Posts

Showing posts from November, 2010

โป๊ปสดุดีพระศาสนจักรคาทอลิกฟิลิปปินส์ที่ต่อต้านการทำแท้ง

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงชื่นชมพระศาสนจักรคาทอลิกในประเทศฟิลิปปินส์ ที่มีส่วนสำคัญในการต่อต้านนโยบายทำแท้งจากรัฐบาล ทั้งนี้ ตามรายงานจากวาติกัน เมื่อวันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา พระสันตะปาปา ได้ตรัสเรื่องดังกล่าวกับบรรดาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งประเทศฟิลิปปินส์ ที่เดินทางมาเข้าเฝ้าถวายรายงาน "อัด ลิมินา" ใจความว่า "พ่อขอชื่นชมพระศาสนจักรคาทอลิกฟิลิปปินส์ สำหรับการมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนสิทธิการมีชีวิต ตั้งแต่วินาทีแรกที่เกิดไปจนกระทั่งการสิ้นใจตามธรรมชาติ ด้วยแนวทางนี้เอง ท่านจะสามารถส่งเสริมสัจธรรมความจริงเกี่ยวกับมนุษย์และสังคม" "นอกจากนี้ พ่อขอขอบใจพวกท่านที่ช่วยส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งความซื่อสัตย์ และขจัดการคอร์รัปชั่นให้หมดไปอีกด้วย" พระสันตะปาปา ตรัสย้ำ ทั้งนี้ เบนิคโน่ อากวีโน่ ประธานาธิบดีคนปัจจุบันของฟิลิปปินส์ ได้ประกาศนโยบายของรัฐว่า จะจ่ายเงินค่าทำแท้งให้กับคู่สามีภรรยาที่ยากจนและไม่พร้อมจะเลี้ยงดูบุตร ตามนโยบายป้องกันปัญหาสังคม สิ่งนี้ ทำให้เขามีสิทธิ์ถูกขับไล่ออกจากพระศาสนจักรคาทอลิก เนื่องจากประพฤติผิดร้ายแรงในบา

โป๊ปชี้เทศกาลเตรียมรับเสด็จฯสอนให้รอคอยอย่างมีความหวัง

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงให้ข้อคิด เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้าสอนคริสตชนให้รู้จักการรอคอยอย่างมีความหวัง โดยพระองค์ตรัสเรื่องนี้ ระหว่างการนำสวดเทวทูตถือสาร เมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา พระวรสารประจำวันอาทิตย์ที่ 1 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า (มธ.24:37-44) พระเยซูทรงสั่งให้ทุกคนตื่นเฝ้าเตรียมรับการเสด็จมาของบุตรแห่งมนุษย์ เพราะไม่มีใครรู้ว่า พระองค์จะเสด็จมาเมื่อใด พระสันตะปาปาได้นำเรื่องดังกล่าว มาแบ่งปันสัตบุรุษกว่า 20,000 คน หน้าลานมหาวิหารนักบุญเปโตร "การรอคอยคือมิติที่วิ่งผ่านจังหวะชีวิตของเราแต่ละคน การรอคอยและความหวังเป็นของคู่กันในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะรอเรื่องเล็กๆหรือรอเรื่องชี้เป็นชี้ตาย ตัวอย่างที่ชัดเจนคือคู่สมรสที่รอคอยการเกิดมาของบุตร, การรอคอยญาติพี่น้องจากแดนไกล, นักเรียนนักศึกษาที่รอผลสอบ, การรอสัมภาษณ์งาน หรือแม้กระทั่งการรอคอยการตอบตกลงทางความรักจากคนที่เรารัก สิ่งนี้คือตัวอย่างที่บอกว่า มนุษย์ดำเนินชีวิตควบคู่ไปกับการเฝ้ารอ สิ่งเดียวที่ทำให้มนุษย์มีพลังที่จะรอคอยก็คือความหวังในหัวใจของเขา" ตอนท้าย พระ

โป๊ปเรียกร้องให้เคารพชีวิตใหม่ตั้งแต่วินาทีแรกที่อยู่ในครรภ์

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงเรียกร้องบรรดาผู้นำประเทศต่างๆ นักการเมือง และสื่อมวลชน ให้รู้จักเคารพชีวิตมนุษย์ตั้งแต่วินาทีแรกที่เป็นระยะตัวอ่อน (เอ็มบริโอ) ซึ่งฝังอยู่ในผนังมดลูกของผู้เป็นมารดา เมื่อช่วงเย็นวันเสาร์ที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ทรงเป็นประธานในพิธีตื่นเฝ้าเพื่อชีวิต ซึ่งจัดขึ้นในมหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน พิธีดังกล่าว พระสันตะปาปาทรงมีพระประสงค์ให้จัดขึ้น เพื่ออุทิศแก่ดวงวิญญาณทารกที่ถูกฆ่าตายจากการทำแท้ง นอกจากนี้ พิธีตื่นเฝ้าเพื่อชีวิต ยังได้รับการปฏิบัติพร้อมกันทั่วโลก โดยสันตะสำนักได้ขอความร่วมมือจากสังฆมณฑลต่างๆทั่วโลก ให้จัดพิธีในช่วงเย็นวันเสาร์ที่ผ่านมา ในส่วนบทเทศน์ประจำพิธี พระสันตะปาปา ตรัสว่า "สังคมทุกวันนี้ มีปัญหาในการแยกแยะว่าอะไรถูกอะไรผิด หนึ่งในนั้นคือตัวอ่อนที่อยู่ในผนังมดลูกของมารดา วิทยาศาสตร์ก็เน้นย้ำอย่างชัดเจนอยู่แล้วว่า ระยะตัวอ่อนเป็นระยะที่มีความสามารถในการติดต่อกับมารดา ตัวอ่อนจะปฏิสัมพันธ์กับมารดาทางเลือด จากนั้น มันจะพัฒนาเป็นสายรก มีการสร้างสายสะดือและถุงน้ำคร่ำห่อหุ

โป๊ปร่วมรำลึก 65 ปีเหตุบอมบ์ฮิโรชิม่าและนางาซากิ

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงร่วมรำลึกการครบรอบ 65 ปี การทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ที่ฮิโรชิม่าและนางาซากิ ประเทศญี่ปุ่น พร้อมกันนี้ ทรงขอบคุณญี่ปุ่น ที่มอบเสรีภาพในการนับถือศาสนาให้กับประชากรของตน โดยพระองค์ตรัสเรื่องนี้ ระหว่างการต้อนรับ ฮิเดคาซู ยามากูชิ เอกอัครราชทูตประเทศญี่ปุ่น ที่มาเข้าเฝ้าถวายพระราชสาสน์ตราตั้ง โอกาสเข้ารับหน้าที่ใหม่ประจำสันตะสำนัก เมื่อช่วงวันเสาร์ที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม และวันที่ 9 สิงหาคม ค.ศ.1945 แฮรี่ ทรูแมน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ได้บัญชาการให้กองทัพสหรัฐอเมริกาทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ใส่เมืองฮิโรชิม่าและนางาซากิ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตที่ฮิโรชิม่า 140,000 คนและที่นางาซากิ 80,000 คน พระสันตะปาปา จึงตรัสรำลึกเรื่องดังกล่าวว่า "เหตุการณ์ที่ฮิโรชิม่าและนางาซากิคือเครื่องเตือนใจว่า อาวุธนิวเคลียร์เป็นภัยคุกคามประชาคมโลกและเราต้องช่วยกันกำจัดอาวุธเหล่านี้ให้หมดไป อาวุธนิวเคลียร์คือบ่อเกิดของความตึงเครียด ทั้งยังสร้างความไม่ไว้ใจกันให้กับประเทศต่างๆ ด้วยเหตุนี้ ข้าพเจ้าจึงขอชื่นชมประเทศของท่านที่

