร้งว่าตัวเองไม่ใช่คนบาป"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงเทศน์แบบคมๆ อย่าคิดว่าเราไม่ใช่คนบาป เพราะถ้าทำแบบนั้นก็รู้ได้เลยว่า ซาตานกำลังทำงานในตัวเรา พร้อมเตือนสติพระสงฆ์ ต้องกล้ายอมรับว่าตัวเองเป็นคนบาป เพราะการกล้ารับผิดนี้คือความสุภาพถ่อมตนที่ผู้อภิบาลต้องกล้าแสดงออกเหมือนนักบุญเปาโล ช่วงเช้าวันศุกร์ที่ 14 มิถุนายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าส่วนพระองค์ ภายในวัดน้อยหอพักซางตา มาร์ธา มิสซานี้ พระคาร์ดินัล เมาโร่ ปิอาเชนซ่า ประธานสมณกระทรวงเพื่อพระสงฆ์ มาร่วมถวายด้วย ส่วนผู้ได้รับเชิญมาร่วมได้แก่เจ้าหน้าที่สมณกระทรวงเพื่อพระสงฆ์ ในส่วนบทเทศน์ พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า: - หนทางเดียวที่จะได้รับของขวัญแห่งความรอดพ้นจากบาปก็คือความเต็มใจความจริงใจในการตระหนักว่า ตัวเราเองเป็นคนอ่อนแอและเป็นคนบาป และหลีกเลี่ยงที่จะหาเหตุผลต่างๆนาๆมาเป็นข้อแก้ตัวให้เราดูดี - เราต้องยอมรับว่าเราเป็นคนบาป เหมือนที่นักบุญเปาโลแสดงให้เห็นเป็นแบบอย่าง เราต้องยอมรับว่าเราเป็นคนบาป ยอมรับอย่างสุภาพถ่อมตนตั้งหัวจรดเท้า - การยอมรับว่าตัวเองเป็นคนบาป เป็นแบบอย่างของความสุภาพสำหรับพระสงฆ์ นี่คือควา

โป๊ปและอาร์คบิช็อปแห่งแคนเทอบิวรี่ร่วมย้ำจุดยืน "ทำทุกทางเพื่อสร้างความเป็นหนึ่ง"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก ยืนยันร่วมกับ ดร.จัสติน เวลบี้ อาร์คบิช็อปแห่งแคนเทอบิวรี่ ผู้นำพระศาสนจักรแองกลิกัน ว่าพระศาสนจักรทั้งสองจะทำทุกทางเพื่อสร้างความเป็นหนึ่งเดียวกัน ทั้งทางคำภาวนาและการกระทำ พร้อมกันนี้ พระสันตะปาปาทรงกล่าวขอบคุณแองกลิกันที่เข้าใจแนวคิดของสมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ที่ทรงอนุญาตให้ผู้อภิบาลแองกลิกันเข้ามาเป็นสมาชิกพระศาสนจักรคาทอลิกได้ด้วย  ช่วงเช้าวันศุกร์ที่ 14 มิถุนายน 2013 สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงต้อนรับ ดร.จัสติน เวลบี้ อาร์คบิช็อปแห่งแคนเทอบิวรี่ ผู้นำพระศาสนจักรแองกลิกันที่มาเข้าเฝ้า เพื่อสนทนาและสวดภาวนาพร้อมกันในวาติกัน ในส่วนของการสนทนา สันตะสำนักออกแถลงการณ์ว่า ผู้นำทั้งสองพระศาสนจักรต่างให้คำมั่นสัญญาว่า จะทำทุกทางเพื่อส่งเสริมเอกภาพระหว่างคาทอลิกกับแองกลิกันให้เป็นหนึ่งเดียวกัน ทั้งทางคำภาวนาและการกระทำทุกรูปแบบ โดยพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงกล่าวขอบคุณ อาร์คบิช็อป เวลบี้ ที่ได้นำชาวแองกลิกันสวดภาวนาเพื่อพระองค์ในวันที่ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ขณะที่ อาร์คบิช็อป เวลบี้ ได้ก