โป๊ปแนะอธิการคณะนักบวชแสวงหาพระเจ้าในหมู่คณะของตน

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงแนะอธิการคณะนักบวชชายหญิงต่างๆ แสวงหาพระเจ้าในหมู่พี่น้องร่วมคณะของตน พร้อมกันนี้ ทรงย้ำ พันธกิจแพร่ธรรมคือกุญแจสำคัญที่ช่วยให้เข้าใจชีวิตนักบวช เมื่อวันศุกร์ที่ 26 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พระสันตะปาปาได้เสด็จออกมาพบปะและให้โอวาทแก่บรรดาอธิการคณะนักบวชต่างๆ ที่มาเข้าเฝ้า ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมซึ่งจัดโดยสหภาพอธิการเจ้าคณะนักบวชนานาชาติ โดยพระดำรัสที่พระสันตะปาปาตรัสกับพวกเขา พระองค์ทรงแบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ การแสวงหาพระเจ้าในหมู่สมาชิก และความสำคัญของการแพร่ธรรม พระสันตะปาปา ตรัสว่า "ขอให้พวกท่านร้อนรนในการแสวงหาและเป็นประจักษ์พยานถึงพระเจ้า จงแสวงหาพระเจ้าในหมู่พี่น้องสมาชิกที่พระเจ้าประทานให้ จงแสวงหาพระองค์ในคนที่ท่านร่วมแบ่งปันชีวิตและแบ่งปันจิตตารมณ์เดียวกัน นอกจากนี้ จงแสวงหาพระเจ้าในกลุ่มคนยากไร้ พวกเขาคือคนกลุ่มแรกที่จะได้รับข่าวดีจากพระเจ้า" คณะนักบวชทุกคณะจะต้องอยู่รวมกันเป็นหมู่คณะ พระสันตะปาปาจึงนำเรื่องนี้มาให้ข้อคิดว่า "โดยพื้นฐานแล้ว คณะนักบวชต้องอยู่ร่วมกันฉันท์พี่น้อง อธิการเจ้าคณะเปรียบเสมือนพ

โป๊ปย้ำนักข่าวยึดจรรยาบรรณและรับใช้ความจริง

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงย้ำกับบรรดานักข่าวคาทอลิก ให้ยึดมั่นจรรยาบรรณและกล้ารับใช้ความจริง โดยพระองค์ตรัสเรื่องนี้กับผู้เข้าเฝ้าจากสมาพันธ์นักหนังสือพิมพ์คาทอลิกแห่งประเทศอิตาลี เมื่อวันศุกร์ที่ 26 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พระสันตะปาปา ตรัสว่า "หน้าที่เด่นชัดของหนังสือพิมพ์คาทอลิกคือการประกาศข่าวดี ด้วยการรายงานความจริงอันเป็นรูปธรรมเกี่ยวกับกลุ่มคริสตชนให้คนภายนอกได้รับรู้ ตอนนี้ เราอาจจะเป็นผงยีสต์ แต่เมื่อนำมาผสมกับเชื้อแป้ง เราก็จะกลายเป็นขนมปังชิ้นใหญ่ให้สังคมได้บริโภคความถูกต้อง เพื่อจะได้เติบโตและแยกแยะได้ว่า อะไรคือความดีและความงดงามที่พระเจ้าทรงมอบให้" "หน้าที่ของพวกท่านคือการนำเสนอสารแห่งความจริงและความหวังที่พระคริสตเจ้ามอบให้กับโลก พวกท่านได้รับกระแสเรียกให้รับใช้ความจริงด้วยความกล้าหาญ ทั้งนี้ เพื่อช่วยทุกคนให้มองเห็นสัจธรรมตามมุมมองของพระวรสาร สิ่งนี้ ยังเรียกร้องท่านให้เป็นกระบอกเสียง สะท้อนมุมมองคาทอลิกในประเด็นที่กำลังเป็นปัญหาจริยธรรมและปัญหาสังคม" "พี่น้องที่รัก จงสานต่อพันธกิจด้วยการเป็นหนังสือพิมพ์ของประชาช

สุดยอด!! งานเขียนของพระสันตะปาปาทำเงินได้ 5 ล้านยูโร

Image
วาติกัน เผย ผลงานเขียนในรูปแบบหนังสือต่างๆของ สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ทำรายได้สูงถึง 5 ล้านยูโร (ประมาณ 200 ล้านบาท) โดยรายได้ทั้งหมด พระสันตะปาปาทรงมอบให้กับงานการกุศล นำไปช่วยพันธกิจศาสนาและมนุษยธรรมต่อไป เมื่อวันศุกร์ที่ 26 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สันตะสำนักได้จัดงานแถลงข่าวงานเปิดตัว "มูลนิธิโยเซฟ รัตซิงเกอร์ - เบเนดิกต์ ที่ 16" หน่วยงานการกุศลที่พระสันตะปาปาทรงมีพระประสงค์ให้ตั้งขึ้น เพื่อส่งเสริมการศึกษาเทวศาสตร์ รวมทั้งมอบทุนการศึกษาเทวศาสตร์ให้กับนักศึกษาทั่วโลก โดยมูลนิธิดังกล่าว ตั้งขึ้นด้วยเงินรายได้จากการจำหน่ายผลงานเขียนของสมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 สำหรับเงินตั้งมูลนิธินี้ มองซินญอร์ จูเซ็ปเป้ สก็อตติ ประธานมูลนิธิโยเซฟ รัตซิงเกอร์ - เบเนดิกต์ ที่ 16 ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า "จริงๆแล้ว งานเขียนของพระสันตะปาปา มีมากกว่า 30 เล่ม หนึ่งในนั้นคือหนังสือพระเยซู ชาวนาซาเร็ธ ภาค 1 หนังสือทั้งหมดทำรายได้จากการจำหน่ายและค่าลิขสิทธิ์ 5 ล้านยูโร พระสันตะปาปาทรงแบ่งเงินออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก 2.4 ล้านยูโร พระองค์ทรงมอบให้ตั้งมูลนิธิ ส่วนที่สองอีก 2.6 ล้า

พระสันตะปาปาเตรียมเสด็จเยือน "เบนิน" ปีหน้า

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก เตรียมเสด็จเยือนสาธารณรัฐเบนิน ประเทศแถบแอฟริกาตะวันตก ปลายปีหน้า ทั้งนี้ ตามรายงานข่าวจาก "รอยเตอร์ส" เมื่อวันศุกร์ที่ 26 พฤศจิกายนที่ผ่านมา รายงานข่าวระบุว่า พระสันตะปาปาจะเสด็จเยือนเบนิน ระหว่างวันที่ 18-20 พฤศจิกายน 2011 โดยพันธกิจสำคัญที่ พระสันตะบิดรผู้ศักดิ์สิทธิ์ จะปฏิบัติคือการติดตามผลความคืบหน้าของการประชุมสมัชชาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งทวีปแอฟริกา ซึ่งจัดไปเมื่อเดือนตุลาคม 2009 ก่อนหน้านี้ พระสันตะปาปาเคยเสด็จเยือนทวีปแอฟริกามาแล้วหนึ่งครั้ง โดยพระองค์ได้เสด็จเยือน แคเมอรูน และ แองโกลา ช่วงเดือนมีนาคม 2008

จีนสวนกลับวาติกันคุกคามเสรีภาพนับถือศาสนา

Image
กระทรวงการต่างประเทศจีน จัดการสวนกลับวาติกัน เป็นพวกคุกคามเสรีภาพในการนับถือศาสนาของชาวจีน หลังไม่กี่วันที่ผ่านมา วาติกันออกแถลงการณ์ตำหนิการอภิเษกพระสังฆราชใหม่ของจีน รวมทั้งการบังคับพระสังฆราชที่สวามิภักดิ์ต่อพระสันตะปาปา ให้เข้าร่วมพิธีดังกล่าว ทั้งนี้ ตามรายงานจากกรุงปักกิ่ง เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 25 พฤศจิกายนที่ผ่านมา   วาติกันได้ออกแถลงการณ์ตำหนิรัฐศาสนจักรคาทอลิกจีนว่า เบียดเบียนสิทธิเสรีภาพในการนับถือศาสนา จากการบังคับให้พระสังฆราชที่พระสันตะปาปาเห็นชอบ ไปร่วมพิธีอภิเษก พระสังฆราช โจเซฟ กู่ จินเซี๊ยะ ซึ่งพระสันตะปาปาไม่เห็นชอบ นอกจากนี้ ยังเตือน พระสังฆราชจินเซี๊ยะ มีสิทธิ์ถูกขับไล่ออกจากพระศาสนจักร จากการที่ฝ่าฝืนกฏหมายพระศาสนจักรคาทอลิกอย่างร้ายแรง ด้วยการไม่นบนอบต่อพระสันตะปาปา อย่างไรก็ตาม ฮ้ง หลี่ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน ได้ออกมาตอบโต้วาติกัน ว่า "รัฐศาสนจักรคาทอลิกจีนเป็นอิสระจากการแทรกแซงทุกรูปแบบ เรายึดมั่นเสรีภาพในการนับถือศาสนาและไม่ยึดมั่นการใช้ความรุนแรง ดังนั้น ถ้า(วาติกัน)จะกล่าวหาว่า เราคุกคามเสรีภาพในการนับถือศาสนา เราก็อยากจะถามกลับว่า แล้วสิ่งที่วาติก

เจ้าคณะเลอแฟ๊บวร์เตือนสังฆราชวิลเลียมสันระวังถูกขับออกจากคณะ

Image
พระสังฆราช แบร์กนาร์ เฟลเลย์ อธิการเจ้าคณะสมาคมนักบุญปีโอ ที่ 10 หรือ "กลุ่มเลอแฟ๊บวร์" ออกมากล่าวตักเตือน พระสังฆราช ริชาร์ด วิลเลียมสัน สมาชิกหัวขวาจัด ให้ยอมรับความจริงว่า ชาวยิวถูกลัทธินาซีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ระหว่างสงครามโลก ครั้งที่ 2 ได้แล้ว หากยังดื้อไม่ยอมรับและไปให้สัมภาษณ์แบบเสียๆหายๆอีก ตนก็อาจต้องใช้ไม้แข็ง ขับไล่ พระสังฆราชวิลเลียมสัน ออกจากคณะก็ได้ สัปดาห์ที่ผ่านมา พระสังฆราชวิลเลียมสัน ได้ตัดสินใจยื่นอุทธรณ์ที่ต่อศาล จากกรณีที่ถูกชาวยิวในเยอรมนี ยื่นฟ้องโทษฐานให้สัมภาษณ์เชิงหมิ่นประมาทว่า แท้จริงแล้ว ชาวยิวไม่ได้ถูกนาซีฆ่าตายในสงครามโลก ครั้งที่ 2 นอกจากนี้ หลังการอุทธรณ์ พระสังฆราชวิลเลียมสัน ยังให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนท้องถิ่นอีกหลายสำนักว่า ความคิดของตนเป็นสิ่งถูกต้อง ส่วนชาวยิวคิดไปเองที่ถูกฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ล่าสุด เพื่อเป็นการลดกระแสร้อนที่พุ่งมายังสมาคมนักบุญปีโอ ที่ 10 พระสังฆราชเฟลเลย์ เจ้าคณะที่ได้รับการยกเลิกโทษขับไล่จาก สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ก็ได้ออกมาเตือนสติ พระสังฆราชวิลเลียมสัน เพื่อนสมาชิกที่ได้รับการยกเลิกโทษพร้อมกันว่า "พระสังฆรา

พระสังฆราชสเปนเชิญคริสตังทั่วโลกร่วมพิธีตื่นเฝ้าเพื่อทารกที่ำไม่มีโอกาสลืมตาดูโลก

Image
พระสังฆราช อันโตนิโอ เคบัลลอส ประมุขสังฆมณฑลกาดิซและเคอูต้า ประเทศสเปน ออกมาเชิญชวนคริสตังทั่วโลกร่วมพิธีตื่นเฝ้าวันเสาร์นี้ โดยพิธีดังกล่าว สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ทรงเชิญชวนทุกคน ภาวนาเป็นพิเศษให้กับเด็กทารกที่ไม่มีโอกาสได้ลืมตาดูโลก อาทิ ทารกที่ถูกฆ่าตายจากการทำแท้ง ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา พระสันตะปาปาทรงมีพระประสงค์จะจัดพิธีตื่นเฝ้า เพื่ออุทิศให้กับทารกที่ตายจากการทำแท้ง พระองค์ทรงกำหนดให้วันเสาร์สุดท้ายก่อนจะเข้าเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า ประจำปี 2010 เป็นวันจัดพิธีดังกล่าว ประกอบกับช่วงนี้ ทั่วโลกมีข่าวการทำแท้งเกิดขึ้นอย่างมาก ไล่ตั้งแต่สหรัฐอเมริกา, อังกฤษ, สเปน, ฝรั่งเศส, บราซิล และล่าสุด ประเทศไทย เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้พิธีตื่นเฝ้าเพื่อสวดภาวนาให้กับเด็กทารกที่สิ้นใจจากการทำแท้ง มีความหมายมากขึ้นไปอีก พระสังฆราชเคบัลลอส จึงออกมาเชิญชวนคริสตังทุกคน ให้มาร่วมพิธีนี้ "พ่ออยากเชิญคริสตชนทุกคนมาร่วมพิธีตื่นเฝ้าในคืนวันเสาร์ที่ 27 พฤศจิกายน พระสันตะปาปาทรงมีประสงค์อย่างแรงกล้าที่จะภาวนาให้กับเด็กๆที่ตายจากการถูกทำแท้ง ชีวิตมนุษย์คือของขวัญจากพระ

เศร้า!! ซิสเตอร์ที่ทำงานรับใช้โป๊ปถูกรถชนเสียชีวิต

Image
ซิสเตอร์ มานูเอล่า คามักนี่ แม่บ้านในพระราชวังวาติกัน (ที่พักของพระสันตะปาปา) เสียชีวิตเนื่องจากถูกรถชน ระหว่างเดินข้ามถนนในกรุงโรม ทั้งนี้ ตามรายงานข่าว เมื่อวันพุธที่ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ซิสเตอร์คามักนี่ วัย 56 ปี ได้ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล โดยแพทย์ระบุว่า ซิสเตอร์เสียเลือดเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ศีรษะยังได้รับการกระทบกระเทือนอย่างหนักด้วย โดยซิสเตอร์คามักนี่ เป็น 1 ใน 4 นักบวชหญิงที่ทำหน้าที่ "แม่บ้าน" ในพระราชวังวาติกัน ท่านปฏิบัติหน้าที่เป็นคนทำความสะอาดวัดน้อย, ห้องบรรทม, ห้องครัว และห้องอาหาร ตั้งแต่ ค.ศ.2005 ซึ่งเป็นปีเริ่มต้นสมณสมัยปกครองพระศาสนจักรของ สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ลอสแซร์วาตอเร่ โรมาโน่ หนังสือพิมพ์ประจำนครรัฐวาติกัน ได้รายงานว่า พระสันตะปาปาทรงทราบข่าวนี้ด้วยความตกพระทัยยิ่ง เพราะซิสเตอร์คามักนี่เปรียบเสมือนคนในครอบครัวที่พระองค์ต้องพบหน้ากันทุกวัน อย่างไรก็ตาม พระองค์ได้ถวายมิสซาอุทิศแด่ซิสเตอร์คามักนี่ ภายในวัดน้อยส่วนพระองค์แล้ว