พระสันตะปาปาฟรังซิสเตรียมออกสมณสาสน์แรกในสมณสมัย

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงกล่าวกับสมาชิกสภาสมัชชาพระสังฆราชคาทอลิก (ซินน็อต) ใจความว่า พระองค์กำลังเตรียมออกสมณสาสน์ฉบับแรกในสมณสมัยของพระองค์ พร้อมกล่าวแบบติดตลกว่า "สมณสาสน์ฉบับนี้ พระสันตะปาปาใช้มือ 4 ข้างเขียนขึ้น โดยเป็นของสมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ และตัวพ่อเอง (พระสันตะปาปา ฟรังซิส)"  ทั้งนี้ สมณสาสน์ฉบับนี้ ได้ถูกเริ่มต้นเขียนไปบางส่วนโดยสมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 (เขียนก่อนประกาศสละตำแหน่ง) จากนั้น พระสันตะปาปา ฟรังซิส ได้เข้ามาสานต่อจนใกล้จะเสร็จสมบูรณ์ "พระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ทรงเขียนไปก่อนแล้ว พระองค์ทรงส่งต้นฉบับมาให้พ่อรับผิดชอบต่อ มันเป็นเอกสารที่ดีมากๆ พ่อกล้าพูดตรงๆเลยว่า พ่อได้รับเอกสารชิ้นนี้มาเกือบครบสมบูรณ์ จึงอาจพูดได้ว่า ทั้งหมดเป็นแนวคิดของพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ส่วนพ่อ แค่มาสานต่อให้จบเท่านั้น" พระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงกล่าวกับสมาชิกสภาสมัชชาพระสังฆราชคาทอลิก "พ่อตั้งใจจะเขียนสมณสาสน์ให้จบในเดือนสิงหาคม ซึ่งจะเป็นช่วงที่ชาวโรมพักร้อน (ทำให้ไม่ค่อยมีใครมาเข้าเฝ้า) บรรยากาศมันจะเงียบสงบเหมาะกั

โป๊ปฟรังซิส: "คริสตชนที่คิดอยากทำตัวเด่นดัง เขาคนนั้นคิดผิดเต็มๆ"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงเตือนใจ ถ้าใครมีความคิดอยากดำเนินชีวิตคริสตชนให้เด่นดัง ให้ดูเจ๋งกว่าเพื่อนพี่น้อง คนนั้นก็คิดผิดเต็มๆ เพราะพระเยซูไม่เคยสอนให้เราเป็นใหญ่หรือเด่นในหมู่พี่น้อง นอกจากนี้ ทรงหวังคริสตชนเลิกแก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยการใส่ร้ายป้ายสีและดูหมิ่นคนอื่น และหันมาแก้ปัญหาในทางสร้างสรรค์ดีกว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา (พฤหัสบดีที่ 13 มิ.ย.)  สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าส่วนพระองค์ ภายในวัดน้อยหอพักซางตา มาร์ธา มิสซานี้ ผู้ได้รับเชิญมาร่วมได้แก่เจ้าหน้าที่สถานทูตอาร์เจนติน่าและอิตาลีประจำสันตะสำนัก ในส่วนบทเทศน์ พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า: - พระเยซูต้องการเราให้เปลี่ยนแปลงตัวเอง พระองค์ต้องการให้เกิดการปฏิรูป เพื่อเปลี่ยนตัวเราจากเมล็ดพันธุ์ที่ถูกหว่านไปเป็นผลไม้ที่เกิดผล - พ่ออยากเตือนสติเราทุกคนที่มีความคิดว่า ชีวิตคริสตชนของตนต้องเด่นกว่า ต้องเหนือกว่าผู้อื่น ว่าเป็นความคิดที่ผิด พระเยซูตรัสสอนว่า ใครในหมู่พวกท่านที่ต้องการเป็นใหญ่ในหมู่พี่น้องของตน หรือถ้าหัวใจของเราคิดร้ายกับพี่น้องของเรา มันก็มีบางสิ่งผิดปกติในจิตใจและต้องได้รับการเปลี

โป๊ปฟรังซิส: "จงอย่ากลัวที่จะเปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้น"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงเตือนคริสตชน อย่ากลัวการเปลี่ยนแปลง เพราะความกลัวจะเป็นกับดักให้เราย่ำอยู่กับที่ และยังทำให้เราเป็นเหมือนพวกวัยรุ่นที่ตั้งใจจะทำโน่นทำนี่ แต่ตอนจบ ทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอันสักอย่าง ช่วงเช้าที่ผ่านมา (พุธที่ 12 มิ.ย.)  สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าส่วนพระองค์ ภายในวัดน้อยหอพักซางตา มาร์ธา มิสซานี้ พระคาร์ดินัล ชูเอา บราซ เด อาวิส ประธานสมณกระทรวงเพื่อนักบวช มาร่วมถวายด้วย ส่วนผู้ได้รับเชิญมาร่วมได้แก่เจ้าหน้าที่สมณกระทรวงเพื่อนักบวช ในส่วนบทเทศน์ พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า: - พระวรสารวันนี้ พระเยซูตรัสว่า "จงอย่าคิดว่าเรามาเพื่อลบล้างธรรมบัญญัติหรือคำสอนของบรรดาประกาศก เราไม่ได้มาเพื่อลบล้าง แต่มาเพื่อปรับปรุงให้สมบูรณ์" (มธ. 5:17) พระเยซูต้องการเน้นกับทุกคนว่า บัญญัติใหม่ที่พระองค์มาทำให้สมบูรณ์นี้ เรียกร้องเรามากกว่าบัญญัติของโมเสส - ผู้คนต่างกลัวว่า พระเยซูจะมา "เปลี่ยนแปลง" ธรรมบัญญัติของโมเสส แต่ไม่ใช่เลย พระองค์ทรงมาเติมเต็มต่างหาก แต่เราดันกลัวการเปลี่ยนแปลงตามพระประสงค์ของพระเจ้า - ความกลัวนี้นำก