โป๊ปยก "น.แคทเธอรีนแห่งเซียน่า" เป็นแบบอย่างเรื่องรักพระเยซู

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงเชิดชู นักบุญแคทเธอรีนแห่งเซียน่า เป็นแบบอย่างในการรักพระเยซูแบบหมดหัวใจ พร้อมกันนี้ ทรงยืนยัน แม้พระสงฆ์จะมีข้อบกพร่องบ้าง แต่เราต้องช่วยเหลือ เพราะสงฆ์คือผู้แจกจ่ายศีลศักดิ์สิทธิ์อันนำความรอดให้กับเรา ในการเข้าเฝ้าทั่วไปเมื่อวันพุธที่ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พระสันตะปาปายังคงนำแบบอย่างของนักบุญสตรีของพระศาสนจักรมาเทศน์สัตบรุษ โดยวันนี้ พระองค์ทรงนำประวัติของ "นักบุญแคทเธอรีนแห่งเซียน่า" ซิสเตอร์คณะโดมินิกันชื่อดังของอิตาลี มาแบ่งปันสัตบรุษกว่า 15,000 คน ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร พระสันตะปาปา ตรัสว่า "นักบุญแคทเธอรีนแห่งเซียน่า เป็นหนึ่งในสตรีที่ได้รับการยกย่องว่าศรัทธาสุดๆของพระศาสนจักร คริสตังสมควรดูแบบอย่างของท่าน เพื่อแปรเปลี่ยนการดำเนินชีวิตและการให้หัวใจได้ร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับพระเยซูเจ้า เราสามารถให้ชีวิตและหัวใจเราเป็นเหมือนพระองค์ โดยทางการสวดภาวนา, แบ่งปันพระวาจาของพระเจ้า และการรับศีลศักดิ์สิทธิ์ เฉพาะอย่างยิ่ง ศีลมหาสนิท" "พระศาสนจักรคาทอลิกต้องขอบคุณนักบวชหญิงที่ศักดิ์สิทธิ์อย่างนักบ

วาติกันเตือนสังฆราชใหม่ของจีนระวังถูกขับไล่ออกจากพระศาสนจักร

Image
วาติกันออกโรงเตือน "โจเซฟ กู่ จินเซี๊ยะ" สังฆราชใหม่ของจีน ระวังจะถูกขับไล่ออกจากพระศาสนจักร หลังได้รับการอภิเษกโดยไม่ผ่านความเห็นชอบจากพระสันตะปาปา หลังจากสัปดาห์ที่แล้ว รัฐศาสนจักรคาทอลิกจีน ซึ่งเป็นศาสนจักรคาทอลิกที่รัฐบาลตั้งขึ้นโดยไม่ขึ้นกับพระศาสนจักรคาทอลิกที่มีศูนย์กลางอยู่ที่กรุงโรม ได้จัดการอภิเษก พระสังฆราช โจเซฟ กู่ จินเซี๊ยะ โดยไม่ได้รับการอนุมัติจากพระสันตะปาปา ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีการเปิดเผยด้วยว่า รัฐศาสนจักรคาทอลิกจีน ได้บังคับพระสังฆราชคาทอลิกที่สวามิภักดิ์ต่อพระสันตะปาปา เดินทางไปร่วมพิธีด้วย ล่าสุด วาติกันได้ออกแถลงการณ์ตำหนิรัฐศาสนจักรคาทอลิกจีนว่า เบียดเบียนสิทธิเสรีภาพในการนับถือศาสนา จากการบังคับให้พระสังฆราชที่พระสันตะปาปาเห็นชอบ ไปร่วมพิธี เช่นเดียวกับ ประกาศเตือน พระสังฆราช โจเซฟ กู่ จินเซี๊ยะ มีสิทธิ์ถูกขับไล่ออกจากพระศาสนจักร จากการที่ฝ่าฝืนกฏหมายพระศาสนจักรคาทอลิกอย่างร้ายแรง ด้วยการไม่นบนอบต่อพระสันตะปาปา อนึ่ง มีการคาดการณ์ว่า คริสตังในจีน มีประมาณ 10 ล้านคน โดยจำนวนนี้ มีทั้งผู้ที่เป็นสมาชิกรัฐศาสนจักรคาทอลิกจีน และสมาชิกของพระศาสนจักรโรมันคาทอ

ซีวัลด์รับผิดหวังสื่อพาดหัวข่าวโป๊ปให้ใช้ถุงยางอนามัยไม่ครบถ้วน

Image
ดร.ปีเตอร์ ซีวัลด์ ผู้สัมภาษณ์ สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ยอมรับ สุดผิดหวังที่เห็นสำนักข่าวหลายแห่งนำเสนอไม่ครบถ้วน เกี่ยวกับประเด็นที่พระสันตะปาปาทรงเห็นด้วยที่จะให้ใช้ถุงยางอนามัยเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อเอชไอวี โดยสื่อหลายสำนักพาดหัวข่าวแบบสั้นๆว่า "พระสันตะปาปาอนุญาตให้ใช้ถุงยางอนามัย" ทั้งที่ความจริง พระสันตะปาปาให้ใช้ถุงยางอนามัย "ในบางกรณี" เท่านั้น ในหนังสือ "LIGHT OF THE WORLD: THE POPE, THE CHURCH AND THE SIGNS OF THE TIMES" (แสงสว่างของโลก: พระสันตะปาปา พระศาสนจักร และเครื่องหมายของกาลเวลา) พระสันตะปาปาได้ตรัสเกี่ยวกับการใช้ถุงยางอนามัยว่า "พระศาสนจักรคาทอลิกไม่เคยมองว่า ถุงยางอนามัยคือคำตอบที่ถูกต้องทางศีลธรรม แต่บางกรณีก็อาจเป็นข้อยกเว้น อาทิ ผู้ขายบริการทางเพศที่ใช้ถุงยางอนามัยป้องกันการแพร่เชื้อเอดส์และรับผิดชอบสิ่งที่ตนทำลงไป พ่อยังย้ำว่า การมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่ง โดยใช้ถุงยางอนามัยเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ ไม่ใช่การแสดงออกถึงความรักแท้จริง การมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงาน เหมือนกับการเสพยาเพื่อตอบสนองความใคร่ของตน" อย่างไรก็ตาม

โป๊ปร่วมอาลัยข่าว "คาร์ดินัลนาบาร์เรเต้" สิ้นใจ

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงส่งสารไว้อาลัยต่อการจากไปของ พระคาร์ดินัล อูร์บาโน่ นาบาร์เรเต้ ซึ่งสิ้นใจด้วย 90 ปี เมื่อวันจันทร์ที่ 22 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พระคาร์ดินัลนาบาร์เรเต้ เป็นชาวสเปนและเป็นนักบวชคณะเยซูอิต ในอดีต ท่านเป็นนักกฏหมายของพระศาสนจักร และยังเป็นอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกรโกเรี่ยน อีกด้วย "พ่อขอร่วมเป็นทุกข์เสียใจอย่างสุดซึ้งกับท่านและสมาชิกเยซูอิตทุกคน ที่ต้องสูญเสียพระคาร์ดินัลผู้เป็นที่รัก พ่อยังจำได้ดีถึงการอุทิศตนด้วยความเสียสละของ พระคาร์ดินัลนาบาร์เรเต้ ในระหว่างที่ท่านทำงานด้านกฏหมายและบริหารงานในมหาวิทยาลัยเกรโกเรี่ยน พ่อขอสัญญาว่า จะสวดภาวนาอุทิศให้ดวงวิญญาณของพระคาร์ดินัลผู้เป็นที่รัก อย่างแน่นอน" ทั้งนี้ มิสซาปลงศพ พระคาร์ดินัล อูร์บาโน่ นาบาร์เรเต้ จะมีขึ้นในวันพุธที่ 24 พฤศจิกายน เวลา 11.30 น. (ตรงกับ 17.30 น. ตามเวลาประเทศไทย) ภายในมหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน โดย พระคาร์ดินัล อันเจโล่ โซดาโน่ หัวหน้าคณะพระคาร์ดินัล จะเป็นประธาน และหลังพิธีมิสซา พระสันตะปาปาจะตรัสไว้อาลัยให้กับ พระคาร์ดินัลนาบาร์เรเต้ ด้วย

โป๊ปย้ำคาร์ดินัลใหม่ต้องรับใช้พระศาสนจักรสุดความสามารถ

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงเน้นย้ำบรรดาพระคาร์ดินัลใหม่ 24 องค์ ให้ยึดมั่นกับการทำหน้าที่รับใช้พระศาสนจักรและคริสตชนอย่างสุดความสามารถ ทั้งนี้ ตามรายงานข่าวจากนครรัฐวาติกัน เมื่อวันจันทร์ที่ 22 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พระสันตะปาปาทรงเทศน์สอนพระคาร์ดินัลใหม่ 24 องค์ ระหว่างการเข้าเฝ้ารอบพิเศษ ซึ่งจัดขึ้นภายในหอประชุมเปาโล ที่ 6 โดยพระองค์ได้ตรัสเป็นภาษาอิตาเลี่ยน, อังกฤษ, ฝรั่งเศส, สเปน, เยอรมัน, โปรตุเกส และโปแลนด์ พระสันตะปาปาตรัสว่า "พ่อเชื่อมั่นว่า บรรดาสัตบุรุษจะสนับสนุนท่านผ่านทางการภาวนา และพ่อก็ขอให้พวกท่านรักษาความเชื่ออย่างเคร่งครัด เพื่อจะได้ทำงานรับใช้พระศาสนจักร พระสันตะปาปา และบรรดาคริสตชนอย่างสุดความสามารถ พ่อมอบความวางใจทั้งครบไว้ในตัวพวกท่าน ทั้งการภาวนาและการให้ความช่วยเหลืออย่างเป็นรูปธรรม" "จงรักษาพระหรรษทานที่พระคริสตเจ้ามอบให้กับท่าน จงดำเนินชีวิตตามพระคาร์ดินัลหลายองค์ที่เป็นนักบุญ สุดท้ายนี้ ขอให้แม่พระ พระมารดาของพระศาสนจักร คุ้มครองพวกท่าน เช่นเดียวกัน ขอให้ นักบุญเซซีลีอา มรณสักขี ซึ่งพระศาสนจักรกำหนดให้ระลึกถึงใน

ฟาติมาสาร : โป๊ปเปิดใจ (28 พฤศจิกายน 2010)

Image
สัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักข่าวชื่อดังระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น บีบีซี, ซีเอ็นเอ็น, เอพี, เอเอฟพี และรอยเตอร์ส ต่างพร้อมใจพาดหัวข่าว การแสดงความเห็นของ สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ในประเด็นว่าการใช้ถุงยางอนามัยเป็นเรื่องพอรับได้ในบางกรณี ข่าวนี้ ทั่วโลกให้ความสนใจ ส่วนมากมีปฏิกิริยาตอบรับเชิงบวกและชื่นชมพระสันตะปาปา ผู้ทรงเปิดใจกว้างให้ศาสนาก้าวไปพร้อมกับวิทยาศาสตร์    ... พระดำรัสดังกล่าว อยู่ในหนังสือ "LIGHT OF THE WORLD: THE POPE, THE CHURCH AND THE SIGNS OF THE TIMES" (แสงสว่างของโลก: พระสันตะปาปา พระศาสนจักร และเครื่องหมายของกาลเวลา) จริงๆแล้ว ผมอยากตั้งชื่อแบบไทยๆสไตล์ชาวบ้านว่า “โป๊ปเปิดใจ” มากกว่า เพราะเนื้อหาทั้งหมด พระสันตะปาปาทรงเปิดใจให้สัมภาษณ์กับ ดร.ปีเตอร์ ซีวัลด์ นักข่าวชาวเยอรมัน ในประเด็นอื้อฉาวที่เกิดขึ้นกับพระศาสนจักรคาทอลิก อาทิ มุมมองพระศาสนจักรต่อการใช้ถุงยางอนามัย, คดีสงฆ์ล่วงละเมิดทางเพศ, เรื่องวุ่นๆของพระสังฆราชกลุ่มเลอแฟ๊บวร์, ความสัมพันธ์ระหว่างคาทอลิกกับอิสลาม และคาทอลิกกับออโธด็อกซ์ นอกจากนี้ พระสันตะปาปายังเปิดใจในประเด็นที่หลายคนสงสัย เช่น จะอ

โป๊ปชี้พระศาสนจักรต้องเดินตามทางกางเขนไม่ใช่เดินตามใจตัวเอง

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ผู้นำชาวคาทอลิกทั่วโลก ทรงชี้ชัด พระศาสนจักรคาทอลิกต้องไม่ดำเนินชีวิตบนความต้องการของตัวเอง แต่ต้องก้าวไปข้างหน้าตามหนทางแห่งไม้กางเขน พร้อมกันนี้ ทรงย้ำบรรดาพระคาร์ดินัลใหม่ จงรับใช้พระคริสตเจ้าและพระศาสนจักรของพระองค์อย่างสุดความสามารถ เมื่อช่วงสายวันอาทิตย์ที่ 21 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พระสันตะปาปาทรงเป็นประธานในพิธีมิสซาสมโภชพระเยซูเจ้า กษัตริย์แห่งสากลจักรวาล ซึ่งจัดขึ้นในมหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน ความพิเศษของมิสซานี้ ก็คือ พระสันตะปาปาทรงสวมแหวนประจำตำแหน่งให้กับบรรดาพระคาร์ดินัลใหม่ 24 องค์ด้วย สำหรับบทเทศน์ประจำมิสซา พระสันตะปาปาผู้ทรงพระชนมายุ 83 ชันษา ตรัสสอนว่า "หน้าที่ของผู้สานงานต่อจากนักบุญเปโตร (พระสันตะปาปาและพระคาร์ดินัล) คือการดำเนินชีวิตทั้งครบอยู่บนความเชื่อ ในพันธสัญญาใหม่ นักบุญเปโตรคือผู้ประกาศความเชื่อ ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นปฐมศิลาของพระศาสนจักร ดังนั้น พระศาสนจักรถือกำเนิดขึ้นด้วยความเชื่อที่นักบุญเปโตรมีต่อพระเยซู นักบุญเปโตรเป็นบุคคลแรกที่ประกาศความเชื่อของตนต่อพระคริสตเจ้า" พระวรสารประจำมิสซานี้ นักบุญลูกาได้เล่าเหตุ

โป๊ปชวนภาวนาเพื่อคริสตังอิรักและกระแสเรียกศาสนบริกร

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงเชิญชวนภาวนาเพื่อคริสตังชาวอิรัก รวมถึงภาวนาเพื่อกระแสเรียกการเป็นสงฆ์และนักบวช ทั้งตามรายงานข่าวเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา พระสันตะปาปาตรัสถึงเรื่องดังกล่าว ระหว่างเป็นประธานนำสวดเทวทูตถือสาร ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร ท่ามกลางสัตบุรุษกว่า 20,000 คนว่า "พ่อขอเชิญชวนทุกคนร่วมใจภาวนา โอกาสที่สภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งประเทศอิตาลีจัดให้เป็นวันภาวนาเพื่อคริสตชนชาวอิรัก พวกเขาเหล่านั้นต้องดำเนินชีวิตด้วยความหวาดผวา จากการตกเป็นเหยื่อของการเบียดเบียนและแบ่งชนชั้น ดังนั้น พ่อขอร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับคริสตังอิรักในการเป็นประจักษ์พยานถึงพระเจ้า ขณะเดียวกัน พ่อขอเรียกร้องว่า มันถึงเวลาแล้วที่ทุกประเทศในโลก ต้องจริงจังกับการมอบเสรีภาพในการนับถือศาสนาให้ประชาชนในประเทศ เสียที" จากนั้น พระสันตะปาปาได้ตรัสเชิญชวนทุกคน ให้ร่วมใจสวดภาวนาเพื่อกระแสเรียกการเป็นศาสนบริกรของพระเจ้า เนื่องในวันนี้ (21 พ.ย.) เป็นวันกระแสเรียกสากล พระองค์ตรัสว่า "พ่อขอเรียกร้องทุกคน ภาวนาและให้การสนับสนุนอย่างเป็นรูปธรรมกับคณะสงฆ์และนักบวช