พระสันตะปาปาทรงย้ำมนุษย์เป็นของพระเจ้า มิใช่พระเจ้าเป็นของมนุษย์

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ผู้นำชาวคาทอลิกทั่วโลก ทรงย้ำ มนุษย์เป็นของพระเจ้า ไม่ใช่พระเจ้าเป็นของมนุษย์ ทรงเชิญชวนเราทูลพระเจ้าถึงคนที่เราโกรธ เมื่อทูลเสร็จ ก็จงสวดให้คนเหล่านี้ เพื่อแสดงถึงความรักที่พระเจ้าสอนให้เรารักกัน ตอนท้าย ทรงประณามพวกใช้แรงงานเด็ก พร้อมถาม ละอายใจไหมที่นำเด็กๆมาเป็นทาสแบบนี้ สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในการเข้าเฝ้าทั่วไป ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน ท่ามกลางสัตบุรุษกว่า 90,000 คน ในส่วนของบทแบ่งปันประจำวันนี้ พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า: - พระศาสนจักรคือประชากรของพระเจ้า ดังนั้น มนุษย์ "เป็นของ" พระเจ้า ไม่ใช่ พระเจ้าเป็นของมนุษย์ - กฏเกณฑ์สำหรับประชากรของพระเจ้าคือกฏแห่งความรัก รักพระเจ้าและรักเพื่อนมนุษย์ - ดังนั้น ขอให้เราได้ลงมือทำสิ่งต่างๆในวันนี้ จงทูลพระเจ้าเกี่ยวคนที่เรากำลังโกรธเคืองเขา และเมื่อทูลพระองค์แล้ว จงสวดภาวนาให้เขาเหล่านั้นด้วย นี่คือบันไดขั้นแรกที่นำไปสู่การรักเพื่อนมนุษย์ - พระเจ้าทรงยอดเยี่ยมกว่าปีศาจ ... เอาพี่น้องที่รัก พูดตามพ่อนะ "พระเจ้ายอดเยี่ยมยิ่งใหญ่" (จากนั้น ทุกคนเปล่งเสียงพร้อมกัน และปรบมื

โป๊ปฟรังซิส: "พระศาสนจักรเดินหน้าด้วยจิตใจยากจน ไม่ใช่เดินด้วยจิตใจแบบนักธุรกิจ"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงย้ำ พระศาสนจักรคาทอลิกเดินหน้าด้วยจิตใจที่ยึดความยากจน มิใช่เดินหน้าและเติบโตด้วยแนวคิดนักธุรกิจที่แสวงหาความร่ำรวย พร้อมกันนี้ ทรงเตือนสติ พระเยซูสั่งให้เราออกไป "เทศนา" สั่งสอนนานาชาติให้มาเป็นศิษย์ติดตามพระองค์ ไม่ได้สั่งให้เราออกไป "บังคับคนอื่นให้เปลี่ยนมาเป็นคริสตชน"  ช่วงเช้าที่ผ่านมา (อังคารที่ 11 มิ.ย.)  สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าส่วนพระองค์ ภายในวัดน้อยหอพักซางตา มาร์ธา มิสซานี้ พระอัครสังฆราช แกร์ฮาร์ด ลุดวิค มุลเลอร์ ประธานสมณกระทรวงหลักความเชื่อ มาร่วมถวายด้วย ส่วนผู้ได้รับเชิญมาร่วมได้แก่เจ้าหน้าที่สมณกระทรวงหลักความเชื่อ ในส่วนบทเทศน์ พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า: - พระเจ้าทรงเชิญเราให้เทศนาสั่งสอน ไม่ใช่ไปเปลี่ยนศาสนาคนอื่น เรื่องนี้ สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 เคยตรัสว่า "พระศาสนจักรจะไม่เติบโตด้วยการบังคับคนอื่นเปลี่ยนศาสนา แต่พระศาสนจักรจะเติบโตด้วยการเป็นประจักษ์พยานถึงการประกาศความรอดพ้น" - การประกาศพระวรสารต้องเดินบนหนทางแห่งความยากจน งานของพระศาสนจักรต้องก้าวไป