วาติกันย้ำถุงยางอนามัยใช้ได้กรณีที่ป้องกันเอดส์เท่านั้น

Image
บาทหลวง เฟเดริโก้ ลอมบาร์ดี้ ผู้อำนวยการสื่อมวลชนวาติกัน ย้ำ พระศาสนจักรคาทอลิกมีมุมมองให้ใช้ถุงยางอนามัย ในกรณีป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีเท่านั้น โดยการออกมากล่าวในครั้งนี้ ก็เพื่อให้ความกระจ่างกับพระดำรัสของสมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ที่ทรงแสดงมุมมองว่า การใช้ถุงยางอนามัยเป็นเรื่องพอรับได้ในบางกรณี พระสันตะปาปาทรงให้สัมภาษณ์ ดร.ปีเตอร์ ซีวัลด์ นักข่าวชาวเยอรมัน ในหนังสือ "แสงสว่างส่องโลก : พระสันตะปาปา พระศาสนจักร และเครื่องหมายแห่งกาลเวลา" ในประเด็นมุมมองที่พระศาสนจักรคาทอลิก มีต่อการใช้ถุงยางอนามัยว่า "พระศาสนจักรคาทอลิกไม่เคยมองว่า มัน(ถุงยางอนามัย)คือคำตอบที่ถูกต้องทางศีลธรรม แต่ทว่าในบางกรณีก็อาจเป็นข้อยกเว้น อาทิ ผู้ขายบริการทางเพศที่ใช้ถุงยางอนามัย เพื่อป้องกันการติดเชื้อ(เอชไอวี) รวมไปถึงรับผิดชอบต่อสิ่งที่ตนทำลงไป" ล่าสุด บทสัมภาษณ์นี้กำลังเป็นที่สนทนาในประเด็นระดับโลก ทำให้ คุณพ่อเฟเดริโก้ ลอมบาร์ดี้ ผู้อำนวยการสื่อมวลชนวาติกัน ต้องออกมายืนยันให้ความกระจ่างว่า พระสันตะปาปามองการใช้ถุงยางอนามัย ในกรณีป้องกันโรคเอดส์เท่านั้น หากคิดจะใช้เพื่อป้องกัน

"ยูเอ็นเอดส์" ชื่นชมโป๊ปในมุมมองถุงยางอนามัย

Image
"ยูเอ็นเอดส์" (UNAIDS) หน่วยงานขององค์การสหประชาชาติที่ดูแลช่วยเหลือผู้ติดเชื้อเอชไอวี ออกโรงชื่นชม สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ผู้นำชาวคาทอลิกทั่วโลก ซึ่งทรงแสดงความคิดเห็นว่า การใช้ถุงยางอนามัยเป็นเรื่องพอรับได้ในบางกรณี ทั้งนี้ ตามรายงานข่าวเมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ในหนังสือ "แสงสว่างส่องโลก: พระสันตะปาปา พระศาสนจักร และเครื่องหมายแห่งกาลเวลา" หนังสือที่พระองค์ทรงอนุญาตให้ ดร.ปีเตอร์ ซีวัลด์ นักข่าวชาวเยอรมัน สัมภาษณ์ในกรณีต่างๆที่เกิดขึ้นในพระศาสนจักรคาทอลิก พระสันตะปาปาทรงยอมรับเป็นครั้งแรกว่า การใช้ถุงยางอนามัยเป็นเรื่องยอมรับได้ในบางกรณี อาทิ ผู้ขายบริการทางเพศที่ใช้ถุงยางอนามัย เพื่อป้องกันการติดเชื้อ(เอชไอวี) รวมไปถึงรับผิดชอบต่อสิ่งที่ตนทำลงไป การกระทำดังกล่าวสามารถพิจารณาเป็นมุมมองทางศีลธรรมได้ เนื่องจากเป็นการป้องกันไม่ให้ผู้อื่นติดเชื้อเอชไอวีจากตนเอง บรรดาหน่วยงานนานาชาติและสื่อมวลชนต่างออกมาขานรับเรื่องดังกล่าวในเชิงบวก หนึ่งในนั้นคือ มิเชล ซีดิเบ้ ผู้อำนวยการยูเอ็นเอดส์  ที่ออกมากล่าวว่า "นี่เป็นการก้าวไปข้างหน้าอย่างสร้า

โป๊ปย้ำพระศาสนจักรคาทอลิกไม่มีอำนาจบวชสตรีเป็นสงฆ์

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ผู้นำชาวคาทอลิกทั่วโลก ทรงย้ำชัดๆ พระศาสนจักรคาทอลิกไม่มีอำนาจบวชสตรีเป็นสงฆ์ พร้อมยกกรณี พระเยซูทรงตั้งอัครสาวกทั้ง 12 องค์เป็นบทสอน ขณะเดียวกัน ทรงยืนยัน พระศาสนจักรยกย่องบทบาทของสตรี โดยดูได้จากแบบอย่างของแม่พระ, บุญราศีเทเรซาแห่งกัลกัตต้า และนักบุญโมนิกา "ลอสแซร์วาตอเร่ โรมาโน่" หนังสือพิมพ์ประจำนครรัฐวาติกัน ได้ตีพิมพ์บทสัมภาษณ์พระสันตะปาปา ซึ่งเตรียมวางแผงในหนังสือ "แสงสว่างส่องโลก: พระสันตะปาปา พระศาสนจักร และเครื่องหมายแห่งกาลเวลา" หนังสือที่พระองค์ทรงอนุญาตให้ ดร.ปีเตอร์ ซีวัลด์ นักข่าวชาวเยอรมัน สัมภาษณ์ในกรณีต่างๆที่เกิดขึ้นในพระศาสนจักรคาทอลิก อาทิ คดีสงฆ์ล่วงละเมิดทางเพศในยุโรปและอเมริกา, ปัญหาโรคเอดส์ในแอฟริกา, มุมมองที่พระศาสนจักรมีต่อการใช้ถุงยางอนามัย, ประเด็นบวชสตรีเป็นสงฆ์ และการยกเลิกโทษขับไล่ พระสังฆราช 4 องค์ของสมาคมนักบุญปีโอ ที่ 10 โดยวันนี้ ลอสแซร์วาตอเร่ โรมาโน่ ได้นำประเด็น "สตรีบวชเป็นสงฆ์" มาตีพิมพ์ พระสันตะปาปาทรงกล่าวถึงเรื่องสตรีบวชเป็นสงฆ์ว่า "ปัญหาไม่ได้อยู่ที่การตอบสนองข้อเรียกร้อง

โป๊ปยอมรับการใช้ถุงยางอนามัยเป็นเรื่องรับได้ "ในบางกรณี"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงยอมรับเป็นครั้งแรก การใช้ถุงยางอนามัยเป็นเรื่องยอมรับได้ "ในบางกรณี" อาทิ ใช้เพื่อลดความเสี่ยงที่จะติดเชื้อเอดส์ กระนั้น ทรงยืนยัน การมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงาน โดยใช้ถุงยางอนามัยเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ ไม่ใช่เพศสัมพันธ์ที่เกิดจากความรัก แต่เกิดจากความใคร่มากกว่า พระสันตะปาปาทรงแสดงมุมมองดังกล่าว ในหนังสือ "แสงสว่างส่องโลก: พระสันตะปาปา พระศาสนจักร และเครื่องหมายแห่งกาลเวลา" หนังสือที่พระองค์ทรงอนุญาตให้ ดร.ปีเตอร์ ซีวัลด์ นักข่าวชาวเยอรมัน สัมภาษณ์ในกรณีต่างๆที่เกิดขึ้นในพระศาสนจักรคาทอลิก อาทิ คดีสงฆ์ล่วงละเมิดทางเพศในยุโรปและอเมริกา, ปัญหาโรคเอดส์ในแอฟริกา, มุมมองที่พระศาสนจักรมีต่อการใช้ถุงยางอนามัย และการยกเลิกโทษขับไล่ พระสังฆราช 4 องค์ของสมาคมนักบุญปีโอ ที่ 10 โดย "ลอสแซร์วาตอเร่ โรมาโน่" หนังสือพิมพ์ประจำนครรัฐวาติกัน ได้นำบทสัมภาษณ์เรื่องการใช้ถุงยางอนามัย มาเป็นเรื่องโหมโรง ก่อนที่หนังสือจะได้รับการเปิดตัวสู่สาธารณชนอย่างเป็นทางการ ในวันอังคารที่ 23 พฤศจิกายน 2010 บทสัมภาษณ์เรื่องถุงย