โป๊ปฟรังซิส: "คริสตชนอยากรอดพ้นจากบาป แต่ดันกลัวเวลาพระเจ้าจะไถ่บาปเรา"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงตั้งข้อสังเกต คริสตชนทุกคนอยากรอดพ้นจากบาป แต่ดันกลัวเวลาพระเจ้าจะไถ่บาปเรา เพียงเพราะหวาดกลัวว่า เราจะไม่ได้เป็นนายของตัวเองอีกต่อไป พร้อมกันนี้ ทรงเตือนสติ คริสตชนจะรับใช้พระเจ้าและจิตฝ่ายโลกพร้อมกันไม่ได้ เราต้องเลือกมาเลยว่าจะรับใช้พระเจ้าหรือไม่  ช่วงเช้าที่ผ่านมา (จันทร์ที่ 10 มิ.ย.)  สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าส่วนพระองค์ ภายในวัดน้อยหอพักซางตา มาร์ธา มิสซานี้ พระคาร์ดินัล สตานิสลาฟ รัวโก้ และพระอัครสังฆราช โยเซฟ เคลเมนต์ ประธานและรองประธานสมณสภาเพื่อฆราวาส มาร่วมถวายด้วย ส่วนผู้ได้รับเชิญมาร่วมได้แก่เจ้าหน้าที่สมณสภาเพื่อฆราวาส ในส่วนบทเทศน์ พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า: - ในจดหมายนักบุญเปาโลถึงชาวโครินธ์ฉบับที่สอง ท่านกล่าวถึง "การปลอมประโลมจิตใจ" หลายครั้ง ซึ่งการปลอบประโลมจิตใจคือการประทับอยู่ของพระเจ้าในจิตใจเรา กระนั้น การที่พระเจ้าจะประทับในจิตใจของเราได้ เราต้องเปิดใจให้กับพระองค์ เพราะการประทับของพระเจ้าต้องการให้เรากลับตัวกลับใจ - การไถ่เราให้รอดจากบาปคือการดำเนินชีวิตด้วยการปลอบประโลมจิตใจโดยอา

ฟาติมาสาร: เด็กถาม ... พระสันตะปาปาตอบ (16 มิ.ย. 2013)

Image
เสน่ห์และความดึงดูดของสมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ยังมีให้ติดตามอย่างไม่รู้จักเบื่อ ล่าสุด สัปดาห์ที่แล้ว พระสันตะปาปาทรงให้เด็กนักเรียน พร้อมด้วยผู้ปกครองและครูอาจารย์กว่า 9,000 คนจากโรงเรียนของคณะเยสุอิตเข้าเฝ้า โดยช่วงแรก พระสันตะปาปาทรงเตรียมสคริปท์ที่จะพูดกับเด็กๆไว้แล้ว แต่พระองค์เปลี่ยนใจ โดยยกสคริปท์ขึ้นมาและกล่าวว่า “จริงๆแล้ว พ่อเตรียมสคริปท์ไว้ 5 หน้า แต่พ่อเปลี่ยนใจไม่ใช้ดีกว่า พูดตามสคริปท์มันน่าเบื่อ! พ่อขอพูดสดๆกับพวกหนูก็แล้วกัน” ...  หลังจากพูดเสร็จ พระสันตะปาปาทรงเชิญเด็กๆถามคำถามพระองค์ในสิ่งที่อยากรู้ แล้วพระองค์จะตอบพวกเขาแบบเป็นกันเอง เราไปดูกันว่า งานนี้ เด็กถามและพระสันตะปาปาตอบ จะสนุกขนาดไหน เด็กถาม: “พระสันตะปาปา ฟรังซิส ... พระองค์เคยต้องการจะเป็นพระสันตะปาปาไหมคะ” พระสันตะปาปาตอบ: “หนูก็รู้อยู่แล้วว่า ใครที่ต้องการเป็นพระสันตะปาปา คนนั้นย่อมสนใจตัวเองมากกว่าพระศาสนจักร ซึ่งพระเจ้าไม่ต้องการคนแบบนี้ สำหรับตัวพ่อเอง พ่อไม่เคยต้องการจะเป็นพระสันตะปาปาเลย” เด็กถาม: “ทำไมพระองค์ไม่พักในวังพระสันตะปาปาคะ” พระสันตะปาปาตอบ: “มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับชีวิตฝ่ายจิตน่ะ การอ