พระสันตะปาปาสถาปนาพระคาร์ดินัล 24 องค์แล้ว

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงสถาปนาพระคาร์ดินัลใหม่ จำนวน 24 องค์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อช่วงสายวันเสาร์ที่ 20 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยทรงย้ำบรรดา "เจ้าชายของพระศาสนจักร" ถ้าถึงคราวต้องสละเลือดเพื่อยืนยันความเชื่อ ก็จงพร้อมที่จะทำด้วยความเต็มใจ พระสันตะปาปาทรงเป็นประธานในพิธีสถาปนาพระคาร์ดินัลใหม่ 24 องค์ ภายในมหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน ท่ามกลางผู้มาร่วมพิธีจำนวนมาก โดยพระคาร์ดินัลใหม่ประกอบไปด้วย พระคาร์ดินัล อันเจโล่ อมาโต้, พระคาร์ดินัล เมาโร ปิอาเชนซ่า, พระคาร์ดินัล เวลาซิโอ เด เปาลิส, พระคาร์ดินัล ฟอร์ตูนาโต้ บัลเดลลี่, พระคาร์ดินัล เปาโล ซาร์ดี้, พระคาร์ดินัล จานฟรังโก้ ราวาซี่, พระคาร์ดินัล เรย์มอนด์ เบิร์ค, พระคาร์ดินัล เคิร์ท ค็อช, พระคาร์ดินัล โรเบิร์ต แซร่าห์, พระคาร์ดินัล ฟรานเชสโก้ มอนเตริซี่, พระคาร์ดินัล เปาโล โรเมโอ, พระคาร์ดินัล ไรน์ฮาร์ด มาร์กซ์, พระคาร์ดินัล เมดาร์โด้ มาซอมเว่, พระคาร์ดินัล ราอูล เอดูอาร์โด้ เบล่า คิริโบก้า, พระคาร์ดินัล โลร็องต์ ปาซินญ่า, พระคาร์ดินัล โดนัลด์ เวิร์ล, พระคาร์ดินัล เรย์มุนโด้ อัสซิส, พระค

บิช็อปแองกลิกัน 5 องค์ขอเข้าร่วมพระศาสนจักรคาทอลิก

Image
บิช็อป 5 องค์ของพระศาสนจักรแองกลิกัน ตัดสินใจยื่นใบลาออกจากนิกายชื่อดังของอังกฤษ เพื่อมาร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับพระศาสนจักรคาทอลิก เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยให้เหตุผลของการลาออกว่า รับไม่ได้ที่ นิกายแองกลิกัน อนุญาตให้สตรีบวชเป็นสงฆ์และบิช็อป เช่นเดียวกับอนุญาตให้สงฆ์เป็นเกย์ได้ บิช็อปทั้ง 5 องค์ ประกอบไปด้วย บิช็อป แอนดริว เบอร์แน่ม, บิช็อป คีธ นิวตัน, บิช็อป จอห์น บรอดเฮิร์สท์, บิช็อป เอ็ดวิน บรานส์ และ บิช็อป เดวิด ซิลค์ ทั้ง 5 ได้ออกแถลงการณ์ร่วมกันถึงการลาออกครั้งนี้ว่า "พวกเรารู้สึกเป็นทุกข์กับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดกับพระศาสนจักรแองกลิกัน พวกเราซึ่งเป็นคริสตชนแองกลิกันอนุรักษ์นิยม ต่างผิดหวังและเสียใจที่พระศาสนจักรแองกลิกันอนุญาตให้สตรีบวชเป็นสงฆ์, การแต่งตั้งสตรีเป็นบิช็อป รวมถึงการอนุญาตให้บิช็อปและสงฆ์เป็นเกย์ได้" "ด้วยเหตุนี้ เราไม่สามารถรับการเปลี่ยนแปลงนี้ได้ เราจึงขอยื่นเรื่องลาออกจากพระศาสนจักรแองกลิกัน และไปร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับพระศาสนจักรคาทอลิก ซึ่งยึดมั่นในกฏเกณฑ์และประเพณีที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาตั้งแต่สมัยของพระเยซูคริสต์" แถลงการณ์ ระบุ ทางด้าน อาร์คบิช็

วาติกันเตรียมออกแนวทางปฏิบัติรับมือปัญหาสงฆ์ล่วงละเมิดทางเพศ

Image
วาติกัน เตรียมประกาศแนวทางปฏิบัติให้กับพระศาสนจักรคาทอลิกในประเทศต่างๆ ได้นำไปปรับใช้หากเกิดกรณีสงฆ์ล่วงละเมิดทางเพศภายในประเทศของตน โดยแนวทางปฏิบัติดังกล่าว จะได้รับการส่งมอบให้กับพระศาสนจักรคาทอลิกทั่วโลก ในเร็วๆนี้ หลังเกิดเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับสงฆ์คาทอลิกล่วงละเมิดทางเพศในหลายภาคส่วนของโลก เฉพาะอย่างยิ่งในยุโรปและอเมริกา พระศาสนจักรคาทอลิกก็ต้องประสบกับความตกต่ำทางความน่าเชื่อถือจากสาธารณชนเป็นอย่างมาก ล่าสุด ในการหารือร่วมกันระหว่าง พระสันตะปาปา และ คณะพระคาร์ดินัลกว่า 150 องค์ภายในนครรัฐวาติกัน ก็มีความเห็นตรงกันว่า ควรจะมีการออกแนวทางปฏิบัติเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพให้กับสังฆมณฑลต่างๆทั่วโลก ได้นำไปปรับใช้ เพื่อแก้ปัญหาการปกปิดเรื่องอื้อฉาวเหมือนในอดีต ซึ่งส่งผลร้ายอย่างใหญ่หลวงต่อพระศาสนจักร พระคาร์ดินัล วิลเลี่ยม เลวาด้า ประธานสมณกระทรวงพระสัจธรรม (ดูแลด้านความเชื่อ) ได้ออกมาให้ความเห็นว่า พระศาสนจักรคาทอลิกต้องเปิดใจรับฟังเสียงของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของสงฆ์ล่วงละเมิดทางเพศ ไม่ใช่เมินเฉยต่อพวกเขา "พระศาสนจักรต้องกล้าไปพบและพูดคุยกับพวกเขา (ผู้ถูกล่วงละเมิดทางเพศ) เร

โป๊ปและคาร์ดินัลหารือปัญหาเสรีภาพในการนับถือศาสนาและพิธีกรรม

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงร่วมหารือปัญหาเสรีภาพในการนับถือศาสนาและความสำคัญของพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ พร้อมกับคณะพระคาร์ดินัลกว่า 150 องค์ โดยจำนวนนี้ มีพระคาร์ดินัลที่เตรียมได้รับการอภิเษกสุดสัปดาห์นี้ 24 องค์ การอภิปรายหารือดังกล่าว มีขึ้นช่วงสายของวันศุกร์ที่ 19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เนื่องในโอกาสวันภาวนาและแบ่งปัน การครบรอบ 10 ปีแห่งการออกเอกสาร "พระอาจารย์เยซู" (Dominus Iesus) ซึ่ง สมณกระทรวงพระสัจธรรม ได้ออกไว้ เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2000 โดยใจความสำคัญของเอกสารดังกล่าว ระบุว่า ความรอดแท้จริงมาจากองค์พระเยซูเจ้าเท่านั้น พิธีการเริ่มด้วยการนำสวดเปิดประชุมโดยพระสันตะปาปา จากนั้น พระองค์ทรงนำการอภิปรายใน 2 ประเด็น ก็คือ เสรีภาพในการนับถือศาสนา และ ความสำคัญของพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ โดยช่วงอภิปราย สันตะสำนักไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้ามาทำข่าว กระนั้น สันตะสำนัก ก็ได้ออกแถลงการณ์รายละเอียดการอภิปรายว่า "พระสันตะปาปาทรงรำลึกถึงพระบัญชาของพระเจ้าที่เน้นย้ำให้พระศาสนจักรประกาศพระวรสาร หนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของการประกาศพระวรสารก็คือการได้รับอิสร

พระสันตะปาปาเตรียมเยือนเยอรมนี ปี 2011

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก เตรียมเสด็จเยือน เยอรมนี บ้านเกิดของพระองค์ช่วงปลายปี 2011 ทั้งนี้ ตามรายงานข่าวจากเว็บไซต์บอสตัน ดอท คอม เมื่อช่วงบ่ายวันศุกร์ที่ 19 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา พระสันตะปาปาองค์ปัจจุบัน เคยเสด็จกลับมาเยือนประเทศบ้านเกิดของพระองค์มาแล้ว 2 ครั้ง นับตั้งแต่ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก ตั้งแต่ ค.ศ.2005 โดย พระสันตะปาปา ได้เสด็จเยือนเมืองโคโลญจน์ และ นครมิวนิค ล่าสุด คริสเตียน วูล์ฟ ประธานาธิบดีของสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ได้ออกมายืนยันว่า สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ทรงตอบรับคำกราบทูลเชิญจากคณะรัฐบาลเยอรมัน ที่ต้องการให้พระองค์เสด็จเยือนกรุงเบอร์ลิน เมืองหลวงของประเทศ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว "พระสันตะปาปาทรงตอบรับคำทูลเชิญ พระองค์จะเสด็จเยือนกรุงเบอร์ลิน ประมาณเดือนกันยายน 2011 นอกจากนี้ พระองค์จะเสด็จเยือน สังฆมณฑลเอร์เืฟิร์ต ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตะวันออก และ สังฆมณฑลไฟร์บวร์ก ซึ่งตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตก ด้วย" ประธานา่ธิบดีวูลฟ์ ซึ่งเป็นคาทอลิก กล่าวกับผู้สื่อข่าว

โป๊ปเรียกร้องนานาชาติดูแลสาธารณสุขของเพื่อนมนุษย์

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงเรียกร้องบรรดาชาติต่างๆ เพิ่มความรับผิดชอบต่อการบริการสาธารณสุขต่อประชากร เนื่องจากมันเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบทางศีลธรรมที่เราต้องดูแลเพื่อนมนุษย์ทุกคน พร้อมกันนี้ ทรงแสดงความวิตก คนรุ่นใหม่รักการศัลยกรรม จนอาจทำให้หลงไปบูชาความงามทางกายมากกว่าจิตใจ พระสันตะปาปา ทรงระบุเรื่องดังกล่าว ในสารที่ทรงส่งถึงผู้เข้าร่วมการประชุมนานาชาติของสมณสภาเพื่ออภิบาลเวชบุคคล ซึ่งจัดระหว่างวันที่ 18-19 พฤศจิกายน ภายในนครรัฐวาติกัน โดยหัวข้อการประชุมครั้งนี้ มีว่า "รักในความจริง - ก้าวไปสู่ความเสมอภาคของการบริการสาธารณสุขแก่มนุษยชาติ" พระคาร์ดินัล ตาร์ชิซิโอ แบร์โตเน่ เลขาธิการนครรัฐวาติกัน เป็นผู้แทนอ่านสารพระสันตะปาปา ใจความว่า "พ่อรู้สึกเสียใจกับความไม่เท่าเทียมกันอย่างใหญ่หลวงที่เกิดกับการบริการสาธารณสุขทั่วทุกมุมโลก มีผู้คนจำนวนมากในหลายส่วนของโลก ไม่สามารถได้รับการบริการทางการแพทย์ขั้นพื้นฐานซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อชีวิต" "สุขภาพส่วนบุคคลจัดเป็นสมบัติล้ำค่าทั้งกับคนๆนั้นเองและกับสังคม รัฐบาลและหน่วยงานต่างๆควร

โป๊ปยืนยันพระศาสนจักรคาทอลิกอุทิศตนเต็มที่เพื่อเอกภาพคริสตชน

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ผู้นำชาวคาทอลิกทั่วโลก ทรงยืนยัน พระศาสนจักรคาทอลิกอุทิศตนเต็มที่เพื่องานเอกภาพคริสตชน ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความเป็นหนึ่งเดียวทั้งครบในพระคริสตเจ้า ทรงย้ำ ปัญหาสังคม อาทิ "การทำแท้ง" ต้องได้่รับการบรรจุเป็นหัวข้อเสวนา เพราะมันเป็นเรื่องจำเป็นที่คริสตชนทุกนิกาย ต้องมีมุมมองตรงกันเกี่ยวกับจริยธรรม พระสันตะปาปา ตรัสเรื่องนี้ ระหว่างการเสด็จออกมาพบปะสมาชิกสมณสภาเพื่อส่งเสริมเอกภาพคริสตชน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 18 พฤศจิกายน ว่า "โอกาสการครบรอบ 50 ปี นับตั้งแต่ สมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ที่ 23 ทรงก่อตั้งสมณสภานี้ (ส่งเสริมเอกภาพคริสตชน) คริสตังก็ได้เจริญเติบโตทั้งด้านความรู้ ความเข้าใจ และความเคารพต่อคริสตศาสนจักรนิกายอื่นๆ ความสัมพันธ์ระหว่างคริสตชนได้ก่อให้เกิดการพัฒนาครั้งสำคัญเชิงเทวศาสตร์ และคริสตชนจำนวนมากก็ได้เติบโตขึ้นในความรักที่มีต่อผู้อื่น" "แนวทางความร่วมมือมากมายได้ถูกพัฒนาขึ้น ไม่เพียงแค่ในด้านการปกป้องชีวิต (จากการทำแท้ง), การปกปักรักษาสิ่งสร้างของพระเจ้า และการต่อสู้ความอยุติธรรม แต่เรายังร่วมกันทำงานแปลพระคัมภีร์ไบเบิ้ล

ฟาติมาสาร - เจาะลึก คาร์ดินัลใหม่ 24 องค์ (21 พฤศจิกายน 2010)

Image
วันอาทิตย์นี้ (21 พฤศจิกายน) เป็นวันสมโภช “พระเยซูเจ้า กษัตริย์แห่งสากลจักรวาล” (THE FEAST OF CHRIST THE KING) ความสำคัญของวันนี้คือการปิดรอบปีพิธีกรรมในพระศาสนจักรคาทอลิก ปี 2010 ที่เราอยู่นี้คือปีพิธีกรรม “C” ส่วนปีพิธีกรรมใหม่ (2011) ซึ่งจะเริ่มสัปดาห์หน้าด้วยเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า จะเป็นปีพิธีกรรม “A” ในปฏิทินพิธีกรรมคาทอลิก จะแบ่งออกเป็น ปี A, ปี B และ ปี C หลายคนสงสัยว่า ปี A-B-C ต่างกันอย่างไร คำตอบก็คือ ปี A พระวรสารวันอาทิตย์จะเน้นของนักบุญแม็ทธิว ปี B จะเน้นพระวรสารของนักบุญมาร์โก ส่วนปี C พระวรสารวันอาทิตย์จะเน้นของนักบุญลูกา (สังเกตง่ายๆ พระวรสารวันนี้ ก็มาจากนักบุญลูกา ส่วนพระวรสารวันอาทิตย์ตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป จะเป็นของ นักบุญแม็ทธิว ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะปิดปีพิธีกรรม A) นอกจากจะเป็นวันปิดปีพิธีกรรม ประเพณีที่พระศาสนจักรคาทอลิกจะกระทำในวันนี้ก็คือ “การสถาปนาพระคาร์ดินัลใหม่” นี่คือประเพณี ไม่ใช่กฏเกณฑ์ตายตัว ดังนั้น จึงไม่จำเป็นที่ทุกปีจะต้องเกิดขึ้น แต่สำหรับปีนี้ ประเพณีดังกล่าวได้รับการปฏิบัติ เมื่อพระสันตะปาปาทรงสถาปนาพระคาร์ดินัลใหม่ 24 องค์ ในจำนวนนี้